บทที่ 543 เล่นๆไม่จริงจังกับความรักความผูกพัน
แท้ที่จริงก็เพียงแค่การลาเพื่อนอย่างง่ายๆแบบหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าอยู่ในสายตาของเฟิงยี่ก็คือพวกเขากำลังกอดจูบกันอยู่
ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็ยังเป็นผู้หญิงที่รักตนเองอยู่ หันหลังกลับทำเรื่องแบบนี้กับผู้ชายคนอื่น
เขาไม่กล้าเชื่อจริงๆ
เดิมทีเฟิงยี่ที่อยากจะไปบ้านของถังลั่วเหยาเล่นความโรแมนติกสักครั้งกับเธอ ตอนนี้ก็เห็นทั้งสองคนนั้นทำเป็นสนิทกันมากขนาดนี้อยู่ต่อหน้าตนเองโดยตรง
นี่ทำให้เฟิงยี่เกลียดจนมันเขี้ยวโดยตรง
เขานึกไม่ถึงว่าถังลั่วเหยาถึงขนาดเป็นคนแบบนี้จริงๆ
คิดไม่ถึงวันนี้ตนเองไม่รู้เรื่องรู้ราวแค่อยากจะเข้ามาพูดคุยกับเธอดีๆ เรื่องที่จะอยู่ด้วยกันกับตัวเขาเองหรือไม่สักหน่อย
ตอนนี้เรื่องทั้งหมดนี้เกิดอยู่ต่อหน้าเฟิงยี่ อยู่ดีๆเฟิงยี่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของตนเองดูเหมือนน่าตลกอย่างมาก
ในตอนนี้เฟิงยี่โยนดอกไม้สดที่อยู่ในมือของตนเองทิ้งลงบนพื้นแล้ว อีกทั้งยังใช้เท้าไปเหยียบอยู่ข้างบนอย่างรุนแรง
ช่างความรักที่เหี้ยๆของเขา
ช่างผู้หญิงที่เหี้ยๆของเขา
ตอนนี้เฟิงยี่หึงหวงอย่างมากเลย
คิดไม่ถึงทั้งสองคนนี้ดึกขนาดนี้แล้วยังสนิทสนมขนาดนี้อยู่ใต้ตึกของถังลั่วเหยา
เฟิงยี่รู้สึกว่าในใจของตนเองทรมานเหลือเกิน แต่ว่าทันทีที่เขานึกถึงถังลั่วเหยาถึงขนาดเล่นๆไม่จริงจังกับความรักความผูกพันของตนเองขนาดนี้ เขาก็โมโหอย่างมาก รับไม่ได้แม้แต่นิดแล้ว
คิดว่าหากตนเองวันหลังไปสนใจถังลั่วเหยาอีก งั้นจากนั้นไปตนเองก็จะไม่ใช่สกุลเฟิง
นี่กำลังเหยียดหยามศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายอย่างเขาจริงๆ ถ้าหากว่าไม่ชอบตนเองละก็ ทำไมในสายตายังจะแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกแบบนั้นอีกล่ะ?
ถ้าหากว่าชอบตนเองละก็ทำไมดึกขนาดนี้แล้วยังต้องสนิทสนมมี ความรู้สึกต่อกันอย่างต่อเนื่องกับฉู่ยี่อยู่ที่นี่อีกล่ะ?
หรือว่าผู้หญิงแบบนี้ล้วนเหมือนดั่งคนเจ้าชู้ที่เจอใครรักคนนั้น เจอใครตกเบ็ดคนนั้นหรือ?
คิดอยู่ ฉู่ยี่ที่อยู่ต่อหน้าถังลั่วเหยายังไม่ขับรถออกไป เฟิงยี่ก็ขับรถของตนเองออกจากที่นี่โดยตรงแล้ว
จากนั้นไม่นาน ฉู่ยี่ก็ขับรถออกไปจากถังลั่วเหยา ตัวคนเดียวกลับไปถึงบ้านเช่นกัน
แต่ไม่ว่าดูยังไงอารมณ์ล้วนไม่ค่อยดี
แต่ว่าเธอคือยืนหยัดจะกลับไปพักผ่อนเหมือนเดิม
เพราะว่าถังลั่วเหยารู้ว่าตนเองเพราะเรื่องนี้ทำให้เสียเวลานานเกินไปแล้ว พรุ่งนี้เธอก็จะกลับไปถ่ายทำในกองถ่ายใหม่อีกครั้ง
เนื่องเพราะตัวเธอคนเดียวจะทำให้ความคืบหน้าของทั้งกองถ่ายล่าช้าไม่ได้ ดังนั้นถึงแม้ว่าเธอนอนไม่หลับขนาดไหนอีก เธอก็จะพยายามบีบบังคับตนเองไปนอน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้นถังลั่วเหยาก็ตื่นแต่เช้าเลย
เนื่องเพราะว่าเมื่อคืนล้วนนอนหลับไม่สนิทมาโดยตลอด เช้านี้หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วดูเหมือนมีความทรุดโทรมเล็กน้อยทั้งตัว
“ไอ่…….”
