บทที่ 493 ยกเลิกงานแต่งงาน
เมื่อถังลั่วเหยาได้ยินแบบนี้ก็ตัวแข็งทื่อทันที
จู่ๆเธอก็เกิดนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้น คนๆนั้นทำให้คนหน้าแดงหูแดง จนสุดท้ายทำให้เธออดใจรู้สึกละอายใจขึ้นไม่ได้
แต่เธอไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาทางสีหน้า แต่เม้มริมฝีปากเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า : “ถ้าหากคุณยังเล่นแบบนี้อีก ฉันจะไม่สนใจคุณแล้ว!”
ฉู่ยี่ก้มตัวลงวางหัวลงบนบ่าของถังลั่วเหยา แล้วหันหน้ายิ้มแย้มต่อเธอ
เฟิงยี่คอยสังเกตมองดูถังลั่วเหยาจากที่ไกล
ตอนที่เขาเห็นรอยยิ้มอันผ่อนคลายของถังลั่วเหยา เขาก็มีท่าทางอ่อนโยนขึ้น
แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นตั้งแต่ฉู่ยี่ปรากฏตัวขึ้น
เขาจ้องมองการกระทำอันสนิทชิดเชื้อของฉู่ยี่กับถังลั่วเหยาด้วยตาของตัวเอง แต่เมื่อเห็นพวกเขาสองคนมีบรรยากาศอันน่าอบอุ่น ก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกอิจฉาตาร้อนขึ้น
เฟิงยี่มีดวงตาแดงก่ำแล้ว
เขาดื่มไวน์หนึ่งแก้วหมดด้วยท่าทางเคร่งเครียด จากนั้นก็เดินตรงไปหาพวกเขาสองคน
เฟิงยี่ในตอนนี้แทบไม่มีเวลาไตร่ตรองอะไรมากแล้ว ความบ้าคลั่งที่เร่าร้อนภายในใจได้ครอบงำทำให้เขาตัดสินใจทำแบบนี้แล้ว
เมื่อเห็นเฟิงยี่เดินเข้ามา ถังลั่วเหยาก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที และเริ่มรู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีเกิดขึ้น
พวกเขาเคยรักใครต่อกันเกือบสิบปี ต่อให้ไม่กี่ปีต่อมาไม่ได้เจอกัน เธอก็ยังคงรู้จักนิสัยของเขาเป็นอย่างดี
เมื่อเห็นเขามีท่าทางอดกลั้นความโกรธ เธอก็สามารถคาดเดาได้ว่าเขาต้องคิดทำเรื่องบ้าอะไรแน่
แต่ไม่รู้ทำไม ในเวลาคับขันแบบนี้ ถังลั่วเหยากลับไม่ลากฉู่ยี่จากไป แต่สะบัดมือของเขาออก แล้วหันหลังเพื่อปกปิดความกระวนกระวายภายในใจของตัวเอง
ฉู่ยี่ถึงกับตกใจนิ่งอึ้งกับการกระทำแบบนี้ของถังลั่วเหยา
เขาจ้องมองท่าทางของเธออย่างกังวล พร้อมขมวดคิ้ว
ลั่วเหยาเป็นอะไรไป…..
ทันใดนั้นเฟิงยี่ที่มาพร้อมรัศมีความอิจฉาก็มาถึง : “ช่วงนี้ผมมีโครงการหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณชายฉู่สนใจอยากฟังไหมครับ?”
ตอนแรกฉู่ยี่กำลังครุ่นคิดถึงจุดประสงค์การมาของเฟิงยี่อยู่ แต่เมื่อได้ยินแบบนี้ก็ถอนหายใจทันที : “ยินดีรับฟังครับ”
เฟิงยี่จ้องมองร่างเงาของถังลั่วเหยาด้วยดวงตาแดงก่ำ และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาผิดปกติ จนน่าประหลาดใจ : “ผมอยากเตือนให้คุณออกไปจากชีวิตของเธอ”
ฉู่ยี่พูดปฏิเสธอย่างแทบไม่คิดเลยว่า : “ไม่มีทางครับ”
ถังลั่วเหยาหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็ว พร้อมจ้องมองเฟิงยี่ด้วยสายตาตกใจ : “เฟิงยี่ คุณหมายความว่าอะไร?”
