บทที่589 เลิกแสดง
แต่เธอรู้ดีไม่ว่าในใจเหอศื่อจะคิดอะไรอยู่ก็ไม่มีทางเป็นเรื่องดีๆ ได้
ดังนั้นเธอไม่มีทางยอมให้เขาไปดูแลแม่เธอหรอก
เมื่อคิดแบบนี้ถังลั่วเหยาก็ปฏิเสธอย่างไม่ลังเล: “ไม่ต้องหรอก ตอนนี้แม่สบายดี ไม่ต้องให้แกไปดูแล”
เหอศื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้วก็ชักสีหน้าทันที
“เหยาเหยา เธอพูดอะไรของเธอ? จะพูดยังไงหล่อนก็เป็นเมียฉัน! เธอเป็นลูกสาวของฉัน เรายังไม่ได้หย่ากันนะ ในทางกฎหมายยังเป็นคู่สมรสที่ถูกกฎหมาย หล่อนป่วยฉันก็มีสิทธิ์ไปเยี่ยม”
ถังลั่วเหยาเอียงศีรษะและมองเขาอย่างเย็นชา
สักพักก็หัวเราะเยาะเย้ย
“พอเถอะ แกไม่ต้องมาแสดงละครต่อหน้าฉัน หลายปีมานี้ แม่ฉันร่างกายอ่อนแอมาตลอด ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลมาแล้วแค่ครั้งสองครั้ง อย่างน้อยก็มีแปดเก้าครั้งแล้วมั้ง? แกเคยเป็นห่วงที่ไหนกัน?”
“ตอนนี้รู้ว่าเธอจะเข้าผ่าตัด แกจะมาทำตาใสแล้วบอกว่าเป็นห่วง แถมยังอยากจะดูแลเธอ? เหอศื่อ แกวางแผนชั่วอะไรไว้ พูดมาตรงๆ ดีกว่าไหม?”
“แบบนี้เรายังคุยราคากันได้ชัดเจนถ้าไม่มากอาจจะพอไหว แต่ถ้าอยากเจอแม่บอกเลยไม่มีทาง”
สีหน้าของเหอศื่อเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเธอพูดออกมาแบบนี้
เขาลุกขึ้นยืนจ้องไปที่ถังลั่วเหยาด้วยความโกรธ: “ถังลั่วเหยา เธออย่ารังแกคนอื่นให้มันมาก! หล่อนเป็นเมียฉัน เพียงแค่เธอบอกไม่ให้เจอก็ไม่ได้เจองั้นเหรอ? ฉันอยากเจอต้องได้เจอ!”
ถังลั่วเหยาก็ยืนขึ้นและยิ้มเย็นไปที่เขา
“เมียแก? หลายปีนี้แกเคยทำหน้าที่สามีบ้างรึเปล่า? แกเคยช่วยเธอบ้างไหม? ดูแลเธอบ้างไหม? เวลาเธอป่วยแกอยู่รึเปล่า? เวลาเธอเสียใจแกอยู่ไหม?”
“แกไม่เคยอยู่ แกก็มีแต่เหยียดหยามและด่าว่า แกมีแต่เอาเงินในบ้านที่เธอหามาได้ด้วยความยากลำบากไปเล่นการพนันจนหมด สิ่งที่แกมอบให้เธอมีแต่ความเสียใจและสิ้นหวังตลอด จนถึงตอนนี้แกยังจะมีหน้ามาบอกว่าแกเป็นสามีของเธอ?”
“เพียะ!”
ทันทีที่สิ้นเสียงการตบอย่างหนักก็ตกลงบนใบหน้าของถังลั่วเหยา
เหอศื่อโกรธจนตัวสั่น
เขาถลึงตาใส่ถังลั่วเหยาด้วยความโกรธ เหมือนดวงตาของเขาคือมีดที่กำลังจะเจาะรูสองสามรูบนตัวเธอ
“แก มีอย่างที่ไหนกัน! คิดว่าตัวเองปีกกล้าขาแข็งแล้วงั้นเหรอ จู่ ๆ ก็กล้ามาสั่งสอนกู หากวันนี้กูไม่…”
เขาพูดแล้วง้างมือขึ้น
ในตอนนั้นเองจู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของถังลั่วเหยาก็ดังขึ้น
เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอย่างกะทันหันเข้ามาขัดจังหวะบรรยากาศตึงเครียดระหว่างทั้งสองคน ถังลั่วเหยารีบวิ่งไปที่โต๊ะกาแฟและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าของเธอ
ที่หน้าจอโชว์ว่าเป็นเฟิงยี่โทรเข้ามา
ความคับแค้นใจและความกลัวทั้งหมดในขณะนี้ดูเหมือนจะพังทลายลงในทันใด
เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่และหันไปมองเหอศื่อจากนั้นก็รับสายอย่างไม่ลังเล
“ฮัลโหล”
ทันทีที่รับโทรศัพท์เหอศื่อยื่นมือออกมาและอ้าปากราวกับว่าเขาต้องการหยุดเธอ
แต่ก็ไม่ทันแล้ว
ถังลั่วเหยารับสายแล้วและเปิดสปีกเกอร์โฟนโดยตั้งใจ
“เหยาเหยา คุณนอนรึยัง?”
ถังลั่วเหยาพยายามเก็บเสียงสะอื้นกัดกำปั้นและพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
“ยังค่ะ ทำไมเหรอ?”
“เหอ ไม่ทำไม” ตรงข้าม น้ำเสียงของเฟิงยี่เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม อบอุ่นจนน้ำแทบจะหยดออกมา
“ก็แค่คิดถึงคุณน่ะ อยากได้ยินเสียงคุณอีก ดึกมากแล้ว คุณรีบนอนเถอะ”
ถังลั่วเหยาพยายามจะยิ้มแม้ว่าเธอจะรู้ว่าอีกฝ่ายมองไม่เห็นเธอก็ยังคงยิ้มและพูดว่า: “อือ คุณด้วย”
“ราตรีสวัสดิ์”
“อือ ราตรีสวัสดิ์”
หลังจากวางสายแล้วเธอก็หันไปมองเหอศื่อที่กำลังสับสน
จากนั้นก็ยกโทรศัพท์ขึ้น
“เป็นไง? ตอนนี้แกยังคิดจะตบฉันต่ออยู่ไหม?”
ใบหน้าของเหอศื่อเปลี่ยนไปและดวงตาของเขาก็โกรธเกรี้ยว
ทำไมเขาจะจำไม่ได้ว่าเสียงของผู้ชายในสายนั้นก็คือคนที่สั่งให้ลูกน้องลงมือกับเขาที่บาร์เหล้าเพื่อที่จะช่วยถังลั่วเหยาคนนั้น
หลังจากเรื่องนั้นเขายังไม่ยอมใช้ให้คนไปสืบว่าคนคนนั้นเป็นใคร
แต่ผลกลับไม่สามารถจะหาได้
จุดนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เหอศื่อไม่วางใจ กลับยิ่งทำให้เขายิ่งระวัง
หลังจากใช้ชีวิตมาหลายสิบปีแม้ว่าเขาจะเป็นนักเลงปลายแถวมาตลอด แต่เขาก็ได้ผ่านโลกมามาก
รู้ว่าในเมืองหลวงนั้นมีซ่อนเสือเต้นมังกรอยู่ และแม้แต่ตัวตนของอีกฝ่ายยังหาไม่ได้ นั่นก็พูดได้ว่าตัวตนของอีกฝ่ายนั้นจะต้องเป็นใครสักคนที่เป็นคนใหญ่คนโตมาก
ยิ่งกว่านั้นจากสถานะในวงการบันเทิงของถังลั่วเหยาก็สามารถรู้จักกับคนกลุ่มนี้ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อคิดได้แบบนี้แววตาของเหอศื่อเย็นลง
เขาหัวเราะเย็นแล้วมองไปที่ถังลั่วเหยาและพูดอย่างดูถูก: “ดูไม่ออกเลยนะ ไม่ทันรู้ตัวก็ตีซี้คนรวยแล้ว ก็ใช่ ถึงแกจะไม่ใช่ลูกฉัน แต่ฉันก็เลี้ยงแกมาจนโต ตอนนี้แกดังแล้ว จับผู้ชายรวย ๆ แล้วแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องแย่ ถึงตอนนั้นก็อย่าลืมให้มันดูแลพ่อตาอย่างฉันให้ดีล่ะ”
ถังลั่วเหยากลอกตาด้วยความโกรธเมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้
ลำพังแค่ที่เขาทั้งตีทั้งด่าไม่เว้นวัน ปีหนึ่งหาเงินเข้าบ้านนับครั้งได้ แต่ที่มากกว่านั้นคือชอบเอาเงินจากที่บ้านไปเข้าบ่อนและกินเหล้าจนหมด แล้วจะมาบอกว่าเขาเลี้ยงเธอมาจนโตงั้นเหรอ?
