วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 554 มีตำแหน่งมีอำนาจ

บทที่ 554 มีตำแหน่งมีอำนาจ

ถังลั่วเหยาส่ายหน้า

“เปล่า”

เธอได้เม้มปาก ทำให้เห็นว่าลำบากใจ ที่จริงถ้าไม่ใช่เพราะเฟิงยี่บังคับ เธออาจจะไม่มีทางที่จะพูดคำพูดที่ทำร้ายน้ำใจฉู่ยี่แบบนี้ออกมาได้

แต่ว่าตอนนี้ จำเป็นต้องพูดแล้ว

คิดถึงตอนนี้ ผ่านไปนาน เธอถึงได้เตรียมใจเสร็จเรียบร้อย รวบรวมความกล้าแล้วพูดว่า

“ฉู่ยี่ ขอโทษ สัญญาระหว่างพวกเราฉันว่ามันถึงเวลาที่จะหยุดแล้ว”

ฉู่ยี่อึ้งไปเลยอย่างแรง ไม่ว่ายังไงก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องที่ถังลั่วเหยาจะพูดกับเขาเป็นเรื่องนี้

เขาได้มองเธอด้วยสายตายากที่จะเชื่อ ผ่านไปนาน ถึงได้ถามว่า “ทำไม?”

ถังลั่วเหยารู้สึกผิดมากๆ ยังไงซะทั้งสองเป็นทั้งเพื่อนแล้วก็เป็นสัญญา ตอนแรกเธอกับเขาได้พูดกันแล้วแท้ๆ

ถังลั่วเหยาแสดงเป็นแฟนของเขา ช่วยเขาต่อกรกับความกดดันในบ้าน และเขาช่วยเธอดูแลแม่ของเธอ เป็นผู้สนับสนุนทางการเงินของเธอ ให้เธอนั้นไม่มีความกังวลอะไร สามารถที่จะทุ่มเทกับการงานของตน

เวลานั้น ชื่อเสียงของถังลั่วเหยาไม่ได้ดังมาก รายได้ก็ไม่ค่อยเยอะ บวกกับการตามตื๊อของเหอศื่อ เธอนั้นแทบที่จะดูแลตัวเองไม่ได้ ไม่มีทางที่จะหาเวลาดูแลแม่ได้เลย

โชคดีที่ฉู่ยี่ช่วยแล้วคอยให้กำลังใจ ถึงได้ทำให้เธออดทนมาถึงตรงนี้ได้ ตอนนี้เธอทรงตัวได้แล้ว สถานการณ์ได้เริ่มดีขึ้น ก็ได้รีบร้อนที่จะยกเลิกสัญญา ก็เหมือนว่าได้หลอกใช้คนเสร็จแล้วแล้วก็ถีบเขาออกไปแบบนั้น ไม่ว่าคิดยังไงก็ทำให้คนโมโหแล้วก็รู้สึกโหดร้าย

แต่ว่าถังลั่วเหยาไม่มีทางเลือกอื่น เธอรู้ว่าถ้าตนไม่ทำตามที่เฟิงยี่พูด สุดท้ายไม่รู้ว่าเฟิงยี่จะทำเรื่องออกมาอะไรบ้าง

ฉู่ยี่ได้ช่วยเธอมามากขนาดนี้ เธอไม่อยากที่จะให้เฟิงยี่ไปจัดการฉู่ยี่เพราะเรื่องนี้

ตระกูลเล็กอย่างตระกูลฉู่ ต่อให้มีฐานะมีอำนาจ ก็ไม่เป็นคู่ต่อสู้ของตระกูลเฟิง

คิดถึงตรงนี้ เธอก็ได้สูดหายใจเข้าไปลึกๆ พูดเสียงกดต่ำว่า “ก็ไม่มีอะไร ก็แค่นายก็รู้ฐานะของฉัน ยังไงซะฉันเป็นบุคคลสาธารณะคนหนึ่ง เป็นนักแสดง ไหนๆ เรื่องระหว่างพวกเรานั้นไม่ได้เป็นความจริง งั้นก็ไม่จำเป็นที่จะยื้อเยื่อต่อไป หลีกเลี่ยงว่าวันหนึ่งเรื่องได้หลุดออกไปแล้วมากระทบงานของฉัน”

