“โอ๊ย! ไม่ไหวแล้ว ฉันปวดท้องมากเลย พี่คะ พี่ชายของคุณกลับมาหรือยัง?”
เสียงที่ดูหมดความอดทนของชายคนหนึ่งดังมาจากข้างนอก “มาแล้วมาแล้ว!”
เขาพูดพร้อมเดินไปด้านหลัง
ไม่นานประตูรถก็ถูกเปิดออก
แสงสว่างถูกส่องเข้าไปด้านใน
จากนั้นจิ่งหนิงและโม่หนานจึงได้เห็นว่ารอบสี่ทิศนี้เป็นถิ่นทุรกันดาร พวกเธอไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
ส่วนด้านหน้า คือผู้ชายที่คุยกับเธอเมื่อครู่ยืนอยู่
เขามองไปที่พวกเธออย่างใจร้อน ถามขึ้นว่า “ใครจะไปเข้าห้องน้ำ?”
จิ่งหนิงยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฉันเอง ฉันจะเข้าห้องน้ำ”
สีหน้าเธอดูแย่มาก ด้วยใบหน้าที่สวยงามและรูปร่างเพรียวบาง เธอดูเหมือนดอกไม้ที่มีหยาดน้ำค้างเกาะอยู่ในเวลานี้
เนื่องจากก่อนหน้านี้ค่อนข้างมืดอีกทั้งเป็นเวลากลางคืน จึงทำได้เพียงมองดูคร่าวๆจากแสงของไฟฉาย เพียงรู้ว่าพวกเธอปกติดีเท่านั้น
อันที่จริง พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้มองหน้าพวกเธออย่างละเอียดมาก่อน
ตอนนี้เริ่มเช้าแล้ว แม้ว่าจะไม่สว่างมาก แต่เวลาตีห้ากว่าๆ แสงอ่อนๆส่องออกมาจากท้องฟ้า กระทบลงบนใบหน้าของจิ่งหนิงทำให้รู้สึกว่าเธองดงามกว่าเดิม
เขาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงมอง
นานมากทีเดียวกว่าจะรู้ตัว
“อ้อ ได้ ผมจะพาคุณไปเอง”
ขณะที่เขาพูด ก็ก้าวไปข้างหน้าและเอื้อมมือไปหาเธอ
“คุณลงจากรถเองได้ไหม? ผมนำทางคุณแล้วกัน”
จิ่งหนิงยิ้มให้เขาและพยักหน้า “ขอบคุณมากค่ะ”
เธอพูดเอื้อมมือออกไป
ส่วนมืออีกข้างหนึ่งที่อยู่ข้างหลัง ชี้ไปที่โม่หนานซึ่งยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
หมายความว่าขณะที่เธอจับมือชายคนนั้น ทั้งสองก็เริ่มลงมือทันที
แผนเดิมของพวกเธอคือ เธอจะฉวยโอกาสคว้ามือของชายคนนั้นไว้แล้วกระโดดลงมา ก่อนจะปราบคนคนนั้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนพรรคพวกเขาน่าจะยืนอยู่ที่หน้ารถ หลังจากจัดการชายคนนั้น เขาคงจะวิ่งมาทันที
โม่หนานจะสามารถหนีออกจากอีกด้านได้อย่างรวดเร็ว วิ่งไปยังหน้ารถและเข้าแทนที่คนขับ
หากมีตัวประกันอยู่ในมือ ชายคนนั้นคงไม่กล้าขยับง่ายๆจิ่งหนิงก็สามารถบังคับเขาขึ้นรถได้ พอขึ้นรถแล้วก็มัดเอาไว้ ปิดปาก จากนั้นทั้งสองก็ขับรถออกไป ต่อให้จะวิ่งเร็วเพียงใดก็คงจะตามไม่ทัน
ด้วยวิธีนี้ ทั้งสองคนสามารถสลัดเขาคนนั้นออกไปได้ จากนั้นก็ขับรถเข้าเมืองเพื่อหาทางติดต่อลู่จิ่งเซิน
จิ่งหนิงรู้ว่าลู่จิ่งเซินต้องได้รับข่าวของเธอแล้วแน่ๆ และเป็นไปได้มากที่เขาจะรีบเดินทางมาหาเธอด้วยตัวเอง
เธอไม่เคยสงสัยเรื่องความรู้สึกของลู่จิ่งเซินที่มีต่อเธอเลย
อุบัติเหตุทางเครื่องบินเรื่องเป็นใหญ่ขนาดนี้ เขาต้องไม่วางใจที่จะส่งคนอื่นมาแทนแน่ๆ
ดังนั้นเขาน่าจะเดินทางมาด้วยตนเอง และถ้าเขามาจริงๆ ก็น่าจะค้นหาได้ว่าพวกเธออยู่ที่ไหน
แต่เพราะขอบเขตกว้างขวางเกินไป ไม่มีทางที่จะค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนได้อย่างแม่นยำในเวลาอันสั้น
แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ พวกเขาคงจะอยู่ใกล้ๆ ไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาด
ดังนั้น ตราบใดที่สามารถติดต่อเขาได้และบอกตำแหน่งที่แน่นอนแก่เขา ลู่จิ่งเซินจะต้องมาหาเธอโดยเร็วที่สุดแน่ๆ
เพียงเท่านี้ ขอแค่ได้พบกับเขา ไม่ว่าจะเป็นอันตรายใดๆก็ถูกขจัดได้ง่ายๆ
จิ่งหนิงและโม่หนานคำนวณไว้ดีมาก
พวกเธอคำนวณสถานการณ์ที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ทั้งหมดไว้แล้ว
แม้แต่หากทั้งสองมาถึงในเมือง พวกเธอก็คิดถึงความเป็นไปได้ที่จะพบกับกลุ่มคนไล่ล่าก่อนหน้านี้
แม้ว่ามันจะอันตรายมาก แต่ตอนนี้พวกเธอไม่มีวิธีที่สองแล้ว จึงทำได้แค่เสี่ยงดวงเท่านั้น
นอกจากนี้ พวกเธอไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองถูกขายไปแบบนี้แน่ๆ
นั่นเป็นเหตุผลที่แผนนี้ถูกสร้างขึ้น
เวลานี้ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะกระโดดเข้าสู่แผนตามที่เธอคาดไว้
จิ่งหนิงยิ้มและยื่นมือออกไปเพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อเธอ เธอจงใจทำตาที่อ่อนโยนและแสดงความรักต่อเขา
ถ้าใครไม่รู้ คงไม่คิดว่านี่เป็นการลักพาตัว
คิดว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันจริงๆ เธอก็แค่ทำตัวออดอ้อนกับแฟนของเธอ
และเธอก็เตรียมใช้วิธีนี้เพื่อทำให้อีกฝ่ายเป็นตายใจและประมาท
แต่ในขณะที่มือนั้นกำลังจะสัมผัสกัน
ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างกะทันหัน
มีมือของชายคนหนึ่งยื่นออกไปตรงหน้าเขา และจู่ๆก็ถูกผลักออกไปด้วยฝ่ามือนั้น ต่อมามืออีกข้างที่ค่อนข้างขาว อ่อนโยน และเรียวยาวก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
พบว่าพี่ชายของคนคนนั้นปรากฏขึ้นทันใด
เขายืนอยู่ที่หน้าประตูรถ ผลักน้องชายของเขาไปข้างๆ ยิ้มให้จิ่งหนิงและถามว่า “จะไปห้องน้ำใช่ไหม? ผมจะพาคุณไปเอง”
พูดจบก็ยื่นมือออกไปตรงหน้าเธอ
จิ่งหนิงตกตะลึง
เธอยืนงงอยู่ตรงที่เดิม
จู่ๆคนคนนี้ก็จะกระโดดเข้ามาแทรกกลางโดยไม่คาดคิด
หากเป็นเช่นนี้ เมื่อทั้งสองคนยืนอยู่ที่ประตูรถ ด้วยทักษะอันอ่อนแอ เธอไม่แน่ใจว่าจะสามารถจัดการพวกมันได้ภายในกระบวนท่าเดียวหรือไม่
ขาของโม่หนานยังคงเจ็บอยู่ ไม่มีทางที่จะขยับอย่างคล่องแคล่วได้
หากเธอจัดการได้คนหนึ่งก็ยังดี จะได้ให้โม่หนานกัดฟันหนีออกจากรถไป
แต่ถ้าเธอจัดการไม่ได้แม้แต่คนเดียว สภาพของโม่หนานตอนนี้หากต้องเผชิญกับชายหนุ่มสองคนที่แข็งแกร่ง และประกอบกับอาการบาดเจ็บที่ขา คิดว่าคงไม่ได้แม้แต่ปีนออกจากรถด้วยซ้ำ
ทั้งสองคนคงจะถูกเปิดเผยและจับได้
ไม่เพียงแค่ตีหญ้าจนงูแตกตื่น แต่คู่ต่อสู้คงจะรู้แผนของพวกเธอด้วย
หากเป็นเช่นนี้ มันคงจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเธอทั้งสองที่จะหลบหนีไปอีกครั้ง
ดังนั้น มือของจิ่งหนิงก็ชะงักลงกลางอากาศ รอยยิ้มของเธอก็ด้วย
ผ่านไปสักพัก เธอจึงยิ้มอย่างไม่เต็มใจว่า “เอ่อ……ไม่เป็นไร”
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายดูเย่อหยิ่งผยองมาก
เขาพูดกับชายที่ตกตะลึงที่อยู่ถัดจากพวกเธอไปว่า “ฉันจะพาหล่อนไปห้องน้ำเอง แกรอฉันที่นี่และดูแลรถให้ดี”
พูดจบ ไม่ว่าจิ่งหนิงจะตกลงหรือไม่ก็ตาม เขาก็ก้าวไปข้างหน้าและจับมือเธอไว้
จากนั้นเธอก็รู้สึกว่าตัวเล็กทรุดลง ท้องฟ้ากำลังหมุนต่อหน้าเธอ เท้าของเธอลอยขึ้นไปในอากาศ เธอถูกเขาอุ้มออกจากรถไป
เธอตกใจมาก
โม่หนานก็ตกใจเช่นกัน
การเปลี่ยนแปลงที่อยู่ตรงหน้าพวกเธอนั้นเกินความคาดหมายและแผนการเดิมของพวกเธออย่างสิ้นเชิง
จิ่งหนิงบอกว่าให้ทำตามคำสั่งของเธอ
แต่ในเวลานี้จิ่งหนิงไม่ได้ให้สัญญาณใด ๆ โม่หนานไม่กล้าที่จะกระทำโดยประมาทเพราะกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายสงสัยในความสามารถของเธอ และไม่สามารถหลบหนีไปได้
ดังนั้น เมื่อเห็นจิ่งหนิงลงจากรถ เธอก็ทำได้เพียงนั่งอยู่ที่นั่นจ้องมองไปอย่างว่างเปล่า
ช่วงเวลานั้น ในใจของเธอมีความซับซ้อนและวิตกกังวลอย่างมาก
“หนิงหนิง”
เธอตะโกนออกมาและพยายามจะลุกขึ้นโดยสัญชาตญาณ
แต่ว่ากลับถูกดวงตาของจิ่งหนิงห้ามไม่ให้ขยับ
จิ่งหนิงฝืนยิ้มออกมา “ฉันโอเค ในเมื่อพี่ชายคนนี้ยินดีช่วยพาฉันไป ก็ให้เขาพาฉันไปเถอะ ไม่ต้องกังวล ฉันจะรีบกลับมานะ”