วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 675 ฉากที่ดีจริงๆ

แฟน ๆ ที่คิดถึงซูหว่านจำนวนมากปรากฏขึ้นทันทีในพื้นที่แสดงความคิดเห็น

ถึงแม้เวลาจะผ่านไปกว่ายี่สิบหกปีแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้คนมักหลงลืม ผู้คนและสิ่งที่พวกเขารักและชื่นชอบจะค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา

แต่วิดีโอและรูปถ่ายเหล่านั้นเป็นของจริง ผ่านไปยี่สิบหกปีแล้ว เมื่อนำออกมาอีกครั้งก็ยังเพราะเหมือนเดิม ก็ยังคงสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้คนได้

ทุกคนได้ดูวิดีโอการแสดงเหล่านั้นแล้วรู้สึกเหมือนถูกดึงย้อนกลับไปในความทรงจำของตนเมื่อยี่สิบหกปีก่อนในทันใด

ผู้หญิงที่ดูสดใสคนนั้นยืนอยู่หน้าเวที เปล่งแสงและความร้อนของเธอออกมา แผ่ความอบอุ่นและความหวานไปทั่ว

ทันใดนั้น พื้นที่แสดงความคิดเห็นก็น้ำตาท่วมจอ และทุกคนต่างพากันตะโกน คิดถึงซูหว่านเป็นอย่างมาก

ส่วนคนที่ไม่รู้เรื่องราวและเป็นกลุ่มแฟนคลับใหม่ๆ เมื่อเห็นพื้นที่แสดงความเห็นนี้แล้วก็เริ่มเกิดความสงสัย

แม้จะไม่ใส่ใจ แต่ก็คิดว่ามันคือการสร้างกระแส

เป็นไปได้ว่าศิลปินคนนั้นไม่ดังแล้ว ตอนนี้อยากจะกลับเข้าวงการ ดังนั้นจึงจงใจหาเรื่องโปรโมท

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาดูวิดีโอการแสดง อ่านชีวประวัติของซูหว่าน และค้นหาเพลงของเธอมาฟัง

เพียงชั่วพริบตากลุ่มแฟนก็ต้องยอมรับว่า ต้องบอกว่าเธอสวยและเพลงก็เพราะ

เธอเป็นนางฟ้าหรืออย่างไร

พอรู้ว่าเธอผู้เป็นดั่งนางฟ้าคนนี้มีชื่อเสียงแต่กลับมีชีวิตที่แสนสั้นเหมือนดอกไม้ที่ร่วงโรย ทันใดนั้นก็มีเสียงคร่ำครวญอีก

กระแสแรงปรากฏขึ้นในพื้นที่แสดงความคิดเห็น!

เรื่องทั้งหมดบนโลกอินเทอร์เน็ตนั้น ตัวที่ซูหว่านกำลังเป็นประเด็นอยู่นั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย

หลายปีมานี้ เธออยู่ต่างประเทศมาตลอดและคนที่อยู่ข้างเธอก็มีเพียงเวินเหวินจวิน

เธอไม่อยากรับรู้ข่าวจากในประเทศและยิ่งไม่อยากจะได้ข่าวของคนคนนั้น เพื่อไม่ให้จิตใจที่กว่าจะทำให้มันสงบนิ่งอย่างยากลำบากต้องสั่นไหวขึ้นอีกครั้ง

ดังนั้นเธอจึงไม่เล่นอินเทอร์เน็ตและอยู่อย่างสันโดษ

เธออยากจะให้ตัวเองอยู่ตรงนั้นอย่างสงบสุขและใช้ชีวิตไปเพียงวันๆ

แต่วันหนึ่งหมอบอกกับเธอว่าเธอมีชีวิตเหลืออยู่ไม่ถึงสามเดือนแล้ว

เธอรู้ว่ามีชีวิตเหลืออีกไม่นาน

ในระหว่างที่เธอเหลือเวลาอย่างจำกัด เธอจึงได้คิดว่าตนเองอยากจะทำอะไร และสิ่งที่ตนเองต้องการที่สุดคืออะไร

แต่ผลสุดท้ายกลับเป็นเธอแค่อยากจะกลับมา

เธออยากจะกลับมาไม่ใช่เพื่อต่อสู้อะไรหรือพิสูจน์อะไร

แต่เพียงเพื่อได้กลับมายังสถานที่ที่คุ้นเคย ได้สูดดมกลิ่นหอมที่คุ้นเคย และได้ดู…ได้เห็นคนที่เคยคุ้นเคยและรักสุดหัวใจ

นอกจากนี้ก็ไม่ขออะไรอีก

ดีที่เธอได้พบกับตู๋กูยิงก่อนหน้านี้แล้ว

คนที่เธอติดค้างมาตลอดชีวิต ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะมีชีวิตที่ดี

เธอควรจะต้องมีชีวิตที่เธอ คนแบบเธอ ปากร้ายใจดี ข้างนอกดูโหดร้าย แต่ความจริงในใจเธอกลับใจอ่อนเสียยิ่งกว่าอะไร

เธอสมควรจะมีความสุข

นอกจากนี้ แล้วคนคนนั้นล่ะ?

เธอเคยลังเลว่าจะไปเจอเขาดีไหม แต่สุดท้ายก็ปล่อยมันไป

ปล่อยให้เรื่องมันจากไปเหมือนควันและให้ควันนั้นลอยจางไปกับสายลม เธอคิดว่าทั้งหมดนี้ควรจะจบไปตั้งแต่บ่ายวันนั้นเมื่อยี่สิบหกปีก่อนแล้ว

การที่เธอกลับมาตามอำเภอใจก็ถือว่าผิดแล้ว ก่อนจะตายก็อย่าไปเพิ่มความยุ่งยากให้คนอื่นเลยจะดีกว่า

อย่างไรก็ตามกลับคิดไม่ถึงว่าจะมีคนเอารูปถ่ายของเธอไปโพสต์ในอินเทอร์เน็ต

ขณะนี้ที่บ้านตระกูลเฟิง

เฟิงสิงลังกับตู๋กูยิงนั่งอยู่บนเตียงและเตรียมตัวจะทำกิจกรรมก่อนเข้านอน นั่นก็คือการไถโทรศัพท์มือถือ

เมื่อก่อนเฟิงสิงลังไม่มีนิสัยแบบนี้ เมื่อก่อนเขาติดการอ่านหนังสือ

แต่ภายหลังเฟิงเหยี่ยนมักจะพูดกับเขาว่าคนเมื่ออายุมากขึ้นจะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ บ้าง ไม่ควรจะเอาแต่ดูหนังสือพิมพ์หรืออ่านหนังสือ แล้วไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบนโลกออนไลน์บ้าง

อย่ามองว่าตอนนี้เขาเก่งแค่ไหน โลกปัจจุบันนี้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว หากไม่เรียนรู้ตามให้ทันโลก ก็จะถูกทิ้งให้ล้าหลังไปตามกาลเวลา

เฟิงสิงลังได้ยินแบบนั้นแล้วก็เริ่มคิดอย่างจริงจังและคิดว่าเป็นคำพูดที่สมเหตุผล

ต่อให้ไม่ชอบดูข่าวซุบซิบอะไรนั่น แต่ก็เล่นอินเทอร์เน็ตเพื่อทำความเข้าใจความคิดและการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นประโยชน์กับการดำเนินกิจการเหมือนกันนะ

ตั้งแต่นั้นมา ประธานเฟิงซื่อกรุ๊ปที่สง่างามก็เรียนรู้ที่จะทำสิ่งนี้ก่อนเข้านอน นั่นคือการไถโทรศัพท์มือถือของเขา

ยิ่งกว่านั้นตู๋กูยิงยังติดนิสัยเล่นเกมไพ่นกกระจอกในโทรศัพท์มือถือก่อนนอน

และไม่ใช่การเล่นกับผู้เล่นที่เป็นเอไอแต่เป็นการนัดกับเพื่อนๆ ของเธอมาเล่นออนไลน์ ถึงจะใช้โทรศัพท์มือถือแต่พอถึงเวลาแพ้ชนะก็ต้องจ่ายเงินจริงๆ

ทุกคืนจะต้องใช้เสียงเล่นไพ่นกกระจอกไม่ได้สักสี่ห้าเกมแล้วนอนไม่หลับ

นานๆ เข้า ก็ติดกลายเป็นนิสัยของทั้งคู่ไปแล้ว

แต่ในคืนนี้ตู๋ก็ยิงกลับไม่ได้เล่นไพ่นกกระจอกอย่างคาดไม่ถึง

เฟิงสิงลังเองก็ไม่ได้เปิดดูประเด็นข่าวฮอตอะไรนั่น ทั้งสองถือโทรศัพท์แน่นและมองไปที่โพสต์ร้อนแรงในคอลัมน์ซุบซิบบันเทิง

น่าแปลกที่มีคนโพสต์ว่าเจอซูหว่านโดยบังเอิญบนถนน

ตู๋กูยิงกลับมีสีหน้าสงบเพราะเธอเจอซูหว่านเป็นการส่วนตัวมาก่อนหน้านั้นแล้ว

เธอรู้ว่าโพสต์นั้นเป็นเรื่องจริง ซูหว่านตัวจริงยังมีชีวิตอยู่

อย่างน้อยเมื่อยี่สิบหกปีก่อนก็เป็นตัวเธอเองที่ทนไม่ได้และให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อไป

แต่เธอรู้ว่ามันไม่ได้หมายความว่าเฟิงสิงลังจะรู้ด้วย

เมื่อเห็นเฟิงสิงลังถือโทรศัพท์ด้วยท่าทางตกใจ ดวงตาของตู๋กูยิงหรี่ลงเล็กน้อยแล้วเธอก็เยาะเย้ย: “เป็นไง? เห็นภาพคนรักเก่าของตัวเองแล้ว ตื่นเต้นจนพูดไม่ออกเลยรึไง?”

เฟิงสิงลังได้สติในทันที เขาหันไปมองเธอและหันกลับไปดูรูปในโทรศัพท์และขมวดคิ้ว

“บัญชีพวกนี้ทำมากไปแล้ว ข่าวอะไรก็กล้าลง แม้แต่คนที่ตายไปแล้วก็ยังไม่วาย! มีอย่างที่ไหนกัน!”

เขาพูดและโมโหเล็กน้อย อยากจะโทรไปให้คนจัดการโพสต์นี้เสีย

อย่างไรก็ตามยังไม่ทันที่จะโทรออกก็ถูกตู๋กูยิงห้ามไว้ก่อน

ตู๋กูยิงมองเขาแล้วยิ้มและพูด: “ทำไมรีบล่ะ? คนเขามีรูปเป็นหลักฐานแน่นหนา ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้นะ คุณโทรไปจะถือว่าเป็นการทำลายเบาะแสเดียวที่มีรึเปล่า?”

เฟิงสิงลังได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งขมวดคิ้วหนักเข้าไปอีก

“เป็นไปไม่ได้! ตอนนั้นผมเป็นคนนำทีมออกไปค้นหาเอง ทะเลกว้างใหญ่ขนาดนั้น ไม่มีระบบช่วยชีวิตและไม่มีเกาะที่อยู่ใกล้เคียง คนที่ตกลงไปถึงวันสองวันไม่มีทางรอดได้”

ตู๋กูยิงได้ยินแล้วยิ้มเยาะแต่ไม่พูดอะไร

เฟิงสิงลังกดโทรออกและสั่งคนที่ปลายสาย “ไปดูว่าใครเป็นคนโพสต์เรื่องซูหว่านบนอินเทอร์เน็ต ให้เขาลบมันซะ! ต่อไปข่าวพวกนี้ห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่อีก!”

คนทางปลายสายรับคำสั่งอย่างรวดเร็วและทำตามทันที

หลังจากวางสายไป เขาวางโทรศัพท์ พอหันไปก็สังเกตว่าสีหน้าของตู๋กูยิงดูเฉยเมย

เขาไม่ใช่คนโง่ เขากลอกตาเล็กน้อยและเข้าใจอะไรบางอย่าง

อธิบายอย่างจริงใจ: “ยิงยิง ผมไม่ได้มีความหมายเป็นอื่นนะ เพียงแต่ว่าในเมื่อสุดท้ายแล้วซูหว่านเป็นคนที่ไม่มีใคร ผมไม่คิดว่าจะมีใครเอาชื่อของเธอมาหากินหลังจากเธอตายหรอกนะ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset