ดังนั้นความยิ่งใหญ่ของกู้ซือเฉียนในสายตาของน้องชายโง่ก็ดูมากขึ้น
เมื่อเห็นว่าเขายอมรับกับข้อเสนอของตน เขาจึงดูโล่งใจขึ้น
หลังจากนั้นก็ได้สนทนากันอีกสองสามประโยค ในครั้งนี้กู้ซือเฉียนไม่ได้รู้สึกรำคาญอีกแล้ว
เขาทำได้เพียงนั่งฟังอย่างเงียบๆตอบรับ จากนั้นจึงก้าวขาเดินออกไป
ในครั้งนี้รถที่พวกเขาขับมาคือฮัมเมอร์สองคัน
ตัวรถมีขนาดใหญ่สีดำเรียบง่าย เมื่อกระทบเข้ากับแสงสลัวยามพลบค่ำมันดูเหมือนสัตว์ร้ายสองตัวที่จอดอยู่อย่างน่ากลัว
หญิงสาววิ่งออกมาและมองเห็นรถที่จอดอยู่ตรงหน้าประตู มีรถอยู่สองคันเธอจึงตกตะลึงเล็กน้อย
ดูเหมือนจะคาดไม่ถึง
หลังจากนั้นดวงตาของเธอก็เป็นประกาย รีบวิ่งเข้าไปพร้อมกับรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าฉันนั่งรถคันไหน?”
บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงประตูรถได้รับข้อมูลแล้วเมื่อสักครู่ ว่าหัวหน้าจะพาผู้หญิงคนหนึ่งกลับไปด้วย แม้จะรู้สึกประหลาดใจแต่ก็ไม่กล้าถามอะไร
เขาชี้ไปที่รถคันหนึ่งจากนั้นดึงเปิดประตูรถให้เธอเข้าไปนั่ง
ไม่นานต่อมากู้ซือเฉียนก็เดินออกมาจากบ้าน
รูปร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม แม้ว่าเขาจะมีใบหน้าอันแสนธรรมดาแต่หากอยู่ท่ามกลางฝูงชน ก็มีความรู้สึกพิเศษกว่าคนอื่น
อาจเป็นเพราะว่าถูกกำชับเอาไว้ในครั้งนี้ น้องชายโง่จึงไม่ได้ตามออกมาอีก
มีใครคนหนึ่งเปิดประตูให้กับเขา จากนั้นกู้ซือเฉียนก็ขึ้นรถไป
เขาไม่ได้นั่งรถคันเดียวกับเด็กผู้หญิงคนนั้น
เมื่อเห็นดังนี้หญิงสาวก็ไม่ได้ทำท่าทางมีความสุขแต่กลับรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
รถค่อยๆวิ่งหายไปจากสายตาผู้คนอย่างช้าๆ
การเดินทางออกมาอย่างลับๆของกู้ซือเฉียนในครั้งนี้มีไม่กี่คนที่รู้
ที่จริงแล้วจุดประสงค์ของเขาไม่ใช่หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ เพียงแค่เขารู้ข่าวเรื่องที่ว่าจิ่งหนิงอยู่ที่นี่จึงได้ทำเป็นปลอมตัวและเดินทางมาเท่านั้น
ในตอนนี้ภารกิจของเขาเสร็จสิ้นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป
ถ้าไม่ได้อยู่ในที่แห่งนี้อีกแล้วเขาก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องทำใบหน้าให้เหมือนคนอื่น ในการพบปะผู้คน
ที่จริงแล้วกู้ซือเฉียนสามารถใช้ความสามารถของตนและพาจิ่งหนิงออกมาได้
แม้ว่าหมู่บ้านเล็กๆนั้นจะแข็งแกร่ง แต่จากความสามารถของเขา เขาก็ไม่ได้กลัวสิ่งเหล่านี้เลย
แต่การที่เขาเดินทางมาในครั้งนี้ยังมีภารกิจอื่นๆอยู่ จะทำให้อีกฝ่ายหนึ่งพบที่อยู่ของเขาไม่ได้
แต่เมื่อรู้ว่าจิ่งหนิงกำลังพบกับอันตราย เขาก็ไม่สามารถที่จะนิ่งดูดาย ดังนั้นจึงได้ปลอมเป็นคนอื่นและปรากฏตัวมาช่วย
ที่จริงนี่มันก็ช่วยไม่ได้เลย
ก่อนที่เขาจะเดินทางมาที่นี่มีหลายต่อหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเขา
เหตุผลมีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ การที่เดินทางมาในครั้งนี้พวกเขาต้องการมาเจรจาธุรกิจกับคนกลุ่มหนึ่ง
และธุรกิจนี้ค่อนข้างเป็นไปได้ยาก แผนการของทั้งสองฝ่ายแบ่งแยกไม่ชัดเจน ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงค่อนข้างจะไม่มั่นคง
ในตอนนี้ความปลอดภัยของกู้ซือเฉียนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
หากว่าเขาเดินทางออกมาครั้งนี้และฝ่ายศัตรูรู้เขา อาจจะวางกับดักลอบสังหารเขา ซึ่งมันไม่ดีแน่
แต่ถึงอย่างไรกู้ซือเฉียนก็ยังยืนยันที่จะเดินทางมา ไม่ว่าใครก็หยุดเขาไม่ได้
ท้ายที่สุดจึงทำได้แต่ตามใจเขา
โชคดีที่ยังโชคดีที่เขาปลอมตัวได้แนบเนียนมาก ไม่เพียงแต่หลอกน้องชายอีกทั้งยังหลอกศัตรูได้เช่นกัน
ประกอบกับเขาเดินทางมาไม่นานมาก เป็นเวลาเพียงสองสามวันเท่านั้น
แม้แต่กระทั่งเขากลับไปยังฐานทัพ ศัตรูเองคงยังไม่รู้ว่าเขาเคยเดินทางออกไป
ฐานทัพสร้างอยู่ในพื้นที่ค่อนข้างห่างไกล
และในระยะหลายร้อยไมล์จากที่นี่คืออาณาเขตของเขา มันถูกเขาซื้อไว้แล้ววางกับดักไปทั่วจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการลอบทำร้ายของศัตรู
บริเวณตรงกลางคือคฤหาสน์หรู
ขบวนรถอันหรูหราขับเคลื่อนเข้าไปในคฤหาสน์นี้ เมื่อประตูสีดำขลับถูกเปิดออกก็พบว่ามีชายชราผมขาวคนหนึ่งเดินออกมาจากคฤหาสน์
“คุณชายกลับมาแล้วเหรอครับ?”
รถยังไม่ทันจะหยุดดี กระจกรถก็ถูกลดลงครึ่งหนึ่ง ใบหน้าของกู้ซือเฉียนโผล่ออกมาด้วยความเยือกเย็น
เขากำชับกับพ่อบ้านว่า “จัดการทำความสะอาดห้องพักแขกให้ห้องหนึ่ง”
เมื่อพูดจบรถก็ขับเคลื่อนเข้าไปด้านใน
พ่อบ้านชะงักลงทันที
แม้ว่าเขาจะอายุมากแล้วแต่สายตาก็ยังดีมากและมองเห็นทันทีว่ารถคันหลังมีหญิงสาวนั่งอยู่
นี่ทำให้เขาตกตะลึงเข้าไปอีก
เนื่องจากว่าเขาติดตามกู้ซือเฉียนมาถึงยี่สิบกว่าปีแล้ว อาจพูดได้ว่าอยู่กับเขาตั้งแต่เล็กจนกระทั่งเติบโต
นิสัยของกู้ซือเฉียนเป็นอย่างไรเขารู้ดีกว่าใครทั้งหมด ท่าทางที่ปฏิบัติต่อหญิงสาวเขายิ่งรู้ดีมาก
อีกทั้งแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยพาผู้หญิงคนใดมาไว้ข้างกาย อย่าว่าแต่นำกลับมาที่คฤหาสน์เลย
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?
พ่อบ้านสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขานำมือรูปเครายาวด้วยความสงสัย
คนอื่นๆอาจจะไม่รู้ถึงความสำคัญของคฤหาสน์หลังนี้ที่มีต่อกู้ซือเฉียน แต่พ่อบ้านรู้อยู่แก่ใจ
คฤหาสน์หลังนี้ ทุกคนล้วนคิดว่า หลังจากที่กู้ซือเฉียนร่ำรวยขึ้นเขาก็ซื้อมันเอาไว้เพื่อใช้อยู่อาศัยเป็นสถานที่ส่วนตัว
แต่ที่จริงแล้วมีเพียงเขาคนเดียวที่รู้ว่า คฤหาสน์เหล่านี้เมื่อนานมาแล้ว คุณนายใหญ่ได้ทิ้งเอาไว้ให้คุณชาย
ถูกต้องแล้ว มารดาของกู้ซือเฉียน เป็นอดีตทายาทตระกูลใหญ่ของคนมีอำนาจในประเทศF
ในตระกูลไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรมากมีเพียงคฤหาสน์หลังเดียว นั่นก็คือที่นี่
ในตอนที่เธอยังอายุน้อยและไปเรียนที่ต่างประเทศได้พบเข้ากับพ่อของกู้ซือเฉียน นั่นก็คือกู้ฉางไห่
หนุ่มสาวทั้งสองคน ได้ตกหลุมรักกันในไม่ช้า
แม้ว่าแม่ของกู้ซือเฉียนจะเป็นคนประเทศF แต่ที่จริงแล้วเธอคือคนจีนต่างหาก
ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกหรือเลือดที่ไหลอยู่ในร่างกายเธอก็เป็นคนจีนอย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งสองคนคบหากันโดยไม่มีอะไรเข้ามาขัดขวางหรืออุปสรรคใดๆ
ไม่นานต่อมาความสัมพันธ์ของพวกเขาก็มั่นคง
และในขณะที่แม่ของกู้ซือเฉียนกำลังหาโอกาสจะปรึกษาเรื่องของงานแต่งกับกู้ฉางไห่
จู่ๆก็มีผู้หญิงจากประเทศจีนคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นและบอกกับเธอว่า หล่อนคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของกู้ฉางไห่
หยุนหลัน แม่ของกู้ซือเฉียนตกตะลึงมาก
หลังจากที่เธอตรวจสอบดูก็พบว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นภรรยาของกู้ฉางไห่จริงๆ ก่อนหน้าที่กู้ฉางไห่จะรู้จักเธอไม่เพียงแต่มีภรรยาเขายังมีลูกอีกด้วย วินาทีนั้นเธอรู้สึกว่าโลกแทบพังทลาย
ผู้ชายที่เธอปรารถนาจะแต่งงานด้วยมาตลอด ตอนนี้เมื่อเธอหันหลังกลับมามองจึงได้รู้ว่าตนเป็นเพียงของเล่นในสายตาเขาเท่านั้น
ที่จริงแล้วความรู้สึกทุกสิ่งอย่าง เป็นเพียงเธอที่คิดมากไปเอง
หยุนหลันรู้สึกย่ำแย่ เธอจึงเดินทางไปหากู้ฉางไห่ต้องการคำอธิบายจากเขา
แต่ในขณะนั้น นายท่านแห่งบ้านตระกูลกูยังคงมีชีวิตอยู่
หลังจากที่เขารู้เรื่องนี้ก็โมโหฟาดงวงฟาดงา และรีบส่งคนไปจับตัวกู้ฉางไห่กลับมาจากต่างประเทศ
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กู้ฉางไห่ก็หายไปจากโลกของเธอราวกับระเหยเป็นอากาศ ไม่มีข่าวคราวอะไรของเขาอีก
แต่ถึงอย่างไร หยุนหลันก็นับว่าเป็นคนตระกูลมีอำนาจ เธอเองก็มีศักดิ์ศรีของเธอ
เธอจึงได้ส่งข้อความไปหากู้ฉางไห่ฉบับหนึ่ง และบอกกับเขาว่าตนยังรอเขาอยู่ที่เดิม
หากเขาต้องการที่จะอธิบาย เธอก็จะให้โอกาสเขาอธิบายครั้งหนึ่ง แต่เธอจะรอเขาอยู่เพียงแค่สามวัน หลังจากสามวันนี้ผ่านไปและเขายังไม่เดินทางมาเธอเองก็จะไม่รอเขาอีกต่อไปแล้ว
หญิงสาวที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักมักจะทำอะไรโง่เขลาเช่นนี้
แม้จะรู้ดีว่าชายคนนั้นทำผิดและหักหลังเธอ แต่ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ไม่ยอมวางมือโอกาสอันริบหรี่ลง
เธอรู้ดีว่า วินาทีที่ภรรยาของกู้ฉางไห่ปรากฏตัวขึ้น นั่นหมายความว่าทั้งสองคนไม่มีโอกาสได้อยู่ด้วยกันแล้ว