บทที่ 504 ปีนป่ายแอบอิง
เรื่องที่หลานสาวของเขามีคนรักนี้หลิวหมิงก็มีความสุขแต่ในขณะเดียวกันก็ทำตัวไม่ถูก
ที่เขามีความสุขนั้นแน่นอนเป็นเพราะว่าหลานสาวโตขึ้นเป็นสาวแล้ว แต่ที่ทำตัวไม่ถูกนั่นก็เพราะตัวตนของเฟิงยี่
ตระกูลส้งและตระกูลหลิว แม้จะถือว่าเป็นตระกูลที่มั่งคั่งในเมืองหลวง แต่หากนำไปเปรียบเทียบกับตระกูลใหญ่ทั้งสี่แล้วก็ห่างกันมากทีเดียว
หลิวหมิงไม่เห็นด้วยกับการที่ส้งเจียเจียจะปีนขึ้นไปแบบนี้ คนที่มีตัวตนอย่างเช่นเฟิงยี่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถจะเอื้อมถึงได้
ส้งเจียเจียนั้นช่างใจหนักแน่น เธอตัดสินใจแล้วว่าจะต้องคว้าเฟิงยี่มาให้ได้ ในฐานะของน้าเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
แต่ว่าหญิงสาว เมื่อเวลาที่ตกอยู่ในแม่น้ำแห่งความรักแล้วก็จะไม่มีสติใดๆ รอให้เธอโตขึ้นอีกสัก 2-3 ปีก็คงจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามแบบนี้อีก
ดังนั้นเรื่องของเธอกับเฟิงยี่หลิวหมิงจึงไม่ได้นำมาใส่ใจ
ในวันนี้ตอนที่เขาเพิ่งได้รับข่าวจากส้งเจียเจีย เขายังพูดถึงหลานสาวคนนี้อยู่กับเพื่อนเลย “แหมๆ หลานสาวสุดที่รักของผม ในที่สุดก็ตื่นจากความรักและคิดถึงน้าสักที”
ช่วงนี้หลิวหมิงกำลังจัดเตรียมการถ่ายทำเมืองไร้ตะวันจึงไม่ได้เข้าร่วมงานต่างๆ
ส่วนเรื่องความขัดแย้งของส้งเจียเจียและเฟิงยี่ วันต่อมาก็ถูกฝ่ายชายใช้วิธีการต่างๆกลบข่าวลงไป
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่มีใครกล้านำเรื่องนี้มาบอกกับหลิวหมิง จึงทำให้เขาไม่รู้อะไรเลย
ในตอนนี้เมื่อเพื่อนของหลิวหมิงเห็นว่าเขาดีอกดีใจเช่นนั้น จึงทำได้เพียงหัวเราะหึๆแล้วบอกว่า “อืมอย่างนั้นก็ดีแล้ว”
เขาไม่ได้สนิทกับหลิวหมิงมากเท่าไรนัก เรื่องใหญ่โตเพียงนี้เขาจะกล้าบอกหลิวหมิงอย่างไร?
ชื่อเสียงภายในวงการของหลิวหมิงนั้นโด่งดังเรื่องของการเอาพรรคพวกและไม่ยุติธรรม
หากว่าเจ้าหมอนี่อารมณ์ไม่ดีขึ้นมา และเอาเขาเป็นที่ระบายจะทำอย่างไร เขาไม่ต้องการที่จะมารับกรรมนี้ด้วย
เนื่องจากหลิวหมิงไม่เจอกับหลานสาวที่เขารักและทะนุถนอมคนนี้มาเป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจึงอารมณ์ดีมากและไม่ได้ทันสังเกตคำพูดพร้อมกับท่าทางของเพื่อนๆ
และด้วยเหตุผลนี้เอง ตอนที่พบกับส้งเจียเจียเขาจึงรู้สึกตกตะลึงกับท่าทางอันหดหู่ของเธอ
“เจียเจียเป็นอะไรไป?” หลิวหมิงเดินมานั่งลงข้างๆส้งเจียเจีย จากนั้นตบไปที่บ่าของเธอแล้วรีบถามด้วยความร้อนรนใจ
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าส้งเจียเจียจะได้รับความรักความเห็นใจ เมื่อเธอเห็นหลิวหมิงก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นของครอบครัว
ประกอบกับช่วงนี้ชีวิตของเธอค่อนข้างจะรันทด เธอจึงได้เบ้ปากออกมาแล้วร้องไห้อย่างเสียออกเสียใจ
หัวใจของหลิวหมิงแทบจะแตกสลาย
นี่คือแม่หนูน้อยที่เขาทะนุถนอมราวกับไข่ในหิน
การที่เธอเสียใจขนาดนี้แน่นอนว่าต้องมีคนรังแกเธอ
ตามปกติแล้วหลิวหมิงจะไม่พูดอะไรกับเธอมาก แต่ตอนนี้……
เมื่อมองเห็นส้งเจียเจียที่ร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น หลิวหมิงก็รู้สึกเลือดขึ้นหน้า
“เจียเจียเป็นอะไรกัน?” น้ำเสียงของหลิวหมิงแฝงไปด้วยความโมโห “เฟิงยี่รังแกเธอหรือเปล่า?”
