วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 705 พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

ผู้จัดทำหน้าที่เป็นกลางสามารถช่วยไกล่เกลี่ย หรือจะปล่อยไปไม่สนใจก็ย่อมได้ ให้พวกเขาทะเลาะกันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยแข่งกันใหม่อีกครั้ง

แต่จะไม่ใส่ร้ายใครตามใจชอบ

เมื่อผู้จัดถูกยั่วยุ การแข่งขันจะสูญเสียอำนาจเดิม

ด้วยเหตุนี้ พฤติกรรมดังกล่าวในธุรกิจใด ๆ ก็ตามจึงไม่อนุญาตให้เกิดขึ้น

แต่ตอนนี้ ชายที่อยู่ข้างหน้าเขาชื่อเก๋อเซ่อเลี่ยได้จงใจดูถูกผู้จัดงานอย่างเปิดเผย โดยกล่าวว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับจิ่งหนิง

ซ้ำจิ่งหนิงยังอาศัยความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมเหล่านี้ เพื่อมาถึงจุดนี้

แต่ใครก็ตามที่มีสายตาที่เฉียบแหลม สามารถดูออก ว่านี่เป็นเพียงเรื่องน่าขันเรื่องหนึ่งเท่านั้น

จิ่งหนิงมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันในวันนี้ ล้วนมีตา และมองเห็นได้ทั้งหมด

เทคนิคที่ช่ำชองขนาดนั้น ไม่ใช่ที่ทุกคนที่จะมีได้

ตอนนี้ ที่เขาเอะอะเช่นนี้ เหมือนจะไม่ใช่เพราะเขาไม่ชอบจิ่งหนิง แต่เป็นเพราะเขากลัวที่จะแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ ดังนั้นเขาจึงตั้งใจใช้วิธีนี้ เบี่ยงเบนประเด็นไปที่ผู้จัดงานเพื่อหลีกเลี่ยงความสงสัย ให้เปลี่ยนตัวจิ่งหนิง

เมื่อคิดแบบนี้ จิ่งหนิงก็หัวเราะเย้ยหยัน

“ฉันเคยเห็นคนไร้ยางอายมาก่อน แต่ฉันไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายเช่นนี้เลย”

เธอพูดจบ ก็ค่อย ๆ เดินอย่างช้า ๆ ไปตรงหน้าชายคนนั้น

เห็นได้ชัดว่าเธอมีรูปร่างที่ผอมบาง ดูบอบบางและอ่อนโยน ไม่มีพิษมีภัยอะไร

แต่ไม่รู้ทำไม เก๋อเซ่อเลี่ยรู้สึกว่า ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าหน้ามีออร่าแรงมาก เมื่อเธอยืนอยู่ต่อหน้าเขาแล้วมองดูเขา คล้ายกับถูกกดทับด้วยน้ำหนักกว่าห้าร้อยกี่โลกรัม กดทับจนเขาไม่สามารถหายใจได้อย่างปกติ

จิ่งหนิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดว่า “คุณบอกว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับผู้จัดงาน คุณมีหลักฐานไหม”

เก๋อเซ่อเลี่ย กลืนน้ำลาย และรู้สึกเจ็บจี๊ดที่แขน ยังมีคนของเขามากมายอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้กลับถูกผู้หญิงบดขยี้จนจมดิน ไม่กล้าแม้แต่จะพูดอะไรออกมาสักคำ

ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ในใจของเขารู้สึกเหมือนมีหม้อไฟร้อน ๆ อยู่ข้างใน

เพียงแต่ว่ามีคนมากมายกำลังมองอยู่ และเขาก็ไม่อยากทำให้ตัวเองเสียความมั่นใจ

ดังนั้น เขาจึงตะเบ็งเสียงจากลำคออย่างเกรี้ยวกราด “พวกคุณเป็นพยานให้ผมสิ! ทำไม? แขนของผมยังเจ็บอยู่ จะไม่ยอมรับเหรอ?”

จิ่งหนิงยกมุมปากขึ้นยิ้มบาง ๆ “ฉันเพิ่งพูดไปแล้ว มือคุณโดนเพื่อนฉันทำให้บาดเจ็บ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผู้จัดงาน?”

