วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 598 ลำบากตนเอง

บทที่ 598 ลำบากตนเอง

ถังลั่วเหยาตกใจ

ผู้ช่วยของเซ่เซียวเธอรู้จัก ชื่อตงเซิง เป็นคนเหนือ

คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายพวกนี้จะตุ๋ยซุปเป็น

ถังลั่วเหยาเกรงใจ กำลังคิดจะปฏิเสธ ทว่าเซ่เซียวกลับไม่ให้โอกาสนั้นกับเธอ

ผู้กำกับเรียกตัวเขา เขาตอบรับ จากนั้นรีบลุกขึ้นยืน หันมาบอกกับถังลั่วเหยา “เหยาเหยา ฉันไปเข้าฉากก่อน เดี๋ยวตอนทานข้าวเที่ยงค่อยคุยกันใหม่”

พูดจบเขาก็รีบเดินออกไป

ถังลั่วเหยาอ้าปาก คำปฏิเสธยังติดอยู่ในลำคอ ไม่ได้พูดออกมา สุดท้าย จึงได้เพียงกลืนมันลงไป

ตอนเที่ยง ตงเซิงถือกล่องเก็บความร้อนมาให้เธอจริงๆ

ตงเซิงอายุยังไม่มาก ดูแล้วน่าจะประมาณยี่สิบกว่า ท่าทางสะอาดสะอ้าน ปากหวาน ปกติเวลาเจอคนอื่นชอบเรียกพี่อย่างนั้นพี่อย่างนี้ คนในกองต่างก็ชอบเขา

แต่ไม่รู้ถังลั่วเหยาคิดไปเองหรือเปล่าว่า วันนี้ตงเซิงมองเธอแปลกไปจากทุกวัน มักจะรู้สึก…กระตือรือร้นอย่างบอกไม่ถูก

ราวกับลูกแกะที่พลัดหลงจากแม่แล้วตามหาแม่เจอ

ถังลั่วเหยามึนงง แต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมาก บอกขอบคุณและรีบซุปเอาไว้

ผ่านไปไม่นาน เซ่เซียวก็ย้ายเก้าอี้มานั่งด้วย

“เหยาเหยา”

ถังลั่วเหยามองเห็นรอยยิ้มสดใสของเขา ไม่รู้ทำไมรู้สึกประหลาดอยู่ในใจ

เธอยิ้มออกมาทว่าในใจกลับไม่ได้ยิ้มด้วย เอ่ย “ถ่ายเสร็จแล้วเหรอคะ”

“อืม หิวมากเลย จริงสิ ซุปส่งมาแล้วใช่ไหม”

ถังลั่วเหยาพยักหน้า ชี้ไปยังกล่องเก็บความร้อนสีฟ้าที่อยู่ด้านข้าง “ยังไม่ทานค่ะ แต่ได้กลิ่นแล้วหอมมาก”

เซ่เซียวได้ยินดังนั้น จึงยิ้มเจ้าเล่ห์บอก “งั้นเธอไม่ลองชิมหน่อยล่ะ ตอนนั้นที่ฉันเลือกตงเซิงมาเป็นผู้ช่วย เพราะว่าเขาตุ๋นซุปอร่อย ต้องดื่มซุป เธอก็รู้ เราเป็นนักแสดงต้องควบคุมอาหาร ไม่ได้ทานอะไรอร่อยๆ พวกนั้น แบบนั้นจะลำบากตัวเองเกินไปหรือเปล่า เธอว่าถูกไหม”

ถังลั่วเหยาไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ กลับไป พยักหน้า

“คุณพูดถูกค่ะ ”

“งั้นรีบลองทาน มา ฉันช่วย”

“เอ่อ ไม่ต้องค่ะไม่ต้อง เดี๋ยวฉันทำเอง”

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก”

เซ่เซียวไม่สนใจว่าเธอจะพูดยังไง เปิดกล่องเก็บความร้อนออก จากนั้นตักให้เธอหนึ่งถ้วย

จากนั้นยกมาวางตรงหน้าเธอ ดวงตาสองดวงนั้นจ้องมองเธอ บอก “มา รีบทานสิ”

ถังลั่วเหยากระอักกระอ่วน ในใจคิดว่าตัวเองคงรับความเป็นมิตรขนาดนี้ไม่ไหว แต่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ ดังนั้นเธอจึงลงชิมไปหนึ่งคำ

รสชาติของซุปนั้นไม่เลวจริงๆ

ใสไม่มัน ดื่มไปแล้วยังมีความหวานให้ได้ลิ้มรสที่มาพร้อมกับกลิ่นหอม เหมือนเชฟใหญ่ทำ

ตั้งแต่ตอนที่เธอเริ่มทาน เซ่เซียวก็จับจ้องมองเธอ

รอเธอทานเสร็จ รีบถาม “เป็นยังไงบ้าง”

ถังลั่วเหยาพยักหน้า “ไม่เลวเลยค่ะ อร่อยมาก”

“ใช่ไหมล่ะ” เซ่เซียวยิ้มออกมาท่าทางดีอกดีใจ “ฉันบอกแล้วว่าฝีมือทำอาหารของตงเซิงไม่ธรรมดา”

คำชมของถังลั่วเหยา ไม่ได้โกหก เธอแค่พูดไปตามตรง

ไม่คิดว่า ต่อมา จะได้ยินเซ่เซียวบอก “ในเมื่อเธอชอบ งั้นต่อไปฉันจะให้เขาทำมาให้ทุกวันเลย”

ถังลั่วเหยา “…”

รอยยิ้มของเธอแข็งค้างอยู่บนใบหน้า มองเซ่เซียวอย่างกระอักกระอ่วน หัวเราะแห้งๆ “เอ่อ คงไม่ดีมั้งคะ”

“นี่มีอะไรไม่ดีกัน เธอวางใจ ฉันไม่ให้เขาทำอย่างอื่นหรอก ให้เขาทำกับข้าวให้เราก็พอแล้ว ผู้ช่วยทำแค่อาหารสบายมากเลย อีกอย่าง ดูเธอผอมแบบนี้ ต้องบำรุงหน่อย ร่างกายต้องมีสุขภาพที่ดีถึงเป็นสิ่งสำคัญรู้ไหม”

ถ้าถึงตอนนี้แล้ว ถังลั่วเหยายังไม่รู้สึกอะไร นั่นแสดงว่าสมองมีปัญหาแล้ว

เธอกุมขมับด้วยความปวดหัว เรียก “เซ่เซียว”

“หืม”

ดวงตากลมโตของเซ่เซียวมองมาที่เธอ

ถังลั่วเหยาเงยหน้า จ้องมองดวงตาที่กำลังเฝ้ารออยู่ บางครั้งต้องเอ่ยคำพูดตรงๆ แบบนี้ออกไป พลันพูดไม่ออก

เนิ่นนาน เธอจึงโบกมือไร้เรี่ยวแรง “ไม่มีอะไร ทานข้าวเถอะ”

เซ่เซียวจึงยิ้มออกมา “ได้สิ”

ตลอดมื้ออาหาร บอกว่าดีใจก็คงไม่ได้ บอกได้เพียงว่า กระอักกระอ่วนเป็นบ้า

เซ่เซียวกระตือรือร้นต่อถังลั่วเหยามาก ราวกับกลัวว่าเธอจะสัมผัสถึงความใส่ใจที่ตนเองมีให้ไม่ได้

และถังลั่วเหยานั้นสัมผัสได้ และสัมผัสได้ว่ามันมากเกินไป

มันดีเหมือนว่าเธอทานข้าวเองไม่ได้ ราวกับเป็นเด็กน้อยที่ต้องมีคนคอยป้อน

เดี๋ยวช่วยเธอตักซุป เดี๋ยวช่วยเธอหยิบข้าว อย่าว่าแต่ถังลั่วเหยาเลย แม้แต่เสี่ยวฉิงที่อยู่ข้างๆ เองก็ยังอึดอัด

เมื่อทานข้าวเสร็จ เซ่เซียวยังจะให้คนไปซื้อเครื่องดื่มให้เธอ แต่ถูกเธอห้ามเอาไว้ก่อน

“ไม่ต้องหรอก เซ่เซียว เอ่อ…ฉันมีอะไรอยากคุยกับคุณหน่อย”

เซ่เซียวหันกลับมามองเธอ ยังไม่รับรู้ว่าเธอแปลกไป เพียงแต่รีบถาม “เหยาเหยา มีอะไรเหรอ”

ถังลั่วเหยาได้ยินเขาเรียกตัวเองว่าเหยาเหยาก็ปวดหัวขึ้นมา

เธอฝืนยิ้ม “เราไปคุยกันที่อื่นไหม”

เซ่เซียวถึงได้สัมผัสได้ว่าเธอมีเรื่องในใจ

ดังนั้น เขาจึงพยักหน้าตอบกลับไป รีบเดินตามมา ถังลั่วเหยาเดินนำเขาไปที่ห้องพักที่ไม่มีคน

ประตูห้องพักถูกปิดตามหลังพวกเขามา

เสี่ยวฉิงและตงเซิงรออยู่ด้านนอก

พวกเขาอยู่ที่นั่นนาน รู้ว่าถังลั่วเหยาคุยอะไรกับเขา ไม่มีใครรู้ว่า เซ่เซียวคุยอะไรกับถังลั่วเหยา

ยังไงซะ กว่าพวกเขาจะออกมาก็อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาแล้ว

สีหน้าของเซ่เซียวดูดี เมื่อคิดแล้ว ไม่ง่ายเลยที่จะชอบผู้หญิงสักคน รวบรวมความกล้าสารภาพออกไป กลับถูกปฏิเสธ

ยังพูดอะไรบางอย่างที่จะไม่พูดอีกต่อไป ถ้าลองเป็นใคร ก็คงจะเสียใจเช่นกัน

และถังลั่วเหยา กลับถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เสี่ยวฉิงรีบเข้าไปหา อดไม่ได้หันไปมองเซ่เซียว ถามถังลั่วเหยาเสียงเบา “พี่ลั่วเหยา พี่เซียวเขาไม่เป็นไรใช่ไหมคะ”

สีหน้าถังลั่วเหยาเรียบนิ่ง “เขาไม่เป็นไร”

เรื่องบางอย่าง เมื่อรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องรีบพูดให้เข้าใจ

จะได้ไม่ต้องทำให้คนอื่นต้องเสียเวลา และไม่ทำให้ตัวเองต้องวุ่นวาย

เธอรู้ดี เซ่เซียวเป็นคนดี และเป็นเพื่อนของจิ่งหนิง และยังเป็นญาติผู้น้องของลู่จิ่งเซิน

เธอไม่อยากต้องมีเรื่องหมางใจกับพวกเขา เพราะตัวเอง จนต้องส่งผลถึงความสัมพันธ์ของจิ่งหนิงและเขา

ดังนั้นพูดให้เข้าใจตั้งแต่ตอนนี้ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset