บทที่ 506 ถูกเล่นงาน
ถ้าเธอจำไม่ผิด คนเหล่านี้คือทีมงานในกองถ่ายที่ต้องเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงเปิดกองในวันนี้ใช่ไหม?
หมายความว่าเธอเป็นคนมาถึงคนสุดท้ายอย่างนั้นเหรอ?
ถังลั่วเหยามองดูเวลาและสถานที่ที่ซูหงบอกกับเธอ และก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง
ถังลั่วเหยามั่นใจว่า จากข้อมูลที่ซูหงบอกเธอ เธอไม่ได้มาช้า อีกทั้งมาถึงก่อนตั้งครึ่งชั่วโมง!
ถ้าอย่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แต่จู่ๆความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของเธอ
หัวใจของถังลั่วเหยาห่อเหี่ยวลงเล็กน้อย ปากของเธอเผยรอยยิ้มขอโทษอันสุภาพ จากนั้นเอามือปิดหน้าอกโค้งคำนับแล้วพูดว่า “วันนี้รถติดนิดหน่อย ต้องขออภัยทุกท่านด้วยนะคะที่มาสายนะคะ”
นับตั้งแต่วินาทีที่ถังลั่วเหยาเดินเข้ามาในห้อง VIP นี้ หลิวหมิงที่นั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ก็หยุดยิ้มและหยุดการสนทนากับคนอื่นๆ เขาทำหน้าเคร่งขรึมมองไปทางถังลั่วเหยา
มองจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว ความประทับใจครั้งแรกก็คือเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่เฉลียวฉลาด คิ้วและดวงตาของเธอนั้นบ่งบอกถึงความชอบธรรม ดูไปแล้วไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องอย่างนั้นได้ ไม่ว่าหลิวหมิงจะมองเธออย่างไรก็ไม่รู้สึกว่าถังลั่วเหยาเป็นเหมือนที่ส้งเจียเจียพูดสักนิดเดียว
แต่ในวงการบันเทิงนั้น จะตัดสินใจคนด้วยรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเดียวได้อย่างไร?
ความคิดนี้ทำให้ ความแค้นของหลิวหมิงผุดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
ผู้หญิงสมัยนี้ทำไมถึงไม่เคารพและรักตัวเองกันเลยนะ เป็นนักแสดงเก่งดีๆอยู่ไม่ชอบ ทำไมต้องให้พวกสนับสนุนฝากเข้ามาในวงการ ถ้านี่ไม่ได้เรียกว่าเป็นการทุจริต แล้วจะเรียกว่าอะไร?
เมื่อคิดได้ดังนั้น สีหน้าของหลิวหมิงก็ไม่น่ามองยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งคนที่นั่งร่วมโต๊ะก็เริ่มพบว่าเขาอารมณ์ไม่ดี
แต่ละคนสะกิดกันไปมา และสุดท้ายก็หยุดการเจรจาสนทนาลง บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที
ถังลั่วเหยาเองก็สัมผัสได้ถึงแววตาที่หลิวหมิงมองมาอย่างผิดปกติ
เธอไปทำให้ผู้กำกับหลิวขุ่นเคืองใจตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ถังลั่วเหยาครุ่นคิดด้วยความสงสัย
เวลาเพียงไม่กี่วินาที สมองของถังลั่วเหยาคิดเชื่อมโยงกันไปถึงเรื่องต่างๆมากมาย
หรือจะเป็นงานเลี้ยงเมื่อครั้งก่อนกันนะ เป็นไปไม่ได้น่า เธอไม่ได้เจอผู้กำกับหลิวในงานนั้น
แต่นอกจากนี้แล้วเธอก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคนในระดับผู้กำกับเลย
เมื่อคิดได้ดังนั้น จิตใจของถังลั่วเหยาก็เริ่มสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งสื่อผ่านออกมาทางใบหน้าของเธอ
เมื่อเขามองเห็นท่าทางอันงุนงงจากแววตาของถังลั่วเหยาแล้ว ไฟโมโหที่สุมทรวงก็ทวีคูณเพิ่มขึ้น
หึๆ! ตัวเองทำอะไรเอาไว้ไม่รู้หรือไง? หรือมีการซื้อขายกันแบบนี้มากจนจำไม่ได้?
