วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 73 ผู้กำกับผู้มีความสามารถ

บทที่ 73 ผู้กำกับผู้มีความสามารถ

หนังใหม่ของเหยียนซื่อหวา ได้ดำเนินการมาหนึ่งเดือนแล้ว นี่เป็นข่าวที่จิ่งหนิงได้รับเมื่อไม่นานมานี้

ในฐานะผู้กำกับที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลที่สุดในแวดวงนี้ แน่นอนว่าบทในมือของเขาต้องมีแต่คนอยากแสดง

ไม่ใช่แค่นักแสดงธรรมดาที่ต่อสู้กันแทบนองเลือด แต่แม้แต่นักแสดงแถวหน้าหลายคนก็หวังว่าจะได้รับบทสำคัญ

แต่เหยียนซื่อหวา เป็นผู้กำกับที่มีหลักการมาก เขาไม่เคยเลือกนักแสดงจากตำแหน่ง เขาดูความเหมาะสมกับตัวละครเท่านั้น

เขายังชอบเลือกนักแสดงหน้าใหม่ เพราะในสายตาผู้กำกับมากฝีมืออย่างเขา นักแสดงหน้าใหม่ก็เหมือนกระดาษขาว จากงานที่มีสไตล์เฉพาะตัวของ เหยียนซื่อหวาแล้ว การสอนใหม่ง่ายต่อการกำกับให้ตรงใจเขามากกว่า

ด้วยเหตุนี้เขาจึงขึ้นชื่อว่าเป็นคนปั้นนักแสดงด้วย

และวันนี้ที่จิ่งหนิงมาหาเขาก็เพราะเหตุนี้

เธอยิ้มเล็กน้อย เหยียนซื่อหวา มองเธอและขมวดคิ้ว

“ถามทำไม”

“ผู้กำกับเหยียนก็รู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังรับช่วงต่อซิงฮุย ที่ฉันถามคำถามนี้ก็เป็นเพราะว่าฉันอยากแนะนำนักแสดงเหมาะๆให้”

เหยียนซื่อหวา หัวเราะเบา ๆ

“ซิงฮุยยังมีนักแสดงที่แสดงได้อยู่หรอ”

อย่างที่ทราบกันดีว่าซิงฮุยกำลังจะล้มละลาย นักแสดงที่ยังมีอนาคตก็ลาออกไปกันหมดแล้ว ใครมันจะไปอยู่ต่อ

แต่จิ่งหนิงก็ยิ้มอยู่อย่างนั้น

“หนังตามหาฝันเรื่องใหม่ของคุณได้ตัวนักแสดงครบแล้ว ขาดก็แต่นางรองหนีลานฉันรู้ว่าคุณเป็นคนที่ชอบความสมบูรณ์แบบ ถึงต้องให้เลื่อนการถ่ายออกไปคุณก็ยอม และบังเอิญว่าในมือฉันมีนักแสดงหญิงคนหนึ่งเหมาะกับบทนี้มาก ถ้าคุณให้โอกาสฉันจะพาเธอมาพบ เชื่อว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน”

คำพูดนี้ของจิ่งหนิง ทำให้คนฟังแถวนั้นรู้สึกว่าพูดเกินจริงไม่น้อย

บางคนแถวนั้นก็เริ่มวิจารณ์ขึ้นเบาๆ แต่ เหยียนซื่อหวา กลับขมวดคิ้ว และจ้องเธอโดยไม่พูดอะไร

“เธอคิดว่าเธอเป็นใคร บทสำคัญขนาดนั้น จะให้ใครง่ายๆได้ยังไง!”

“ก็แค่ซิงฮุย บริษัทเล็กๆ กล้าเข้ามาแย่งบทจากผู้กำกับเหยียนได้ยังไง ช่างไม่รู้ฐานะตัวเองจริง!”

“บทนี้แม้แต่จิ่งเสี่ยวหย่าก็ไม่ได้ ถึงเธอจะบอกว่านักแสดงในมือมีความสามารถ ก็คงเป็นแค่นักแสดงหน้าใหม่ ใครจะไปเลือก!”

“เอ๊ะ! ผู้กำกับเหยียนชอบนักแสดงหน้าใหม่…”

ไม่รู้ว่ารอบตัวพูดอะไรบ้าง แค่ครู่เดียวเสียงรอบตัวก็เงียบไป

เหยียนซื่อหวา มองพิจารณาผู้หญิงตรงหน้า เพราะอารมณ์นิ่งสงบของเธอ แฝงไปด้วยพลังอันมหาศาล ทำให้คนฟังเชื่อ

ยังไงก็เป็นเพียงการทดลอง ไม่มีอะไรต้องลังเล

คิดได้อย่างนั้นเขาก็พยักหน้า เตรียมตอบตกลง

แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงหัวเราะยินดีดังมาจากหน้าประตู

“เสี่ยวหย่าคืนนี้คุณแสดงดีจริง ๆ จนใครก็เทียบไม่ติด ไม่เห็นสายตาของผู้ชายคนนั้นที่มองเธอหรอ เหมือนหมาป่าดุร้ายไม่มีผิด”

“เรื่องเสน่ห์ของเสี่ยวหย่าของเรายังตอบพูดอีกหรอ ไม่ว่าจะหน้าตาหรือความสามารถเธอก็เป็นที่หนึ่ง ใครๆถึงได้ชอบเธอไง”

“น่าเสียดายที่เสี่ยวหย่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ถึงทุกคนจะร้องขอ เธอก็คงไม่กล้าขึ้นไปอีก”

“ฮ่าฮ่า คำพูดของคุณถ้าคุณชายมู่ได้ยินต้องทุบคุณแน่”

“คุณชายมู่เป็นสุภาพบุรุษขนาดนี้ เขาไม่ทำหรอก!”

“…”

“เอาล่ะ พวกเธออย่าพูดเรื่องไร้สาระกันอยู่เลยนะ คืนนี้ทุกคนต่างโดดเด่น ฉันเรียนศิลปะมานาน ก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษนะ”

“เสี่ยวหย่าช่างมั่นใจจริงๆ”

อาจเป็นเพราะตำแหน่งที่ยืนอยู่นั้นใกล้ประตู ดังนั้นแม้ว่าระดับเสียงของอีกฝ่ายจะไม่ดังมากนัก ก็ยังทำให้คนตรงนี้ได้ยินเกือบหมด

เมื่อจ้องไป ก็เห็นจิ่งเสี่ยวหย่าเดินเข้ามาพร้อมกับกลุ่มคน

จิ่งเสี่ยวหย่าเดินอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยหร่วนเจียวเจียวกับหนิวลี่ลี่เธอสวมชุดสีขาวดูสง่างาม และบอบบางราวกับเจ้าหญิงที่ต้องการการปกป้อง

เธอเห็นเหยียนซื่อหวา ยืนอยู่ไม่ไกล สายตาก็ปรากฏความประหลาดใจ และยินดีออกมา จึงรีบยกกระโปรงเดินตรงไปหาเขา

“ผู้กำกับเหยียนคุณก็มาหรอคะ”

เหยียนซื่อหวาพยักหน้าเบาๆ

หร่วนเจียวเจียวกับหนิวลี่ลี่ที่อยู่ข้างหลังเห็นเหยียนซื่อหวาก็ตาเป็นประกายขึ้นมา จึงแย่งกันตรงไปทักทาย

“ผู้กำกับเหยียน สวัสดีค่ะ ฉันชื่อหร่วนเจียวเจียวฉันเคยเห็นผลงานของคุณมาก่อน ฉันชอบมากจริงๆ”

“ผู้กำกับเหยียนฉันชื่อหยูเสี่ยวชุนเป็นแฟนคลับของคุณด้วยค่ะ!”

“ผู้กำกับเหยียนฉันชื่อหลินเล่อตอนนั้นพวกเราเจอกันที่งานอีเวนต์ คุณจำฉันได้ไหม”

ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งวิ่งไปล้อม เหยียนซื่อหวาอย่างรวดเร็ว

ทุกคนรีบแย่งกันแนะนำตัว และแสดงตัวต่อหน้าเขา เพื่อให้เขาจำหน้าไว้ เผื่อวันไหนมีบทที่เหมาะสม และนึกถึงพวกเธอขึ้นมา

แต่เดิมเหยียนซื่อหวาไม่ชอบงานที่มีเสียงดังอยู่แล้ว ที่วันนี้ยอมมาก็เพราะเห็นแก่หน้าผอ.โรงเรียน เขาจึงไม่สามารถทนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของผู้หญิงพวกนี้ได้

เขาขมวดคิ้วทันที

แต่เพราะเพิ่งมาถึงถ้าจะให้เดินออกไปเลยก็ดูไม่ดี

เมื่อเห็นดังนั้นจิ่งหนิงก็ยิ้ม และพูดว่า “ผู้กำกับเหยียนเมื่อกี้คุณบอกว่ามีธุระไม่ใช่หรอ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเถอะค่ะ พวกเราไม่กวนเวลาคุณแล้ว”

เหยียนซื่อหวามองไปที่เธอด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง

จากนั้นเขาก็พยักหน้า และเดินจากไป

เขาเดินไปสองก้าว และหยุดอีกครั้ง ก่อนจะหันไปพูดกับเธอว่า “พรุ่งนี้คุณติดต่อผู้ช่วยผม เขาจะบอกเวลาคุณ”

ดวงตาของจิ่งหนิงเป็นประกายขึ้นมาทันที

เธอพยักหน้ายิ้มๆ “โอเคค่ะ ขอบคุณผู้กำกับเหยียนมากนะคะ”

เหยียนซื่อหวาเดินจากไป

พวกหร่วนเจียวเจียวโกรธขึ้นมาทันที

“จิ่งหนิง! เธอหมายความว่าไง เธอตั้งใจใช่มั้ย พวกเราเพิ่งมาเธอก็ให้ผู้กำกับเหยียนไป กลัวเขาได้คุยกับพวกเราขนาดนั้นเลยหรอ”

จิ่งหนิงกอดอก และพูดเรียบๆ “ฉันเป็นใคร จะไปสั่งผู้กำกับเหยียนได้ยังไง พวกเธอมองฉันสูงเกินไปรึเปล่า”

หร่วนเจียวเจียวสะอึก และพูดอย่างไม่พอใจ “เมื่อกี้เธอเตือนเขาว่ามีเรื่องต้องไปทำไม่ใช่หรอ”

“ใช่! อย่าคิดว่าพวกเราดูไม่ออกนะ เธอกลัวพวกเราเข้าตาผู้กำกับเหยียนใช่มั้ย กลัวพวกเราได้ดีล่ะสิ”

“ใช่ จิตใจโหดร้ายเกินไปแล้ว!”

จิ่งหนิงยิ้มอย่างไม่เอาคำด่าพวกนั้นมาใส่ใจ

เธอมองเหยียดจิ่งเสี่ยวหย่าไปหนึ่งครั้ง

“เธอก็คิดเหมือนกันเหรอ”

จิ่งเสี่ยวหย่ายิ้มเล็กน้อย

“ผู้กำกับเหยียนไม่ชอบเสียงดังหร่วนเจียวเจียวกับคนอื่นๆไม่เข้าใจกฎ ทำให้ผู้กำกับเหยียนอารมณ์ไม่ดี พี่หยุดมันได้ทันเวลา ฉันต้องขอบคุณมากๆนะคะ”

จิ่งหนิงแสยะยิ้มไปทางเธอน้อยๆ

“แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมผู้กำกับเหยียนถึงให้พี่ติดต่อผู้ช่วยของเขาวันพรุ่งนี้คะ”

จิ่งหนิงเลิกคิ้วดวงตาสายตาเป็นต่อ

“เธอคิดว่าไงล่ะ”

จิ่งเสี่ยวหย่าแอบกำมือแน่น

เธอฝืนยิ้ม “คงไม่ใช่บท หนีลานในหนังเรื่องตามหาฝันหรอกใช่มั้ยคะ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset