บทที่ 592 ต้อนรับข่าวดี
เช็คยี่สิบล้านในกระเป๋า เป็นเงินจากละครเรื่องก่อน และเงินกำไรจากงานพรีเซนเตอร์อีกสองงาน
เดิมทีเธออยากเก็บเงินส่วนนี้เอาไว้ หากเกิดเรื่องฉุกเฉินขึ้นมา สามารถเอาออกมาใช้ได้
แต่ตอนนี้ เหอศื่อเอ่ยออกมาแล้ว เธอจะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ถังลั่วเหยาจึงถอนหายใจ วางแอปเปิลที่ปลอกได้เพียงครึ่งเดียวลง กุมมือแม่เอาไว้ บอก “แม่คะ หนูรู้ว่าแม่เป็นห่วงหนู และเสียดายเงิน แต่เหอศื่อไม่ใช่ตะเกียงไร้น้ำมัน หย่าได้เร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งจะสงบได้เร็วเท่านั้น ไม่งั้นเขาก็จะมาวอแวไม่หยุด แม่จะใช้ชีวิตยังไง”
ความจริงถังลั่วเหยาไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง เธอเป็นห่วงแม่
แม่ใกล้ได้รับการผ่าตัดแล้ว ถึงตอนนั้นต้องใช้เวลาพักรักษาตัวเป็นระยะเวลานาน
ระหว่างนี้ ต้องหลีกเลี่ยงอารมณ์ต่างๆ ที่มันมากเกินไป เธอไม่อยากให้มันเกิดความผิดพลาดใดๆ
เพราะแบบนี้ ลูกระเบิดเวลาอย่างเหอศื่อ ที่ไม่รู้จะมาสร้างความวุ่นวายทำร้ายพวกเธอสองแม่ลูกตอนไหน ต้องหาวิธีหลบเลี่ยง แน่นอนต้องรีบหาวิธีหลุดพ้นจากเขาให้เร็วที่สุด
แน่นอนว่าแม่ถังเห็นด้วยว่าเธอพูดถูก
คนเป็นพ่อแม้ ตัวเองทำผิดไว้ กลับต้องให้ลูกสาวมารับแทน
ตอนนี้เพื่อยอมให้เธอได้หย่า ยังต้องมาแบกรับเงินตั้งห้าสิบล้าน
ถ้าเป็นคนอื่น คงไม่สามารถทำใจเย็นอยู่แบบนี้แน่นอน
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ คนเป็นแม่จ้องมองลูกสาวอย่างปวดใจ กระบอกตาแดงก่ำ
กุมมือเธอเอาไว้ เอ่ย “เหยาเหยา ฟังแม่นะ ไม่ต้องสนใจแม่ ร่างกายของแม่ แม่รู้ตัวเองดี เดิมทีมันก็แย่ลงทุกวัน ถ้าเขาอยากมาหา ก็ให้เขามา แม่ก็รอเขาอยู่ ถึงจะต้องอยู่กับเขาไปชั่วชีวิต แม่จะไม่มีวันให้เขามาทำร้ายหนูได้แม้เพียงปลายเล็บ”
สิ่งที่ถังลั่วเหยาไม่อยากฟังที่สุด ก็คือคำพูดแบบนี้ของแม่
ใบหน้าของเธอทะมึนขึ้น พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ “แม่คะ แม่พูดอะไรอยู่ อะไรคืออยู่กับเขาไปชั่วชีวิต แม่มีความคิดแบบนี้ได้ยังไง”
แม่ถังก้มหน้า เช็ดน้ำตา ฝืนยิ้มออกมา “ที่แม่พูดแบบนี้ เพราะตั้งแต่พ่อของลูกจากไป ตั้งแต่เด็กลูกก็ไม่เคยมีวันที่ดีกับเขาเลย ตอนนี้มันเริ่มดีขึ้นแล้ว แม่ไม่อยากให้ลูกต้องมารับผิดชอบกับเรื่องของแม่”
ถังลั่วเหยาถอนหายใจ บอกเสียงเบา “แม่คะ ตอนนี้หนูหาเงินได้ เชื่อหนูเถอะ ว่าเงินห้าสิบล้านไม่นานหนูก็หากลับมาได้ อีกอย่าง เงินมันสำคัญเท่าคนไหม ขอแค่เราได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ต่อไปไม่มีเงินแล้วยังไง”
แม่ถังมองเธอ รู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกปวดใจไม่น้อย
สุดท้าย เห็นสายตามุ่งมั่นของถังลั่วเหยา เธอจึงพยักหน้า
“ได้ งั้นก็แล้วแต่ลูก”
ถังลั่วเหยาเห็นว่าเธอตอบตกลงแล้ว จึงเผยรอยยิ้มออกมาในที่สุด
ทั้งสองพูดคุยกัน โทรศัพท์ของถังลั่วเหยาพลันดังขึ้น
เธอหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากจิ่งหนิง
ดวงตาวาวขึ้นมา
เธอรีบบอกมา “แม่คะ เจ้านายหนูโทรมา เดี๋ยวหนูไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ”
แม่ถังรีบพยักหน้า
ถังลั่วเหยาลุกขึ้น เดินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอก
“สวัสดีค่ะ พี่หนิงหนิง”
“ลั่วเหยา ทำอะไรอยู่เหรอ”
เสียงอ่อนโยนสดใสของจิ่งหนิงส่งมา
ถังลั่วเหยาก็ไม่ได้ปิดบัง บอกไปตามความจริง “อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ ฉันมาเยี่ยมแม่”
จิ่งหนิงหัวเราะ “เรื่องที่ฉันคุยกับเธอครั้งก่อน รู้ผลแล้วนะ”
ถังลั่วเหยาพอจะเดาได้ ที่จิ่งหนิงติดต่อมาคงเป็นเพราะเรื่องนั้น
แต่เมื่อได้ยินกับหูตัวเอง ก็รู้สึกดีใจอย่างควบคุมไม่ได้
“จริงเหรอคะ”
“อืม” น้ำเสียงจิ่งหนิงเรียบนิ่ง แต่ก็ดูดีใจ
“ของถูกส่งมาแล้ว คิดว่าพรุ่งนี้ก็ถึง ถึงตอนนั้นฉันจะให้เขาติดต่อแพทย์เจ้าของไข้ของน้าถัง ให้พวกเขาติดต่อกัน เรื่องวันผ่าตัด เธอคุยกับพวกเขาแล้วกัน”
ถังลั่วเหยายกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาร้อนผ่าว
ความรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณพรั่งพรูออกมา นอกจากความตื่นเต้น เธอยังรู้สึกสับสน
“พี่หนิงหนิงคะ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากจริงๆ ”
จิ่งหนิงหัวเราะบอก “จะขอบคุณเฉยๆ ได้ยังไง ต่อไปฉันยังต้องพึ่งเธอหาเงินอีกนะ ดังนั้นไม่ต้องขอบคุณหรอก”
ถังลั่วเหยาได้ยินเช่นนั้น อดได้ หัวเราะออกมา
แม้จะรู้ว่า จิ่งหนิงพูดแบบนี้เพื่อให้เธอสบายใจ
แต่ก็ยังอดซาบซึ้งไม่ได้อยู่ดี
“เอาล่ะ ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ ถ้าได้รับของแล้วค่อยบอกฉันแล้วกันนะ”
ถังลั่วเหยารีบพยักหน้า “ค่ะ ฉันทราบแล้วค่ะ”
จากนั้นสายค่อยตัดไป
ถังลั่วเหยากุมโทรศัพท์เอาไว้ ยืนหันหลังพิงผนังอยู่แบบนั้น เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา
ผ่านไปเนิ่นนาน ค่อยเช็ดน้ำตาออก สงบสติอารมณ์ หมุนตัวเดินเข้าห้องไป
ในห้อง แม่ถังกำลังนั่งพิงหัวเตียงอยู่ ในมือมีหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม
ด้านข้างมีแอปเปิลที่ปลอกไปได้ครึ่งเดียว ตอนนี้ถูกปลอกจนเสร็จแล้ว
ชิ้นแอปเปิลที่ถูกฝานเป็นชิ้นเล็กๆ วางเรียงตัวสวยงามอยู่ในจาน
เมื่อได้ยินเสียงเท้า เธอจึงเงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าเป็นถังลั่วเหยาเธอจึงรีบวางหนังสือลง เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “คุยเสร็จแล้วเหรอ”
ถังลั่วเหยาพยักหน้ายิ้มๆ เดินมานั่งลงด้านข้างของแม่ บอก “แม่คะ หนูมีข่าวดีจะบอก หัวใจที่เคยบอกว่าเข้ากับแม่ได้ ถูกส่งเข้าประเทศมาแล้ว อีกไม่นานแม่ก็จะรับการผ่าตัดได้แล้วนะคะ”
แม่ถังได้ยินแบบนั้นก็ตกใจ ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ “จริงเหรอ”
ถังลั่วเหยาพยักหน้าติดๆ “จริงค่ะ”
แม่ถังดีใจจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
แม้ว่าถังลั่วเหยาจะเคยบอกเธอแล้ว ว่าเรื่องหัวใจพอมีทางรักษา
แต่หลายปีมานี้เธอได้ยินข่าวแบบนี้บ่อยแล้ว
ผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน
เพราะเหตุนี้ เธอจึงคิดว่าครั้งนี้ก็จะเป็นเหมือนครั้งที่แล้ว บางทีอาจจะได้แต่ส่วนมากคือไม่ได้
ถึงอย่างไรในโลกใบนี้มีคนมากมายที่ต้องการ ทำไมต้องเอามาให้เธอ
แต่ตอนนี้ ถังลั่วเหยากลับบอกว่า เธอจะได้รับการผ่าตัดแล้ว
สำหรับคนทั่วไป เกี่ยวกับการมีชีวิต ไม่มีใครอยากเลือกความตายหรอก
ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร เรื่องนี้สำหรับแม่ถังแล้วนับว่าเป็นข่าวดีที่ทำให้เธอตื่นเต้นได้
ถังลั่วเหยามองท่าทางดีใจของเธอ จากนั้นกุมมือเธอเอาไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แม่คะ ดูสิ ตอนนี้ร่างกายของแม่กำลังจะดีขึ้นแล้ว แม่ยิ่งจะต้องหย่า เดี๋ยวอีกสักพักหนูจะโทรหาเขา วันข้างหน้าของเรายังอีกยาวไกล อย่ายอมแพ้กับความลำบากแค่นี้ เข้าใจไหมคะ”