มองเห็นตนเองที่หดหู่หงอยเหงาไม่มีชีวิตชีวาในกระจกถังลั่วเหยา ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีกอย่างจนใจ
ดูแล้วตอนนี้ก็ได้แต่แต่งหน้าล่วงหน้าไปก่อน ทำให้ตนเองดูแล้วมีชีวิตชีวาสักหน่อย
จากนั้นถังลั่วเหยาก็เลยเดินไปถ่ายทำในกองถ่ายโดยตรง
“วันนี้ทำไมมาแต่เช้าขนาดนี้ ได้ยินว่าคุณเพิ่งออกจากโรงพยาบาลคุณก็เข้ามาทำงานต่อเลยหรือ?”
พูดตามตรง วันนี้คนในบริษัทมองเห็นถังลั่วเหยามาทำงาน มากน้อยในใจล้วนมีความประหลาดใจเล็กน้อย
โดยทั่วไปศิลปินหญิงในบริษัทถ้าหากว่าได้รับบาดเจ็บหรือว่าร่างกายไม่สบายละก็ ล้วนจะเลือกอยู่ในบ้านโดยตรง
พวกเขาได้ยินเรื่องของถังลั่วเหยาแล้ว ดังนั้นวันที่สองสามารถเห็นเธอมาทำงาน เป็นการอุทิศตนให้แก่กิจการงานเหลือเกินจริงๆ
“อืม วันนี้มีการถ่ายทำละก็บอกกับฉันล่วงหน้า”
ถังลั่วเหยาคิดว่าหลังจากมาถึงบริษัทแล้วจะไปนอนพักผ่อนก่อน ฟื้นฟูกำลังวังชาของตนเองให้ดีๆสักหน่อย จากนั้นมีการถ่ายทำอะไรละก็ ตนเองสามารถไม่ทำให้ความคืบหน้าของคนอื่นล่าช้า ไม่ต้องสั่งเทคแล้วถ่ายใหม่ตลอด
“ได้”
จากนั้นถังลั่วเหยาก็เริ่มทำงานในวันนี้โดยตรง
และละครเรื่องนี้การถ่ายทำอยู่ในความสุขมากความสัมพันธ์ระหว่างผู้กำกับกับนักแสดงก็ดีมากเช่นกัน
แต่ว่าอยู่ในช่วงเวลานี้ถังลั่วเหยายุ่งแต่กับการถ่ายละคร เฟิงยี่ยุ่งแต่กับความโกรธกระฟัดกระเฟียดกับถังลั่วเหยา เวลายาวนานทั้งสองคนล้วนไม่ได้เจอกัน
ไม่นานละครเรื่องนี้ก็ปิดกล้องแล้ว เพราะว่านี้เป็นละครสั้นเรื่องหนึ่ง
เวลาค่อนข้างเร็วนะ
“วันนี้ปิดกล้องแล้ว จะไปฉลองไหม?”
ผู้กำกับวิ่งเข้ามาถามถังลั่วเหยา
ลักษณะของถังลั่วเหยาดูเหมือนมีเรื่องหนักอกหนักใจเล็กน้อย ส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีกอย่างเงียบๆ
“วันนี้ปิดกล้องพวกคุณก็ไปเถอะ ในบ้านของฉันมีเรื่องเล็กน้อยฉันคงไปไม่ได้แล้ว ขอโทษจริงๆ”
ถ้าหากว่าเป็นเมื่อก่อนละก็เหมือนดั่งกิจกรรมที่ปิดกล้องของกองถ่ายแบบนี้ถังลั่วเหยาล้วนจะไปเข้าร่วม
แม้ว่าเธอไม่ค่อยชอบเข้าร่วมงานนัดพบปะงานชุมนุมเท่าไหร่ พิธีปิดกล้องของละครเรื่องนี้ที่ตนเองร่วมแสดงด้วยเธอคงยังต้องเข้าร่วมนะ
แต่ว่าวันนี้เธอกลับปฏิเสธผู้กำกับจากที่ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว
“ทำไมไม่ไปหรือ? วันนี้ทุกคนล้วนไปนะ”
ถังลั่วเหยาส่ายหัวแล้วส่ายหัวอีก
“วันนี้ฉันมีธุระเล็กน้อยจริงๆ ฉันลากับพวกเขาล่วงหน้าแล้วพวกคุณไปเที่ยวก่อนเถอะ ไม่เป็นไรล่ะ คราวหน้าฉันจะไปอย่างแน่นอน ยังเฝ้ารอคอยการร่วมมือในวันหลังอีก”
ถังลั่วเหยาบังคับชักรอยยิ้มเล็กน้อยออกมาจากบนใบหน้าของตนเอง
ผู้กำกับมองเห็นสีหน้าแบบนี้ในตอนนี้ของถังลั่วเหยาก็ไม่เหมาะที่จะเกลี้ยกล่อมอะไรเธออีก?
ที่จริงแล้วดั่งงานราตรีปิดกล้องแบบนี้ล้วนเป็นพวกพนักงานตัดสินใจด้วยตนเอง ก็เป็นพวกนักแสดงดูอารมณ์ตัดสินใจจะเข้าร่วมหรือไม่
ยังไงเขาก็ติดต่อหมดทุกคนแล้ว คนไหนไม่ไปก็ได้ จะไปก็ได้เช่นกัน
อีกทั้งเห็นลักษณะของถังลั่วเหยาแบบนี้ในบ้านมีเรื่องเล็กน้อยน่าจะเป็นเรื่องจริงล่ะ
ถังลั่วเหยาไปล้างเครื่องสำอางออกในห้องแต่งหน้า หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จก็หยิบกระเป๋าของตนเองโดยตรง ไปถึงใต้ตึกบริษัทรีบเร่งไปเรียกรถ
ตอนนี้เธอมีเรื่องที่ร้ายแรงมากจะต้องไปจัดการ
เพราะว่าในช่วงเวลานี้ถึงแม้ว่าทุกวันเธอล้วนยุ่งกับการถ่ายละคร แต่ว่าเธอไม่เคยลืมไปเยี่ยมแม่เธอที่โรงพยาบาลมาก่อน
ร่างกายของแม่ถังลั่วเหยาไม่ค่อยดีมากมาโดยตลอด ล้วนรักษาอยู่ในโรงพยาบาลมาโดยตลอด
แต่ว่าอยู่หลายวันก่อนอยู่ดีๆไม่รู้เกิดเรื่องอะไร อาการในช่วงเวลานี้ล้วนหนักขึ้นโดยตลอด
ที่จริงในช่วงเวลานี้ถังลั่วเหยารู้สึกว่าตนเองใกล้จะถูกบดขยี้แล้ว
เพราะว่า อาการของแม่ร้ายแรงมากมาโดยตลอด ในโรงพยาบาลก็ใช้ยาที่ราคาสูงมากให้กับแม่มาโดยตลอด
เดิมทีเงินที่ตนเองหามาก็ยังเพียงพอมากกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ที่แม่อยู่ในโรงพยาบาล เพราะว่าโดยพื้นฐานตัวถังลั่วเหยาเองล้วนไม่ได้ใช้จ่ายอะไร
แต่ว่าในช่วงเวลานี้ถังลั่วเหยามักจะรู้สึกว่าตนเองมีค่าใช้จ่ายมากเล็กน้อย
เนื่องเพราะยาที่ใช้ยิ่งมายิ่งเยอะ ยิ่งมายิ่งแพง อีกทั้งอาการของแม่ก็ไม่ได้ดีขึ้นใดๆแม้แต่น้อย
หมอบอกกับเธอว่า ถ้าหากว่าช่วงเวลานี้แม่ยังคงเป็นเช่นนี้ละก็ น่าจะต้องทำการผ่าตัดแล้ว
แต่ว่าทำการผ่าตัดละก็นั่นอาจจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ราคาสูงมากก้อนหนึ่งอีกด้วย
สาเหตุที่ในตอนนี้เธอต้องพยายามทำงานขนาดนั้น พยายามหาเงินขนาดนั้น ก็คืออยากจะหาเงินให้ได้ไปทำการผ่าตัดให้แก่แม่เธอ ป้องกันเหตุสุดวิสัย
ความสัมพันธ์ของถังลั่วเหยากับแม่ของเธอดีมากๆ ดังนั้นเธอเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นแม่ทรมานอย่างเด็ดขาด
อีกทั้งวันนี้ยากที่จะปิดกล้องแล้ว ในช่วงเวลานี้ทำงานอาจจะสบายหน่อย เธอจึงตัดสินใจว่าวันนี้จะไปเยี่ยมแม่ พูดคุยกับแม่ดีๆสักหน่อย