หลิวหมิงให้สัญญากับตัวเองอยู่ในใจว่า ถ้าเฟิงยี่กล้าทำไม่ดีกับเจียเจียล่ะก็ แม้เขาจะต้องสูญเสียชื่อเสียงที่สร้างมาหลายปีนี้ อีกทั้งพันธมิตรต่างๆ ก็จะต้องเล่นงานเฟิงยี่ให้ได้
ส้งเจียเจียรู้ดีว่าน้าเล็กคนนี้รักและทะนุถนอมตนมาก
เมื่อเธอได้ยินคำพูดนั้นก็เดาได้ว่าหลิวหมิงตัดสินใจแล้ว
ที่จริงเดิมทีเธอต้องการจะฟ้องพฤติกรรมของเฟิงยี่กับหลิวหมิง แต่ตอนนี้เธอเดาถึงความคิดของเขาออก ส้งเจียเจียก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
เฟิงยี่ทำไม่ดีกับเธอ อืม ใช่แล้ว
เรื่องนี้หากเธอสามารถทำให้เฟิงยี่รู้สึกเจ็บปวดบ้าง เธอคงจะมีความสุข
แต่หากว่าน้าเล็กคนนี้กัดฟันสู้เสียจนต้องตายไปข้างหนึ่งแล้วก็……
บอกตามตรงว่าส้งเจียเจียรู้สึกเสียดายผลงานและเพื่อนฝูงที่น้าสะสมมาตั้งหลายปี
ดังนั้นหลังจากที่ส้งเจียเจียตะโกนร้องไห้ร้องห่มออกมาเรียบร้อยแล้ว ความทุกข์ในใจเธอก็เริ่มเบาลง
เธอไม่อยากให้น้าเล็กของเธอไปหาเรื่องเฟิงยี่ อีกอย่างผลลัพธ์นี้สำหรับน้าของเธอแล้วมันไม่คุ้มเลยทีเดียว
เธอน่าจะทำให้ถังลั่วเหยาต้องลำบากสักหน่อยดีกว่า
แบบนี้ก็ดีแล้ว สามารถทำให้ถังลั่วเหยาไม่มีความสุขและยังไม่สร้างเรื่องให้กับน้า ที่สำคัญที่สุดก็คือ เฟิงยี่ให้ความสำคัญกับผู้หญิงคนนั้นมากไม่ใช่เหรอ? รอดูซิว่าเขาจะทำยังไง
เมื่อคิดได้ดังนั้นส้งเจียเจียก็ร้องไห้ออกมาเสียงดัง
เสียงร้องไห้ที่จู่ๆก็ดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของส้งเจียเจียทำให้หลิวหมิงตกใจ
เมื่อมองดูส้งเจียเจียที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นหัวใจของหลิวหมิงก็แทบจะแตกสลาย
“ไม่ร้องนะคะคนเก่ง” หลิวหมิงรีบเข้ามาปลอบส้งเจียเจีย
ในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดพิจารณาว่าใครกันที่บังอาจทำให้หลานสาวคนโปรดของเขาต้องเสียอกเสียใจขนาดนี้ ทันใดนั้นส้งเจียเจียก็เอ่ยชื่อตัวตนของคนคนนั้นออกมา
“น้าคะ ถังลั่วเหยารังแกฉัน……”
“ถังลั่วเหยาเหรอ?”
เมื่อได้ยินชื่อนี้หลิวหมิงก็ตกตะลึงอีกครั้งหนึ่ง
ถังลั่วเหยาเป็นใคร? นักแสดงหน้าใหม่คนไหนอย่างนั้นเหรอ?
