จนถึงตอนเย็นเหอศื่อจึงปรากฏตัวอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงอะไรอยู่ข้างนอกเลย เหมือนกับว่าทุกคนหลับกันไปหมดแล้ว
ที่จริงถังลั่วเหยาก็ไม่แน่ใจว่า พวกเขาหลับไปจริงๆ หรือว่าออกไปกันหมดแล้วแต่ข้างมันเงียบ
เหอศื่อเข้ามาอย่างลับๆ ล่อๆ พร้อมกับถือพวงกุญแจรถอยู่ในมือ
เขาเดินมาพร้อมกับแก้เชือกของถังลั่วเหยาออก
เขาแก้เชือกไปด้วย พูดไปด้วยว่า “อีกสักพักห้ามส่งเสียงอะไรเลยนะ เดินตามฉันก็พอแล้ว รถจอดอยู่บนถนนข้างนอกที่ไม่ไกลจากที่มาก หลังจากที่เราออกไปแล้วก็ขึ้นรถโดยตรงเลยนะ”
เทปกาวที่ติดอยู่บนปากของถังลั่วเหยาโดนฉีกออกตั้งนานแล้ว
เมื่อได้ยินดังนั้นก็ถามไปอย่างไม่วางใจว่า “แล้วคนพวกนั้นล่ะ?”
เหอศื่อเหลือบมองหล่อนไปแวบหนึ่ง
สายตาที่มองมานี้ เหมือนกับไม่ยอมแย้มพรายความลับออกมาแม้แต่คำเดียว ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมอยู่ๆ ถังลั่วเหยาถึงรู้สึกเสียวหลังตัวเองอย่างกะทันหัน
เหมือนกับงูพิษตัวหนึ่งกระโดดลงบนหลังของหล่อน
ทันทีหลังจากนั้นหล่อนก็ฟังเหอศื่อพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาว่า “ฉันล่อพวกเขาและขังทั้งหมดไว้ในอุโมงค์ใต้ดินแล้ว”
สถานที่แห่งนี้ เป็นที่ที่เขาเรียกกันว่าอุโมงค์ใต้ดินน่าจะเป็นห้องใต้ดินนะ
เพราะมันเป็นโรงงานร้างการที่มีห้องใต้ดินมันก็เป็นเรื่องปกติซึ่งไว้ใช้สำหรับใส่ของหรือพวกเครื่องมืออะไรประมาณนั้น
เพียงแค่ถังลั่วเหยารู้สึกงุนงง
“แกขังพวกเขาไว้ในห้องใต้ดินทำไม?”
ถ้าเป็นเพราะอยากพาหล่อนหนีไปก็แค่ทำให้คนตกใจก็พอแล้วแล้วจะเสียแรงเสียเวลาย้ายคนลงไปด้านล่างทำไม
เหอศื่อมองเธออย่างเย็นชา ดวงตาของเขาก็หรี่ลงเล็กน้อยและเสียงที่เขาส่งออกมานั้นทั้งเย็นชาทั้งต่ำ
“ถ้าไม่ขังต่อไปศพก็จะถูกคนเห็นเข้าทันทีไม่ใช่เหรอ? แล้วการที่ซ่อนอยู่ที่นั่นก็ยังสามารถซ่อนได้อีกหลายวันกว่าพวกเขาจะเห็น กูก็หนีไปตั้งนานแล้วแม้ว่าอยากจะจับกูก็จับไม่ได้แล้วว่าไหม?”
ถังลั่วเหยาขยับตัวอย่างแข็งทื่อ
ทั้งตัวหล่อนตะลึงงันอยู่ที่นั่นพร้อมกับมองไปที่เขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ไม่รู้ว่าเหอศื่อ หยิบมีดคัตเตอร์มาจากที่ไหน
เขาใช้คัตเตอร์จ่อที่ท้องของถังลั่วเหยา พร้อมกับพูดเยาะเย้ยว่า “ลูกสาวที่เชื่อ ครั้งนี้เพราะเพื่อช่วยลูกจึงได้ฆ่าคนไป ลูกไม่ควรทรยศพ่อนะ?”
