กำลังคิดอยู่ พอเงยหัวขึ้นก็เห็นเฟิงยี่เดินเข้ามาพร้อมกับร้องเพลงไปด้วย
ท่าทางของเขาดูอารมณ์ดีมากๆ ไม่มีสีหน้าแบบอารมณ์ไม่ดีหลังจากที่ทะเลาะกับคุณแม่เสร็จสักนิดเลย
ถังลั่วเหยารีบลุกขึ้นมาเดินไปหา
“คุณป้าเป็นยังไงบ้างแล้ว ยังโกรธมากอยู่ใช่ไหม”
แต่นึกไม่ถึงเลยว่า พอเฟิงยี่เห็นเธอ ก็เหมือนกับคิดเรื่องดีใจอะไรขึ้นมาได้อย่างนั้น พุ่งเข้ามาหาทันที อุ้มเธอขึ้นมาหมุนหนึ่งรอบใหญ่ๆ อยู่ที่เดิม
ถังลั่วเหยาตกใจกับการกระทำนี้ของเขามาก กรี๊ดทีหนึ่ง เนิ่นนานถึงถูกเขาเอาลงมา
เธอตกใจจนสีหน้าซีดขาว หลังจากที่ได้สงบลง โมโหจนเอามือทุบไหล่ของเขาทีหนึ่ง
“คุณเป็นอะไรเนี่ย ฉันตกใจหมดเลย!”
เฟิงยี่ยิ้มพูด: “แค่นี้ก็ตกใจแล้วเหรอ ผมก็นึกว่าคุณกล้ามากเลยนะ”
ถังลั่วเหยาจ้องเขาทีหนึ่ง เขาจึงรีบเก็บรอยยิ้มกลับไป เอาเธอลงมา
“เหยาเหยา มีเรื่องหนึ่ง ผมอยากจะปรึกษากับคุณหน่อย”
ถังลั่วเหยาเห็นเขาอยู่ๆ ก็จริงจังขึ้นมา แอบตะลึงเล็กน้อย ถามขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ “เรื่องอะไรอ่า”
เฟิงยี่คิดไปคิดมา จู่ๆ พูดว่า “คุณรอผมสักครู่”
พูดจบ ก็วิ่งออกไปข้างนอกทันที
ถังลั่วเหยาอึ้งเล็กน้อย ไม่ค่อยเข้าใจผู้ชายคนนี้ตกลงอยากทำอะไรกันแน่
ผ่านไปไม่นาน ก็เห็นเขาวิ่งกลับมาอย่างเร่งรีบ เนื่องจากวิ่งเร็วเกินไปแล้ว ยังหอบไม่หยุดเลย
เห็นแค่ในมือของเขาถือเอกสารไว้หนึ่งกอง วางเอกสารไว้บนโต๊ะก่อน จากนั้นหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ นำบัตรเครดิตทั้งหมดที่อยู่ข้างในออกมา
ถังลั่วเหยาดูทุกอย่างนี้อย่างมึนงง ยังไม่ได้ตั้งตัว จู่ๆ ก็เห็นเขานำสิ่งของทุกอย่างมาทางตัวเอง “ผัวะ”เสียงหนึ่ง คุกเข่าลงมาข้างหนึ่ง
“เฮ้ย คุณเป็นอะไรอ่า”
ถังลั่วเหยาตกใจมาก ยื่นมือไปดึงเขาอย่างอัตโนมัติ
แต่กลับถูกเฟิงยี่ปฏิเสธ
เขามองถังลั่วเหยาอย่างตั้งอกตั้งใจ กล่าวว่า: “เหยาเหยา ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงสามารถแสดงความในใจออกมาได้ ความโรแมนติกทุกอย่างในเวลานี้ ดูเหมือนจะเกินจริงมากไปและไม่จริงใจพอ”
ดังนั้น ผมจึงต้องใช้วิธีที่ดั้งเดิมและตรงที่สุดบอกคุณว่า ผมรักคุณ คำพูดที่ผมบอกคุณแม่ว่าจะแต่งงานกับคุณเมื่อกี้ คือเรื่องจริงทั้งหมด ไม่ใช่คำพูดอันใจร้อนที่พูดออกมาเพื่อหลอกลวงท่านแค่นั้น
“เหยาเหยา ทั้งหมดนี้คือโฉนดที่ดินของผม และยังมีใบหุ้นกับกองทุนหุ้นต่างๆ เหล่านี้คือบัตรเครดิตทั้งหมดของผม รหัสเขียนไว้ด้านหลังหมดเลย ผมไม่มีอะไรอย่างอื่นสามารถให้คุณได้ มีแต่สิ่งเหล่านี้อย่างเดียว หวังว่าคุณจะเชื่อใจผม ถึงแม้ในอนาคตผมจะไม่ใช่คุณชายรองของตระกูลเฟิงอีกแล้วก็ตาม ไม่สามารถพึ่งพาตระกูลเฟิงอีกต่อไป ผมก็สามารถใช่สองมือของตัวเอง สร้างอนาคตอันสวยงามให้คุณได้!”
จู่ๆ ถังลั่วเหยาก็อึ้งอยู่กับที่
เธอมองเฟิงยี่อย่างงุนงง ในหัวว่างเปล่าหมดเลย
“คุณ นี่คือ…”
เฟิงยี่ถือเอกสารกองนั้นและบัตรเครดิตในมือ กล่าวอย่างจริงจัง: “เหยาเหยา แต่งงานกับผมนะ!”
หลังจากที่ถังลั่วเหยาตะลึงไปสักพัก เพิ่งจะรู้สึกตัวได้ ทันใดนั้นไม่รู้ควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ในใจเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่นับไม่ถ้วน รอบดวงตาก็เริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย
แต่พอเผชิญสายตาอันจริงใจของผู้ชายคนนั้น จู่ๆ ก็รู้สึกว่าความขี้ขลาดของตัวเองก่อนหน้านี้ตลกและโง่เขลามาก!
เฟิงยี่สังเกตการเปลี่ยนแปลงสีหน้าของเธออย่างใกล้ชิดตลอดเวลา ถึงแม้ภายนอกเขาจะมีท่าทางดูเหมือนทุกอย่างอยู่ในมือของตัวเอง แต่ใครจะรู้ ในใจเขาตอนนี้กังวลแค่ไหน
เขากลัวมาก ว่าถังลั่วเหยาจะปฏิเสธตัวเอง!
เพราะยังไงแล้วก่อนวันนี้ ขนาดจะอยู่กับตัวเองอย่างจริงจังหรือไม่เธอก็ยังไม่ได้คิดเลยด้วยซ้ำ!
อย่างไรก็ตาม กลับเห็นถังลั่วเหยาเม้มปาก กล่าวด้วยเสียงบ่น: “แค่นี้ก็อยากจะให้ฉันแต่งงานกับคุณแล้วเหรอ ไม่มีทาง!”
สีหน้าเฟิงยี่เปลี่ยนไป
ในที่สุด…
เธอก็ไม่ตกลงเหรอ
เขายิ้มอย่างพยายาม “เหยาเหยา ไม่เป็นไรหรอก ถ้าวันนี้คุณยังคิดไม่ได้ ความจริงไม่ต้องตอบผมเร็วขนาดนี้ก็ได้ ผมให้เวลาคุณไปคิดก่อนก็ได้…”
แต่คำพูดยังไม่จบ
จู่ๆ ก็ได้ยินเธอพูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง “ยังไงก็เป็นการขอแต่งงาน ขนาดดอกไม้และแหวนยังไม่มีเลย แค่กระดาษขาวกองหนึ่งกับบัตรเย็นๆ นี้คืออะไรเนี่ย”
เฟิงยี่อึ้งอยู่กับที่
ผ่านไปแล้วหลายวินาที จึงตั้งสติได้ว่าเธอหมายความว่าอะไร
ทันใดนั้นดีใจมาก!
เขากระโดดขึ้นมาอย่างดีใจ กุมมือของเธอเอาไว้
“เหยาเหยา ก็คือว่าคุณตกลงแล้วใช่ไหม”
ความจริงในใจถังลั่วเหยาตกลงไว้ตั้งนานแล้ว
ผู้ชายคนนี้ ทำเพื่อตัวเองถึงขั้นนี้แล้ว เธอยังจะหวังสูงอะไรอีก
เป็นคนก็ต้องรู้จักเพียงพอไม่ใช่เหรอ
ส่วนเรื่องอื่น ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเถอะ!
เขาเองก้าวออกมาเก้าสิบก้าวแล้ว ที่เหลืออีกสิบก้าวนั้น ตัวเองยังไม่ยอมก้าวออกมาก็ไม่ได้!
ถังลั่วเหยาพยักหน้าอย่างเขิน เฟิงยี่ดีใจจนอุ้มเธอขึ้นมาทันที หมุนอยู่ที่เดิมอีกหลายรอบ
ครั้งนี้ ถังลั่วเหยาเตรียมใจไว้แล้ว จึงไม่ได้ตกใจ
แต่เห็นเขาดีใจจนอย่างกับเด็กแบบนั้น และตัวเองก็ดีใจตามด้วย รอบดวงตากลับร้อนขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
ตกลงเขาชอบตัวเองขนาดไหน จึงจะดีใจเป็นแบบนี้เมื่อตัวเองตอบตกลง!
“เหยาเหยา ผมดีใจมากๆ เลย! คุณรู้ไหม ว่าผมฝันว่ามีวันนี้มานานแค่ไหนแล้ว! ”
เฟิงยี่อุ้มเธอไว้หมุนหลายรอบแล้ว จึงจะวางเธอลงมา
เหมือนกับกลัวว่าเธอจะหนีอย่างนั้น กอดเธอไว้ในอ้อมกอดแน่นๆ อีก กอดได้หลายนาทีแล้ว จึงยอมปล่อยเธอออก
“เหยาเหยา คุณรีบหยิกผมดูสิ ว่าผมกำลังฝันอยู่หรือเปล่า”
เขาทำให้ถังลั่วเหยารู้สึกขำมาก จึงยื่นมือออกไป หยิกเนื้อนุ่มตรงเอวของเขาทีหนึ่งจริงๆ
เฟิงยี่เจ็บจนแสยะยิ้มอย่างทรมานทันที ถังลั่วเหยายิ้มพูดว่า: “เป็นไง ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าไม่ใช่ฝัน”
เฟิงยี่ขำออกมา
“รู้แล้ว ว่าไม่ใช่ฝัน”
เขายื่นมือกุมหน้าของเธอไว้ จู่ๆ ก็ก้มหน้าลง จูบริมฝีปากของเธอแรงๆ
“เหยาเหยา ขอบคุณที่ยอมตกลงกับผมนะ”
ถังลั่วเหยาได้ยินน้ำเสียงจริงจังแบบนี้ของเขา ทันใดนั้นในใจก็รู้สึกตื้นตันขึ้นมาทันที เม้นปากและพูดเบาๆ ว่า: “ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก ที่ฉันตอบตกลงไม่ใช่เพราะฉันรู้สึกซึ้ง แต่คือฉันก็ชอบคุณเหมือนกัน เหมือนกับที่คุณชอบฉันแบบนั้น ขนาดคุณยังกล้าหาญขนาดนี้แล้ว ฉันก็ไม่อยากเสียความรักนี้ไปเหมือนกัน ดังนั้น เราสองคนลองกล้าดูสักครั้ง ดีไหม”
ในใจเฟิงยี่ตื่นเต้นมาก พยักหน้าแรงๆ
“ดี!”
ทันใดนั้น เหลิ่งเม่ยก็ถือสมุดทะเบียนบ้านกลับมาแล้วเหมือนกัน
ตู๋กูยิงคนนี้ ถึงแม้บางครั้งจะคมชัดและไร้ความปรานี
แต่อีกด้านหนึ่งแล้ว ความจริงก็เป็นคนแรงที่พูดแล้วทำได้คนหนึ่ง
เธอบอกแล้วว่าให้เฟิงยี่กับถังลั่วเหยาแต่งงานกัน ก็จะไม่คืนคำอีกเด็ดขาด แต่งานแต่งงานที่หลังจากนี้ ก็ต้องพึ่งเขาสองคนเองแล้ว
และเธอยังมีการฝากคำพูดให้เหลิ่งเม่ยมาบอกเฟิงยี่อีกด้วย
ประโยคนั้นเธอพูดแบบนี้
ฉันสามารถตกลงเงื่อนไขที่นายบอกได้ แต่ต้องเพิ่มอีกหนึ่งข้อเข้าไปในสิ่งที่ตกลงได้ก่อนหน้านี้
นั่นก็คือว่า ให้ระยะเวลาเป็นหนึ่งปี ภายในหนึ่งปี ถ้าถังลั่วเหยาเหมือนอย่างที่เธอพูดแบบนั้น ทนชีวิตแบบนั้นไม่ได้และเลิกกับเขา