บทที่ 538 ลำบากเธอแล้ว
เขาสีหน้าขึงลับทันที อยู่ดีๆรู้สึกถึงว่าผู้ชายคนนั้นในครั้งนี้เอาจริงเอาจังกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆ
“คุณเฟิง คุณชายเฟิงเขา”
อานซินก็มีการอึ้งชะงักเล็กน้อยเช่นกัน เฟิงเหยี่ยนไม่ใช่ควรโมโหหรือ? ไม่ใช่ควรเกรี้ยวกราดด้วยอารมณ์เดือดดาลจากนั้นโยนอานเฉียวคนชั้นต่ำคนนั้นทิ้งในทันทีเลยหรือ? ทำไมเฟิงยี่เก็บสายตาจ้องมองอานซินที่นิ่งอึ้งไปเต็มใบหน้า นัยน์ตากวาดความเยาะเย้ยผ่านหนึ่งที
“คุณอาน ขอถามหน่อยคุณเข้ามาได้ยังไงหรือ?”
อานซินคืนสติกลับมา พูดติดอ่างจ้องมองไปยังอานจือหลิน
อานจือหลินในเวลานี้แทบอยากจะหาหลุมสักที่อยู่บนพื้นทะลวงเข้าไปใจจะขาดแล้ว ไอ้โง่ที่มือไม่พายเอาเท้าราน้ำคนนี้!
แต่ว่าอยู่บนใบหน้าเธอก็ยังรักษาสไตล์ที่เป็นสุภาพสตรีไว้ มีความรู้สึกผิดเล็กน้อยพูดว่า “คุณชายเฟิง ขอโทษจริงๆ ถ้าหากว่ารู้ตั้งแต่แรกจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาฉันจะไม่ให้เธอเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขอโทษมากจริงๆ”
“คุณคือ” เฟิงยี่คิดแล้วคิดอีก จึงนึกขึ้นมาได้ “คุณหนูผู้สูงศักดิ์ของไท่กู่กรุ๊ปหรือ?”
อานจือหลินเห็นเขาถึงขนาดรู้จักตนเอง ดีใจจนรีบพยักหน้า “ใช่ค่ะ ตอนนี้ฉันทำงานอยู่ที่G.K ผู้จัดการของเราได้รับการเรียนเชิญเนื่องเพราะไม่ว่างก็เอาการ์ดเรียนเชิญมอบให้ฉัน ดังนั้น”
เธอยังอธิบายอยู่ เฟิงยี่กลับไม่มีความอดทนที่จะฟังอีกแล้ว โบกมือหนึ่งทีตัดคำพูดเธอ สั่งกับพ่อบ้านที่อยู่ข้างหลังว่า “ไล่หลายคนนี้ออกไปให้หมด วันหลังเฝ้าสังเกตหน่อย แม้แต่พวกหมาแมวล้วนอย่าปล่อยให้เข้ามาอีก”
พูดจบ ก็หมุนตัวออกไปเลย
อานเฉียวโดนเฟิงเหยี่ยนอุ้มอยู่ ไม่ได้กลับไปห้องโถงใหญ่ แต่คือมาถึงโรงน้ำชาที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของวิลล่าตากอากาศ
วิลล่าตากอากาศหมิงหลิวใหญ่มาก ข้างในติดตั้งสถานที่ผ่อนคลายต่างๆนานา ทั้งมีภูเขาจำลองหินน้ำสวยงามมาก ใต้ทิวทัศน์ยามค่ำคืนทางเดินหินทางหนึ่งคดเคี้ยวอยู่ระหว่างต้นไม้ดอกไม้ แสงดวงจันทร์สาดส่องอยู่บนพื้น มุมสะท้อนกลับแสงสีเงินออกมา
อานเฉียวเห็นว่าเดินมาไกลแล้ว ดิ้นรนเล็กน้อยหนึ่งที พูดว่า “ปล่อยฉันลงไปเถอะ ฉันเดินเอง”
เฟิงเหยี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณเจ็บเท้า”
อานเฉียวได้ยินคำพูดนึกถึงเมื่อกี้หลอกเขาว่าเจ็บเท้า ใบหน้าน้อยอดไม่ได้ที่จะแดงขึ้น
คนนะ พูดโกหกไม่ได้จริงๆล่ะ!
เธอก็ถือโอกาสไม่ดิ้นรนอีกแล้วเสียเลย ถึงยังไงโดนผู้ชายคนนี้อุ้มก็ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง ชินแล้วก็พอ
แต่ว่าเห็นทางที่เขาเดินไม่ใช่ทางออกเลย อดไม่ได้ที่จะสงสัยงงงวย “นี่เราจะไปไหนกันหรือ?”
“ไปเจอคุณยายของผม”
“อ่า?” คราวนี้อานเฉียวตกใจแล้วจริงๆ ดิ้นรนอย่างรุนแรงขึ้นมา “อย่า คุณปล่อยฉันลงไปก่อน”
เธอดิ้นรนอย่างรุนแรงมาก เฟิงเหยี่ยนจำเป็นต้องปล่อยเธอลงไป คิ้วกระบี่ที่งดงามขมวดแล้วขมวดอีก ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นแล้วหรือ?”
ใต้แสงจันทร์ ผู้หญิงเม้มปากแล้วเม้มปากอีก ใบหน้าน้อยปรากฏความขาวซีดที่อ่อนแอ เสียงเบาๆพูดว่า “คำพูดของอานซินเมื่อกี้คุณล้วนได้ยินแล้วใช่หรือไม่?”
เฟิงเหยี่ยนไม่ปกปิดเธอเลย พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
สีหน้าของอานเฉียวยิ่งซีดขาวมากขึ้น
“หรือว่าคุณไม่ถือสาเลยหรือ?”
“ไม่ถือสา”
“แต่ว่า”
“อานเฉียว!”
ครั้งแรกที่เฟิงเหยี่ยนตัดคำเธออย่างจริงจังขนาดนี้ ก้มหัวเล็กน้อยจ้องมองตาที่หวาดกลัวของเธอ จริงจังพูดว่า “สิ่งที่ผ่านไปก็ผ่านไปแล้ว สิ่งที่ผมต้องการคืออนาคตของคุณ”
สิ่งที่ผมต้องการคืออนาคตของคุณ
ภาษาที่งดงามขนาดไหน
อานเฉียวคัดจมูกขึ้นมา เธอหลบหน้าหนีกะพริบตาแล้วกะพริบตาอีก อดทนความรู้สึกเศร้านั้นไว้อย่างฝืนๆ เสียงหดหู่พูดว่า “แต่ว่าคนในตระกูลของคุณจะถือสา”
เป็นครั้งแรกที่เฟิงเหยี่ยนรู้สึก กล่อมผู้หญิงก็เป็นงานที่ต้องใช้เทคนิคอย่างหนึ่ง แต่พอดีเขาเป็นแบบที่ไม่ค่อยมีเทคนิคเท่าไหร่ ภายใต้ความจนใจเพียงได้แต่พูดเสียงปลอบโยนว่า “ผมจะจัดการเรื่องเหล่านี้ให้ดีๆ ในเมื่อแต่งงานกับคุณ ก็จะไม่ให้คุณถูกทำร้ายแม้เพียงเล็กน้อยอย่างเด็ดขาด คุณเชื่อผมไหม?”
อานเฉียวอยากจะบอกว่าเธอเชื่อมากขนาดไหน แต่ว่าสามารถจัดการได้ดีจริงๆหรือ?
บิดามารดาคนในบ้านของตระกูลไหน รู้เรื่องแต่ก่อนของเธอแล้วจะไม่ถือสาล่ะ?
ยิ่งกว่านั้นก็ยังเป็นตระกูลเฟิงอย่างนี้
เธอคิดไปนานมาก ยังคงส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก “ให้เวลาฉันสักหน่อยเถอะ ตอนนี้ ฉันหวาดกลัว!”
เธอหวาดกลัว หวาดกลัวว่าความสุขนี้มาเร็วก็จะไปเร็วเช่นกัน รอเธอตื่นขึ้นมาแล้วก็จะพบเห็นว่านี่เพียงแค่ฝันเท่านั้น รอเวลาผ่านไปนานหน่อย นานจนทำให้เธอมีความเชื่อมั่นที่จะเผชิญหน้ากับปัญหาที่เป็นไปได้ที่จะเกิด ให้เธอเชื่อว่าทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเรื่องจริงอย่างจริงๆแท้ๆ
เฟิงเหยี่ยนจ้องมองเธอ นัยน์ตาที่ลึกล้ำส่องแสงที่ว่าเรื่องสำคัญที่ต้องเก็บเป็นความลับระยิบระยับอยู่
ผ่านไปสักพัก ในที่สุดยังคงทอดถอนใจเบาๆหนึ่งที “งั้นก็ได้ ผมให้เวลาคุณ แต่ว่าห้ามนานเกินไป เพราะว่าผมจะรอไม่ไหว”
เขาพูดอยู่ กอดไหล่ของอานเฉียวไว้เบาๆ จูบแล้วจูบอีกอยู่บนหน้าผากเธอ
ในใจอานเฉียวสั่นระริกขึ้นมา พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
——
อีกฝั่งหนึ่ง นายหญิงของตระกูลหวงผู่ไม่ได้เห็นหลานสะใภ้ของตนเอง เวลาที่เจอกับเฟิงยี่ ยังตั้งใจถามแล้วถามอีก “เสสี่ยวยี่อ่า พี่แกบอกว่าจะพาสะใภ้มาให้ฉันดู ทำไมไม่ได้มาล่ะ?”
