บทที่ 531 เขาตำหนิตนเองอย่างมาก
สีหน้าเฟิงเหยี่ยนโอ่อ่า จริงจังพูดว่า “ถ้าหากว่าผมยืนหยัดให้คุณกลับบ้านกับผมอีกสักหน่อย ย่อมจะไม่เกิดเรื่องอย่างนี้แน่นอน”
อานเฉียวนึกไม่ถึงว่าเขาจะพูดเช่นนี้ ในใจอบอุ่นขึ้นทันที ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก
“นี่จะโทษคุณได้ยังไงล่ะ?”
“คุณเป็นภรรยาของผม ทำให้คุณบาดเจ็บเดิมทีก็เป็นความผิดของผมอยู่แล้ว”
ใบหน้าของอานเฉียวแดงขึ้นมาอีก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี
เฟิงเหยี่ยนแย้มริมฝีปากเล็กน้อย ยื่นมือลูบเส้นผมของเธอเบาๆลูบแล้วลูบอีก
รถขับอ้อมผ่านทางภูเขาหนึ่งเส้น ในที่สุดหยุดอยู่หน้าวิลล่าหลังหนึ่ง ผู้ช่วยกงลงจากรถ ช่วยพวกเขาเปิดประตูรถออก เฟิงเหยี่ยนลงจากรถก่อน ตอนที่อานเฉียวกำลังเตรียมตัวจะลงจากรถ อยู่ดีๆกลับโดนเขาอุ้มขึ้นมาจากรถโดยตรง เดินก้าวใหญ่ไปยังวิลล่า
อานเฉียวตื่นตะลึงเล็กน้อยทันที โดยจิตใต้สำนึกก็จะดิ้นรน กลับถูกผู้ชายดุเสียงเบาๆคำหนึ่งว่า “อย่าขยับ!” เธอเบ้ปากต่อๆกัน จ้องมองลักษณะของผู้ชายที่ขมวดคิ้วอยู่ ก็กลืนคำพูดที่จะปฏิเสธกลับไปอย่างแปลกประหลาดมาก
โอเค! เธอสามารถเข้าใจได้ว่า หัวเข่าเธอได้รับบาดเจ็บ แต่ขอให้เป็นผู้ชายที่เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งล้วนจะทำเช่นนี้ล่ะได้หรือไม่!
จากนั้น ถึงแม้ว่าคิดไปอย่างนี้ แต่ตอนที่พิงอยู่ไหล่ที่กว้างขวางของเฟิงเหยี่ยน ในใจก็ยังเกิดความรู้สึกที่อุ่นๆขึ้นมา
วิลล่าที่เฟิงเหยี่ยนพักอยู่ใหญ่มาก ใหญ่มากกว่าวิลล่าของตระกูลอานหลายเท่าตัว
อานเฉียวถูกเขาอุ้มอยู่ จนถึงเข้าไปในบ้าน จากนั้นขึ้นไปชั้นสองโดยตรง เฟิงเหยี่ยนใช้เท้าเตะประตูห้องของห้องนอนห้องหนึ่งออก เดินเข้าไปวางเธอไว้อยู่บนเตียง
ในห้องนอนเป็นการออกแบบเส้นขาวดำที่เรียบง่าย สอดคล้องกับรูปแบบของผู้ชายมาก การตกแต่งทั้งหมดแม้ว่ามองไม่เห็นล้วนล้ำค่าหมดเลย แต่การจัดวางอย่างสอดคล้องกันเห็นทันทีก็รู้ว่าผ่านการออกแบบอย่างตั้งอกตั้งใจ ปรากฏให้เห็นว่ามีรสนิยมอย่างมาก
หลังจากเฟิงเหยี่ยนวางเธออยู่บนเตียง ก็ไปถอดรองเท้าของเธอ
อานเฉียวแข็งทื่อทั้งตัวทันที รีบขวางเขาไว้ เสียงร้อนใจพูดว่า “ฉันทำเอง!”
จากนั้น มือที่ยื่นออกไปกลับถูกผู้ชายขวางกลับมา เฟิงเหยี่ยนเงยหน้าเหลือบตามองเธอหนึ่งที ยิ้มพูดว่า “ผมก็ยังไม่เคยช่วยผู้หญิงถอดรองเท้ามาก่อน คุณเป็นคนแรก”
อานเฉียวอึ้งชะงักเล็กน้อย ใบหน้าน้อยแดงระเรื่อขึ้นมา มือไม้ยิ่งอ่อนไปหมดในทันที
วันนี้ที่เธอสวมใส่คือรองเท้าผ้าใบสีขาวคู่หนึ่ง นิ้วเรียวยาวสวยงามของผู้ชายแก้เชือกรองเท้าของเธอออก ถอดรองเท้าออกมาอย่างราบรื่นมาก
จากนั้นถอดถุงเท้าสีชมพูออกอีก
ในเวลานี้อานเฉียวจึงพบเห็น เนื่องเพราะเธอขาพลิก ที่ข้อเท้าบวมช้ำขึ้นมาอย่างมาก แค่แตะก็เจ็บ
แต่ว่าเมื่อกี้ตัวเธอเองล้วนไม่ได้พบเห็น เขาพบเห็นได้ยังไงหรือ?
ไม่รออานเฉียวคิดให้เข้าใจ คิ้วเฟิงเหยี่ยนขมวดทันที ก็พูดว่า “นั่งสักพัก เดี๋ยวผมขึ้นมา”
พูดจบ ก็หมุนตัวเดินไปยังข้างนอก
เดินถึงหน้าประตู อยู่ดีๆหยุดชะงักหนึ่งที หันหน้ากลับมาพูดเสริมว่า “จำไว้ว่าถอดกางเกงออกด้วย บาดแผลที่อยู่บนเข่าจะต้องจัดการให้ทัน”
อานเฉียว “……”
หลังจากผ่านไปสามนาที เฟิงเหยี่ยนขึ้นมาอีกครั้ง ในมือถือกล่องยาขึ้นมาด้วย
ทันทีที่เขาเข้ามาก็พบเห็นอานเฉียวยังคงนั่งอยู่บนเตียงลักษณะเหมือนเดิม ไม่ได้ถอดกางเกงออกเลย
ระหว่างคิ้วกวาดความไม่พอใจผ่านไปหนึ่งที เขาเดินไปนั่งลงอยู่ข้างหน้าเธอ เสียงเข้มพูดว่า “ทำไมไม่เชื่อฟัง?”
ในเวลานี้อานเฉียวล้วนไม่รู้ว่าจะใช้ภาษาอะไรมาอธิบายอารมณ์ของตนเองแล้ว คุณว่าคุณเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง นิดๆหน่อยก็เรียกผู้หญิงเขาถอดกางเกง เหมาะสมหรือ?
ตาทั้งคู่ของเฟิงเหยี่ยนยี๋เล็กน้อย ดูเหมือนมองออกถึงความเขินอายของเธอ อยู่ดีๆ ยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์
“ทั้งตัวของคุณผมล้วนเห็นหมดแล้ว ดังนั้นไม่ต้องเขินอาย”
ใบหน้าของอานเฉียวเดิมทีก็แดงอยู่แล้วกลับแดงยิ่งขึ้นทันที ผลักเขาออกทันที “อันธพาล!”
“เหอะ!” ผู้ชายตาเร็วมือไวจับมือน้อยของเธอไว้ ดูเหมือนรังเกียจเธอดั่งอึดอัดใจยังไม่พอ ยังวางอยู่ข้างปากจูบหนึ่งทีอย่างเปิดเผย
อานเฉียว “……”
ฮือ ฮือ อันธพาลคนนี้!
“เป็นเด็กดี บาดแผลไม่จัดการจะติดเชื้อล่ะ ให้สามีดูสักหน่อย”
เฟิงเหยี่ยนเหมือนดั่งกล่อมเด็กกล่อมเธออยู่ กล่อมเสร็จก็ลุกขึ้นมาจะถอดกางเกงของเธอ
อานเฉียวตกใจจนรีบถอยออกไปข้างหลัง ทั้งใช้มือต้านไว้ ทั้งร้องพูดว่า “ไม่เอา! ฉันจะไปโรงพยาบาล”
“หมอในโรงพยาบาลไม่ได้อ่อนโยนเท่าสามี”
“งั้นฉันทาเอง!”
อานเฉียวกอดท่าทีที่ยอมตายก็ไม่ยอมอยู่ ในที่สุดความอดทนของเฟิงเหยี่ยนก็สูญสิ้นไปหมด เขาลุกขึ้นมา อยู่มุมสูงพินิจพิเคราะห์ผู้หญิงตัวเล็กที่อยู่ข้างหน้า
มือสองข้างของอานเฉียวจับกางเกงของตนเองไว้อย่างแน่น ก็จ้องเขม็งเขาอยู่เช่นกัน
ผ่านไปสักพัก เฟิงเหยี่ยนอยู่ดีๆแย้มริมฝีปากหนึ่งทีอย่างเย็นชา หมุนตัวเดินไปยังข้างนอก
อานเฉียว “……”
จ้องมองเขาเดินก้าวใหญ่ออกไปกับตา ประตูอยู่ข้างหลังเขา “ปึ้ง” ปิดลงเสียงหนึ่ง
อานเฉียวมีความมึนงงเล็กน้อย นี่เขาโมโหแล้วหรือ?
เธอมีความน้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อย คนนี้มีอารมณ์อะไรล่ะ!
ก็เพียงแค่ไม่ให้เขาทายาล่ะ? ถึงขนาดต้องอารมณ์รุนแรงขนาดนี้หรือ?
ยังชักสีหน้าใส่เธอ!
ในใจอานเฉียวคิดอยู่ รวมกับการประสบพบทั้งวันนี้ เพียงแค่ในใจรู้สึกเหนื่อยหน่ายเหลือเกิน คัดจมูกเช่นกัน ดูเหมือนอยากจะร้องไห้อีกแล้ว
จากนั้น ยังไม่ได้รอเธอน้อยเนื้อต่ำใจเสร็จ ประตูเปิดออก เฟิงเหยี่ยนเข้ามาอีกแล้ว
ใบหน้าผู้ชายเย็นชาอยู่ ไม่พูดอะไร ก้าวเดินเร็วเหมือนดาวตกเดินเข้ามาอุ้มเธอขึ้นมาก็เดินไปยังข้างนอก
อานเฉียวอึ้งชะงัก ถามว่า “คุณจะทำอะไรล่ะ?”
เฟิงเหยี่ยนอารมณ์ไม่ดีพูดออกมาสามคำ “ไปโรงพยาบาล”
อานเฉียว “……”
อารมณ์คือแย่ไปหน่อย แต่ว่าดีต่อเธออย่างมากจริงๆจะทำยังไงดีล่ะ?
——
ตอนที่ไปถึงโรงพยาบาลดึกมากแล้ว หมอที่เข้าเวรทายาให้เธอ กำชับให้ความสนใจเรื่องการกินสักหน่อย ทั้งสองคนก็กลับไปเลย
ตอนที่กลับไป ขาของอานเฉียวทำการพันแผลไว้ ดังนั้นการเคลื่อนไหวยิ่งเพิ่มความไม่สะดวก เป็นเฟิงเหยี่ยนอุ้มเธอขึ้นข้างบนเหมือนเดิม
อานเฉียวพรวดพราดนึกถึง นี่คือจังหวะในคืนนี้จะต้องพักอยู่ชายคาเดียวกันด้วยแล้วหรือ?
แท้ที่จริงเธอก็เข้าใจเช่นกัน ทั้งสองคนตอนนี้มาถึงสภาพอย่างนี้ ถ้าหากว่าเธอยังยืนหยัดที่จะไป งั้นก็ดัดจริตจริงๆแล้ว แต่ว่าพักอยู่ด้วยกันล่ะก็ เธอก็ยังเตรียมตัวไม่พร้อมล่ะ
เฟิงเหยี่ยนดูเหมือนมองความคิดของเธอออก ยื่นมือนวดศีรษะของเธอนวดแล้วนวดอีกอย่างรุนแรง พูดว่า “อย่าคิดเหลวไหล คืนนี้ผมนอนห้องรับแขก”
เดิมทีอานเฉียวก็เขินอายอยู่ ทันทีที่โดนผู้ชายพูดเช่นนี้ ยิ่งเพิ่มความรู้สึกคับแค้น อดไม่ได้ที่จะร้องประโยคหนึ่งเสียงเบาๆ “ใครคิดเหลวไหลแล้วล่ะ!”
เฟิงเหยี่ยนหัวเราะเบาๆเสียงหนึ่ง ก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอเช่นกัน หลังจากวางเธอไว้อยู่บนเตียงแล้ว ก็ไปบิดผ้าเช็ดหน้าร้อนมาให้เธอเช็ดมือเช็ดหน้าอีก อานเฉียวถูกปฏิบัติจนรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย แต่ว่าหลายครั้งที่อยากจะทำด้วยตนเอง กลับถูกผู้ชายคนนี้ขวางกลับไปอีก เธอคิดแล้วคิดอีก เพียงได้แต่เปลี่ยนประเด็นที่คุยกันมาทำให้บรรยากาศที่อึดอัดใจแบบนี้จางลง
“คืนนี้คนคนนั้น”
“คุณไม่ต้องเป็นห่วง คนคนนั้นผมส่งคนไปจัดการแล้ว”
“จัดการแล้วหรือ?” อานเฉียวขมวดคิ้วเล็กน้อย “ไม่ต้องแจ้งความหรือ?”
เสียงพูดเพิ่งจบลง อยู่ดีๆเฟิงเหยี่ยนเงยหน้าจ้องมองเธอ หยุดชะงักแล้วหยุดชะงักอีกจึงพูดว่า “จะแจ้งความอยู่แล้ว วางใจเถอะ”
พูดจบ ให้เธอนอนลงไปห่มผ้าห่มดีๆ นี่จึงหยิบผ้าเช็ดหน้าเดินออกไปเลย
ประตูห้องอยู่ข้างหลังกายถูกล็อกไว้ด้วยเสียงเบาๆ สีหน้าที่ยังอ่อนโยนของเฟิงเหยี่ยนในนาทีก่อนเย็นชาลงในทันที หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาผู้ช่วยฉิน
“ผู้ช่วยฉิน เรื่องจัดการถึงไหนแล้ว?”
“BOSS จัดการเรียบร้อยแล้ว!”
“อืม” เฟิงเหยี่ยนคิดแล้วคิดอีก ในที่สุดก็ยังเสริมไปประโยคหนึ่ง “ไปหาเฟิงยี่ ให้เขาส่งคนไปสถานีตำรวจพอเป็นพิธีสักหน่อย”