ถังลั่วเหยารู้สึกเพียงว่าหล่อนเสียวหลัง เหมือนกับความเย็นจากกล้ามเนื้อและผิวหนังกำลังเข้าสู่ไขกระดูก แม้แต่นิ้วก็ยังแข็งทื่อไป
จากนั้นไม่นานหล่อนก็พยักหน้าอย่างฝืนใจ
“ไม่ คงไม่”
เหอศื่อขยับนิ้วมือ เพื่อให้สัญญาณว่าให้หล่อนยืนขึ้น
จากนั้นจึงพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วงั้นก็พาฉันไปเอาเงินเถอะ? วางใจได้เลย ไม่มีใครอยู่ข้างนอกเลยสักคน แค่เธอสัญญาว่าจะเชื่อฟัง ก็จะไม่มีใครทำร้ายเธอแน่นอน”
เขาพูดอยู่อย่างนั้น พร้อมกับใช้คัตเตอร์จ่อไปที่หล่อน โดยให้สัญญาณว่าให้หล่อนเดินออกไปข้างนอก
ถังลั่วเหยาก้าวเท้าออกไปด้านนอกอย่างแข็งทื่อไปทั้งตัวและในทันใดนั้นหล่อนก็เข้าใจในอะไรบางอย่าง
ที่จริง…เขาไม่เคยคิดที่จะปล่อยตัวหล่อนไปเลย!
หล่อนไม่ได้โง่ และเหอศื่อเองก็ฆ่าคนไปมากมายขนาดนี้แล้ว แต่กลับบอกเรื่องนี้กับเขาอย่าง วางใจและกล้าหาญ
เว้นแต่ว่าหล่อนจะบ้าไปแล้วถึงได้บอกเรื่องนี้กับศัตรูที่ยืนอยู่ตรงหน้าหล่อนอย่างละเอียด ที่ซึ่งสามารถทรยศต่อหล่อนได้ทุกเมื่อ
ไม่อย่างนั้นก็คือ…เขาไม่เคยคิดที่จะให้หล่อนรอดชีวิตเลยสักนิด!
คนที่ตายไปแล้วก็จะไม่กังวลว่าหล่อนจะเปิดเผยความลับของตัวเอง
เมื่อนึกถึงจุดนี้ถังลั่วเหยาก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวความตื่นตระหนกและความสิ้นหวังก็เข้ามาในหัวใจของหล่อน
ก็เหมือนกับกลุ่มเมฆดำที่หนาทึบ ซึ่งปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและพื้นดินที่มีความรู้สึกหดหู่ซึ่งทำให้ผู้คนแทบจะพังทลาย
อย่างไรก็ตาม หล่อนก็เม้มริมฝีปาก และไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา
และเดินตามเขาออกไปข้างนอกอย่างเชื่อฟัง
พวกเขาเดินไปได้ไม่ไกล ก็เห็นว่าบนถนนที่อยู่ไม่ไกลนั้น มีรถสีดำคันหนึ่งจอดไว้
คัตเตอร์ในมือของเหอศื่อจ่ออยู่ที่ท้องของหล่อนตลอด และเมื่อเขาไปถึงหน้ารถ เขาก็ยื่นกุญแจรถให้หล่อน พร้อมกับถามว่า “ขับรถเป็นไหม?”
ถังลั่วเหยาพยักหน้า
เหอศื่อจึงส่งกุญแจให้หล่อนโดยตรงพร้อมกับสั่งให้หล่อนนั่งที่เบาะหน้า แล้วรีบเดินอ้อมไปยังอีกด้าน และขึ้นจากเบาะหลัง
ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้มีเพียงช่องว่างของหนึ่งหรือสองวินาทีเท่านั้น
ที่จริงถังลั่วเหยาอยากจะหนี
แต่ความคิดนี้แค่ผุดขึ้นมาไปแค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นและหล่อนก็ล้มเลิกไป
หนีไม่พ้น!
ที่นี่มันก็อยู่ห่างออกไปจากตัวเมืองมาก ไม่มีคนอยู่รอบๆ เลยสักคน และผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างหล่อนมันหนีไม่พ้นจากเหอศื่อ หรอก
ตัวหล่อนก็ไม่มีอาวุธที่จะป้องกันตัวได้ด้วย แม้ว่าหล่อนจะหนี ก็คงหนีไปได้เพียงไม่กี่ก้าวแล้วโดนจับตัวกลับมาได้
เมื่อถึงตอนนั้น ก็จะทำให้เหอศื่อโกรธและก็ไม่รู้ด้วยว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
เมื่อนึกถึงจุดนี้หล่อนก็กลืนน้ำลายลงอย่างอดไม่ได้ หล่อนสอดกุญแจเข้าไปในช่องกุญแจ และจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง
เหอศื่อคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วก็เหลือบมองหล่อนไปแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าหล่อนประพฤติตัวดีและเชื่อฟังตลอด เขาจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ดูสิ ตอนนี้มันดีกว่าอีก? ถ้าแกเชื่อฟังฉันก็สบายใจ ไม่ต้องกังวลหรอก เมื่อฉันได้เงินมา ฉันจะปล่อยแกไปแน่นอน และฉันจะไม่ทำให้แกลำบากอีก”
ถังลั่วเหยาทำได้แค่ฝืนยิ้มแล้วสตาร์ทรถอย่างช้าๆ
รถขับอยู่บนถนนด้วยความเร็วคงที่ เหอศื่อนั่งอยู่ที่เบาะผู้โดยสาร และคัตเตอร์ในมือของเขาก็ไม่เคยออกห่างจากเอวของหล่อนเลย
ไม่ใช่ว่าถังลั่วเหยาไม่อยากขับรถหนีไปโดยตรง แต่หล่อนรู้ว่า การเคลื่อนไหวของหล่อนนั้นช้ากว่าเหอศื่อ
บางทีหล่อนอาจยังไม่ทันได้วิ่งหนี คัตเตอร์ของเหอศื่ออาจเสียบเข้าไปในร่างกายของหล่อนแล้วก็เป็นได้
หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนอาจไม่อยากเชื่อเลยว่าเหอศื่อจะกล้าขนาดนี้
แต่ตอนนี้ หลังจากที่รู้ว่ามีคนจำนวนมาก โดนเหอศื่อฆ่าทิ้งและซ่อนศพไว้ หล่อนก็เข้าใจได้ว่า เหอศื่อในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เหอศื่อที่หล่อนเคยรู้จักเมื่อก่อนอีกต่อไป
เหอศื่อที่หล่อนรู้จักนั้น แม้ว่าจะน่าเกลียดเหมือนกัน
แต่ความกล้าก็ยังน้อยกว่า กล้าทำเลวแค่เรื่องเล็กๆ เท่านั้น โดยชอบรังแกผู้หญิง เล่นการพนัน หรือทะเลาะตบตีอะไรพวกนั้น
เมื่อเจอเข้ากับพวกกระดูกเหล็กจริงๆ ก็ยังยอมถอย
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่
เหอศื่อในปัจจุบันนี้ ก็เป็นเหมือนงูพิษที่เย็นชา ซึ่งหากดูจากลักษณะท่าทางภายนอกแล้วก็เป็นแค่คนที่ผอมกะหร่องกะแหร่ง และตัวเล็กนิดเดียว
แต่เมื่อถึงจุดจุด หนึ่งแล้วเขาก็จะกระโดดขึ้นมาทันทีและกัดคุณอย่างแรง
พิษก็จะเข้าในเลือดไม่ว่าอยากจะช่วยแค่ไหนก็ช่วยไม่ได้
หล่อนสามารถรับประกันได้ว่า ถ้าหล่อนคิดนอกลู่นอกทางในตอนนี้ เหอศื่อสามารถทำ พวกเรื่องฆ่าคนและหลบหนีได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น ถังลั่วเหยาจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
อย่างไรก็ตาม การรอต่อไปมันก็ไม่ใช่ทางเลือก
หล่อนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “แกเตรียมกระเป๋าไว้สำหรับใส่ของหรือยัง?”
เหอศื่อตะลึงไปครู่หนึ่ง พร้อมกับขมวดคิ้วและมองไปที่หล่อน
“กระเป๋าอะไร?”
ถังลั่วเหยายิ้มอย่างแข็งกร้าว “ฉันพูดไปแล้วไม่ใช่เหรอ? บ้านของฉันมีอัญมณีและโบราณวัตถุมากมาย ไม่ใช่ว่าแกต้องการทั้งหมดเหรอ? ต้องนำของไปใส่กระเป๋าด้วยนะ ที่บ้านฉันไม่มีกระเป๋าที่แกสามารถเอาไปได้ด้วย และกระเป๋าที่บ้านก็เป็นกระเป๋าแบบที่ฉันเคยใช้มาก่อนมันง่ายมากที่คนจะดูออกนะ ถ้าเป็นกระเป๋าขนาดเล็ก มันไม่สามารถใส่โบราณวัตถุได้”
ที่จริงแล้วหล่อนก็กำลังเดิมพันอยู่เช่นกัน
วางเดิมพันไว้เพื่อให้เหอศื่อไม่สามารถละทิ้งโบราณวัตถุที่มีค่านั้นได้
ในที่สุดเหอศื่อก็ถามด้วยความสงสัยว่า “บ้านแกมีโบราณวัตถุอะไรงั้นเหรอ?”
ถังลั่วเหยาได้ยินดังนั้น ก็รู้ว่าเขาติดกับแล้ว
หล่อนแอบถอนหายใจอย่างโล่งใจหล่อนพูดแบบลอยๆ ว่า “เยอะมากเลยนะ แกชอบอะไรล่ะ?”