แล้วเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่เขาร่วมรับประทานอาหารกับฉู่ยี่
และระหว่างนั้นฉู่ยี่ก็รับโทรศัพท์ขึ้น เขาเลยถามออกไปตามประสา ผู้ที่นั่งร่วมโต๊ะบอกกับเขาว่านั่นเป็นสายจากคู่หมั้นของฉู่ยี่ชื่อว่าถังลั่วเหยา
เมื่อคิดได้ดังนั้นหลิวหมิงก็รีบเอ่ยถามส้งเจียเจียว่า “คู่หมั้นของฉู่ยี่อย่างนั้นหรือ”
ส้งเจียเจียหยุดชะงักลง จากนั้นก็รีบพยักหน้า
หลิวหมิงขมวดคิ้วเข้าหากันทันที “เธอรังแกหลานฉันยังไง?”
ส้งเจียเจียก้มหน้าก้มตาลงและทำท่าทางน่าสงสาร ช่วงวินาทีหนึ่งสายตาของเธอบ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็เล่าเรื่องคืนนั้นขึ้นมาโดยเสริมเติมแต่งไปตามความต้องการ
จากคำพูดของส้งเจียเจียนั้น ถังลั่วเหยากลายเป็นผู้หญิงไม่ดีไปในชั่วพริบตา เธอมีฉู่ยี่อยู่แล้วยังไม่พอ ยังจะหน้าด้านเข้ามาอ่อยเฟิงยี่อีก
ส่วนเฟิงยี่นั้นก็กลายเป็นคนที่เจ้าชู้ไปในทันที จากคำพูดของเธอทำให้เฟิงยี่กลายเป็นคนไม่ดีไปชั่วพริบตาเช่นกัน
หลิวหมิงโมโหขึ้นมาเป็นฟืนเป็นไฟ
“เฟิงยี่กล้าดีเกินไปแล้วจริงๆ! ในตอนแรกเพราะเราบอกกับน้าว่าเขาเป็นคนดี น้าถึงไม่พูดอะไร แต่เขาทำแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน? อีกอย่างการที่เป็นแบบนี้ก็เพื่อผู้หญิงที่ไม่เคารพในตัวเองคนหนึ่งเท่านั้น”
เมื่อส้งเจียเจียเห็นดังนั้นก็รีบเข้ามาปลอบหลิวหมิงพูดว่า “น้าคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่ถังลั่วเหยา…… เฮ้อก็จริงสินะ หน้าตาและความสามารถของเธอโดดเด่นขนาดนั้นจะไม่ให้คนรอบข้างรุมหลงรักเธอได้ยังไงล่ะคะ”
แต่ยิ่งส้งเจียเจียพูดแบบนี้หลิวหมิงก็ยิ่งโมโห
ในขณะที่หลิวหมิงกำลังดุด่าต่อว่าถังลั่วเหยาและเฟิงยี่ส้งเจียเจียก็กำลังพูดจาเตือนเขาไม่ให้ใจร้อน จู่ๆโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
“ผู้กำกับหลิวคะ นางเอกในเรื่องสรุปได้แล้ว เป็นการเสนอจากผู้สนับสนุน แต่ว่านักแสดงคนนั้นก็มีเทคนิคการแสดงที่ดีทีเดียว”
“ใคร?” หลิวหมิงพยายามระงับความโกรธ
“ถังลั่วเหยา”
หลิวหมิงหรี่ตาลงแล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เออ เข้าใจแล้ว!”
เจ้าหน้าที่ในสายรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไมน้ำเสียงของหลิวหมิงจึงค่อนข้างโมโหแบบนั้น
แต่ว่าปลายสายก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรคิดว่าหลิวหมิงอาจจะกำลังอารมณ์ไม่ดีเท่านั้น
ส่วนหลิวหมิงหลังจากวางสายโทรศัพท์ลง ก็เปิดดูรายชื่อนักแสดงที่เจ้าหน้าที่ส่งมาให้
เขาเปิดไปยังชื่อของนางเอก หลังจากเห็นชื่อสามคำว่าถังลั่วเหยา มุมปากของเขาก็เผยอขึ้นอย่างเยือกเย็น
หลิวหมิงชี้ไปที่ชื่อของถังลั่วเหยาให้ส้งเจียเจียดูแล้วพูดว่า “เจียเจียคนที่รังแกเราคือผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม?”
ส้งเจียเจียมองดูรายชื่อนักแสดงและต้องตกตะลึง
เมืองไร้ตะวัน! IPใหญ่ขนาดนี้เชียว?