หรือผู้หญิงสมัยนี้ช่างไม่ให้ความสำคัญในเรื่องของการเคารพตัวเองเอาเสียเลย?
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลิวหมิงก็รู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจอะไรโง่ๆลงไปแล้ว
บางทีเขาไม่ควรที่จะตกลงเห็นด้วยกับผู้สนับสนุน ที่เห็นกับผลงานค่อนข้างดีที่ผ่านมาของถังลั่วเหยาและเลือกเธอมาเป็นนางเอก
ในใจของหลิวหมิงไม่มีความสุขแล้วตอนนี้ และแน่นอนว่าเขาจะไม่ให้ถังลั่วเหยามีความสุขด้วย
“คุณถัง ถ้าคิดว่าตัวเองมีความสำคัญมากและต้องให้คนในกองถ่าย สละเวลาอันมีค่าของตัวเองมารอคุณที่งานเลี้ยงเปิดกองแบบนี้ คุณจะออกไปเดี๋ยวนี้เลยก็ได้”
การโจมตีกะทันหันจากหลิวหมิง ทำให้ถังลั่วเหยายืนตกตะลึงอยู่กับที่ เธอทำตัวไม่ถูก
เธอไม่รู้จริงๆว่าเธอเคยไปทำอะไรให้ผู้กำกับหลิวขุ่นเคืองใจเมื่อไหร่
เธอไม่รู้จริงๆว่าควรทำอย่างไร ดังนั้นถังลั่วเหยาจึงเลือกที่จะขอโทษและยอมรับผิด
เธอเอามือปิดหน้าอกและโค้งตัว 90 องศา จากมุมมองของคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะ สามารถมองเห็นหน้าอันรู้สึกผิดและความรู้สึกสลดใจเสียจนต้องหลับตาลง “ขอประทานอภัยผู้กำกับหลิวจริงๆค่ะ ฉันไม่คิดว่าเส้นทางที่จะมายังที่นี่ค่อนข้างซับซ้อนแบบนี้ อีกทั้งระหว่างทางมารถค่อนข้างติด จึงทำให้ทุกคนต้องเสียเวลาแบบนี้ ฉันหวังว่าผู้กำกับหลิวและเพื่อนร่วมงานทุกคนจะให้อภัยในความผิดฉันในครั้งนี้นะคะ”
หลิวหมิงชายตาไปมองดูถังลั่วเหยา น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นเสียจนน่าตกใจ “พวกเราจะไปกล้าให้อภัยคุณหนูถังได้ยังไงกัน?”
สายตาของถังลั่วเหยาแฝงไปด้วยความอึดอัดใจเล็กน้อย วินาทีนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมาดี
กระทั่งมีบางคนกำลังครุ่นคิดว่าจะปฏิบัติต่อถังลั่วเหยาอย่างไรหลังจากนี้
เนื่องจากถังลั่วเหยาทำตัวไม่เข้าตาผู้กำกับหลิว เรื่องนี้ทุกคนรู้ดี
อยู่ในวงการบันเทิงแบบนี้ การเชิดหน้าและเหยียบผู้อื่นมีให้เห็นกันไปทั่ว พวกเขาไม่รู้สึกว่ามันแปลกอะไร
ถังลั่วเหยายืดตัวตรงขึ้นด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อย เธอมองไปยังผู้กำกับหลิวด้วยความลำบากใจ “ผู้กำกับหลิวคะ ในวันนี้ฉันต้องขอโทษเป็นอย่างยิ่งที่เดินทางมาสายและหวังว่าคุณจะให้อภัยฉัน”
หลิวหมิงมองไปยังถังลั่วเหยาแล้วหัวเราะอย่างเยือกเย็น “คุณรู้อยู่แก่ใจดีว่าควรทำอย่างไร”
ถังลั่วเหยาขยับตัว แต่เธอก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เนื่องจากตอนนี้ถ้าเธอมัวแต่พูดไปเรื่อยเปื่อย ก็จะมีแต่ทำให้แย่ลง
