รักแท้ ไม่อาจเสื่อมสลายไปตามการเปลี่ยนผันของกาลเวลา แต่เป็นเหมือนเหยือกเหล้าใบหนึ่ง
เวลาสามารถเพิ่มเพียงความเข้มข้นและระดับความลึกเท่านั้น แต่จะไม่เปลี่ยนแก่นแท้ว่านั่นคือเหยือกเหล้าอยู่วันยังค่ำ
ย้อนกลับไปตอนแรกเริ่ม ตอนเธอแต่งงานกับลู่จิ่งเซิน ครึ่งหนึ่งเธอถูกบีบบังคับแต่อีกครึ่งหนึ่งก็ยินยอมด้วยเช่นกัน
ในเวลานั้น เธอไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเราสองคนจะมาได้ไกลขนาดนี้
จนถึงตอนนี้ หลังจากที่อยู่กับเขามานาน โดยที่ไม่ทันตั้งตัว เวลาก็ผ่านมานานขนาดนี้แล้ว
มุมปากของเธอค่อย ๆ ยกขึ้นยิ้มกว้าง มองเขา และพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันก็ด้วย คิดถึงเธอทุก ๆ ชั่วโมง ทุก ๆ นาทีเลย”
ประโยคนี้ ทำให้ฝ่ายชายมีความสุขที่สุด
รอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าที่หล่อเหลานั้น เพียงครู่เดียวก็ลึกขึ้นทันใด
มุมปากของเขายิ้ม และในที่สุดก็กลายเป็นรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข
“อีกสามวันจะกลับมาใช่ไหม?”
“อืม”
“เมื่อถึงเวลานั้นผมจะไปรับคุณที่สนามบินเอง”
“โอเค” จิ่งหนิงหยุด และเตือนอย่างระมัดระวัง “อย่าไปเร็วนักล่ะ กะเวลาให้เหมาะสมก็พอแล้ว แล้วก็ระมัดระวังด้วยเวลาขับรถ”
ลู่จิ่งเซินพยักหน้า และทั้งสองก็พลอดรักในวิดีโอครู่หนึ่ง เขาก็เดินทางมาถึงบริษัท จากนั้นพวกเขาก็ส่งจูบบอกลากัน
หลังจากวางสายวิดีโอ อาหารเช้าก็เย็นซะแล้ว
จิ่งหนิงแทบอยากจะติดตามดูเขาทุกขณะ ใครจะดูแลเรื่องอาหารการกินให้เขา?
ดังนั้น หลังจากที่กันคุยไปครึ่งชั่วโมง อาหารที่เพิ่งกินไปไม่กี่คำ ตอนนี้กลับมากินต่ออีกครั้ง อาหารก็เย็นชืดหมดแล้ว
เธอไม่ชอบกินทิ้งกินขว้าง ดังนั้นจึงช่วยไม่ได้ หยิบข้าวกลับไปให้ห้องอาหารอุ่นให้ใหม่อีกครั้ง
หลังจากกินอาหารเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็กลับไปพักผ่อนที่ห้อง
หลังจากซ้อมมาหนึ่งวันเต็มจิ่งหนิงรู้สึกเหนื่อยล้า อาบน้ำเสร็จ เล่นมือถือสักพัก เธอก็ผล็อยหลับไป
วันรุ่งขึ้น ก็ยังเป็นวันฝึกเต็มวันเหมือนเดิม
แต่ที่ต่างคือ ตอนเวลาบ่าย ๆ ใกล้ค่ำ เธอออกไปข้างนอก ถือโอกาสนำงานที่เธอต้องทำในการมาครั้งนี้มาจัดการให้เรียบร้อย
อาจเป็นเพราะโดนปฏิเสธไปเมื่อวาน วันนี้ Bob ไม่ได้มายุ่มย่ามพยายามจะตีสนิทอีกเลย
เขากำลังดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อจะส่งมอบกุญแจให้พวกเธอ แต่เมื่อมองไปที่โม่หนาน สายตาของเธอก็ยังคงเต็มไปด้วยความคับข้องใจและไม่เต็มใจอยู่
โม่หนานแสร้งทำเป็นเพิกเฉย
จิ่งหนิงกลั้นขำไว้ไม่อยู่
หลังจากการฝึกเสร็จ จิ่งหนิงรู้สึกว่าสภาพในตอนนี้ถูกปรับปรุงจนพอใช้ได้แล้ว แม้ว่ายังไม่สามารถเทียบกับช่วงที่รุ่งโรจน์ของเธอครั้งก่อนได้อย่างสมบูรณ์ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีปัญหาที่จะชนะเกมนี้
ดังนั้น ในคืนนั้น หลังจากที่เธอและโม่หนานกลับมาที่โรงแรม พวกเธอก็พักผ่อนอย่างวางใจ
แค่รอเวลาให้ถึงช่วงบ่ายของวันถัดไปเพื่อจะตรงไปที่สนามกีฬา
เป็นคืนที่นอนหลับฝันดี เธอหลับยาวจนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น
หลังจากที่จิ่งหนิงตื่นขึ้น เธอก็ตรงไปยังสถานที่แข่งขันกับโม่หนาน