เฟิงยี่ฉีกปากยิ้มด้วยสีหน้าป่าเถื่อน : “หมายความตามนั่นแหละ” ขณะที่พูดก็หันหน้ามองฉู่ยี่ “โครงการสิบล้าน ผมมอบให้กับคุณ ผมขอเตือนให้คุณยกเลิกงานแต่งงานกับเธอ ฉู่ยี่ โครงการแบบนี้คุณไม่รับหรอ?”
เมื่อได้ยินแบบนี้ฉู่ยี่ก็เปลี่ยนสีหน้าทันที : “สิบล้านหรอ? หัวหน้าเฟิง คุณบ้าไปแล้วหรอ?”
เฟิงยี่ไม่ได้ตอบคำถามนี้ของเขา เพราะเขาเป็นบ้าไปแล้ว : “คุณแค่บอกมาตรงๆว่าจะรับหรือไม่รับเท่านั้นเอง?”
ถังลั่วเหยามีสีหน้าขาวซีด
เธอไม่รู้ว่าตกลงเฟิงยี่คิดจะทำอะไร!
สิบล้าน นี่ไม่ใช่ตัวเลขน้อยๆเลย! แต่เฟิงยี่กลับจะมอบให้เสียงั้น ทั้งยังบอกให้ฉู่ยี่ยกเลิกงานแต่งงานกับเธอด้วย
ตกลงเขาคิดทำอะไรกันแน่?
จู่ๆถังลั่วเหยาก็คิดความเป็นไปได้หนึ่งออก
วินาทีต่อมาเธอตัดความเป็นไปได้นี้ทิ้ง
เธอไม่คิดว่าเฟิงยี่จะทำอย่างที่ตัวเองคิดไว้หรอก คงเป็นเพราะเธอคิดมากไปเอง จริงสิ เป็นเพราะเธอคิดมากไปเอง
คนที่เธอกังวลในตอนนี้คือฉู่ยี่
เธอไม่รู้ว่าเขาจะเลือกแบบไหน
ถังลั่วเหยาหันหน้ามองฉู่ยี่ด้วยสีหน้าครุ่นคิด
ในตอนนี้ฉู่ยี่มีสีหน้าเปลี่ยน เดียวก็ขัดขืน เดียวก็ตัดขาด
ไม่ใช่ทุกคนจะยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แถมมีข้อเสนอให้โครงการสิบล้านด้วย อีกอย่างตระกูลฉู่ก็ไม่ได้รุ่งเรืองมาก
ฉู่ยี่รู้ว่าเงินจำนวนสิบล้านสามารถมอบความเปลี่ยนแปลงแบบพลิกมือต่อตระกูลฉู่และยังสามารถทำให้ฐานะของพวกเขามีความก้าวหน้าอย่างมากด้วย
แต่เขาต้องสูญเสียคู่หมั้นไป ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด
เมื่อคิดแบบนี้ ฉู่ยี่ก็ตัดสินใจอย่างแน่วแน่
เขาไม่สามารถทอดทิ้งถังลั่วเหยาเพื่อเงินได้
แต่…..นั้นเป็นเงินสิบล้านเลยนะ!
ตอนที่ฉู่ยี่กำลังลังเลอยู่นั้น ส้งเจียเจียก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม : “ยี่ คุณกำลังเล่นอะไรกันหรอ?”
พฤติกรรมอันเงียบสงบของพวกเขาดึงดูดสายตาจากรอบข้างตั้งนานแล้ว
เพราะเห็นท่าทางบ้าบิ่นของเฟิงยี่ คนในงานจึงแอบซุบซิบนินทากัน
พวกเขาต่างพากันสงสัยว่าแรงจูงใจที่ทำให้คุณชายรองเฟิงเป็นแบบนี้เพราะอะไร
ตอนที่เพื่อนสนิทของส้งเจียเจียจงใจเดินเข้ามาซักถามเรื่องนี้กับเธอนั้น ในใจของเธอนั้นรู้สึกโมโหมาก
ถังลั่วเหยา เป็นเธออีกแล้วหรอ!
ในตอนนี้ส้งเจียเจียสามารถมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ว่าผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ภายในใจของเฟิงยี่คือถังลั่วเหยา
ไม่เช่นนั้นเฟิงยี่ที่เป็นคนสุขุม คงไม่ทำเรื่องแบบนี้หรอก!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ส้งเจียเจียก็อดใจรู้สึกอิจฉาขึ้นไม่ได้ พร้อมกับรีบเดินเข้ามาด้วยท่าทางอ่อนโยน
วินาทีที่เธอเดินมาถึง เป็นตอนที่ฉู่ยี่ตัดสินใจจะตอบพอดี
แต่ส้งเจียเจียยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไรกัน
ในตอนนี้เธอคิดอยากสกัดกั้นเรื่องนี้
เธอไม่สามารถปล่อยให้เฟิงยี่ทำตามอำเภอใจ เธอต้องกลายเป็นคุณนายของเฟิงยี่คนเดียวเท่านั้น
ส้งเจียเจียเข้ามาขัดขวางคำพูดที่ติดอยู่ที่ปากของฉู่ยี่สำเร็จ
เขาดึงสติกลับมา แถมบนแผ่นหลังมีเหงื่อเม็ดเย็นด้วย
ในตอนนี้เขาไม่รู้เลยว่าเมื่อกี้ตัวเองตัดสินใจตอบยังไงแล้ว
แต่เขารู้ว่า ถ้าหากเขาตัดสินใจแบบนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเลือกลั่วเหยา หรือเลือกเงินสิบล้าน เขาคงต้องเสียใจภายหลังแน่ คงเสียใจภายหลังไปตลอดชีวิต!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉู่ยี่ก็รู้สึกดีใจกับการปรากฏตัวอันเหมาะสมของส้งเจียเจียมาก
เขาจ้องมองส้งเจียเจียด้วยสีหน้าซาบซึ้งใจ แต่กลับพบว่าเธอให้ความสนใจที่ตัวของเฟิงยี่เพียงคนเดียว
ส้งเจียเจียหันหน้ายิ้มเย้ายวนต่อเฟิงยี่ : “ยี่ คุณแค่หยอกเล่นใช่ไหม?”
เฟิงยี่มีสีหน้าไม่ดีเลย
เขาจ้องมองส้งเจียเจียด้วยสีหน้ามืดครึ้ม : “คุณมาทำอะไรที่นี่”
ส้งเจียเจียมีสีหน้าแข็งทื่อทันที แต่ยังคงพยายามเผยสีหน้าอ่อนโยนน่ารักบนใบหน้าอยู่ : “ฉันก็อยากมาเข้าร่วมงานปาร์ตี้เหมือนกัน เมื่อฉันรู้ว่าที่นี่มีงานแบบนี้ก็รีบตามมา แต่คุณดูผิดแปลกไปกว่าปกตินะ”
เฟิงยี่พูดด้วยสีหน้ามืดครึ้มว่า : “ส้งเจียเจีย คุณยุ่งมากเกินไปแล้ว”
ส้งเจียเจียกัดริมฝีปาก และแสดงท่าทางน้อยใจ แต่ภายในใจโมโหเดือดดาลมาก
ถังลั่วเหยาเองก็ไม่ใช่เล่นๆเลย! คิดไม่ถึงสามารถหลอกล่อให้เฟิงยี่ทำเรื่องไร้สาระแบบนี้ได้
ในตอนนี้ส้งเจียเจียเอาความผิดทั้งหมดโยนใส่ถังลั่วเหยา ในดวงตาจึงมีสายตาเคียดแค้นเล็กน้อยขึ้น
เฟิงยี่เอาความสนใจทั้งหมดไว้บนตัวของถังลั่วเหยา จนแทบไม่สนใจส้งเจียเจียเลย
ด้วยเหตุนี้เขาเลยไม่เห็นสายตาเคียดแค้นของส้งเจียเจีย
ถึงแม้เขาเอาแต่จ้องมองถังลั่วเหยา แต่ปากกลับพูดกับฉู่ยี่ว่า : “คุณชายฉู่ คำตอบของคุณคืออะไรหรอ?”
ฉู่ยี่เผยสีหน้าขาวซีด พร้อมกัดฟันลังเลอยู่ไม่กี่นาที จากนั้นก็พูดขึ้นว่า : “ผมไม่มีทางทิ้งลั่วเหยาไปหรอกครับ”
“ห่ะ? ทำไมหรอ?” เฟิงยี่ยิ้มอย่างป่าเถื่อนขึ้น “อ๋อ เป็นเพราะเงินน้อยไปหรอ?”
ถังลั่วเหยาและฉู่ยี่นิ่งอึ้งพร้อมกัน