เก๋อเซ่อเลี่ย อึ้ง

ในเวลานี้ เจ้าหน้าที่ของผู้จัดงานก็ก้าวมาข้างหน้าด้วยใบหน้ามืดมน

“คุณเก๋อเซ่อเลี่ยหากคุณไม่ต้องการเข้าร่วมการแข่งขันต่อ คุณสามารถเลือกที่จะถอนตัวจากการแข่งขันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ในการดูถูกผู้อื่น นี่คือคำเตือนของเรา หากคุณยังไม่ฟัง เราจะใช้มาตรการที่เหมาะสมในวิธีการทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของเรา เมื่อถึงเวลานั้น พวกคุณจะถูกให้ออกจากการแข่งขัน Flying อย่างสมบูรณ์ และถูกห้ามเข้าร่วมแข่งขันไปตลอดชีวิต คุณต้องคิดให้รอบคอบ”

ทันทีที่มีการพูดว่าห้ามเข้าร่วมแข่งขันไปตลอดชีวิต เห็นได้ชัดว่าริมฝีปากของเก๋อเซ่อเลี่ยสั่นเทา

พวกเขาเป็นนักแข่งมืออาชีพ ที่ทำเงินจากการแข่งขัน

และหาก Flying ในฐานะการแข่งขันแข่งรถที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก แบนพวกเขา ก็เท่ากับว่าเป็นการปิดกั้นวิธีการทำเงินของพวกเขาไปโดยปริยาย

และการแข่งขันอื่น ๆ ที่พอมีอิทธิพล หลังจากรู้สิ่งนี้แล้ว ก็จะต้องวิพากษ์วิจารณ์พวกเขาด้วย

แม้ว่า เก๋อเซ่อเลี่ยจะไม่มั่นใจ แต่เขาก็ยังไม่กล้าปล่อยให้ผู้จัดงานตัดสินเช่นนั้น

ดังนั้น เขาจึงลังเลสองจิตสองใจ

แต่กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเขา เมื่อได้ยินคำสี่คำนี้ ก็เกิดกลัวขึ้นมาทันที

ทยอยถอยกลับทีละคน ราวกับว่าความจงรักภักดีที่ยืนหยัดร่วมกันเมื่อครู่ไม่มีอยู่จริง

ในที่สุด กลุ่มที่ยืนอยู่กลางห้องและเผชิญหน้ากับจิ่งหนิง เหลือเพียงเก๋อเซ่อเลี่ยคนเดียวเท่านั้น

กลุ่มเพื่อนของเขา เพียงไม่นานก็ถอยไปที่มุมห้องเพื่อเอาตัวรอดแล้ว

เมื่อเก๋อเซ่อเลี่ยเห็นดังนั้นก็โกรธจัด

แต่เขาทำอะไรไม่ได้ แม้จะอยู่ต่อหน้าอีกคน เขาก็ยังคงตะโกนเสียงดัง ยอมรับการพ่ายแพ้ของตัวเอง ทั้งหมดที่เขามีคือความคับข้องใจและจิตตก

ในที่สุด เขาก็พ่นเสียงออกมาจากจมูกอย่างดัง “ไม่เป็นไร! พวกคุณมันก็เป็นพวกไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ วันนี้ผมสู้พวกคุณไม่ได้ แต่ผมจะยืนหยัดในธรรมเนียมของผม ผมจะไม่แข่งกับผู้หญิง ถ้าพวกคุณไม่ไล่เธอไป” ถ้าอย่างนั้นผมไปเอง! ฮึ่ม การแข่งขันแบบนี้ ผมก็ไม่เข้าร่วมก็ได้!”

พูดจบ ก็หันหลังเดินออกไป

เมื่อพรรคพวกของเขาเห็นดังนั้น จึงตอบสนอง สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป

รีบร้อนรั้งเข้าให้อยู่ต่อ

“เก๋อเซ่อเลี่ยหยุด!”

“เก๋อเซ่อเลี่ยคุณจะหุนหันพลันแล่นไม่ได้!”

อย่างไรก็ตาม เก๋อเซ่อเลี่ยในตอนนี้ ไม่ฟังพวกเขาแม้แต่น้อย

เขายิ้มอย่างเย็นชา “ทำไมล่ะ ฉันบาดเจ็บแบบนี้แล้ว พวกคุณยังคาดหวังให้ฉันออกมาแข่งให้พวกคุณอยู่อย่างนั้นเหรอ? เราเป็นทีม กี่ปีมานี้ คนที่คว้าเงินรางวัลได้มีครั้งไหนไหมฉันไม่ได้เป็นคนออกหน้า? สุดท้ายพวกคุณก็มาทำอย่างนี้กับฉัน วันนี้ฉันมองพวกคุณออกอย่างชัดเจนแล้ว ฉันไปละ ลาก่อนทุกคน ไว้เจอกันใหม่ตอนไหนก็ไม่รู้นะ!”

หลังจากพูด จบเขาก็เดินออกไปทันที

เมื่อกลุ่มคนที่อยู่กับเขาได้ยินคำนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็ถอดสี หน้าตาแต่ละคนดูไม่ได้เลย

แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร รีบวิ่งออกไป

เรื่องตลกที่ไร้สาระจบลงด้วยวิธีนี้ และจิ่งหนิงไม่เคยคาดคิดว่าตอนจบจะกลายเป็นเช่นนี้ไปได้

มองดูห้องรับรองที่ว่างเปล่า เธอก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

ผู้คนที่เหลือก็ออกไปแล้ว มีเพียงคนของผู้จัดงานเท่านั้นที่ยังอยู่

ชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้า และกล่าวขอโทษเธอ “ฉันขอโทษคุณจิ่ง เราผิดเองที่การแข่งขันครั้งนี้ทำให้คุณเดือดร้อน ต่อไปเราจะคุมเข้มการพิจารณาคุณภาพโดยรวมในการคัดเลือกผู้สมัคร และจะไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก”

จิ่งหนิงไม่ได้เก็บมาใส่ใจ จริง ๆ แล้ว ในโลกนี้มีสิ่งแปลก ๆ มากมาย และไม่อาจเชื่อได้ว่าตัวเองจะไม่อาจประสบพบเจอสักครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้น โม่หนานบิดแขนของเขาจนเคล็ด และเธอก็ไม่ได้ถูกเอาเปรียบอะไรเลย

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร แต่เรื่องนี้ทำให้กระทบต่อพวกคุณด้วย ฉันสิควรจะขอโทษ”

พนักงานของผู้จัดงานยิ้ม ไม่ได้ปฏิเสธอะไร “ในเมื่อเก๋อเซ่อเลี่ยถอนตัวจากการแข่งไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นการแข่งขันครั้งนี้ คุณจิ่งก็เป็นผู้ชนะ เราจะส่งคนออกไปประกาศในภายหลัง ไม่ทราบว่าคุณจิ่งมีความคิดเห็นอื่น ๆ อีกหรือไม่”

จิ่งหนิงตกตะลึง ประหลาดใจเล็กน้อย

“นี่… มันไม่ใช่การชนะอย่างไม่ยุติธรรมเหรอ?”

การแข่งขันที่ทรงอิทธิพล เธอชนะอย่างง่ายดายอย่างนั้นเหรอ?

ไม่แม้แต่รอบชิงชนะเลิศ… ฉันรู้สึกกระหายน้ำอยู่เสมอ

พนักงานหัวเราะและพูดว่า “ไม่มีทาง ผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่เหลือ คุณได้แข่งด้วยแล้ว คุณโดดเด่นจากพวกเขา ถึงจะแข่งกันอีกรอบผลลัพธ์ก็จะไม่เปลี่ยนแปลง เดิมทีคุณและ เก๋อเซ่อเลี่ย เป็นสองคนที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ตอนนี้ออกจากการแข่งไปแล้ว ผู้ชนะจะต้องเป็นคุณเท่านั้น”

จิ่งหนิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มีความรู้สึกเหมือนเสียเปรียบเธอพยักหน้า “ตกลง ถ้าอย่างนั้นฉันก็ยอมรับ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset