บทที่590 สัญญาว่าจะหย่า
เหอศื่อรีบยื่นออกไปหยิบเช็คใบนั้นและพูดอย่างตะกละตะกลาม “ไม่น้อยเลย ๆ ยี่สิบล้านก็พอแล้ว”
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะหยิบเช็คได้ถังลั่วเหยาก็ก้าวถอยหลังหลบมือของเขา
เหอศื่อตกตะลึง
หลังจากนั้นก็ได้ยินคำพูดของถังลั่วเหยาชัดถ้อยชัดคำ: “ถ้าแกอยากได้เงินนี่ ฉันจะให้แก แต่แกต้องรับปากฉันเรื่องหนึ่ง”
เหอศื่อขมวดคิ้วด้วยความอึดอัด
“เพ้อเจ้อ ฉันเป็นพ่อแก พ่อแกมาเอาเงินจากแก แกจะมีข้อแม้อะไรอีก?”
ถังลั่วเหยาเกือบจะหัวเราะด้วยความโกรธด้วยคำพูดเหล่านี้
คราวก่อนยังจะให้คนเข้ามารังแกเธอที่บาร์เหล้า ตอนนี้จะรีบมาพูดว่าเป็นพ่อของเธอ?
และไม่รู้ว่าใครใช้ให้มันหน้าใหญ่ขนาดนี้!
เธอขี้เกียจจะเสวนากับเขาจึงพูดไปตรงๆ: “เอาเงินไปแล้ว แกต้องหย่ากับแม่ฉัน ไม่งั้นฉันจะเผามันแล้วแกจะไม่ได้แม้แต่สตางค์แดงเดียว”
ทันทีที่เธอกล่าวเช่นนี้เหอศื่อก็ตะลึง
อันที่จริงหลายปีก่อน แม่ของถังลั่วเหยาก็เคยฟ้องหย่าจากเหอศื่อแล้ว
แต่เพราะตอนนั้นหัวเด็ดตีนขาดเหอศื่อก็ไม่ยอม ศาลทำได้เพียงเสนอให้ทั้งสองฝ่ายประนีประนอมกันนอกศาล สุดท้ายเพราะฝ่ายชายไม่ยอมหย่าจึงไม่เป็นผล
หลังจากนั้นหลายปีก็ทะเลาะกันอีก แต่เหอศื่อไม่เคยยอมเลย
ถังลั่วเหยารู้ดีว่าถ้าเธอต้องการให้แม่และตัวเธอเองกำจัดคนร้ายคนนี้ให้หมดหนทางเดียวคือทำให้พวกเขาหย่าร้างกันให้ได้
แต่คนโกงอย่างเหอศื่อ เมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอดังแล้ว เป็นต้นไม้เรียกเงินที่มีชีวิต
ขอเพียงจับแม่เธอได้ก็จับเธอได้ ดังนั้นจะรับปากเรื่องหย่าง่ายๆ ได้ยังไงกัน?
ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อบังคับให้เขาหย่า
ใบหน้าของเหอศื่อเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำทันทีเมื่อเธอได้ยินเรื่องนี้
เขามองถังลั่วเหยาอย่างเย็นชาและพูดเหยียด: “แกฝันไปเถอะ ฉันกับแม่แกแต่งงานกันมาสิบกว่าปี หลายปีก่อนฉันก็ไม่ยอมหย่า ตอนนี้แกมาบอกให้ฉันหย่า? หึ แกคิดว่าฉันโง่หรือแกกันแน่ที่โง่”
ถังลั่วเหยารู้อยู่แล้วว่าเขาจะพูดแบบนี้จึงไม่รีบร้อนและเก็บเช็คไปอย่างไม่สนใจไยดี
จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย: “ในเมื่อพูดแบบนี้ งั้นฉันก็จนปัญญา ในเมื่อแกไม่หย่าก็ไม่ต้องเอาเงิน ฉันรู้แกมีวิธีเยอะแยะ งั้นก็ลองดู ดูว่าฉันจะประนีประนอมกับแกเพราะความกลัวไหม”
เธอทนมามากพอแล้ว!
ทนมาพอแล้วกับวันที่มืดมนและความวิตกกังวล
เธอคิดดีแล้วและคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว
ตอนนี้มีความหวังเป็นอย่างมากกับการผ่าตัดของแม่ ของเพียงทางจิ่งหนิงยืนยันข่าว แม่ก็คงจะได้ผ่าตัดในเร็วๆ นี้
ถึงตอนนั้นหากเหอศื่ออยากจะเปิดโปงเธอหรือคิดจะใช้สถานะพ่อเลี้ยงมาแบล็กเมลเธอ
ทำให้ชื่อเสียงของเธอฉาวโฉ่ ทำลายเธอ
ก็ปล่อยให้เขาทำไปเถอะ!
ถึงตอนนั้นเธอคงจะพาแม่ออกนอกประเทศหรือไปหลบพักในสถานที่ไกลๆ สักที่ให้ห่างจะสปอตไลต์และเธอกับแม่สามารถใช้ชีวิตที่ดีได้
เหอศื่อเห็นว่าครั้งนี้เธอเอาจริงเรื่องหย่ากับแม่ของเธอจึงตื่นตระหนก
“ถังลั่วเหยา! แกทำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นพ่อเลี้ยงแก มีที่ไหนมาบังคับให้พ่อเลี้ยงหย่ากับแม่?”
ถังลั่วเหยาพูดอย่างเย็นชา: “ฉันให้แกเลือก แกไม่เลือกเอง”
ครู่หนึ่งก็พูดขึ้นอีก: “ดึกมากแล้ว คุณเหอ คุณควรกลับไปได้แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกยามจริงๆ แล้ว”
เหอศื่อหน้าซีดเล็กน้อย เขาโกรธและถลึงตาใส่ถังลั่วเหยาราวกับว่าเขาต้องการขุดชิ้นเนื้อจากเธอ
“กะ…แกไม่ต้องมาขู่ฉัน ฉันจะบอกแกให้ หากแกบีบฉันมากๆ ฉันจะแฉแกกับสื่อ ถึงตอนนั้นแกจะหาเงินไม่ได้ แล้วจะเอาอะไรมาดูแลแม่แก…”
ถังลั่วเหยาไม่มีความอดทนจะฟังเขาอีกต่อไป เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและเตรียมจะโทรออกหาส่วนกลาง
ส่วนกลางนี่ก็จริงๆ เลย เสียค่าส่วนกลางทุกเดือนตั้งแพง เสียเงินเปล่าหรือไง?
ทำไมถึงได้ปล่อยหมาปล่อยแมวเข้ามาได้นะ?
อันที่จริงจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าเหอศื่อหาที่อยู่เธอมาได้ยังไงแถมเข้ามาได้ด้วย
เหอศื่อเห็นเธอทำจริงและเขาก็ไม่อยากจะเสียเปล่า
เขารีบเข้าไปคว้าโทรศัพท์ของถังลั่วเหยาและพูดซ้ำ ๆ: “ได้ ๆ! ฉันรับปาก!”
ถังลั่วเหยาคิ้วกระตุก
หันมองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
“แกแน่ใจ?”
เหอศื่อกัดฟันและคิดถึงหนี้ของตนเองก่อนหน้านี้และความรู้สึกอึดอัดที่เกิดขึ้นในร่างกายของเขาในเวลานี้การเสพติดก็กลับมา
หากเขาไม่ทำอะไรในตอนนี้ เขาคงตายแน่!
ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าโดยที่แทบจะไม่ลังเล
“ใช่ ฉันแน่ใจ แต่ต้องเพิ่มเงินให้อีกเท่าหนึ่ง!”
ถังลั่วเหยาขมวดคิ้ว “แกจะเอาสี่สิบล้าน?”
“ไม่! ฉันต้องการห้าสิบล้าน!”
เหอศื่อหอบหนักเมื่อเอ่ยถึงตัวเลขนี้ดวงตาของเขาเป็นสีแดงสดและรอยยิ้มของเขาก็ดูน่าเกลียด
“ดาราใหญ่คนหนึ่ง ปีหนึ่งอย่างน้อยก็หาเงินได้หลายสิบล้านใช่ไหมล่ะ ฉันเลี้ยงแกมาสิบกว่าปี แค่รายได้แกแค่ปีเดียวเท่านั้น มันไม่มากไปใช่ไหม?”
ถังลั่วเหยามองเขาอย่างเฉยเมย
ห้าสิบล้าน?
หึ! ช่างกล้าพูดออกมาได้
แต่ถ้าหากหน้าสิบล้านสามารถซื้อความสงบสุขให้เธอกับแม่ได้มันก็คุ้ม
เมื่อคิดแบบนี้เธอจึงกัดฟันรับปากไป
“ได้! ห้าสิบล้านก็ห้าสิบล้าน แต่แกต้องทำเรื่องหย่ากับแม่ฉันทันที หลังจากพวกแกทำเรื่องเสร็จแล้ว ฉันจะเอาเงินให้แก”
เหอศื่อเป็นคนฉลาดแค่ไหน?
เพียงเสี้ยววินาที ก็พบช่องโหว่ในคำพูดของเธอ
เขาส่ายหัวทันทีอย่างเคร่งขรึมและพูดว่า: “ไม่ได้ ใครจะรู้ว่าแกจะตุกติกหรือเปล่า? หากฉันหย่าแล้ว แกไม่ให้เงินฉันจะทำไง?”
ถังลั่วเหยาขมวดคิ้วและมองเขาด้วยความรังเกียจ
“แกคิดว่าทุกคนหน้าไม่อายเหมือนแกงั้นเหรอ?”
เหอศื่อสำลัก
แต่เวลาอย่างนี้จะโกรธก็ไม่ได้แล้ว
เขากลอกตาและแนะนำทันที: “เอาแบบนี้สิ แกก็ให้ฉันส่วนหนึ่งก่อน ให้ฉันอุ่นใจ ให้รู้ว่าแกจะไม่ผิดคำพูด ฉันจะได้ไปสำนักงานเขตกับแกเพื่อเซ็นชื่อ ในเมื่อต้องไปทำเรื่องอย่างเร็วที่สุดก็ต้องรอถึงพรุ่งนี้เช้าใช่ไหมล่ะ? ตอนนี้แกเอามาให้ฉันส่วนหนึ่งก่อนสิ”
ถังลั่วเหยายิ้มเยาะ “เหอศื่อ แกนี่ไร้ยางอายจริงๆ”
แต่ถึงจะพูดแบบนั้น เพื่อจะให้เขาออกไปก่อน เธอก็ยังหยิบบัตรธนาคารออกมาจากกระเป๋าแล้วโยนให้เขา
“ในนี้มีเงินจำนวนหนึ่ง แกเอาไปก่อน พรุ่งนี้ขอเพียงมาเซ็นชื่อจริงๆ เงินที่ควรจะเป็นของแกจะไม่ขาดแม้แต่แดงเดียว”
เหอศื้อรับบัตรธนาคารไปแล้วกลืนน้ำลาย และไม่ได้สนใจเลยว่าถังลั่วเหยาพูดอะไร
มีเพียงสายตาที่จับจ้องไปที่บัตรธนาคารและถาม “ในนี้มีเงินเท่าไหร่?”
ถังลั่วเหยารังเกียจเขามากและพูดอย่างรำคาญ “สองแสน”
เหอศื่อเบิกตาโพลงด้วยความประหลาดใจ
“อะไรนะ? สองแสน? แกเอาเงินสองแสนมาไล่ฉัน?”
ถังลั่วเหยามองเขาอย่างเย็นชาและถอยหลังอย่างระมัดระวัง