บทที่520 เมาที่บาร์
ในตอนนี้ถังลั่วเหยาไม่ได้ร้องไห้แล้ว ตอนนี้อารมณ์ของเธอสงบนิ่งลงแล้ว
การกระทำเมื่อครู่ของเฟิงยี่ทำให้เธอเกิดความกลัวขึ้นมาอย่างแท้จริง
เพียงแค่คิดถึงเขาในใจก็เจ็บไม่หาย
ฉู่ยี่เห็นเธอเป็นแบบนั้น ก็พอเข้าใจได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
เขาแอบถอนหายใจและเปลี่ยนเรื่องคุย
“วางใจเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว ว่าแต่คุณก็นะ เกิดเรื่องแล้วทำไมไม่ติดต่อผม ยังดีที่ผมรู้ข่าวว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นล่ะก็ ดูคุณแบบเมื่อกี้จะทำยังไง”
ถึงแม้ว่ารู้สึกเสียใจกับประสบการณ์ของถังลั่วเหยาเมื่อครู่ แต่ฉู่ยี่ก็ยังอยากจะบ่นเพื่อไม่ให้อารมณ์ของถังลั่วเหยาหดหู่
ถังลั่วเหยาถือแก้วน้ำและก้มหน้าไม่พูดไม่จา
ฉู่ยี่เห็นดังนั้นก็รู้ว่าเธอคงอยากจะอยู่เงียบๆ จึงไม่พูดอะไรอีก เขาออกไปหาหมอเพื่อจะสอบถามอาการให้เข้าใจ
ในตอนนี้อีกด้านหนึ่ง
หลังจากเฟิงยี่ออกมาจากโรงพยาบาล ในหัวก็เต็มไปด้วยภาพถังลั่วเหยาอยู่ในอ้อมกอดของฉู่ยี่เมื่อครู่นี้
เขาขับรถไปบนทางหลวงกว้าง
มือที่จับพวงมาลัยนั้นจับแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนเส้นเลือดที่ได้รับบาดเจ็บก็แตกออกไปแล้ว
มีความไม่เต็มใจและความโกรธอยู่ในนั้นมากมาย
ทำไมเธอที่เห็นๆ อยู่ว่ามีความรักให้กับเขา กลับผลักไสเขาครั้งแล้วครั้งเล่า?
แล้วยิ่งพวกเขาสองคนมีความสัมพันธ์กันแบบนั้นตั้งแต่แรก แล้วทำไมจะต้องปฏิเสธตนเองด้วย?
เฟิงยี่รู้สึกว่าตอนนี้เขายิ่งไม่เข้าใจถังลั่วเหยาเข้าไปทุกที
ในใจยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ
เฟิงยี่ในตอนนี้ไม่รู้ว่าขับรถอย่างไร้จุดหมายมานานเท่าไหร่แล้ว เมื่อมองไปรอบๆ ก็มีบาร์เหล้าแห่งหนึ่ง
ที่นั่น เมื่อก่อนเวลาที่อารมณ์ไม่ดีก็มักจะมาที่บาร์
เฟิงยี่ได้แต่ส่ายหน้า ไม่คาดคิดว่าจิตใต้สำนึกของเขายังคงมาที่นี่
เฟิงยี่จอดรถไว้ข้างทางและเดินเข้าไป
ปกติแล้วเขาจะไปบาร์ที่บริษัทตนเองบริหารอยู่ จนลืมไปแล้วว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้มาที่นี่
ตอนนี้เกิดอารมณ์เสียพอดี งั้นเข้าไปดื่มสักแก้วแล้วกัน
“ตายแล้ว วันนี้ลมอะไรหอบมา? ถึงหอบพาคุณมาที่นี่ได้นะ?”
หลินหนานถือเป็นหนึ่งในเลือดใหม่แห่งวงการเศรษฐี เขาหน้าตาดี รักอิสระ ผู้คนเรียกเขาว่านายน้อยหลิน
เมื่อก่อนก็สนิทกับเฟิงยี่ แต่ช่วงหลังเพราะเขาต้องยุ่งอยู่กับกิจการครอบครัวจึงไม่ค่อยไปมาหาสู่
หลินหนานคนนี้นั้นไม่เหมือนลูกคนรวยอื่นๆ เฟิงยี่รู้ดี คนอื่นเข้าใกล้เขาก็อยากจะไต่เต้าจากตระกูลเฟิงไม่มากก็น้อย หรือไม่ก็แสวงหาผลประโยชน์จากความเป็นคุณชายรองตระกูลเฟิงของเขา
แต่หลินหนานนั้นไม่เหมือนกัน เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย
ตระกูลหลินก็มีอิทธิพลอยู่ในเมืองหลวงไม่น้อย นอกเหนือจากสี่ตระกูลใหญ่ ตระกูลหลินถือได้ว่าเป็นตระกูลร่ำรวยที่เก่าแก่
ในขณะนี้เขายืนอยู่ที่ทางเข้าของบาร์และเห็นเฟิงยี่ ซึ่งมันแปลกมากจริง ๆ เขาจึงตะโกน
“นายก็อยู่?”
เฟิงยี่มองไปที่หลินหนานตรงหน้าเขาและถามอย่างแผ่วเบา
“โธ่เอ๊ย ฉันน่ะถูกขนานนามว่าเจ้าชายน้อยแห่งร้านเหล้า บาร์นี้จะขาดฉันได้ยังไงล่ะ?”
พูดแล้วหลินหนานก็เลิกคิ้วใส่เฟิงยี่
จากนั้นทั้งสองก็หาโต๊ะและนั่งลง
“ดูหน้านายวันนี้แล้ว เป็นไง? อกหักรักคุด?”
ที่ทำให้เฟิงยี่มาบาร์เหล้าในตอนนี้ได้ ก็คงไม่พ้นเรื่องที่ทำให้เขาต้องขุ่นเคืองใจ
แล้วยิ่งในฐานะเพื่อนสนิทของเฟิงยี่ เรื่องของเขากับถังลั่วเหยา เขาเองก็รู้มาบ้างไม่มากก็น้อย
เฟิงยี่หยิบ Long Island iced tea ตรงหน้าแล้วพยักหน้า
เหล้าในมือนั้นฟังดูก็ธรรมดาไม่ซับซ้อน แต่แอลกอฮอล์นั้นแรงมากเช่นเดียวกับถังลั่วเหยาทำให้ผู้คนประหลาดใจ
“เฮ้ ฉันว่านะ นายไม่ได้แย่อะไรเลย นายเป็นหนุ่มโสดเนื้อทอง ทำไมถึงได้เอาแต่ไปชอบเกาะอยู่บนกิ่งไม้กิ่งเดียวให้แห้งเหี่ยวเฉาตายเล่า?”
หลินหนานวางมือของตัวเองไว้บนบ่าของเฟิงยี่
“นายไม่เข้าใจ”
เฟิงยี่ยังคงดื่มเหล้าในแก้วของเขาและถอนหายใจ
“โธ่เอ๊ย ฉันว่านายน่ะคิดไม่ได้ นายทนกับเรื่องพวกนี้ ทำไมถึงได้เข้าไปเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เสมอเลย? เขาว่ากันว่า สุดขอบฟ้า ทั่วหล้า ล้วนหญ้างาม
อยากไถ่ถาม ใยปักใจ ดอกไม้เดียวเล่า?”
หลินหนานนั้นเป็นพวกเจ้าชู้เรือพาย ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว ผู้หญิงที่เขาไม่มีทางได้ ก็ปล่อยไปเถอะ ไม่เข้าใจจริงๆ เฟิงยี่ทำไมถึงฝังใจกับถังลั่วเหยานัก ต้องเจ็บเพราะเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“เธอแตกต่าง”
ในใจของเฟิงยี่ ถังลั่วเหยาไม่เหมือนกับผู้หญิงทั่วไปคนอื่นๆ
“จะไม่เหมือนได้ยังไง? ก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนั่นแหละไหม? แต่เป็นเพียงดาราหญิงในสังกัดของนาย บริษัทของนายมีอะไรมากมายไม่ใช่เหรอ”
หลินหนานไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเฟิงยี่มีความรู้สึกเช่นไรให้กับถังลั่วเหยา แต่เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของเขาต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเพื่อผู้หญิงคนนี้ทั้งวัน เขาก็รู้สึกแย่อยู่ไม่น้อย
“เอ้าดื่ม”
เฟิงยี่ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้ตนเองมาดื่มก็เพื่อสิ่งนี้
สามารถลืมถังลั่วเหยาไปได้ชั่วคราว อาศัยเหล้าดับทุกข์
“ได้ๆ ๆ ดื่มๆ วันนี้ข้าน้อยยอมสละชีวิตเพื่อคุณชาย พวกเราวันนี้ไม่เมาไม่กลับ”
เดิมทีที่วางแผนที่จะกลับไปพักผ่อนเร็ว ๆ นี้ แต่ใครจะไปคิดว่าวันนี้จะได้พบกับเฟิงยี่เนื่องจากเขาต้องการดื่ม งั้นก็จะอยู่กับเขาจนถึงที่สุด
“หลินหนาน?”
ในตอนนี้เองที่จู่ ๆ ก็มีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาตบไหล่หลินหนานจากด้านหลัง
“ส้งเจียเจีย?”
เดิมทีที่กำลังคุยกับเฟิงยี่พร้อมแก้วเหล้า แต่เมื่อเห็นคนเรียกตนเอง เขาก็หันหน้าไปทันที
เมื่อเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ก็คิดไม่ถึง
คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะเจอคนสนิทพร้อมกันถึงสองคน
“เฟิงยี่ คุณก็อยู่เหรอ?”
ส้งเจียเจียหันมาและเห็นเฟิงยี่ที่อยู่ข้างๆหลินหนาน จึงมีสีหน้าแปลกใจ
เพราะปกติแล้วเฟิงยี่จะไม่มีทางมาที่แบบนี้ ดังนั้นวันนี้สามารถเจอเขาที่นี่ถือว่าแปลกมากจริงๆ
เฟิงยี่เงยหน้าแล้วมองไปที่ส้งเจียเจียและไม่ได้พูดอะไรมากมาย
“วันนี้พวกคุณคิดว่าจะดื่มถึงกี่โมง?”
มันยากที่จะพบกับสองผู้ยิ่งใหญ่ในวันนี้ส้งเจียเจียต้องติดต่อกับพวกเขาไว้หน่อย
แท้จริงแล้ว เฟิงยี่อารมณ์ไม่ดีอยู่ เธอสามารถรับรู้ได้ไม่มากก็น้อย
ยิ่งกว่านั้น…
เมื่อคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า รอยยิ้มที่ประสบความสำเร็จปรากฏขึ้นใต้ดวงตาของเธอ
“นี่ มานั่งดื่มด้วยกันสิ วันนี้เฟิงยี่อารมณ์ไม่ดีพอดี ตอนนี้มีสาวสวยอย่างเธอมาดื่มเป็นเพื่อน คิดว่าอารมณ์คงจะดีขึ้น”
หลินหนานพูดแล้วก็ดึงเก้าอี้ข้างๆ เขาและขยับให้ส้งเจียเจียนั่งลง
“ในเมื่อพวกคุณพูดแล้ว ฉันคงต้องทำตามแล้วล่ะค่ะ”
หลังจากส้งเจียเจียได้ฟัง ก็หยิบแก้วเหล้าของตัวเองแล้วเขยิบมานั่งข้างๆ หลินหนาน
เพราะพวกเขาต่างก็รู้ดี เฟิงยี่ไม่ชอบให้ผู้หญิงคนอื่นนั่งข้างๆ เขา ต่อให้คนคนนั้นเป็นส้งเจียเจียก็เหมือนกัน ดังนั้นจึงรู้ดีและไม่เข้าไปนั่ง”