แต่ต่อหน้ากู้ซือเฉียน กลับไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้
สุดท้ายทำได้เพียงกระทืบเท้าด้วยความเกลียดชัง และกรีดร้องอย่างโกรธเคือง: “คุณมันโหดร้าย ฉันเกลียดคุณ เกลียดคุณที่สุด!”
พูดจบก็กุมศีรษะแล้วหันหลังวิ่งออกไป
หญิงสาววิ่งดุ๊ก ๆ ๆ จากประตูหายไปที่ทางเดิน
จนกระทั่งเธอหายไปแล้ว สีหน้าที่ขี้เล่นของกู้ซือเฉียนก็ค่อยๆ เลือนหายไป และมีความเย็นชาเข้ามาแทนที่
ลุงโอวไม่รู้ว่ารออยู่ด้านนอกตั้งแต่ตอนไหน เมื่อเห็นหลินเยว่เอ๋อร์เดินออกมาจึงเข้ามา
เมื่อเห็นกู้ซือเฉียนนั่งอยู่ตรงนั้น เขาเดินเข้าไปอย่างสุภาพแล้วถาม: “คุณชาย คุณหลินเธอ…”
กู้ซือเฉียนช้อนสายตาเล่นกับแหวนในมือ แล้วพูดเบาๆ: “เธอบอกว่าจะเอาตัวเข้าแลก”
ลุงโอว: “…”
หากเป็นก่อนหน้านี้ ลุงโอวได้ยินแบบนี้อาจจะดีใจมากก็ได้
ปีนี้คุณชายอายุสามสิบแล้วนะ!
ชายแก่อายุสามสิบ จนป่านนี้ยังไม่มีผู้หญิงข้างกาย หากจะให้เขาเชื่อว่าเขาปกติก็ไม่อาจจะทำใจให้เชื่อได้
ตอนนี้ไม่ง่ายที่จะมีผู้หญิงกล้าออกตัวว่าจะเอาตัวเข้าแลก ต่อให้ไม่มีเรื่องทายาท แต่ยืนยันว่าคุณชายนั้นก็ไม่ได้อ่อนด้อย เช่นนั้นก็ใช้ได้นะ
แต่ตอนนี้ ลุงโอวได้เห็นแล้วว่าหลินเยว่เอ๋อร์เป็นคนอย่างไรจากเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาไม่คิดแบบนั้นแล้ว
ผู้หญิงคนนี้เป็นคนใจคด ไม่มีมารยาท ประจบสอพลอคนที่สูงกว่าและหยิ่งยโสกับคนที่ต่ำต้อยยังพอว่า แต่ทำมาเข้าหาคุณชายแล้วยังไม่รู้ว่าจะมีความคิดอะไรบ้าๆ บอๆ อีก
คุณชายช่วยชีวิตเธอและพาเธอออกมาจากถ้ำเสือแท้ๆ เธอไม่เพียงจะซาบซึ้งในน้ำใจ แต่ยังคิดจะหลอกใช้เขาอีก
คนที่มีจิตใจโหดร้ายเช่นนี้ จะปล่อยให้อยู่ต่อไปได้ยังไง?
ลุงโอวจึงพูดขึ้น: “คุณชายคิดจะให้เธออยู่ต่อเหรอครับ?”
เขาใช้ประโยคคำถาม
กู้ซือเฉียนเงยหน้าขึ้นมองเขา
สายตาคู่นั้นเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มกลับมองด้วยสายที่เย้ยหยันเล็กน้อย
“ลุงคิดว่าผมมีรสนิยมแย่ขนาดนั้น?”
ลุงโอวได้ยินแล้วก็วางใจลง
ยิ้มเล็กน้อย: “รสนิยมของคุณชายดีอยู่แล้วครับ คุณหลินคิดจะประจบและแอบอิงผู้มีอิทธิพล มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพียงแต่มองคนผิดไป”
กู้ซือเฉียนพยักหน้าแล้วพูดอย่างเรียบเฉย: “พรุ่งนี้ไม่ต้องให้คนไปส่งเธอกลับแล้ว แต่ให้ส่งคนมีความสามารถไปอยู่กับเธอ ดูแลเรื่องที่พักและชีวิตประจำวันของเธอ”
ลุงโอวตกตะลึงและงุนงงเล็กน้อย
นี่…มันหมายความว่ายังไง?
