บทที่ 542 เกิดความเข้าใจผิดอีก
ก็ไม่รู้ว่าวันนี้ถังลั่วเหยาตกลงกลับถึงบ้านหรือยัง?
เพราะว่าก่อนหน้านั้นตอนที่เขาอยู่ในโรงพยาบาลได้ยินเหมือนหมอบอกว่าหากไม่มีปัญหาละก็ วันนี้ก็จะสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
แท้ที่จริงก่อนหน้านั้นตอนที่เขาจะออกไปก็ถามหมอก่อนแล้ว หมอบอกว่าบาดแผลของถังลั่วเหยาไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว
ดังนั้นก่อนหน้านั้นตอนที่เขาจะออกไปจึงวางใจขนาดนั้นได้ ไม่งั้นละก็จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะให้ถังลั่วเหยาอยู่ในโรงพยาบาลคนเดียวล่ะ?
ในใจเฟิงยี่คิดว่าในใจของตนเองยังอยากจะไปหาถังลั่วเหยาถามให้เข้าใจสักหน่อย
อีกทั้งไปในเวลานี้ผู้ชายคนนั้นน่าจะกลับไปนานแล้วล่ะ ไม่งั้นละก็ในเวลานี้ยังอยู่ในบ้านถังลั่วเหยา งั้นไม่มากน้อยย่อมยังมีความสงสัยเล็กน้อยอยู่แล้ว
ดังนั้นเฟิงยี่เตรียมตัวที่จะไปดูสักหน่อย
เพราะว่าเขาอยากจะไปถามถังลั่วเหยา ทำไมทั้งๆที่ใจสั่นไหวกับตนเองกลับมักจะปฏิเสธตัวเขาเอง จากนั้นบุกเข้าไปในใจของผู้ชายที่ใจไม่ได้สั่นไหวมากคนหนึ่งล่ะ
อีกทั้งก็อยากจะไปดูว่ายามปกติถังลั่วเหยาล้วนทำอะไรตอนกลางคืนบ้างสักหน่อย
ผู้ชายคนนั้นตกลงว่าตามเธอกลับบ้านหรือไม่?
ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนตกลงว่ามีความสัมพันธ์อะไรกันแน่
นึกขึ้นมาได้ก็ไปทำ
ในเวลานี้เฟิงยี่รีบลุกขึ้นมา ดูแลไม่ทั่วถึงว่าตอนนี้ดึกขนาดไหนแล้ว
ในช่วงเวลานี้เหล้าที่ตนเองดื่มไปสร่างเมานานแล้ว
เขาอยากจะไปจัดการเรื่องของตนเอง ไม่อยากให้คนขับรถหรือพ่อบ้านในตระกูลของตนเองตามตัวเองไป ดังนั้นเขาเพียงแค่สวมใส่เสื้อผ้าให้ดีๆอย่างเงียบๆ จากนั้นไปโรงจอดรถด้วยตนเอง เตรียมตัวขับรถจะไปบ้านของถังลั่วเหยา
ในช่วงเวลานี้ที่จริงแล้วเฟิงยี่แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยมาบ้านของถังลั่วเหยามาก่อน ล้วนเพียงแค่รู้ที่อยู่เท่านั้นมาโดยตลอด
ในเมื่อวันนี้ตนเองก็จะไปแล้ว คุ้นเคยทางสักหน่อยก็จะดีกว่า
ผ่านไปไม่นานเฟิงยี่กลายเป็นขับตรงไปยังบ้านของถังลั่วเหยา
ก็ไม่รู้ว่าตกลงคือเนื่องเพราะความคิดถึงที่มีต่อถังลั่วเหยา หรือว่าอยากจะให้ถังลั่วเหยาช่วยเขาตอบข้อสงสัยมากเกินไป
ระหว่างทางนี้รถของเฟิงยี่ขับอย่างเร็วมาก เร็วมาก ความเร็วล้วนใกล้จะถึงที่ขับซิ่งซอกแซกไปมาแล้ว
แต่เนื่องเพราะเป็นตอนกลางคืน บนถนนไม่มีคนขับรถมากเท่าไหร่เลย ดังนั้นทำให้ตลอดทางเฟิงยี่ล้วนขับอย่างราบรื่นมาก
ใช้เวลาแค่พริบตาเดียวเขาก็มาถึงใต้ตึกที่พักของถังลั่วเหยาแล้ว
หลังจากลงรถ เฟิงยี่ก็เลยหยิบดอกไม้สดช่อหนึ่งออกมาจากข้างที่คนขับของตนเอง
นี่เป็นเมื่อกี้ที่อยู่ระหว่างทางที่มาเขามองเห็นมีร้านดอกไม้สดที่เปิดดำเนินการ 24 ชั่วโมงแห่งหนึ่ง ก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปซื้อช่อหนึ่งไว้
พวกเขาตอนนี้ไม่ใช่บอกว่าผู้หญิงล้วนชอบดอกไม้หรือ ในเมื่อวันนี้ตนเองมาพูดคุยเรื่องราวกับเธอให้เข้าใจ งั้นย่อมจะต้องส่งของขวัญที่โรแมนติกมากให้เธอสักอย่าง
เฟิงยี่หอบดอกกุหลาบที่อยู่ในมือของตนเองไว้ ก็เตรียมตัวที่จะเดินไปยังที่พักของถังลั่วเหยา
แต่ว่าตอนที่กำลังเตรียมตัวจะเดินไปยังทิศทางที่พักของถังลั่วเหยา อยู่ดีๆเฟิงยี่มองเห็นผู้ชายคนหนึ่งปรากฏอยู่หน้าบ้านของเธอ
เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่เขาคุ้นเคยมาก
ก็คือผู้ชายที่วันนี้เกือบจะลงมือกับตัวเขาเองในโรงพยาบาลคนนั้น
ทำไมตอนนี้ดึกขนาดนี้แล้ว เขาถึงขนาดปรากฏออกมาอยู่ในที่พักของถังลั่วเหยา
หลังจากเฟิงยี่จ้องมองผู้ชายคนนั้นเดินออกมา สีหน้าล้วนไม่ค่อยดีทั้งตัวแล้วจริงๆ
นึกไม่ถึงจริงๆดึกขนาดนี้แล้ว เขาถึงขนาดยังอยู่ที่นี่ ทั้งสองคนนี้ตกลงว่าทำอะไรกันอยู่หรือ?
เฟิงยี่ก็เลยเลือกที่จะนิ่งเฉยรอดูสถานการณ์โดยตรง ยืนอยู่หลังรถของตนเองอย่างเงียบๆ
จ้องมองไปยังทางโน้นอย่างเงียบๆ ตนเองสามารถมองเห็นเรื่องอะไรออกมาได้
“คืนนี้ขอบคุณมากจริงๆที่คุณส่งฉันกลับมา”
ถังลั่วเหยาส่งฉู่ยี่ไปถึงประตูบ้านของตนเองกล่าวขอบคุณกับเขา
“ไม่เป็นไร ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองเป็นอะไรล่ะ? ผมจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกับคุณนะ! ร่างกายของคุณในตอนนี้ไม่ดีขนาดนี้ วันนี้ก็ยังเพิ่งออกจากโรงพยาบาลอีก ผมย่อมต้องช่วยคุณสักหน่อยแน่นอน”
ฉู่ยี่ยิ้มพูดกับถังลั่วเหยาอยู่
“อืม งั้นตอนนี้ก็ดึกแล้ว คุณก็รีบเตรียมตัวกลับไปเถอะ”
เมื่อกี้ตอนที่ออกจากบ้านจ้องมองมือถือ จ้องมองแล้วจ้องมองอีก ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว
เพราะว่าก่อนหน้านั้นตนเธอเองมีความเหม่อลอยเล็กน้อย เพราะฉะนั้นฉู่ยี่ไม่วางใจเท่าไหร่ ตัวเขาเองยืนหยัดที่จะกลับบ้านเป็นเพื่อนตัวเธอ จากนั้นค่อยไป
ถังลั่วเหยาโน้มน้าวเขาไม่ได้ ก็เลยพาฉู่ยี่กลับบ้านโดยตรงเลย
หลังจากกลับบ้านแล้วเธอกับฉู่ยี่ทั้งสองคนกลับพูดคุยอยู่ในห้องรับแขกอย่างมากมาย เพราะฉะนั้นตลอดจนถึงเวลานี้จึงออกมา ไม่อย่างงั้นละก็ตอนสามทุ่มกว่าเขาอาจจะสามารถกลับบ้านได้แล้ว
ดังนั้นถังลั่วเหยาในตอนนี้จ้องมองฉู่ยี่ที่อยู่ต่อหน้า ในใจก็ยังรู้สึกเกรงใจเล็กน้อย
วันนี้เดิมทีอากาศก็เย็นมาก ตอนนี้ตนเองยังทำให้ถึงเวลานี้ฉู่ยี่จึงไปได้
“ไม่เป็นไร งั้นผมสามารถกอดคุณสักหน่อยก่อนที่จะไปได้ไหม?”
ฉู่ยี่วางมาดขรึมจ้องมองถังลั่วเหยา
ถังลั่วเหยาในเวลานี้มีความประหลาดใจเล็กน้อย
เธอไม่เข้าใจจริงๆฉู่ยีที่อยู่ต่อหน้าอยู่ดีๆทำไมพูดคำพูดแบบนี้ออกมา ยิ่งกว่านั้นอีกวันนี้เธอเพิ่งกอดกันกับเฟิงยี่มา ในทันทีนี้ทำให้ทั้งในใจของเธอล้วนหวาดกลัวเหลือเกิน
“จ้องมองผมขนาดนี้ทำไมหรือ?” มองเห็นสีหน้าของถังลั่วเหยาที่จ้องมองตนเอง ฉู่ยี่อยู่ดีๆพ่นเสียงหัวเราะออกมาเสียงหนึ่ง
“ผมก็แค่อยากจะให้ความห่วงใยของเพื่อนกับคุณสักหน่อยเท่านั้น คุณจงอย่าคิดมากเกินไปเลย ผมไม่ใช่ผู้ชายคนนั้นเมื่อเช้านี้ล่ะ”
ฉู่ยี่กลัวว่าถังลั่วเหยาจะคิดมาก ดังนั้นรีบอธิบายสักหน่อย
แม้ว่าในใจของเขาอยากจะกอดถังลั่วเหยาที่มีเรื่องอะไรล้วนไม่รู้จักพูดออกมาสักหน่อยจริงๆ
แต่ในใจเขาเข้าใจตนเองว่าเป็นไปไม่ได้ ก็เพราะเรื่องแบบนี้จะฉีกหน้ากันกับถังลั่วเหยาที่อยู่ต่อหน้าอย่างชัดเจนโดยตรง
ยิ่งกว่านั้นอีกตอนนี้เขาเพียงแค่อยากจะใช้สถานะที่เป็นเพื่อนคนหนึ่งอยู่ข้างกายถังลั่วเหยาอย่างเงียบๆ ให้เธอไม่ต้องประสบพบการทำร้ายใดๆอีกแล้ว ถ้าหากว่าทั้งสองคนอยากจะอยู่ด้วยกันละก็ เรื่องนี้เขาล้วนไม่ร้อนใจ
เขายิ่งยินยอมที่จะรอถังลั่วเหยาเปิดใจยอมรับตนเอง อีกทั้งระหว่างพวกเขาทั้งสองยังมีสัญญาใบหนึ่ง ถังลั่วเหยาจะไม่วิ่งหนีเป็นการชั่วคราวเลยจริงๆ
นี่เป็นเรื่องที่ในใจฉู่ยี่แน่ใจอย่างมาก
“คุณยังจะไม่กอดกับผมสักหน่อยหรือ? คุณดูมือของผมล้วนยกใกล้จะเหมื่อยแล้ว”
มองเห็นลักษณะที่ลังเลของถังลั่วเหยาอยู่ต่อหน้าตนเอง ฉู่ยี่กลายเป็นตั้งใจหยอกล้อเล็กน้อย
“ได้ ได้ได้ ตอนนี้ฉันจะกอดคุณสักหน่อย”
ถึงยังไงวันนี้ตนเองก็รบกวนเขานานขนาดนี้แล้ว อีกทั้งฉู่ยี่ยังช่วยตนเองมากขนาดนั้น เพียงแค่กอดสักหน่อยน่าจะไม่เป็นไรล่ะ
จากนั้นถังลั่วเหยาก็เลยทะลวงเข้าไปในอ้อมอกของฉู่ยี่โดยตรง
ทั้งสองคนกอดกันอย่างเบาๆหนึ่งที ก็ปล่อยออกแล้ว
“พอแล้ว ตอนนี้ผมจะกลับไปแล้วนะ คุณอยู่บ้านคนเดียวให้ดีๆ ถ้าหากว่าร่างกายมีที่ใดๆไม่สบาย จะต้องรีบโทรหาผมอย่างแน่นอน”
อยู่ดีๆฉู่ยี่เงยหน้ามองเห็นหน้าผากของถังลั่วเหยาดูเหมือนมีสิ่งสกปรกอย่างหนึ่ง ก็เลยเป่าแล้วเป่าอีกให้เธอ
แต่ก็เพียงแค่การกระทำนี้ มองจากมุมมองของเฟิงยี่มุมนั้น ก็คือฉู่ยี่กับถังลั่วเหยาทั้งสองคนความรักลึกซึ้งกอดกัน จากนั้นฉู่ยี่จูบเบาๆหนึ่งทีอยู่บนหน้าผากของถังลั่วเหยา