ช่างกล้าพูด!
ถังลั่วเหยาเบื่อที่จะต่อล้อต่อเถียงจึงไล่ไป
“แกจะไปหรือไม่ไป? หากยังไม่ไป ฉันจะแจ้งความแล้วนะ!”
โดยไม่คาดคิดเหอศื่อไม่กลัวไม้นี้ของเธอเลย
เขาไม่เพียงไม่ไปแต่กลับนอนลงบนโซฟาและหัวเราะเหยียดหยาม: “ได้ แกแจ้งความเลย แจ้งเลย! ให้ทุกคนรู้ว่าดาราดังถังมีพ่ออย่างฉัน ฉันจะรอดูว่าจะมีใครให้เกียรติแกในวงการบันเทิงอีก”
ถังลั่วเหยาขมวดคิ้ว
ต่อหน้าคนโกงอย่างเหอศื่อวิธีการจัดการกับคนปกติไม่ได้ผล
เธอสูดหายใจลึกพยายามเก็บความโกรธให้ลึกสุดใจ
และถามอีกครั้ง: “ได้งั้นแกพูดมาตรงๆ เลยดีกว่า วันนี้แกมาทำไมกันแน่?”
เหอศื่อไม่พูดอะไร เขายื่นมือบิดสองนิ้วเบาๆ ในอากาศ
ต้องการเงิน!
ถังลั่วเหยาหัวเราะด้วยความโกรธ
ถึงแม้ว่าจะเดาได้แต่แรกแล้วว่านี่คือจุดประสงค์ที่เขามา แต่พอได้เห็นเขายื่นมือออกมาขอเงินเธออีกครั้งกับตาแล้วก็อดโมโหไม่ได้
เธอคิดและไม่ได้รีบร้อนบอกปัด
แต่กลับลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปในห้องและหยิบเช็คมาหนึ่งใบ
ในตอนที่เหอศื่อเห็นเช็คในมือของเธอแล้วตาก็ลุกวาว
เด็กดีของฉัน! ซ่อนอยู่ที่ไหน?
ทำไมตอนแรกที่เขามาถึงหาไม่เจอนะ?
ถังลั่วเหยาจ้องมองด้วยสายตาอันละโมบของเขาอย่างระแวดระวังและไม่รีบร้อนที่จะส่งเช็คให้เขา
แต่ยืนดูอยู่ไม่กี่ก้าวแล้วพูดว่า: “แกอยากได้เงินก็ได้ ตรงนี้มียี่สิบล้าน เป็นเงินเก็บทั้งหมดที่ฉันมี แกก็รู้ว่าหลายปีมานี้ที่ฉันให้เงินแก บวกกับค่ารักษาพยาบาลของแม่ ฉันใช้เงินไปหมดแล้ว”