เขาถามอย่างไม่เข้าใจ: “เมื่อครู่คุณชายไม่ได้บอก…นี่คุณอยากจะให้เธออยู่ต่อเหรอครับ?”
กู้ซือเฉียนหัวเราะเบาๆ “ใช่ ในเมื่อเธอเสนอตัวถึงที่แบบนั้น และอยากจะอยู่ต่อไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน หากฉันไม่ทำให้เธอสมหวัง แบบนั้นไม่ถือว่าทำให้เจตนารมณ์ของคนอื่นต้องเสียเปล่าหรอกเหรอ?”
ลุงโอวขมวดคิ้วและไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “แต่คุณชายครับ ผมไม่ควรจะพูดสิ่งนี้ แต่ผมอยากจะพูดจนอดไม่ไหว คุณหลินท่านนี้ ไม่ใช่คนดีจริงๆ…”
กู้ซือเฉียนมองเขาแล้วพูด: “ลุงโอว ลุงคิดไปถึงไหนแล้ว?”
ลุงโอวอึ้งไป
กู้ซือเฉียนพูด: “ถึงฉันจะไม่ได้ชอบเธอ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เธอพูดถูกอย่างหนึ่ง”
ลุงโอวงงเล็กน้อย
กู้ซือเฉียนพูดต่อ: “ฉันช่วยเธอมา เธอก็ควรจะต้องตอบแทนอะไรฉันบ้าง ใช้ตัวเข้าแหลกก็ได้ แต่หากเธอทำให้คนอื่นพอใจแทนฉันได้ มันจะเป็นการตอบแทนชนิดหนึ่งใช่ไหม?”
ลุงโอวตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้
สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไรแล้วก้มหน้าและตอบ: “ครับ”
กู้ซือเฉียนจึงได้โบกมือให้เขาออกไป
อีกฟากหนึ่ง หลินเยว่เอ๋อร์ที่ต้องพ่ายแพ้ เธอกลับมาพร้อมจมูกรื้น เธอโกรธและไม่มีที่ระบาย
ทันใดนั้นก็เห็นสาวใช้สวยสง่าคนหนึ่งเดินเข้ามา
เธอตกตะลึง ผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูก็ถูกเคาะจากด้านนอก เธอจึงรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมาหาเธอจริงๆ
เมื่อครู่ที่เห็นเธอเดินมาทางตนเองนั้นยังเข้าใจว่าไม่ใช่เพียงแต่บังเอิญผ่านมาเท่านั้น
คิดไม่ถึงว่าจู่ ๆ ก็มาหาเธอ
ที่นอกประตู สาวใช้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพและมีมารยาท: “คุณหลิน คุณอยู่ไหมคะ?”
หลินเยว่เอ๋อร์รู้สึกประหม่าขึ้นมา
เธอเป็นใคร?
มาทำไม?
มาไล่เธอออกไปงั้นเหรอ?
เมื่อคิดถึงท่าทางที่โหดร้ายของกู้ซือเฉียนเมื่อครู่ ใจหลินเยว่เอ๋อร์ของก็เต้นแรงเหมือนตีกลอง มันเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับจะเต้นขึ้นมาถึงคอหอย
แต่เสียงเคาะประตูที่ด้านนอกก็ยังคงดังต่อไป เธอไม่สามารถจะแกล้งไม่ได้ยินมันตลอดไป
สุดท้ายจึงได้แต่ระงับความโกรธ โดยคิดว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เธอไม่สามารถถูกไล่ออกไปได้
ถึงจะพึ่งได้ก็ต้องพึ่งที่นี่
เมื่อคิดแบบนี้ จึงกระแอมในลำคอแล้วเดินไปเปิดประตู
เมื่อเปิดประตูก็พบกับสาวใช้อายุราวสิบแปดสิบเก้ายืนอยู่ด้านนอก
สาวใช้ดูสวย แม้ว่าเธอจะดูสวยน้อยกว่าหลินเยว่เอ๋อร์อยู่สักหน่อย แต่เธอก็เป็นประเภทคุณหนูน้อย
เธอยืนอยู่ตรงนั้นและยิ้มให้หลินเยว่เอ๋อร์เล็กน้อยแล้วพูด: “คุณหลิน สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเสี่ยวถาวเป็นคนที่ลุงโอวมอบหมายให้มาดูแลคุณค่ะ ต่อไปฉันจะอยู่ข้างๆ คุณค่ะ”
หลินเยว่เอ๋อร์อึ้งไป
และสับสนเล็กน้อย
ให้มาดูแลเธอ?
ต่อไปจะอยู่ข้างๆ เธอ?
หมายความว่ายังไง?
ทะ…เธอจะถูกไล่ออกไปอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? กู้ซือเฉียนไม่ตอบรับคำขอร้องไห้เธออยู่ต่อ ยังดูถูกเธออย่างรุนแรงด้วย เธอควรจะต้องถูกไล่ออกไปเร็วๆ นี้แล้วถึงจะถูกสิ
ทำไมถึง…ให้คนมาดูแลเธอล่ะ?
หลินเยว่เอ๋อร์ยังไม่เข้าใจ ส่วนทางเสี่ยวถาวก็พูดขึ้น
“คุณหลินคะ นี่เป็นเสื้อผ้าที่เปลี่ยนแล้วของวันนี้ใช่ไหมคะ? ฉันจะเอาไปสักให้นะคะ”
เธอพูดแล้วก็เดินเข้ามาและหยิบเอาชุดที่เปลี่ยนแล้วของหลินเยว่เอ๋อร์จากอีกด้านเดินออกไปข้างนอก
หลินเยว่เอ๋อร์จึงได้สติ สีหน้าเธอเปลี่ยนไปและรีบขวางเธอ
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน”
เสี่ยวถาวหยุดเดินและหันกลับมามองเธอ
หลินเยว่เอ๋อร์เก็บอาการแล้วจึงถาม “เธอ…ถูกพวกเขามอบหมายให้มาดูแลฉันจริงเหรอ?”
เสี่ยวถาวพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณหลิน ทำไมเหรอคะ?”
หลินเยว่เอ๋อร์ใจเต้นดวงตาของเธอกลอกสองสามครั้งก่อนที่เธอจะถามอีกครั้ง: “งั้นพวกเขาได้พูดรึเปล่าเรื่องที่ฉันจะต้องไปจากที่นี่ทันทีแล้วรึเปล่า?”
เสี่ยวถาวได้ยินคำพูด ดวงตาของเธอแสดงความงุนงง
“เอ่อ…ไม่มีนะคะ คุณหลิน คุณจะไปแล้วเหรอคะ?”
“เปล่าจ้ะ” เธอฝืนยิ้มแล้วพูด: “ฉันก็พูดไปงั้นเองแหละ เอาล่ะ ตรงนี้ไม่มีอะไรแล้ว เธอไปเถอะ”
เสี่ยวถาวจึงพยักหน้าและหันหลังเดินออกไป
หลังจากที่เสี่ยวถาวจากไปหลินเยว่เอ๋อร์ก็ก้มหน้าและครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ท้ายที่สุดเธอรู้สึกไม่แน่ใจ
พอดีว่าเธอเห็นลุงโอวที่กำลังผ่านมาจากด้านนอก
จึงรีบวิ่งออกไปและวนตามลุงโอวไป
“ลุงโอวคะ”
เธอวิ่งพร้อมตะโกนเรียกชื่อเขา
ลุงโอวได้ยินและหันกลับมาเมื่อเห็นเธอก็อดที่จะขมวดคิ้วโดยอัตโนมัติไม่ได้
แน่นอนว่าหลินเยว่เอ๋อร์เห็นปฏิกิริยาของเขา ในใจใช่จะไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอได้ทำให้เขาโกรธเข้าแล้ว