มารดาของเฟิงยี่เป็นลูกสาวของนายหญิงหวงผู่ ดังนั้นทั้งสองคนเป็นย่าหลานกันจริงๆ ได้ยินคำพูดเดินไปนั่งลงยังข้างกายของนายหญิง ยิ้มพูดว่า “มีคนแส่หาเรื่องพี่สะใภ้ตัวเล็ก ดังนั้นพี่ชายก็พาเธอกลับบ้านไปก่อนแล้ว”
ทันทีนั้นนายหญิงโมโหขึ้นมา “ใครไม่มีตาขนาดนั้น?”
สายตาเฟิงยี่ยิ้มเหมือนไม่ได้ยิ้ม “เพียงแค่พวกหมาแมวไม่กี่ตัวเท่านั้น ผมสั่งคนไล่พวกมันออกไปแล้ว”
พูดอยู่ ทั้งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้กับนายหญิง นายหญิงฟังจบ ฮึ เย็นชาเสียงหนึ่ง “อีดอกพราวเสน่ห์ที่ชอบนินทาซุบซิบเหล่านั้น ฉันแค่เห็นก็โมโห โชคดีว่าเฟิงเหยี่ยนเป็นคนที่จริงใจคนหนึ่ง มิฉะนั้นก็จะลำบากสาวน้อยคนนั้นแล้ว”
“นั่นก็ใช่” เฟิงยี่ยิ้มพูดว่า “พูดมาแล้วสองปีก่อนถ้าไม่ใช่เนื่องเพราะตระกูลเรา พี่สะใภ้ตัวเล็กก็จะไม่ต้องรับความผิดที่ถูกใส่ร้ายกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้เช่นกัน”
ระหว่างคิ้วของนายหญิงขมวดขึ้นมา ผ่านไปสักพัก ในที่สุดก็ถอนหายใจอีกหนึ่งที “บอกกับพี่ชายแกดีต่อเธอหน่อย คราวหน้ามีเวลาค่อยพากลับมากินข้าวอีกเถอะ”
เฟิงยี่พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
ออกจากวิลล่าตากอากาศหมิงหลิว เฟิงยี่กลับไปถึงวิลล่า
ทันทีที่เข้าบ้าน ก็เห็นพ่อบ้านวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
เขาเหลือบตามองราบเรียบหนึ่งที ถามว่า “มีอะไรหรือ?”
พ่อบ้านพยักหน้า เสียงเบาพูดว่า “เรื่องของหลิ่วยู่เอ๋อฝั่งโน้นจัดการเรียบร้อยแล้ว”
เฟิงยี่หยุดชะงักเล็กน้อย พยักหน้า
“ดี ผมรู้แล้ว”
แม้ยังหาไม่เจอว่าตกลงเป็นใครแอบวางหมากอยู่บนสะพานแขวน แต่เรื่องก่อนหน้านั้นได้รับการจัดการแล้วงั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน
ถึงแม้พูดว่าถังลั่วเหยาในครั้งนี้ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างมาก แต่ว่าถังลั่วเหยาเองแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยคิดว่าควรจะจัดการเรื่องนี้ยังไงมาก่อน
ดังนั้นเฟิงยี่ก็เลยช่วยถังลั่วเหยาจัดการเรื่องนี้เสียเลย
ในเมื่อเธอสามารถทำเรื่องเหล่านี้กับถังลั่วเหยาอยู่ภายใต้สายตาของตัวเขาเอง งั้นเธอก็ควรที่จะคิดไว้แล้วล่วงหน้า ตัวเธอเองจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเธอเองทำเรื่องเหล่านี้ออกมา
ถึงแม้ว่าถังลั่วเหยาไม่ใช่เป็นคนที่ตนเองชอบ พนักงานแบบนี้ปรากฏอยู่ในบริษัทของตัวเขาเองมากน้อยล้วนจะต้องโดนเขาเตะออกไปจากบริษัท
พ่อบ้านพูดเสียงเบาๆว่า “บริษัทฝั่งโน้นบอกว่าตอนนี้จัดการเธอหมดแล้ว อีกทั้งยกเลิกสัญญากับเธอไปแล้ว และจะไม่ให้บริษัทใดๆรับเธอไปทำงานอีก”
มองเห็นลักษณะเฟิงยี่ดูเหมือนยังมีความไม่พอใจเล็กน้อย ก็เลยรีบอธิบายเรื่องที่จะจัดการยังไงทั้งหมดของพวกเขาอีกหนึ่งรอบ
หลังจากเฟิงยี่ฟังจบ พยักหน้าแล้วพยักหน้าอีก
“ได้ งั้นตอนนี้เรื่องที่สำคัญที่สุดของพวกคุณก็คือหาคนที่แอบวางหมากคนนั้นออกมาให้ผมก่อน”