พูดจบ ก็ได้ยิ้มออกมาอย่างลำบาก “นายก็รู้ การงานที่ฉันได้มาตอนนี้มันยากลำบาก ฉันไม่อยากให้ความไม่แน่นอนมากระทบกับมัน”

เธอได้พยายามที่จะพูดออกมาอย่างเห็นแต่ตัว เหมือนว่าไม่ได้สนใจความรู้สึกของฉู่ยี่เลย

เพราะว่ามีแค่แบบนี้ ถึงสามารถที่จะทำให้ฉู่ยี่ผิดหวังจริงๆ แล้วก็ตกลงกับคำขอของเธอ

แต่ว่า ฉู่ยี่รู้จักเธอมานานขนาดนี้ ทำไมถึงจะไม่รู้จักว่าเธอเป็นคนยังไง?

ไม่ต้องมองสายตาของเธอ ฟังแค่น้ำเสียงก็ไม่ได้เชื่อ

เขาได้ส่ายหน้า พูด “ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะคิดแบบนั้น เธอเจอกับเรื่องอะไรกันแน่? บอกฉันมาเลย ขอแค่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาด้วยกันได้ ฉันสามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาด้วยกันนะ เคยได้เจอกับเรื่องราวความลำบากที่ร้ายแรงมาแบบนั้นตั้งมากมาย พวกเราก็ผ่านมาด้วยกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้เธอถึงได้จะปล่อยมือ”

ถังลั่วเหยามองเขา ต่อให้ทำใจไม่ได้ขนาดไหน ตอนนี้เวลานี้ความทำใจไม่ได้พวกนี้ก็ต้องกดมันลงไป

เธอได้ขมวดคิ้ว พูดเสียงเข้ม “ขอโทษ! เรื่องอดีตฉันขอบคุณนายมาก ตอนนี้เป็นฉันที่ผิดต่อนาย แต่ต่อไปพวกเรานั้นจะไปต่อไม่ได้แล้ว”

แต่แล้ว ฉู่ยี่ไม่ได้ฟังใจสิ่งที่เธอพูด เขาได้ยื่นมือไปจับไหล่ของเธอ ถามอย่างเจ็บปวดว่า “ฉันไม่ตกลง! เหยาเหยา ทำไม? เธอต้องให้เหตุผลกับฉันจริงไหม? ไม่สามารถที่จะเธอให้ฉันมาก็มา ให้ฉันไปฉันก็ไปถูกไหม? พวกเราเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ? เธอบอกไม่ใช่เหรอว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่มีทางที่จะผลักฉันออกห่าง? นี่เป็นการนัดหมายของพวกเรา เธอจะหักหลังต่อการนัดหมายของพวกเราได้ยังไง?”

ถังลั่วเหยาถูกเขาเขย่าตัวจนเริ่มมึน เวลานี้ใจก็ได้ปวดเอามากๆ

เธอก็ไม่อยากที่จะให้เรื่องมันมาถึงขั้นนี้ ช่วงที่ผ่านมานี้ในตอนที่เธอเจ็บปวดมากที่สุด ก็มีฉู่ยี่อยู่เป็นเพื่อนเธอมาตลอด

เธอก็ไม่อยากที่จะให้เขารู้สึกเสียใจ แต่เธอยังจะทำอะไรได้อีกล่ะ?

เธอรู้นิสัยของเฟิงยี่ดี ถ้าเธอไม่ทำตามที่เขาพูด อย่าว่าแต่ตัวเองกับแม่เลย ขนาดฉู่ยี่ก็จะซวยไปด้วย

เธอได้ติดค้างต่อฉู่ยี่เยอะเกินไป ไม่สามารถที่จะติดค้างอีกต่อไป และก็ยิ่งไม่อยากที่จะลากเขามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

คิดถึงตรงนี้ เธอก็ได้ยื่นมือไปผลักฉู่ยี่ออก

จากนั้นก็ได้พูดอย่างจริงจังว่า “ขอโทษ ไม่มีเหตุผลอื่น ก็แค่ฉันไม่อยากที่จะเป็นแบบนี้ต่อ นายเชื่อก็ช่างไม่เชื่อก็ช่าง สรุปคือต่อไปพวกเราเจอกันน้อยลงหน่อย นายดูแลตัวเองด้วย”

พูดจบ เธอไม่กล้าที่จะจ้องมองฉู่ยี่แม้แต่น้อย ก็ได้รีบออกไป

แผ่นหลังที่ไร้ความรู้สึกของหญิงสาวก็ได้ค่อยๆ จากไป จนไม่เห็น

ในห้องพักผ่อน “ตึ้ง” ประตูได้ปิดลง ก็เหมือนว่าได้ปิดประตูตรงหัวใจเขาไปด้วย

ฉู่ยี่ยืนอยู่ตรงนั้น ทั้งคนเหมือนว่าไม่มีวิญญาณอยู่ในร่าง สีหน้าได้ซีดจนไม่มีเส้นเลือดเลยสักนิด

ผ่านไปนาน เขาถึงได้ลูกขึ้นแล้วก็เดินออกไป

ข้างนอก ตอนที่ถังลั่วเหยาเดินออกมาก็ได้มีคนสนใจไม่น้อย

ยังไงซะฉู่ยี่ก็เป็นหนุ่มอายุน้อย ถึงแม้ว่าทุกคนไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ดูจากการแต่งกายและบุคลิกของเขา ก็รู้ว่าไม่ได้เป็นคนธรรมดาทั่วไป

คิดดูแล้วน่าจะเป็นลูกเศรษฐีหรือว่าผู้บริหารระดับสูงที่ใดที่หนึ่ง เพราะงั้นกับพวกเขาทั้งสองทุกคนก็ได้มีความคิดที่จะหยอกล้อทั้งนั้น

แต่เพราะว่าถังลั่วเหยาได้ขอให้พวกเธอออกจากห้อง เพราะงั้นพวกเธอไม่ได้ยินว่าทั้งสองพูดอะไรกัน

แต่แม้ว่าพวกเขาไม่สามารถที่จะอยู่ในห้องพักผ่อนฟังสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ทุกคนก็ได้อยู่ในบริเวณที่ไม่ไกลนักค่อยสังเกต เดิมคนคิดว่าทั้งสองนั้นจะอยู่ในห้องอยู่นาน แต่ก็คิดไม่ถึงว่า ผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีถังลั่วเหยาก็ได้ออกมาแล้ว สีหน้ายังไม่ดีนัก

จากนั้นก็ผ่านไปไม่นาน ผู้ชายหนุ่มคนนั้นก็ได้ออกมา สีหน้าได้แย่กว่า เหมือนกับว่าวิญญาณได้หายไป ณ ตอนนั้น

ทุกคนก็ได้ต่างกันมองหน้า เดิมทีก็แค่อยากจะซุบซิบเท่านั้น ก็ได้เปลี่ยนเป็นสงสัยทันที

มีคนถามเสียงเบาว่า “พวกเขาสองคนเป็นอะไรไป? ทะเลาะกันเหรอ?”

อีกคนก็ได้ส่ายหน้า “ใครจะไปรู้?”

เวลานี้ รองผู้กำกับก็ได้เดินเข้ามา

เห็นแบบนั้นเข้า เขาก็ได้ตบมือ ตะโกน “เฮ้ๆๆ พวกเธอทำอะไร? ไม่ถ่ายละครแล้วเหรอ? รีบมาได้แล้ว”

ทุกคนก็ได้แยกย้าย

และอีกด้าน

ถังลั่วเหยารู้ว่าฉู่ยี่ออกไปจากกองถ่ายแล้ว ถึงได้โล่งอก

พูดเรื่องนี้กับฉู่ยี่ได้ชัดเจนแล้ว ในใจของถังลั่วเหยาก็ถือว่าได้วางก้อนหินก้อนใหญ่ลงแล้ว

เวลาต่อมาก็ไม่ได้ไปคิดเรื่องพวกนี้ต่อ แต่เป็นว่าตั้งใจที่จะถ่ายละคร

เพราะว่าเป็นละครที่มีแค่ยี่สิบสี่ตอน เวลาการถ่ายทำค่อนข้างสั้น มีแค่สามเดือน

เดิมทีเธอคิดว่าไม่นานเฟิงยี่ก็จะมาหาเธอ แต่ที่แปลกใจก็คือสามเดือนมานี้เฟิงยี่ไม่มาหาเธอเลยสักครั้ง

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset