บทที่ 495 ปฏิบัติต่อเธออย่างดี
เฟิงยี่จ้องมองถังลั่วเหยาที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตาอย่างเอ็นดู จากนั้นก็ยื่นมือเช็ดน้ำตาให้กับเธอ
ถังลั่วเหยาได้แต่นิ่งเงียบ ละสุดท้ายไม่ได้ปัดมือของเขาออกด้วย
ถ้าหากเขาเพิ่มราคาอีกทำยังไง หากเป็นเช่นนั้นฉู่ยี่คงตอบรับข้อเสนอของเขาจริงๆแน่
ถังลั่วเหยาจ้องมองพลาง ครุ่นคิดพลาง จากนั้นก็หลับตาลง
เฟิงยี่จ้องมองถังลั่วเหยาอย่างนิ่งเงียบ และเห็นขนตาอันเรียวยาวของเธอสั่นสะเทือนเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นบนใบหน้าของเธอมีสีหน้าสิ้นหวัง หมดกำลังใจออกมา และเห็นความอ่อนโยน และทุกอย่างที่เป็นเธอ เขาก็ใจอ่อนทันที
เฟิงยี่ยื่นมือออกมา แล้วโอบกอดถังลั่วเหยาในอ้อมกอดอย่างแน่น พร้อมพูดปลอบโยนว่า : “ไม่เป็นไร ผมจะปฏิบัติต่อคุณอย่างดี”
ในน้ำเสียงสะท้อนให้เห็นว่าเขาเห็นถังลั่วเหยาเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว
ถังลั่วเหยาตัวสั่นเทาอย่างแรง ในที่สุดเธออดไม่ไหวผลักเฟิงยี่ออกไป
เฟิงยี่ถึงกับนิ่งอึ้งกับการกระทำของเธอ พร้อมจ้องมองเธอด้วยสายตาตกใจ : “ทำไมหรอ?”
ถังลั่วเหยาโมโหจนตัวสั่นเทา : “เฟิงยี่ ทั้งที่คุณมีผู้หญิงตั้งมากมาย ทำไมต้องมาหาเรื่องฉันคนเดียวด้วย! ปล่อยฉันไปไม่ได้หรอ? พวกเราต่างคนต่างอยู่ไม่ได้หรอ?”
เฟิงยี่มีดวงตาแดงก่ำ
เขากำหมัดไว้อย่างแน่น พร้อมกัดฟันพูดว่า : “ผมไม่เชื่อว่าคุณไม่รู้ความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณ”
ถังลั่วเหยาสะดุ้งตกใจ
เธอหลับตาลง และพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวว่า : “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้เลยสักนิดเดียว อีกอย่างนี่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันด้วย”
“ถัง! ลั่ว! เหยา!” เฟิงยี่คว้าจับบ่าของเธออย่างแรงทำให้เธอเจ็บปวดจนต้องขมวดคิ้ว
แต่เหมือนกับเฟิงยี่มองไม่เห็น เขายิ่งออกแรงจับแน่นมากขึ้น : “คุณรู้ไหมว่าหัวใจผมเจ็บปวดมากขนาดไหน? คุณรู้บ้างไหม?”
ถังลั่วเหยาพยายามอดกลั้นความเจ็บปวด แล้วหลบหน้าหนีไม่ให้ตัวเองเห็นเฟิงยี่ : “ฉันไม่รู้ นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลย”
วินาทีนี้ เฟิงยี่คิดอยากทำลายถังลั่วเหยาจริงๆ
แต่ทำแบบนี้เธอจะสามารถอยู่เคียงข้างตัวเองอย่างสงบสุขหรอ? หรือทำแบบนี้เธอจะไม่เป็นคนไม่เชื่อฟังแบบนี้?
แต่เฟิงยี่ยังคงอดทนอารมณ์ชั่ววูบนี้อยู่
เขาทำไม่ลง
ความรู้สึกของเธอไม่ใช่ว่าถังลั่วเหยาไม่เข้าใจ แต่ไม่สามารถเห็นอกเห็นใจได้
ในตอนนี้เธอโมโหเดือดดาลมาก ถ้าหากไม่ใช่ยังมีสติรู้คิด เธอคงเลือกด่าทอเฟิงยี่อย่างแรงไปแล้ว
ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ แต่ถังลั่วเหยายังคงรู้สึกเหมือนกับความรู้สึกที่แน่นอยู่เต็มอกจะระเบิดเธอแล้ว
เธอเองก็ดวงตาแดงก่ำเหมือนกัน ขณะเดียวกันในดวงตาก็แฝงเต็มไปด้วยสายตาเคียดแค้น : “เฟิงยี่ ฉันเกลียดคุณ”
ไม่มีประโยคไหนสามารถทำให้เฟิงยี่เจ็บปวดขนาดนี้แล้ว และไม่มีประโยคไหนที่สามารถทำให้เฟิงยี่เป็นบ้าแล้ว
จู่ๆเขาก็รู้สึกขำขึ้นมา
หากไม่ใช่ถังลั่วเหยา เขาคงไม่ทุ่มเทมากถึงขนาดนี้หรอก แต่เธอกลับพูดว่าเธอเกลียดเขาหรอ?
เหอะ ช่างน่าขำรัก ช่างน่าขำจริงๆ
เขากลับไม่พูดอะไรเลย แต่ค่อยๆเดินไปเบื้องหน้าฉู่ยี่
ท่ามกลางสายตาตกใจของทุกคน เขายกมือขึ้นเตรียมต่อยใส่ฉู่ยี่ให้นอนกลิ้งบนพื้น
“บอกมาว่านายตอบรับ” เฟิงยี่เหมือนคนบ้าเลย เขาจับเนคไทของฉู่ยี่ดึงเข้ามา “บอกมาสิว่านายตอบรับ”
เขาพูดออกมาทีละคำอย่างเน้นย้ำ โดยที่พูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ให้ฉู่ยี่ตอบรับ
ถังลั่วเหยาสูบลมหายใจเข้า แล้วตะโกนออกมาว่า : “เฟิงยี่ปล่อยมือออก!”
ขณะที่พูดก็ก้าวเท้าเดินเข้ามาจะผลักเฟิงยี่ออก
แต่ฉู่ยี่กลับถูกต่อยตรงที่ปากอย่างแรง จนริมฝีปากมีคราบเลือดและกลิ่นคาวเลือดขึ้น
แต่เขายังคงยิ้มแย้มอยู่ และหัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้น : “ผม ไม่ตอบรับ เฟิงยี่ นายตัดใจเถอะ ไม่เพียงแค่นี้ ตอนที่ฉันกับลั่วเหยาแต่งงานกัน ฉันจะเชิญนายมาร่วมงานด้วย เพื่อให้นายเห็นพวกเราสองคนเป็นสามีภรรยากัน และรักกันไม่จากกันตลอดชีวิต”
ตอนแรกเขาคิดอยากตอบรับเฟิงยี่ แต่ในตอนนี้เฟิงยี่น่าสมเพชมาก
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นทุกคนก็เดินไปสู่ความตายพร้อมกันเถอะ
เขาไม่มีทางปล่อยลั่วเหยา เช่นเดียวกันเขาก็อย่าหวังมีความสุขเลย
ประโยคนี้กระตุ้นทำให้เฟิงยี่โมโหมาก
เฟิงยี่ไม่สนใจการห้ามปราบของถังลั่วเหยาแล้ว แต่ยกมือขึ้นต่อยใส่ฉู่ยี่อีกหนึ่งหมัด
ในตอนนี้ส้งเจียเจียทนไม่ไหวแล้ว
เธอเดินเข้ามาเบื้องหน้า แล้วตบใส่หน้าของเฟิงยี่หนึ่งที : “เฟิงยี่! หยุดได้แล้ว!”
เฟิงยี่ถูกเธอตบจนรู้สึกมึน แต่ในดวงตาของเขากลับยิ่งมีสายตาโมโหและประชดประชัน
เฟิงยี่ปล่อยตัวฉู่ยี่ออก จากนั้นถังลั่วเหยาก็เดินเข้ามาประคองข้างหลังเขา พร้อมจ้องมองเฟิงยี่ด้วยสายตาเคียดแค้น
ในตอนนี้เฟิงยี่ไม่สนใจสองคนนั้นแล้ว
เขาหรี่ตาจ้องมองส้งเจียเจียด้วยสายตาอันตราย พร้อมกับเดินเข้าไปหาเธอ
เขาดูท่าทางป่าเถื่อนมาก แถมในดวงตามีสายตาโหดร้ายด้วย
เมื่อเห็นแบบนี้ ส้งเจียเจียก็เดินถอยหลังไปทันที แต่สุดท้ายเดินไม่มั่นคงล้มลงบนพื้น
เธอจ้องมองเฟิงยี่อย่างตัวสั่นเทา
เธอไม่เคยเห็นเฟิงยี่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเลย
ในความทรงจำของเธอ ถึงแม้เฟิงยี่จะเจ้าชู้ หรือกะล่อน และบางครั้งอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว แต่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ซึ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกว่าวินาทีถัดไปเธอต้องตายแน่
ใช่ ในใจของส้งเจียเจียในตอนนี้ เฟิงยี่น่ากลัวมาก เหมือนกับว่าวินาทีต่อมาสามารถฆ่าเธอได้เลย
แต่สิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจคือ เมื่อเฟิงยี่เห็นเธอนอนล้มอยู่บนพื้นก็ไม่เดินเข้ามาอีก แต่กลับจัดระเบียบเนคไทและคอเสื้อ แล้วเลียริมฝีปากเล็กน้อย : “ส้งเจียเจีย ตอนนี้ผมให้โอกาสคุณหนึ่งครั้ง บอกผมมา คุณเป็นใครหรอถึงมาตบผม และออกกำสั่งกับผมแบบนี้”
ส้งเจียเจียตกใจจนตัวสั่นเทา
แต่ในใจรู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของเฟิงยี่ เพราะเธอทั้งรักและทุ่มเทต่อเขามาก
ดังนั้นส้งเจียเจียสูบลมหายใจลึกๆ และพยายามรวบรวมความกล้าหันหน้ามองเฟิงยี่ แล้วพูดขึ้นว่า : “ฉันเป็นแฟนของคุณ คุณเคยบอกว่าฉันเป็นคนในใจตอนนี้ของคุณ”
“อ๋อ? แบบนี้นี่เองหรอ?” เฟิงยี่ยิ้มขึ้นมา
เฟิงยี่เป็นคนหน้าตาหล่อเหลาอยู่แล้ว แต่การยิ้มออกมาอย่างกะทันหันในตอนนี้ของเขา เหมือนคนไม่ใช่คนปกติเลย สามารถบอกได้ว่าเขาเหมือนกับชายรูปหล่อที่ออกมาจากภาพวาดได้เลย
ส้งเจียเจียตกใจกับการกระทำของเขาจนขาดสติหมดแล้ว แต่หลังจากที่เธอเห็นเฟิงยี่ยิ้ม คิดไม่ถึงว่าเธอนึกว่าเขาเห็นด้วยกับคำพูดของตัวเอง
แต่น่าเสียดายก็คือ เธอแทบมองสายตาเย็นชา ประชดประชันของเขาไม่ออกเลย
แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดต่อมาของเฟิงยี่ เธอก็รู้สึกอับอายมาก จนทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา
เฟิงยี่พูดว่า : “แฟนหรอ? ผมมีแฟนเยอะมาก คุณคือคนไหนหรอ? อีกอย่างตอนคุณอยู่บนเตียงพราวเสน่ห์จนทำให้ผมพอใจมาก แต่เป็นคนในใจของผมประโยคนี้ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดเองได้ยังไงกัน?”
“คุณพูดโกหก! ฉันยังไม่เคยขึ้นเตียงกับคุณเลย!” ส้งเจียเจียร้องไห้พลาง ตะโกนร้องพลาง “คุณเหยียดหยามฉัน!”
เฟิงยี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย ไม่พูดอะไร
ใช่แล้ว เป้าหมายของเฟิงยี่คือแบบนี้
เขาตั้งใจเหยียดหยามเธอ
แขกในงานล้วนเป็นผู้อาวุโสในวงการ หากเฟิงยี่พูดออกมาในเวลาปกติจะถือว่าไม่เป็นเรื่องใหญ่ แต่ในตอนนี้ สำหรับส้งเจียเจียแล้ว ถือเป็นการเหยียดหยามอย่างมาก
หากผ่านไปวันนี้ ต่อให้ส้งเจียเจียพยายามพูดอธิบายยังไง ภาพลักษณ์ของเธอไม่สามารถกลับมาใสบริสุทธิ์เหมือนเดิมแล้ว