พอหลังจากที่เฟิงยี่จากไปแล้ว ถังลั่วเหยาก็ไปอาบน้ำ
อาบเสร็จก็ออกมา เสี่ยวฉิงเตรียมอาหารให้กับเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ทรมานมาทั้งวันทั้งคืน จริงๆแล้วในตอนนี้ เธอเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ามาทั้งกายและใจ ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรแล้ว
เฟิงยี่ก็คิดถึงตรงนี้ ดังนั้นจึงให้เธอพักผ่อนที่บ้านก่อน ส่วนตัวเองก็ไปทำความเข้าใจกับสถานการณ์ตรงนั้นเอง
ทั้งหมดทั้งมวลต้องรอให้ถึงพรุ่งนี้ เธอพักผ่อนดีแล้วค่อยว่ากัน
ตอนนี้ถังลั่วเหยาก็รู้สึกหิวแล้ว พอหันมาเห็นอาหารที่หอมกรุ่นน่าอร่อย ก็หยิบตะเกียบขึ้นคีบกินอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
เสี่ยวฉิงรู้ว่าเธอกลับมาอย่างปลอดภัย ในใจก็รู้สึกดีสุดๆ
ตอนที่เธอกินอาหาร เสี่ยวฉิงก็อยู่ข้างๆคอยพูดคุยกับเธอ ช่วยเธอคลายความหดหู่ออกมา
ในตอนนี้เอง จู่ๆมือถือของเสี่ยวฉิงก็ดังขึ้นมา
มือถือของถังลั่วเหยาถูกเหอศื่อเอาไปแล้ว ตอนที่จับเหอศื่อได้ ก็ยังไม่ทันได้ค้นออกมา ด้วยเหตุนี้ทำให้ตอนนี้ ที่ตัวเธอไม่มีมือถือ
เสี่ยวฉิงหยิบออกมา มองเบอร์ที่แสดงบนหน้าจอแล้ว แววตาก็เปล่งประกายขึ้นมา
จากนั้นก็คิดอะไรขึ้นมาได้ รีบหันมองมายังถังลั่วเหยาทันที พูดขึ้นด้วยความตั้งหน้าตั้งตารอ“พี่ลั่วเหยา เป็นสายของพี่เซียว จะต้องรู้ว่าคุณกลับมาแล้วแน่ๆ ดังนั้นจึงโทรมาเพราะเป็นห่วงคุณน่ะ”
ถังลั่วเหยายังไม่รู้เรื่องที่ว่าช่วงค่ำวันนั้นเซ่เซียวก็ผ่านไปที่นั่นเหมือนกัน
พอได้ยินแบบนี้ก็อึ้งไปสักพัก“ทางด้านของกองถ่ายปิดข่าวไปแล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วเขารู้ได้ยังไง?”
เสี่ยวฉิงจึงรีบบอกเรื่องที่บังเอิญเกิดขึ้นในคืนนั้นให้กับเธอฟังอย่างรวดเร็ว
ถังลั่วเหยาฟังจบ จึงเข้าใจขึ้นมาทันที
เห็นว่ามือถือเอาแต่ดังอยู่ตลอดเวลา จึงพูดยิ้มๆ“ถ้าอย่างนั้นเธอก็รีบรับสายเถอะ มัวแต่อึ้งอะไรอยู่?”
เสี่ยวฉิงจึงรับสายทันที
เพิ่งจะกดรับสาย ก็ได้ยินเสียงที่รีบร้อนลนลานของอีกฝั่งดังเข้ามาทันที
“เสี่ยวฉิง ฉันได้ยินมาว่าเจอตัวลั่วเหยาแล้วเหรอ? เรื่องจริงใช่ไหม?”
เสี่ยวฉิงหันมามองถังลั่วเหยา หลังจากที่ได้เห็นสัญญาณจากสายตาแล้ว จึงพูดขึ้น“อื้อ เรื่องจริงๆ ขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงของพี่เซ่เซียวนะคะ”
เซ่เซียวถอนหายใจออกมา
“เธอกลับมาก็ดีแล้ว ใช่แล้ว เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม?”
“ไม่มี อยู่ดีอยู่ค่ะ ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร”
“แล้วใครจับตัวเธอไป ตรวจสอบไม่ได้เหรอ? แล้วเธอกลับมาได้ยังไง?”
คำถามที่เซ่เซียวถามเยอะมาก เสี่ยวฉิงไม่มั่นใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับเขาได้ไหมในตอนนี้
ดังนั้น จึงหันสายตาที่ร้องขอความช่วยเหลือมองไปหาถังลั่วเหยา
ถังลั่วเหยาเห็นแบบนี้ ก็ยิ้มพลางยื่นมือไปหาเธอ
รับมือถือมา
เธอกุมมือถือ พูดยิ้มเบาๆ“ฉันไม่เป็นไร เซ่เซียว สถานการณ์โดยละเอียดช่วงนี้พอตอนที่ฉันกลับไปที่กองถ่ายแล้ว ค่อยบอกคุณก็แล้วกันนะ!ไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกค่ะ”
พอเซ่เซียวได้ฟังเสียงของเธอ ก็มั่นใจแล้วว่าเธอไม่เป็นอะไรแล้ว
ตอนที่ถอนหายใจออกมา ในขณะเดียวกันก็รู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
“หู้……คุณรู้ไหม ว่าตอนนั้นผมตกใจแทบแย่ ผู้ช่วยคนนั้นของคุณตามหาตัวคุณจนขาได้รับบาดเจ็บเลยนะ ทุกคนล้วนแต่กระวนกระวายกันสุดๆ โชคดีมากที่ตอนนี้คุณไม่เป็นอะไรแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆล่ะก็ ทุกคนคงกระวนกระวายใจแย่แน่ๆ”
ถังลั่วเหยาฟังที่เขาพูด ก็อึ้งไปเล็กน้อย
หันไปมองเสี่ยวฉิง“เธอได้รับบาดเจ็บเหรอ?”
เสี่ยวฉิงคิดไม่ถึงว่าเซ่เซียวจะพูดเรื่องนี้ออกมา จึงรีบโบกๆมือทันที
“ไม่มี ไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไรค่ะ”
ถังลั่วเหยาก็ไม่พูดอะไรอีก พูดกับในสายต่อ“เอาล่ะ รบกวนคุณช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับชั่วคราวก่อนนะ รอฉันกลับไปที่กองถ่ายแล้วค่อยว่ากัน”
แน่นอนว่าเซ่เซียวก็เข้าใจ เรื่องที่ถังลั่วเหยาหายตัวไป ต้องปิดเป็นความลับ ในกองถ่ายนอกจากผู้กำกับแล้ว ก็ยังไม่มีใครรู้
ทุกคนล้วนแต่นึกว่าเธอลาพักเท่านั้น
ดังนั้นจึงตอบรับไป ทั้งสองคนก็พูดกันอีกสองสามประโยค แล้วจึงวางสาย
หลังจากที่วางสายแล้ว ถังลั่วเหยามองไปยังเสี่ยวฉิง พร้อมกับพูดสั่ง“มานี่”
เสี่ยวฉิงถอยหลังไปเล็กน้อย พูดยิ้มแห้งๆ“พี่ลั่วเหยา จะทำอะไรเหรอ”
ถังลั่วเหยาไม่อยากที่จะพูดพล่ามไร้สาระอะไรกับเธอ จึงพูดย้ำอีกหนึ่งที“ไม่ได้ทำอะไร เธอมานี่ก่อน”
เสี่ยวฉิงเห็นว่าหนีไปไหนไม่ได้แล้ว ก็ทำได้แค่เดินเข้าไปอย่างช้าๆ
พอถึงแล้วถังลั่วเหยาก็จูงเธอเข้ามานั่งลงบนโซฟา
จากนั้น ก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ก้มลงถกขากางเกงของเธอขึ้น
“ข้างไหนที่ได้รับบาดเจ็บ?”
เสี่ยวฉิงเห็นแบบนี้ ก็รีบหดขาไปข้างหลังทันที พลางพูดขึ้น“พี่ลั่วเหยา ฉันไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นอะไรจริงๆ”
ถังลั่วเหยากลับไม่สนใจคำอธิบายของเธอ ขมวดคิ้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา“อย่าขยับ!”
เสี่ยวฉิงทำได้แค่อยู่นิ่งๆไม่ขยับเขยื้อน ถังลั่วเหยาก็ถามขึ้นต่อ“สรุปแล้วเจ็บขาข้างไหน? รีบบอกมา ถ้าไม่บอกฉันจะหาเอง”
เสี่ยวฉิงเห็นว่าหลบไม่พ้นแล้ว จึงชี้ไปที่ขาข้างขวาของตัวเอง
“ข้างนี้ค่ะ”
ถังลั่วเหยาจึงถกขากางเกงข้างขวาของเธอขึ้น ม้วนขึ้นข้างบน
เป็นอย่างที่คิดไว้ พอม้วนขึ้นก็เห็นตรงบริเวณหัวเข่ามีรอยเขียวช้ำรอยใหญ่ ตรงกลางยังใช้ผ้าพันแผลพันเอาไว้ด้วย น่าจะเป็นบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ
เพราะว่าพันผ้าพันแผล ดังนั้นจึงมองไม่เห็นบาดแผล แต่แค่เห็นรอยเขียวช้ำที่อยู่รอบๆนั้นแล้ว ก็รู้ว่าจะต้องเจ็บสาหัสแน่ๆ
สีหน้าของเธอนิ่งขรึมลง กดลงเบาๆตรงรอบๆบาดแผล พร้อมกับพูดถามขึ้น“ยังเจ็บอยู่ไหม?”
เสี่ยวฉิงส่ายหัวรัวๆ
“ไม่เจ็บๆ จริงๆนะคะ จริงๆแล้วไม่ได้สาหัสขนาดนั้น ก็แค่พี่เซียวพูดซะเว่อร์เท่านั้นแหละค่ะ ก็เลยรู้สึกว่ามันต้องสาหัส แต่จริงๆแล้วตอนนี้ไม่เจ็บเลยสักนิด”
ถังลั่วเหยายืนยันได้ว่าสีหน้าของเธอไม่ได้พูดโกหก จึงวางใจลง
ไม่แปลกที่เมื่อตะกี้ตอนอยู่ข้างนอก เธอก็รู้สึกว่าท่าเดินของเสี่ยวฉิงแปลกๆ
ที่แท้ก็เจ็บขานี่เอง
เธอดึงขากางเกงของเสี่ยวฉิงลง พร้อมกับพูดขึ้น“ช่วงสองสามวันนี้เธอก็อยู่พักฟื้นกับฉันก็แล้วกัน อย่าเดินวิ่งไปทั่วล่ะ ต้องการอะไรเดี๋ยวฉันให้เหลิ่งเม่ยไปซื้อให้ก็ได้แล้ว”
เสี่ยวฉิงก็รู้เหมือนกัน ว่าแผลที่ขาของตนเองนี้แม้ว่าจะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่ถ้าวิ่งไปวิ่งมาจะกระทบต่อการฟื้นฟูได้
ดังนั้นก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
พอกินอาหารเสร็จ ถังลั่วเหยาก็เตรียมจะพักผ่อน
ในตอนนี้เอง จู่ๆข้างนอกก็มีเสียงดังเข้ามา
เธอขมวดคิ้ว เสี่ยวฉิงก็รู้สึกตึงเครียดขึ้นมาเช่นกัน คว้าแขนของถังลั่วเหยาเอาไว้ทันที พร้อมกับพูดถามขึ้น“พี่ลั่วเหยา ใครมาเหรอ?”
ถังลั่วเหยาขมวดคิ้วฟังอย่างละเอียดอีกสักพัก จากนั้นจู่ๆก็เข้าใจอะไรขึ้นมา รีบตรงไปยังประตูทางอย่างรวดเร็ว
ข้างนอกประตู มีคนสองสามคนยังกำลังฉุดกระชากลากจูงอะไรอยู่ จู่ๆประตูก็เปิดออกมา
จากนั้น ก็เห็นถังลั่วเหยาและเสี่ยวฉิงปรากฏตัวอยู่ตรงประตูพร้อมกัน
เหลิ่งเม่ยรีบเข้ามาอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้านิ่งขรึม โค้งตัวพูดขึ้น“ขอโทษครับคุณถัง รบกวนเวลาพักผ่อนคุณหน่อยนะครับ”
ตรงที่ไม่ไกล ก็มีฉู่ยี่ที่ถูกบอดี้การ์ดสองคนกำลังกุมตัวไว้อยู่มองมายังถังลั่วเหยา คิดที่จะวิ่งตรงมายังเธอ แต่กลับถูกคนดึงเอาไว้
“ลั่วเหยา คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณไม่เป็นไรก็ดีมากแล้ว ผู้ช่วยนี่รั้งเอาไว้ไม่ยอมให้ผมไปเจอคุณ พวกมันกล้าดียังไง?”
เขาโกรธจนหน้าแดงไปหมด ถังลั่วเหยาเห็นแล้วก็ขมวดคิ้ว
จากนั้นก็พูดกับเหลิ่งเม่ย“ปล่อยเขามาเถอะ”
เหลิ่งเม่ยขมวดคิ้วทันที แน่นอนเขารู้ว่าฉู่ยี่เป็นใคร ถ้าไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับถังลั่วเหยาไม่ธรรมดา แล้วไปแตะต้องตัวเขาอาจจะทำให้ถังลั่วเหยาโกรธได้ ป่านนี้โยนเขาออกไปนานแล้ว
ไม่มีทางให้เขามาส่งเสียงดังรบกวนถังลั่วเหยาขนาดนี้แน่นอน
เหลิ่งเม่ยนิ่งสงบอยู่สองสามวินาที สุดท้ายก็กวักๆมือ ให้คนปล่อยฉู่ยี่ออกมา