หล่อนคิดและลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหล่อนก็พูดออกไปว่า “พี่ ถ้าพี่ไม่กลับไปกับฉัน พี่ก็ไม่มีที่ให้ไปอีกแล้วนะ! เพื่อนเก่าของพี่ก่อนหน้านี้…ไม่ใช่ว่าพวกเขาตายกันหมดแล้วหรือ?”
ใช่แล้ว เพื่อนที่ดีที่เธอเคยคิด พวกเขาทรยศเธอ และพวกเขาก็…ตายไปแล้ว
พวกเขาตายด้วยน้ำมือของผู้ชายคนนั้น
เธอจะไม่มีวันลืม สายตาของพวกเขาที่มองเธอก่อนตายเลย
มันเป็นสายตาที่บ่งบอกว่า ฉันเชื่อเธออย่างสุดหัวใจ แต่เธอกลับหักหลังฉันอย่างไร้ความปรานี
และตอนนั้นเองที่ทำให้เธอรู้ว่า ไม่ใช่แค่คนในกลุ่มมังกรเท่านั้นที่คิดว่าเธอเป็นสายลับ ที่ขโมยข้อมูลสำคัญจากกลุ่มมังกร เพราะแม้แต่คนในกลุ่มหงส์แดงเอง พวกเขาก็ยังคิดว่าเธอมีความสัมพันธ์พิเศษกับกู้ซือเฉียน และเมื่อทั้งสององค์กรพบกัน พวกเขาก็ไม่อาจต้านทานสิ่งล่อใจนี้ได้ในที่สุด และช่วยเขาอย่างลับๆ
เพราะอย่างนั้น ก่อนที่พวกเขาจะตาย พวกเขาถึงได้ถามเธอแบบนั้น
พวกเขาพูดออกมาว่า “ เฉียวฉี พวกเราปฏิบัติกับเธอเหมือนเธอเป็นพี่น้องของพวกเรา ทำไมเธอถึงทรยศพวกเรา?”
ทำไม?
อา! ฉันไปจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่าทำไม?
เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ เธอก็เป็นเพียงแค่ฟางเส้นที่อยู่ตรงกลาง
เธอเป็นกลาง ไม่ช่วยเหลือใคร ทุกอย่างพูดตามกำลังของเธอเอง
เพราะอย่างนั้น เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ใครเป็นคนเอาความลับของทั้งสองฝ่ายมาเปิดเผยกันแน่ และในที่สุดมันก็นำไปสู่การปฏิวัติจนมาถึงจุดนี้
แต่ที่แน่ชัดเลยก็คือ เมื่อกลุ่มหงส์แดงพ่ายแพ้ สุดท้ายเธอก็ขอร้องเขาว่า ให้เขาปล่อยเพื่อนของเธอไป แต่เขาก็ไม่ทำ
เธอไม่เคยลืมใบหน้าเย็นชาที่เขาแสดงออกมา ในเวลานั้นเลยแม้แต่น้อย
เหมือนว่าช่วงระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมานี้ มันไม่มีอีกแล้ว
และช่วงเวลาแห่งความรักระหว่างพวกเขาทั้งสองคน มันก็หายไปแล้วเช่นกัน
ในสายตาของเขา ดูเหมือนว่าเธอจะเปลี่ยนจากเพื่อนที่ดีที่สุด กลายเป็นอาชญากรที่เขาเกลียดชังที่สุดเพียงชั่วข้ามคืน
เขาขังเธอเอาไว้ และในระหว่างนั้น เขาก็บังคับข่มขู่เธอ และถามเธอนับครั้งไม่ถ้วนว่า เธอได้ขโมยข้อมูลไปหรือเปล่า
เธอไม่ยอมรับ เพราะอย่างนั้นเขาจึงโกรธมาก เพราะคิดว่าเธอโกหกเขา
หลังจากการสอบสวนของเขา หลักฐานเกือบทั้งหมดมันก็ชี้เป้าไปที่เธอ
ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น คนข้างกายที่เขาไว้ใจมากที่สุดเพียงคนเดียวก็คือเธอ และนอกจากเขาแล้ว ก็มีเธอที่รู้ตำแหน่งของข้อมูล และเธอก็สามารถถือกุญแจได้
ดังนั้น การปฏิเสธของเธอจึงดูไม่มีน้ำหนักเลยแม้แต่น้อย
อีกทั้ง เขายังฆ่าเพื่อนของเธอ
เพราะอย่างนั้นเธอจึงมีเหตุผลที่จะแก้แค้น
เมื่อหลักฐานทั้งหมดมาอยู่ตรงหน้าของ เฉียวฉีเธอจึงไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้อยู่ในใจของตัวเองดีว่า เธอไม่ได้เป็นคนทำเรื่องพวกนี้ แต่เมื่อเห็นหลักฐานตรงหน้า เธอก็ไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้
เธอไม่ได้พูดอธิบายอะไรอีก จากนั้นก็นิ่งเงียบ และด้วยท่าทางนี้ของเธอ ในสายตาของคนอื่น มันจึงกลายเป็นการยอมรับ
เขาไม่เคยมาหาเธออีกเลย
ครึ่งปีที่ถูกคุมขังอยู่ที่นั่น คนสองคนเป็นเหมือนภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่แยกจากกัน ลูกหนึ่งอยู่ด้านใน อีกลูกหนึ่งอยู่ด้านนอก ไม่มีทางได้เจอกันอีกเลย
เธอไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และเธอก็ไม่รู้ว่า เขาวางแผนจะทำยังไงกับเธอ
เขาจะฆ่าเธอ? หรือเขาจะให้คนอื่นมาลงโทษเธอ?
เธอไม่รู้ และเธอก็ไม่อยากจะคิดด้วย
ก็เหมือนกับศพเดินได้เนื้อเดินได้ ใช้ชีวิตอย่างเฉื่อยชา
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ
ผู้หญิงคนนี้ดูคล้ายกับเธอนิดหน่อย แต่เมื่อเทียบกับเธอที่เบาราวกับน้ำแล้ว อีกฝ่ายก็ดูสวยกว่าเล็กน้อย หล่อนมีเอวคอดราวกับตะเกียบ มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มเบิกบาน มองเพียงแวบแรกก็ทำให้รู้สึกสนใจ
หล่อนยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ พร้อมกับมองดูเธออย่างเย้ยหยัน และเหมือนกับว่าหล่อนเข้ามาที่นี่โดยไม่ตั้งใจ จากนั้นก็ตะโกนออกมา
“เธอเป็นใคร? ทำไมเธอถึงถูกขังอยู่ที่นี่!”
หล่อนสวมกระโปรงสั้นสวยงามตัวเล็กๆ หล่อนยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าหล่อนตกใจอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นก็ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว
แสงแดดสาดส่องเข้ามาจากด้านหลังของหล่อน เพราะอย่างนั้นผมเป็นลอนสีทองของหล่อน จึงเปล่งประกายระยิบระยับออกมา
เฉียวฉีไม่ได้พูดอะไรออกไป ทำเพียงแค่มองดูหล่อนอย่างเย็นชา
หลังจากนั้น กู้ซือเฉียนก็เข้ามา
ดูเหมือนเขาจะโกรธเล็กน้อย เมื่อเขาได้ยินว่าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาที่นี่ แต่เขาก็สามารถเก็บงำความสุขและความโกรธของตัวเองได้เสมอ ดังนั้นจึงเห็นเพียงแค่ใบหน้าที่มืดมนยของเขา และเขาก็ไม่ได้แสดงออกมามากนัก
เขาเหลือบตามามองที่ เฉียวฉีครั้งหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับไปอย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วแน่น จากนั้นก็ถามผู้หญิงคนนั้นออกไปว่า “เธอมาที่นี่ทำไม?”
หญิงสาวยกมือขึ้นมาทาบที่หน้าอก จากนั้นก็เอนตัวไปทางเขา พร้อมกับใบหน้าที่อ่อนโยน
“ฉันเบื่อก็เลยออกมาเดินเล่นรอบๆ แต่ไม่คิดเลยว่าฉันจะเดินหลงมาที่นี่ ฉันไม่ได้ตั้งใจบุกเข้ามาที่นี่นะ พี่เฉียน เธอเป็นใคร? ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้?”
กู้ซือเฉียนเหลือบมองมาที่เธออย่างเย็นชา
ในสายตาที่ลึกล้ำนั้นมันเงียบสงบ ราวกับว่าเขากำลังมองคนแปลกหน้าที่ไม่มีเกี่ยวข้องกับเขา
เขาเปิดริมฝีปากบางของเขาเบา ๆ และพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นักโทษ”
“นักโทษ?”
หญิงสาวยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก จากนั้นดวงตาที่สดใสคู่นั้น ก็จับจ้องมองมาที่เธอ
ทันทีหลังจากนั้น ราวกับว่าหล่อนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ดวงตาของหล่อนมีความตกใจอยู่ จากนั้นหล่อนก็พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ขาดหายว่า “คงจะไม่ใช่…”
หล่อนไม่ได้พูดประโยคถัดมา ราวกับว่าหล่อนเข้าใจอะไรบางอย่าง
แต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนก็เข้าใจสิ่งที่หล่อนจะพูด
กู้ซือเฉียนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ตอบอะไรอีก แต่กลับพูดออกไปว่า “แถวนี้ไม่มีที่ให้เดินเล่นแล้ว ออกไปกันเถอะ”
พูดจบ เขาก็หมุนตัว โอบแขนผู้หญิงคนนั้น แล้วเดินออกไป
เมื่อผู้หญิงคนนั้นออกไป หล่อนก็หันกลับมามองที่เธอ สายตาของหล่อนเต็มไปด้วยความเห็นใจ แต่ถ้ามองดูลึกๆ แล้ว มันก็เหมือนกับมีชัยชนะและการเยอะเย้ยอยู่ในนั้น
เฉียวฉีรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองถูกแช่แข็ง และถูกฉีกขาดออกจากกัน
เธอเรียกเขาเอาไว้
และนั่นก็เป็นครั้งแรก ที่ทั้งสองคนพูดคุยกันในรอบหกเดือน
กู้ซือเฉียนหยุดชะงัก แต่ก็ไม่ได้หันหลังกลับมา
เขาเพียงแค่ฟังสิ่งที่เธอถามเท่านั้น “กู้ซือเฉียน หล่อนเป็นใคร?”
กู้ซือเฉียนยืนอยู่ตรงนั้น แผ่นหลังสูงใหญ่ของเขา บดบังแสงที่เล็ดลอดเข้ามาจากทางประตู แยกร่างของเธอให้ออกจากไปเงามืด
ผ่านไปไม่นาน เธอก็ได้ยินคำตอบที่เย็นชาของเขา
เขาพูดออกไปว่า “มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ”
มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ……
หัวใจของ เฉียวฉีสั่นไหวอย่างรุนแรง เพียงแค่คำพูดง่ายๆ เพียงสี่คำ มันก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนมีมีดเหล็ก พุ่งเข้าใส่หัวใจของเธออย่างแรง และความเจ็บปวดนั้นมันก็ได้แผ่ขยายไปในอวัยวะภายในของเธอทั้งหมด
เธอนั่งอยู่ที่นั่น ใบหน้าของเธอซีดในทันที และหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หัวเราะออกมาดังๆ
“อย่างนี้นี่เอง…” เธอพยักหน้า และยังคงนั่งไขว่ห้าง เห็นได้ชัดว่าสภาพแวดล้อมโดยรอบสกปรกเป็นอย่างมาก แต่ถึงมันจะอย่างนั้นดวงตาที่เต็มไปด้วยฝุ่นของเธอมันกลับสว่างไสว ราวกับไข่มุกยามค่ำคืนที่สว่างไสวในความมืด
จากนั้นเธอก็พูดออกไปว่า “ฉันเข้าใจแล้ว ไสหัวไปซะ!”
ร่างกายของชายหนุ่มแข็งทื่อ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ได้หันกลับมา ยังคงก้าวต่อไป
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ก็มีคนมารายงานว่า เกิดเรื่องขึ้นที่สถานที่คุมขังนักโทษ
เขาวิ่งออกจากห้องไปทันที เมื่อมาถึงเขาก็เห็นสถานที่ที่เธอถูกขังเอาไว้ มันสว่างไสวไปทั่วทั้งห้อง
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปในทิศทางนั้นโดยสนใจคนที่อยู่ข้างหลังเลยแม้แต่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่คิดเลยว่า เธอจะได้เห็นฉากดังกล่าว
คืนนั้น เป็นคืนที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของ เฉียวฉี
เธอบุกทะลวงผ่านผู้รักษาความปลอดภัย และหลบหนีออกไป