วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 458 เขาต้องการแล้ว

บทที่ 458 เขาต้องการแล้ว

ลู่จิ่งเซินพยักหน้าเข้าใจเล็กน้อย

ดังนั้นจิ่งหนิงจึงลุกขึ้นยืน เพราะไม่อยากให้เขาทำการกระทำแบบนั้นแล้ว

“คุณนั่งรออย่างเชื่อฟังไปก่อน เดียวฉันไปตามหมอสักครู่”

ครั้งนี้ลู่จิ่งเซินไม่ได้ปฏิเสธ

ไม่นานคุณหมอก็มา หลังจากตรวจอาการเสร็จ ก็มั่นใจว่าเป็นไข้เพราะถูกลมหนาวพัด แต่นับว่าโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก อุณหภูมิไม่นับว่าสูง แค่สามสิบแปดจุดห้าองศาเท่านั้น

เพราะตอนนี้บนร่างกายของเขาบาดเจ็บ ไม่สามารถกินยาตามอำเภอใจ ด้วยเหตุนี้คุณหมอจึงให้ยาลดไข้ให้กับเขา จากนั้นสั่งกำชับจิ่งหนิง ในตอนเที่ยงคืนให้เอาผ้าชุบน้ำเย็นเช็ดตัวของเขาเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกาย จากนั้นคุณหมอก็จากไป

ดังนั้นในคืนนี้จิ่งหนิงช่วยเช็ดตัวให้กับเขาอย่างไม่หยุดหย่อนเลย

ลู่จิ่งเซินรักเธอมาก กลัวเธอจะลำบาก เลยจับมือของเธอไว้ และพูดว่า : “ให้ซูมู่มาทำเถอะ คุณไปพักผ่อนได้แล้ว”

จิ่งหนิงส่ายหน้า

ต่อให้ซูมู่เป็นคนละเอียดรอบคอบ แต่ก็เป็นผู้ชาย บางอย่างผู้ชายก็ทำได้ไม่ดี ยิ่งเป็นช่วงเวลาแบบนี้ด้วย เพราะขณะที่เธอกับลู่จิ่งเซินพักผ่อน ซูมู่กลับกำลังทำธุระอยู่ข้างนอกทั้งวัน ซึ่งถือว่าลำบากไม่น้อยเลย

แต่สิ่งเหล่านี้เธอไม่เคยพูดออกมา ยิ้มและพูดว่า : “ทำไมหรอ? รังเกียจที่ฉันดูแลคุณหรอ?”

ลู่จิ่งเซินรู้ว่าเธอกำลังล้อเล่น ด้วยเหตุนี้เลยไม่คิดมาก แต่ยิ้มจางๆ และพูดว่า “ผมชอบให้คุณมาดูแลผมบนเตียงมากกว่า”

จิ่งหนิงนิ่งอึ้ง

แล้วจ้องมองเขาอย่างนิ่งเงียบ

“อย่าแม้แต่จะคิด!”

ผู้ชายคนนี้ลามกไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยจริงๆ บาดเจ็บขนาดนี้แล้ว ยังมีเวลาคิดถึงเรื่องแบบนั้นอีก

ลู่จิ่งเซินถูกเธอสบตาด้วยท่าทางเย้ายวนแบบนั้น เดิมทีแค่พูดหยอกเล่น แต่ตอนนี้กลับเริ่มมีความรู้สึกขึ้นแล้ว

เขาหรี่ตาเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงแหบว่า

“ที่รัก”

“ค่ะ?”

“ผมต้องการแล้ว”

จิ่งหนิง : “……..”

เมื่อเห็นเธอนิ่งเงียบ ลู่จิ่งเซินก็จับมือของเธอไว้ แล้วดึงไปวางบนร่างกายส่วนล่างของตัวเอง

“ที่รัก….”

จิ่งหนิงมีใบหน้าแดงก่ำเหมือนกับกุ้งมังกรชั่วพริบตา

และบนฝ่ามือก็เริ่มร้อนอุ่นขึ้น ทำให้เธอเริ่มรู้สึกขุ่นเคือง แต่ก็หมดเรี่ยวแรง

ดังนั้นทำได้เพียงใช้สายตาจ้องมองเขา

“ลู่จิ่งเซิน หยุดเล่นได้แล้ว”

ในตอนนี้ยังไม่ต้องพูดว่าเขายังบาดเจ็บอยู่ แต่ประเด็นคือตอนนี้จิ่งหนิงตั้งท้องอยู่

ช่วงต้นเดือนแรกเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ไม่สามารถทำเรื่องแบบนี้ได้

ลู่จิ่งเซินเองก็รู้เรื่องเหล่านี้ เขายิ้มจางๆและพูดว่า “คุณคิดไปถึงไหนแล้วหรอ? ผมแค่อยากให้คุณขึ้นมานั่งบนเตียงเป็นเพื่อนผมหน่อยเท่านั้นเอง ไม่ได้คิดอย่างอื่นเลย แต่ปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ของคุณ ทำให้ผมเข้าใจผิดว่าอันที่จริงคุณก็ต้องการเหมือนกัน”

จิ่งหนิงเบิกตากว้าง คิดไม่ถึงว่าคำพูดไร้ยางอายแบบนี้จะออกมาจากปากของเขา

เธอโมโหจนโยนผ้าเช็ดตัวทิ้งลงบนตัวของเขา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า : “ลู่จิ่งเซิน หากพูดยังเล่นอยู่ ฉันไม่ช่วยคุณเช็ดตัวแล้วนะ!”

ลู่จิ่งเซินยิ้มแย้ม เบ้าตาที่ลึกหรี่ตายิ้มแย้มจนกลายเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวแล้ว แต่เขาก็ยังหน้าด้านดึงเธอขึ้นมาบนเตียงอีก

“งั้นคุณก็รีบขึ้นมาสิ หากคุณขึ้นมาผมไม่หยอกคุณเล่นแล้ว”

จิ่งหนิงนิ่งเงียบ

คิดอยากปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของผู้ชายก็พูดปฏิเสธไม่ลง

ลู่จิ่งเซินจ้องมองเธอย่างนิ่งเงียบ “ที่รัก ผมแค่อยากโอบกอดคุณเท่านั้นเอง แค่นี้คุณก็ไม่สามารถทำให้ผมสมปรารถนาได้หรอ?”

ขณะที่พูดก็กระพริบตาอย่างน่าสงสารขึ้น

ติ่งหนิง : “……”

ช่างมันเถอะ ตอนอยู่ข้างนอกผู้ชายคนนี้เป็นผู้อำนวยการจอมป่าเถื่อน แต่ตอนอยู่เบื้องหน้าเธอ บางครั้งก็ทำตัวเหมือนกับเด็กน้อย และเหมือนกับเธอกำลังทะเลาะกับเด็กอยู่อย่างนั้น

จิ่งหนิงสะบัดมือของเขาออก แล้วมองบนใส่เขาหนึ่งที : “รอแปบหนึ่งก่อน”

ขณะที่พูดก็ลุกขึ้นยกกะละมังไปเปลี่ยนน้ำใหม่ แล้วกลับมาวางด้านข้าง จากนั้นก็นั่งลงข้างกายเขา แล้วช่วยเขาเช็ดตัวต่อไป

ลู่จิ่งเซินเองก็รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของพวกเขาสองคนไม่สามารถทำเรื่องไม่เหมาะสมเหล่านั้น ดังนั้นการที่จิ่งหนิงยอมเขาขนาดนี้ ถือว่าเขาพึงพอใจมากแล้ว

ดังนั้นเลยโอบกอดเอวของเธอ โดยไม่พูดอะไร แต่ยื่นหัวแนบชิดบนตัวของเธอ ขณะเดียวกันก็สูบดมกลิ่นหอมจางๆที่คุ้นเคย แค่นี้ก็ทำให้ร่างกายของเขาผ่อนคลายแล้ว

ถึงแม้เป็นแบบนี้เขาสบายตัว แต่จิ่งหนิงไม่สบายตัว

เธอผลักหัวของเขาออก “ลู่จิ่งเซิน คุณอย่าทำแบบนี้ ฉันไม่สบายตัว”

แต่ผู้ชายกลับไม่ขยับเขยื้อน

ไม่นานก็มีน้ำเสียงหมดอารมณ์ดังขึ้น “งั้นผมไม่เช็ดตัวแล้ว”

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

“ไม่ได้ คุณยังเป็นไข้อยู่ และหาดไข้ไม่ลดก็ต้องเช็ดตัวตลอด”

ขณะที่พูดก็ผลักเขาออก

ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้ว พร้อมเผยสีหน้าไม่พอใจ แต่สุดท้ายก็ปล่อยเธอออก แต่สายตาที่มองเธอแฝงไปด้วยสายตาตำหนิ

เมื่อเห็นแบบนี้ จิ่งหนิงก็หัวเราะทันที

“ใครใช้ให้คุณออกไปตากลมหนาว โดยไม่บอกใครสักคำล่ะ? ไม่รู้หรอว่าตัวเองป่วยเป็นอะไรอยู่? โชคดีที่ตอนนี้อาการไม่หนักมาก แต่ก็ยังจะเล่นอีกหรอ? คุณไม่มีสิทธิ์อะไรมาเล่น เข้าใจไหม?”

เธอพูดพลาง และลูบจมูกของเขาพลาง

ผู้ชายมีหน้าตาหล่อเหลามาก แถมมีจมูกทั้งโด่งทั้งเรียว เมื่อก่อนจิ่งหนิงไม่ได้สังเกต ดังนั้นเลยรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ สายตาของผู้ชายเริ่มมีสายตาอันตรายขึ้น

“หนิงหนิง”

“อืม?”

“ผมเพิ่งคิดวิธีไม่ทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาเช็ดตัวผม และมีประสิทธิผลมากกว่าวิธีหนึ่ง”

จิ่งหนิงนิ่งอึ้ง หลังจากดึงสติกลับมา เธอก็เบิกตากว้างด้วยสายตาตกใจขึ้น จากนั้นก็คิดอยากผลักผู้ชายออกไป แต่น้ำเสียงเซ็กซี่ของผู้ชายดังขึ้น

“อย่าขยับ เชื่อฟัง สามีจะทำให้เร็วที่สุดเลย”

จิ่งหนิง : “……”

เธอไม่ควรตอบรับขึ้นมาบนเตียงเลย!

หลังจากนั้นไม่นาน อาจเป็นเพราะร่างกายบาดเจ็บ หรือเพราะสมปรารถนา หรือเป็นเพราะร่างกายผ่อนคลาย ผู้ชายจึงนอนหลับสนิท

จิ่งหนิงเดินออกมาจากห้องน้ำ และเห็นผู้ชายนอนหลับบนเตียงอยู่ เมื่อนึกถึงการกระทำที่ลามกของเขาเมื่อกี้ เธอก็อารมณ์ขึ้นทันที

เธอคว้าจับหมอนใบหนึ่งไว้คิดอยากโยนใส่เขา แต่เมื่อเห็นเขานอนหลับสบายก็เกิดใจอ่อนขึ้น

แสงในห้องนอนมืดสลัว แสงสีส้มจากที่ไม่ไกลมากสาดส่องเข้ามา ทำให้ใบหน้าอันหล่อเหลาของผู้ชายยิ่งโดดเด่นขึ้นมา ซึ่งในตอนนี้ใบหน้าของผู้ชายครึ่งหนึ่งอยู่ในความมืด อีกครั้งหนึ่งสว่างสลัวๆ ซึ่งดูแล้วมีเสน่ห์ชวนมองมาก

จิ่งหนิงเม้มริมฝีปากด้วยสีหน้าไม่พอใจ

เจ้าปีศาจ รู้อยู่แล้วว่าสามารถใช้ความหล่อเหลาของตัวเองยั่วยวนเธอ

แต่ก็ทำใจก่อกวนให้เขาตื่นขึ้นมาไม่ได้ จิ่งหนิงยื่นมือลูบหน้าผากของเขา แต่กลับพบว่า หลังจากที่เขาได้ผ่อนคลาย อุณหภูมิในร่างกายของเขาก็ลดลงอย่างน่าแปลกใจ

เธอนิ่งเงียบสักพัก และรู้สึกน่าขำ

แต่เมื่อนึกถึงตอนที่ผู้ชายเหงื่อไหลทั้งตัวเมื่อกี้ บางทีอาจเป็นสาเหตุก็เป็นได้

เพราะเธอยังไม่ง่วงนอน เลยช่วยเขาเช็ดตัวต่อ แต่หลังจากนั้นก็นอนหลับอย่างสบายใจ

ในค่ำคืนนี้ จิ่งหนิงฝันบางอย่าง

ในความฝัน เธอกำลังยืนตากลมบนเรืออยู่ แสงอาทิตย์สาดส่องแสงกระทบบนพื้นทะเล จากนั้นบนพื้นผิวทะเลก็ปรากฏเป็นจานกลมสีทองขนาดใหญ่

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset