เก้าอี้เหล็กมีเบาะที่หนา จึงไม่ทำให้คนรู้สึกอึดอัด
ชายามเช้าและของว่างที่เพิ่งส่งโดยคนใช้ก็วางอยู่บนโต๊ะข้างๆ พวกเขา บวกกับจานผลไม้ที่เพิ่งเสิร์ฟโดยตู๋กูยิง ซึ่งทำให้ชายามเช้าสมบูรณ์แบบ
ตอนนี้เป็นสภาพอากาศในเดือนมีนาคมและเมษายน การดื่มชาและอาบแดดท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาแห่งความสบาย
ตู๋กูยิงจิบชา หรี่ตาลงเล็กน้อย และใบหน้าของเธอดูร่าเริง
เฟิงสิงลังที่อยู่ข้างๆนั้น รู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรม
เขาชำเลืองมองดูตู๋กูยิงอย่างระมัดระวัง และถามอย่างไม่แน่นอนว่า: “ที่รัก น้ำชายามเช้านั้น…มีของผมด้วยหรือเปล่า?”
ตู๋กูยิงหยุดแล้วหันสายตาและชำเลืองมองที่เขา
“คุณก็อยากดื่ม?”
เฟิงสิงลังพยักหน้าซ้ำๆซากๆ
จากนั้น ก็เห็นตู๋กูยิงเทน้ำอุ่นหนึ่งแก้วจากกาน้ำข้างๆเขา
“ดื่มน้ำเถอะ ร่างกายบาดเจ็บอยู่จะดื่มทำไมชา?”
เฟิงสิงลัง:“……”
เขามองดูน้ำที่อยู่ตรงหน้าเขา และเขาไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ได้ครู่หนึ่ง
“ที่รัก ผมบาดเจ็บที่ขาและที่ซี่โครง แต่ไม่เจ็บที่กระเพาะ ดื่มชาไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง?”
“ใครพูด” ตู๋กูยิงโต้ตอบอย่างตรงไปตรงมา “ไม่เคยได้ยินว่าชาเป็นธาตุเย็นหรอ คุณอยากหายจากอาการบาดเจ็บนี้ ห้ามแตะปูหรือชาอะไรพวกนั้น ระวังตัวด้วยละกันคุณน่ะ”
ขณะที่เธอพูด เธอก็เมินเฉยเขา ดื่มชาของเธอและกินขนมของเธอต่อ
เฟิงสิงลังถูกเธอปฏิเสธในลักษณะนี้ ก็รู้แล้วว่าไม่มีความหวังที่จะดื่มชาในวันนี้อีก
ทำได้เพียงยกแก้วน้ำนั้นแล้วดื่ม
โชคดีที่บรรยากาศเงียบสงบ เขาก็ไม่สนใจว่าเขาจะดื่มอะไร
ทั้งสองคนก็นั่งเงียบๆ อาบแดด
ทั้งที่ช่วงนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น แต่ในขณะนี้ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ด้วยกัน ราวกับว่าใจของพวกเขาเชื่อมต่อกัน ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งนั้น
เพราะทั้งคู่เป็นคู่ครองกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว
หลายสิ่งหลายอย่าง มีความเข้าใจกันโดยไม่ต้องพูดออกมาที่เป็นของพวกเขาอยู่ในใจแล้ว
ไม่ต้องพูด และไม่อยากพูด ก็รู้หมดในพริบตาเดียว
ถึงจะเป็นอย่างนั้น หลังจากคิดแล้วคิดอีก สุดท้ายเฟิงสิงลังพูดถึงแผนการของ เวินเหวินจวินที่จะลอบสังหารเขากับเธอไป
ท้ายที่สุด ที่เขาจัดการเรื่องนี้อย่างนี้ ก็เพราะเห็นแก่หน้าของตระกูลตู๋กู
ตู๋กูยิงในฐานะผู้ยังมีชีวิตเพียงคนเดียวใน ตระกูลตู๋กูมีเหตุผลที่จะรู้เรื่องนี้
เมื่อตู๋กูยิงฟังจบแล้ว ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง เธอก็เล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับหลายครั้งที่ซูหว่านตามหาเขาเมื่อสองสามวันก่อน
เฟิงสิงลังฟังแล้ว อารมณ์ซับซ้อนมาก
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถอนหายใจ “ท้ายที่สุด เหตุการณ์นี้เกิดจากฉัน และมันก็เป็นความผิดของฉันด้วย ถ้าฉันไม่ลังเลเกินไปมันจะไม่ทำอันตรายทุกคนในวันนี้ ยิงยิง หลายปีนี้คุณไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย”
สีหน้าตู๋กูยิงดูแข็งทื่อ
นัยน์ตามืดมัวลงอย่างไม่สบายใจ แล้วแสร้งทำเป็นเฉยเมยด้วยเสียงเย็นยะเยือก
“ใครสนเรื่องคำพูดไม่ได้รับความเป็นธรรมของคุณ”
ถึงจะพูดแบบนั้น ในดวงตาก็อดไม่ได้ที่น้ำตาจะไหลพรากๆ
เฟิงสิงลังเห็นด้วยตาตัวเอง อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
จู่ๆเขาก็เอื้อมมือออกไปจับมือเธอ
“ที่รัก ผมรักคุณ”
ตู๋กูยิงแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ยินคำคำนี้
หรือจะพูดได้ว่า ผู้ชายบุคลิกล้ำลึกไม่เปิดเผยคนนี้ ก่อนหน้านี้เธอเคยได้ยินประโยคนี้กับหูตัวเองจริงหรือเปล่า?
เขาคนนี้ มักชอบแสดงการกระทำมากกว่าคำพูด มักทำหลายอย่างเงียบๆ แต่ไม่พูดอะไรออกมาเลย
ฉะนั้นในตอนนั้น เธอจึงได้ตั้งฉายาให้เขาว่า ท่อนไม้ใหญ่
เป็นดั่งท่อนไม้จริงๆ ไม่เข้าใจอะไรเลย
เดิมทีตู๋กูยิงคิดว่า ในชีวิตนี้ เธอจะไม่คาดหวังว่าจะได้ยินคำพูดหวาน ๆ จากปากของเขาอีกต่อไป
แต่ ณ วินาทีนี้ เขาได้พูดมันออกมา
เธอหันไปมองเขาอย่างไม่น่าเชื่อ
เห็นแต่เฟิงสิงลังจับมือเธอไว้ ถอนหายใจแล้วพูดว่า : “ผมเคยคิดมาตลอดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่ผมทำมันแล้ว ทุกคนก็จะเห็นสิ่งที่ผมทำแน่นอน พูดหรือไม่พูดไม่มีความสำคัญใดๆทั้งนั้น “
“แต่ฉผมกลับมองข้ามความควบคุมไม่ได้ของหัวใจมนุษย์ไป และประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไป นอกจากนี้ เรื่องของความรู้สึกเหล่านี้ ภายใต้การโดนขัดสีมากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งคุณไม่พูดถึงมันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสับสนกับความรู้สึกอื่นๆ ได้ง่ายขึ้นเท่านั้น”
“ยิงยิง ขอโทษนะ หลายปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยพูดคำพูดดีๆกับคุณเลย หลังจากนี้ผมจะชดเชยมันทีละนิดทีละน้อยเอง ”
“ผมเข้าใจแล้วว่า เกี่ยวกับด้านความรู้สึก มีแค่การกระทำอย่างเดียวไม่ได้ ก็ยังต้องมีการพูดอีก ถ้าไม่พูดมันก็ง่ายที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่เพียงแต่จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ตัวคุณเองก็จะเข้าใจผิดไปด้วย”
ทำเอาตู๋กูยิงช็อกหนักมาก
ในขณะนั้น ดูเหมือนเธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอถูกใครบางคนเปิดออก เขาได้เห็นความลับที่ซ่อนอยู่ลึกลงไปในหัวใจของเธอ
เธอกัดปากอย่างไม่สบายใจ และพูดว่า: “เข้าใจผิดอะไร ฉันไม่ได้เข้าใจคุณผิด”
“คุณเข้าใจผิด”
เฟิงสิงลังพูดอย่างแน่วแน่ว่า : “ผมไม่ได้โง่นะ ผมมองออก แต่เมื่อก่อนผมแค่ไม่เคยรู้วิธีพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ผมเพิ่งมีโอกาสในวันนี้ ดังนั้นผมจะบอกคุณทั้งหมดในครั้งเดียว”
เมื่อตู๋กูยิงฟังน้ำเสียงของเขา ดูเหมือนจะเปิดใจกว้าง มีท่าทางจะเปิดเผยและตรงไปตรงมา
ทันใดนั้นก็ตื่นเต้นขึ้นมา
เธออดไม่ได้ที่จะเม้มริมฝีปาก ด่าอยู่ภายในใจ นรก!
เธอก็อายุป่านนี้ละ ผู้ชายตรงหน้าเธอนอนอยู่ข้างๆเธอทั้งวันทั้งคืนมานานกว่า 20 ปี
แม้ว่าเธอปิดตาไว้ก็จะสามารถนึกภาพเขาได้ เธอจะตื่นเต้นเพราะเขาได้อย่างไร?
ถึงในใจจะคิดเช่นนี้ แต่ร่างกายที่แข็งทื่อของเธอก็ได้แสดงออกถึงความรู้สึกเธอในตอนนี้ได้
ได้เพียงแต่ฟังน้ำเสียงที่ลุ่มลึกของเฟิงสิงลังพูดว่า : “ผมรู้ คุณเข้าใจฉันผิดมาก่อนหน้านี้แล้ว คนที่ชอบคือซูหว่าน ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณก็คงตรวจหาชัดเจนแล้ว คืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเราเลย”
“แต่ในใจของคุณ คุณยังคงคิดว่าตอนที่คุณไปต่างประเทศ ผมใช้ซูหว่านเป็นตัวแทนของคุณและตกหลุมรักเธอ”
“ฉะนั้นหลายปีมานี้ ถึงคุณจะไม่พูด ผมก็รู้สึกได้ คุณมีความแค้นและความเกลียดชังต่อผม”
“ความเกลียดชังแบบนั้นบางครั้งทำให้ผมรู้สึกหมดหนทาง และผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เพราะไม่ว่าผมจะอธิบายอย่างไร มันก็ฟังดูเหมือนเป็นข้อแก้ตัวที่ไม่มีประโยชน์สำหรับคุณ”
“ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าคำพูดที่ผมพูดมานี้ คุณจะยอมเชื่อมันไหม แต่ผมก็ยังอยากจะบอกว่า ผมไม่เคยตกหลุมรักเธอเลย”
“ตอนนั้น คนที่ผมรักคือคุณ หลังจากแต่งงานมายี่สิบกว่าปีนี้ คนที่ผมรักก็ยังเป็นคุณ ตอนนี้คนที่ผมรักก็ยิ่งเป็นคุณ ยิงยิง ถ้าไม่เกินปัญหาอะไรขึ้น ทั้งชีวิตที่เหลือของผม ผมก็จะรักเพียงคุณ”
“ดังนั้นอย่าใช้ความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นเหล่านี้มาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเราตกลงไหม? หลังจากอยู่ร่วมกันมาหลายปี คุณน่าจะเข้าใจตัวผมมากพอ”
“คุณรู้ดี ว่าผมเป็นคนอย่างไร ผมไม่ต้องการที่จะหลอกลวงคุณ และมันไม่จำเลย ผมแค่รู้สึกว่า ทั้งชีวิตของคนเราได้พบคนที่ตัวเองรักจริงๆ มันไม่ง่ายเลย ”