Flying เป็นงานแข่งรถประจำปีที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการยอมรับมากที่สุดในวงการธุรกิจการแข่งรถ และยังเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดอีกด้วย
คนที่มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน โดยพื้นฐานแล้วคือบุคคลชั้นนำในแวดวงนี้
เป็นเพราะเหตุนี้เอง จึงได้เป็นขวัญใจจากผู้ชมประเทศต่าง ๆ ที่ชื่นชอบการแข่งรถ
การแข่งขันจะมีทั้งหมดสองประเภท
หนึ่งคือทีมตัวแทน อีกหนึ่งคือประเภทบุคคล
จิ่งหนิงไม่มีทีม ดังนั้นเธอจึงเป็นประเภทบุคคล
ทุกคนเมื่อได้ยินชื่อนี้ครั้งแรก ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร
เพราะว่า ชื่อนี้ไม่เคยปรากฏบนสนามแข่งมาก่อน ฟังแล้วก็เหมือนจะเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ดังนั้น ทุกคนจึงคิดว่าเป็นนักแข่งหน้าใหม่ที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน
จนกระทั่งเธอปรากฏตัวออกมา ก็ทำให้คนทั้งสนามตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
ว้าว! ช่างเป็นสาวภาคตะวันออกที่งดงามอะไรเช่นนี้!
สถานะนักแสดงเมื่อก่อนของจิ่งหนิงจริง ๆ แล้วอยู่แต่ในแวดวงจีนเท่านั้น ประกอบกับเธอใช้เวลาถ่ายทำไม่นานนัก ใช้เวลาเพียงหนึ่งปีครึ่งเท่านั้น และที่มีไม่ได้ถ่ายทำอีกสองเรื่อง
ดังนั้น ความนิยมของเธอจึงจำกัดอยู่ในวงแคบ และผู้คนที่นี่ก็ไม่รู้จักเธอเช่นกัน
เมื่อเห็นเธอ ก็คิดเพียงว่าผู้หญิงคนนี้สวยมาก เต็มไปด้วยออร่า ดูไปดูมาเธอดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่เลย
เมื่อก่อนเธอเคยเข้าร่วมการแข่งขันภายใต้ชื่อ Seven ตามคำร้องขอของกู้ซือเฉียน เธอจึงสวมหน้ากากไว้ ดังนั้นแม้ว่าจะมีเรื่องเล่าที่ถูกเล่าลือมากมายเกี่ยวกับเธอในโลกของการแข่งรถ แต่อันที่จริง แทบไม่มีใครเห็นตัวจริงของเธอเลย
ด้วยเหตุผลนี้ เมื่อจิ่งหนิงปรากฏตัว จึงไม่มีใครรู้จักเธอ
โม่หนานยังคงติดตามเธอ โดยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของเธอ
เมื่อถึงเวลาขึ้นรถ โม่หนานก็ต้องตามเธอขึ้นไปบนรถด้วย
โชคดีที่โม่หนานเคยเรียนการแข่งรถมาก่อน และเนื่องจากเธอมีพื้นฐานที่ดีในด้านศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นการทำสิ่งเหล่านี้ จึงค่อนข้างง่ายสำหรับเธอ
การแข่งขันแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม ทุกคนจะได้แข่งกันทั้งหมดสามกลุ่มด้วยกัน ต้องชนะและกำจัดคนที่อ่อนแอที่สุดออก และสองกลุ่มสุดท้ายจะถูกคัดเลือกให้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายคือ PK
ในสามกลุ่มแรก จิ่งหนิงชนะโดยไม่มีข้อสงสัย
คนอื่น ๆ ชนะสามต่อสอง อย่างไรก็ตามผู้เล่นที่มาที่นี่เพื่อเข้าร่วมแข่งขัน โดยพื้นฐานแล้วมีระดับเท่า ๆ กัน
ความสามารถในการชนะสองในสามเกม นั้นน่าทึ่งอยู่แล้ว
แต่จิ่งหนิงชนะทั้งสามเกม และบดขยี้คู่ต่อสู้โดยตรง
หลังจบการแข่งขัน หลังจากลงจากรถ คู่ต่อสู้ดูตกตะลึงอย่างมาก สงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองเห็นเมื่อครู่ไม่ใช่ผู้เล่น แต่เป็นสัตว์ประหลาด
จิ่งหนิงยิ้มอย่างเขินอาย และพูดว่ามันเป็นโชค ความจริงเขาทำได้ยอดเยี่ยมแล้ว
ฝ่ายตรงข้าม “……”
ทำหน้าเฉยเมย
โชคก็บ้าแล้ว!
แต่จะทำอย่างไรได้ นี่คือการแข่งขัน แพ้ก็คือแพ้
แพ้แล้วก็ต้องยอมรับมัน ดังนั้นจิ่งหนิงคว้าตั๋วการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศไปได้สำเร็จ
อีกคนที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศกับเธอคือเก๋อเซ่อเลี่ย
เขาเป็นคนชาวอินโดนีเซีย จิ่งหนิงได้ดูเขาแข่งเมื่อครู่ เขาโหดมาก แต่ยังแย่กว่าเธออยู่เล็กน้อย
ถึงจะเป็นเช่นนั้น โม่หนานก็อดไม่ได้ที่จะวิตกกังวลแทนเธอ
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจัดขึ้นตอนเย็น ช่วงเวลาก่อนหน้านั้นเป็นเวลาที่ผู้เล่นทั้งสองจะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
จิ่งหนิงพาโม่หนานมานั่งในห้องรับรอง ในหัวก็คิดแต่เรื่องการแข่งเย็นวันนี้ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังโวยวายมาจากข้างนอก
เธอเลิกคิ้ว แปลกใจเล็กน้อย
ให้โม่หนานออกไปดู ไม่นาน โม่หนานก็เข้ามา
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเธอดูลำบากใจที่จะพูด จิ่งหนิงก็เลิกคิ้วขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้เธอพูด เธอก็พูดว่า “พูดไปคุณคงไม่เชื่อแน่ ๆทายสิว่าฉันเพิ่งเห็นใคร?”
จิงหนิงส่ายหัว “เธอเป็นคนเห็น แล้วฉันจะรู้ได้อย่างไร?”
โม่หนานถอนหายใจ “ฉันเห็นผู้เล่นที่ชื่อเก๋อเซ่อเลี่ยตอนนี้เขากำลังโต้เถียงกับผู้จัดอยู่ โดยบอกว่าเขาจะไม่แข่งกับผู้หญิง ผู้หญิงไม่สามารถแข่งขันกับผู้ชายได้ เป็นการดูถูกกฎของการแข่งขัน “
“ในฐานะที่เขาเป็นผู้ชายระดับสูง เขาอยากจะมาโต้แย้งกับผู้หญิง ดังนั้นเขาจึงขอให้ผู้จัดงานหาวิธี ที่จะเปลี่ยนผู้เล่นหรือให้แข่งขันกันใหม่”
จิ่งหนิงผงะ แล้วก็หัวเราะขึ้นมา
“เปลี่ยนผู้เล่น? เขาบอกหรือเปล่าว่าจะเปลี่ยนใคร”
โม่หนานทำหน้าเป็นนัยว่าคุณรู้คำตอบอยู่แก่ใจ
“ใครก็รู้ แน่นอนว่าเปลี่ยนคุณ”
ขณะที่เธอพูด เธอลูบหน้าผากของเธอด้วยอาการปวดหัว
“นี่มันก็9102 ปีมาแล้ว ทำไมเรื่องน่าขันอย่างความคิดที่ว่าผู้ชายต้องเป็นใหญ่กว่าผู้หญิงถึงยังมีอยู่นะ แถมยังเรียกว่าตัวเองคือชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์อีก ทุเรศ!