เขาพูด พร้อมกับชี้ไปที่ถังลั่วเหยา
ถังลั่วเหยามองไปที่เขาอย่างว่างเปล่า เพราะปากของหล่อนโดนปิดไว้ จึงไม่ได้ส่งเสียงใดๆ
สีหน้าของเหอศื่อเปลี่ยนไป
“งั้นตอนนี้ที่นายหมายถึงคือ…”
ชายที่แขนมีรอยสักนั้น ยื่นมือออกไปวางมือบนไหล่ของเหอศื่อ แล้วยิ้มพร้อมกับพูดว่า “น้องชาย ฉันบอกน้องไปแล้วนิว่า บางครั้งน้องก็ใจอ่อนเกินไป ผู้หญิงคนอื่นเขาทั้ง 2 คนนั้นไม่ได้รู้จักน้องด้วยซ้ำ และคิดแต่เรื่องหาวิธีหย่ากับน้อง แต่น้องกลับยังคิดถึงความรู้สึกเก่าๆ และไม่ยอมปล่อยมือไปสักที ทำไมน้องต้องทำเป็นแบบนี้ด้วย? “
คำพูดนี้เกือบจะทำให้ถังลั่วเหยาอ้วกออกมา
นึกถึงแต่ความรู้สึกเก่าๆ และไม่ยอมปล่อยมือเหรอ?
แค่กลัวว่าจะคิดถึงแต่เงินและไม่ยอมปล่อยมือ!
เมื่อหล่อนได้ยินคำพูดนี้แม้ว่าจะรู้สึกจอมปลอมแต่เหอศื่อฟังแล้วกลับรู้สึกสุขกายสบายใจ
เขาหัวเราะคิกคักไป 2 ที แล้วพูดว่า “ฉันคนนี้ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันแค่วันเดียวหรือร้อยวันเป็นมิตรภาพกันหรอกนะไม่ว่านางเด็กนี่จะเรียกฉันว่าพ่อ ฉันก็จะไม่ทำให้เรื่องนี้เด็ดขาดเกินไปว่าไหม?”
ชายที่แขนมีรอยสักได้ยินดังนั้น สายตาเขาก็ปรากฏความเสียดสีออกมา
ที่เขาแสดงออกมาบนใบหน้านั้นมันช่างเป็นท่าทีที่น่าเคารพนับถือซะเหลือเกิน
“ถ้าจะให้ฉันพูดละก็ฉันคิดว่าพี่เป็นคนใจนักเลง! แต่น้องชาย สถานการณ์ในตอนนนี้ น้องต้องดูให้ชัดเจนนะ นางนี่โดนน้องจับมามัดไว้ที่นี่แล้ว ถ้าน้องคิดว่าจะปล่อยหล่อนไปจริงๆ แล้วต่อไปหล่อนจะยกโทษให้น้องได้เหรอ?”
เมื่อพูดออกไปเหอศื่อก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง
เขากลั่นแกล้งแม่ลูกถังลั่วเหยาพวกหล่อนมาตั้งหลายปี และในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แม้ว่าถังลั่วเหยาจะค่อยๆ มีชื่อเสียงขึ้น และไม่ว่าจะเป็นรายได้หรือฐานะทางสังคมก็ตาม
แต่เพียงเพราะมีใบทะเบียนสมรสของเขากับแม่ถังอยู่ และในนามของเขา ก็ยังคงเป็นพ่อบุญธรรมของถังลั่วเหยา
ด้วยเหตุนี้เองเพราะเขามีจุดอ่อนนี้ของแม่ถังด้วยดังนั้นเขาจึงไม่กลัวว่าถังลั่วเหยาจะไม่ฟังตัวเขา
บางทีอาจเป็นความเคยชินที่เขาปลูกฝังมาหลายปี ค่อยๆ ทำให้เขารู้สึกว่า ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามสุดท้ายถังลั่วเหยาก็ต้องตามใจในการครอบงำของเขาอย่างเชื่อฟัง
ดังนั้น แม้ว่าครั้งนี้เขาจะมัดหล่อนไว้ที่นี่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าหล่อนจะแก้แค้นตัวเขาในภายหลัง
ชายที่แขนมีรอยสักนั้นเห็นว่าเขากำลังตะลึงอยู่ที่นั่น ก็ยิ้ม พร้อมกับตบไหล่เขา
“คิดเอาเองก็แล้วกันนะ อย่างไรเสียเงิน เป็นสิ่งที่เราต้องได้ ส่วนจะจัดการกับคนยังไงนั้น ก็อยู่ที่น้องแล้วกัน”
หลังจากพูดจบ ก็พาคนออกไป
เหอศื่อยืนอยู่ที่นั่นครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
เขาหันศีรษะกลับมาและมองไปที่ถังลั่วเหยาที่โดนมัดติดอยู่กับเสาคอนกรีตในสายตาของเขาก็เผยความโหดร้ายขึ้นมาในทันที
เขาย่อตัวลงพร้อมกับเขาฉีกผ้าขี้ริ้วที่อุดอยู่ในปากของหล่อนออก
“เหอศื่อ! แกมันบ้าไปแล้วเหรอ?รู้ไหมว่าตอนนี้แกกำลังทำอะไรอยู่? รีบปล่อยฉันสะ!”
ในที่สุดถังลั่วเหยาสามารถพูดได้หล่อนรีบตะโกนออกไปทันที
เหอศื่อมองไปที่หล่อน ความโหดร้ายบนรูปร่างหน้าตาของเขายิ่งอยู่ก็ยิ่งเข้มขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานจึงพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าร้องตะโกนเลย ต่อให้เธอจะตะโกนจนคอแตก มันก็ไม่มีใครได้ยินเธอหรอก
ถังลั่วเหยาได้ยินดังนั้นสีหน้าของหล่อนก็เปลี่ยนไปทันที
เดิมทีที่สีหน้าซีดเล็กน้อยนั้นวินาทีนี้ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของเลือดเลยแม้แต่น้อย
หล่อนมองไปที่เหอศื่อ อย่างไม่น่าเชื่อ พร้อมกับถามว่า “ที่นี่ที่ไหน? แกพาฉันมาที่ไหน?”
เหอศื่อยัดเค้กเข้าไปปากหล่อนอย่างเฉยชาและพูดว่า “ไม่ต้องถามแล้ว ถามไปฉันก็ไม่บอกหรอก ตอนนี้กินได้ก็กิน ดื่มได้ดื่มไปสะ กินอิ่มดื่มอิ่มก็ออกเดินทางไปดีๆ ”
ถังลั่วเหยาแข็งทื่อไปทั้งตัว หล่อนกินเค้กที่โดนยัดใส่ปากไปไม่กี่คำอย่างรวดเร็วจากนั้นก็คายออกมา
“ออกเดินทางอะไร? แกจะพาฉันไปไหนอีกตกลงพวกแกคิดจะทำอะไรกันแน่?”
เหอศื่อไม่ได้พูดอะไร
เพียงแค่สายตานั้นได้ทรยศต่อความคิดของเขาซะแล้ว
เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าโทษฉันเลย ฉันก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน ใครให้เธอมองเงินเหมือนชีวิตขนาดนั้นล่ะและยอมโอบกอดทุกคนให้ตายไปด้วยกันโดยไม่ให้เงินฉันเลย ดังนั้นตอนนี้ฉันจึงทำได้แค่นี้”
ถังหลัวเหยาได้ยินคำพูดของเขา ก็ไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังหมายถึงอะไร
เข้าใจเพียงสัญญาณเดียว
“แก แกทำเพื่อเงินเท่านั้นใช่ไหม? เหอศื่อ แกบ้าจริงหรือแกล้งกันแน่? ฉันสัญญากับแกแล้วไม่ใช่เหรอว่าขอแค่แกยอมหย่า ฉันก็จะให้เงินแก 50 ล้านหยวน? แล้วทำไมแกยังทำอย่างนี้อีก? หรือว่าเงินพวกนั้นมันยังไม่พอให้แกทำลายอีก?”
หล่อนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและกัดฟันพูดด้วยความเคียดแค้น
เหอศื่อมองไปที่หล่อนด้วยความอย่างเยาะเย้ย
“50 ล้านหยวนเหรอ? ฮ่าๆ ! เธอมีเงิน 50 ให้ฉันจริงๆ เหรอ? หรือเพราะฉันโง่? มันน่าโกหกขนาดนั้นเลยเหรอ? แกแค่ต้องการหาข้ออ้างที่จะไล่ฉันออกไปหลังจากที่แกรุ่งแค่นั้นเอง!”
เขาพูดอยู่อย่างนั้น ก็นึกอะไรขึ้นได้ในทันทีจากนั้นก็ย่อตัวลงอีกครั้งและดึงเสื้อผ้าของหล่อน
“บอกมาตรงๆ สิว่าเช็ค 20 ล้านหยวนนั้นอยู่ที่ไหน? แค่แกพูด ฉันสัญญาว่าจะปล่อยแกไป คิดยังไงบ้างล่ะ?”
ถังลั่วเหยามองไปที่เขา และรู้สึกตลกขึ้นมาในทันที
ดังนั้นหล่อนจึงหัวเราะออกมาจริงๆ
“เหอศื่อ แกว่าแกป่วยไปหรือเปล่า! ทั้งๆ ที่เงินเยอะขนาดนั้นกลับไม่เอา แต่ดันกลับมาทำบุ่มบ่ามเพื่อการเสี่ยงครั้งใหญ่ ด้วยเงินเพียง 20 ล้านหยวน สมองของแกมีปัญหาหรือเปล่า?”
เหอศื่อคิดไม่ถึงเลยว่าในเวลานี้แล้วหล่อนยังมีความกล้าด่าเขาได้
ทันใดนั้นเขาก็โกรธมาก จากนั้นเสียง “พัวะ” ก็ดังขึ้นและหล่อนก็โดนตบไปทีหนึ่ง
“กูบอกให้มึงพูดที่อยู่ของเงินก้อนนั้น!!”
เขาส่งเสียงร้องตะโกนเพราะว่าเขาโกรธ ทั้งร่างกายของเขาจึงสั่นเล็กน้อย
ถังลั่วเหยาโดนตบจนกระเด็นไปด้านข้าง มุมปากหล่อนตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นคาวของสนิม
หล่อนหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “งั้นเอาอย่างนี้สิ แกปล่อยฉันก่อน แล้วฉันจะบอกแกว่าเงินก้อนนั้นอยู่ที่ไหน”
เหอศื่อจ้องหล่อนอย่างดุร้าย เพราะความโกรธดวงตาของเขา จึงเกือบจะแดงก่ำ
ถังลั่วเหยากลับไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยแต่กลับจ้องมาที่เขาด้วยสายตาที่สงบ
แม้แต่น้ำเสียง ก็ยังเกือบจะเจรจาด้วยความสงบ
“แม้ฉันจะไม่รู้ว่าแกเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนข้างนอกนั้นยังไง แต่ฉันมองออกว่า พวกเขาก็ไม่ได้จริงจังอะไรกับแก เลยให้แกมัดฉันแทน ส่วนใหญ่แค่ใช้แค่แก แล้วเงิน 20 ล้านหยวนนั้นล่ะ กับพวกเขาแล้วแกจะเหลือสักเท่าไหร่”
“ทำไมแกไม่ปล่อยฉันไปก่อนละ อย่างนี้แล้ว เงิน 20 ล้านหยวนนี้เป็นของแกทั้งหมดและแกก็ไม่จำเป็นต้องหย่ากับแม่ฉันแล้วต่อไปแกยังสามารถใช้เรื่องการหย่ามารีดไถฉันอย่างดุร้ายอีกครั้งนะยังไงซะฉันก็ไม่สามารถทำอะไรกับแกได้ใช่ไหมล่ะ?”
ต้องบอกว่า คำพูดของถังลั่วเหยา ทำให้เขาตื่นเต้นมาก
อย่างไรก็ตามนั่นมันเป็นเงิน 20 ล้านกว่าหยวนเลยนะ!
ถ้าเงินทั้งหมดนั้นเป็นของเขาเขาก็จะซื้อได้…และต่อไปเขาจะไม่ต้องทนทรมานแบบนี้อีกแล้ว
เมื่อนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นได้ สายตาของเหอศื่อก็บ้าคลั่งขึ้นมาทันที
เขามองไปที่ถังลั่วเหยาด้วยสายตาที่เกือบจะหวาดระแวง เขาลดเสียงลงแล้วพูดว่า “เธอแน่ใจนะ แค่ฉันปล่อยเธอไป เธอจะมอบเงินก้อนนั้นให้ฉันจริงๆ ?”
แม้ว่าความรู้สึกถังลั่วเหยานั้นจะขึ้นๆ ลงๆแต่การแสดงออกของหล่อนยังคงสงบมาก
อย่างไรก็ตามในเมื่อเล่นละครมาตั้งมากมายแล้วในวินาทีที่สำคัญขนาดนี้จะยอมสูญเสียโอกาสนี้ไปได้อย่างไร?
หล่อนพูดอย่างใจเย็นว่า “ใช่แค่แกปล่อยฉันไป เงินทั้งหมดจะเป็นของแก”