เมื่อเห็นว่าถังลั่วเหยาไม่ปฏิเสธออกมา แววตาของหลิวหมิงก็ปรากฏความมืดมน
เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้นอกจากไม่รักศักดิ์ศรีของตัวเองแล้ว อย่างอื่นก็ไม่มีอะไร
ท่าทางที่หลิวหมิงมองมาทางถังลั่วเหยานั้นบ่งบอกให้เห็นว่าเขาไม่พอใจ อีกทั้งยังดูถูก แม้แต่คำพูดก็ค่อนข้างจะ เหยียดหยาม
ระหว่างการรับประทานอาหาร หลิวหมิงได้เอ่ยคำพูดทิ่มแทงเสียดสี ต่อถังลั่วเหยาไปไม่น้อย เดิมทีตอนแรก สีหน้าของถังลั่วเหยาก็ยังพอดูได้ แต่ในตอนท้ายๆสีหน้าของเธอแข็งทื่อลง
จนกระทั่งในตอนจบ ถังลั่วเหยาไม่เหลือแม้แต่ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับผู้กำกับหลิว
เธอไม่อยากจะเสี่ยง
เมืองไร้ตะวันเป็นIPที่ใหญ่มากจริงๆ ใหญ่จนถึงขนาดที่ว่า……หากเธอระเบิดอารมณ์ออกมาและถูกเตะออกจากกองถ่ายนี้ ในอนาคตเธออาจจะไม่สามารถรับงานในระดับเดียวกันได้อีก หรือแม้แต่งานที่ต่ำไปอีกระดับหนึ่งก็อาจจะไม่มีมา
สิ่งนี้สำหรับถังลั่วเหยาแล้วนับว่าเป็นการถูกโจมตีที่หนักหน่วงทีเดียว
ดังนั้นถังลั่วเหยาจึงพยายามบังคับฝืนตัวเองให้อดทนและยอมรับมัน
แม้ว่าเธอจะดูถูกเหยียดหยามและเธอก็โมโหมาก
แต่ดูเหมือนหลิวหมิงจะไม่รู้ถึงความรู้สึกที่ถังลั่วเหยาเก็บเอาไว้
จากที่เขามองดูแล้ว ถังลั่วเหยาเหมือนกับนักเต้นระบำ และเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์สร้างความอยากแล้วจากไป
หากไม่ใช่เพราะหลิวหมิงไม่มีความชื่นชอบแบบนี้ เขาคงจะสงสัยว่าถังลั่วเหยาตั้งใจเข้าหาเขาหรือเปล่า?
ความคิดอันชั่วร้ายเหล่านี้ของหลิวหมิง ถังลั่วเหยาไม่ชัดเจนนัก
ถ้าหากเธอรู้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรเธอคงไม่อยู่ในกองถ่ายนี้อีก
เธอคงจะจากไปโดยไม่ต้องลังเล และกลับไปบอกซูหงว่าเธอไม่ถ่ายทำมันแล้ว
หลังจากที่งานเลี้ยงเปิดกองสิ้นสุดลง ถังลั่วเหยาก็หอบสีหน้าอันขมขื่นกลับมายังที่พักตน
เธอพยายามคิดและนึกย้ำอยู่ในใจ หากว่าชื่อเสียงของหลิวหมิงไม่ได้โด่งดัง และเธอไม่ต้องการจะแสดงหนังเรื่องนี้แล้ว เธอก็คงจะไม่อดทนอีกต่อไป
หลังจากล้างเครื่องสำอางเรียบร้อย ถังลั่วเหยาก็มองดูตัวเองในกระจกที่ท่าทางห่อเหี่ยว เธอรู้สึก ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าทำไมเรื่องวันนี้ถึงกลายเป็นอย่างนี้ได้
เป็นเพราะแม่อย่างนั้นเหรอ? ไม่น่าจะใช่
เป็นเพราะพ่อเลี้ยงอย่างนั้นเหรอ? ก็ดูเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง
แล้วเป็นเพราะเหตุผลอะไรกัน?
ถังลั่วเหยาก็ไม่รู้
ท้ายที่สุดแล้วเธอง่วงจนกระทั่งไม่ทันได้ครุ่นคิด เธอเดินโอนเอนไปที่เตียงและล้มลงหลับตานอน