และเห็นได้ชัดว่า อีกฝ่ายหนึ่งไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ ดังนั้นเมื่อเธอถูกชนจนล้มลง เขาจึงยังไม่ได้จากไปไหนทันที
แต่กลับเลี้ยวรถมาและพุ่งเข้าหาเธออีกครั้ง
และเมื่อมองเห็นถังชีชี ที่ล้มลุกคลุกคลาน วิ่งเข้ามาหาเธอเหมือนคนบ้าคลั่ง ดวงตาของเธอก็เย็นชาลงทันที ในขณะที่รถอยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งเมตร จู่ๆเธอก็กระโดดขึ้น ไปกระแทกที่หน้ารถดัง “ปัง!”
ทุกคนในที่นั่นตกตะลึง
รวมถึงคนที่อยู่ในรถก็ตกตะลึงด้วย
แม้ว่าเขาจะคิดเหตุการณ์ที่เป็นไปได้ไว้ต่างๆนานา แต่ก็ไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลยว่า ผู้หญิงคนนี้ถูกชนไปถึงสองครั้งยังไม่ตายและยังสามารถปีนขึ้นมาอยู่บนหน้ารถของเขาได้อีก
ชายคนนั้นรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาเล็กน้อย แต่เขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว เขารวบรวมสมาธิ และพุ่งรถออกไปด้วยความเร็วสูงพยายามจะสลัดคนที่อยู่ด้านหน้ากระโปรงรถออกไป
แต่ว่า เฉียวฉีคือใครกัน?
แม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ไม่เป็นก็ตาย หากว่าเธอถูกสะบัดลงไปละก็เกรงว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความตายแน่ และถูกบดขยี้เป็นเนื้อหมูสับ
ต่อให้เธอจะแข็งแกร่งและรวดเร็วเพียงใดก็ไม่อาจจะหนีล้อรถทั้งสี่นี้ได้
อีกอย่างหนึ่ง รถคันนี้พุ่งชนมาตั้งหลายครั้งแต่ไม่เห็นว่าที่กระจกจะเกิดรอยร้าวแต่อย่างใด บริเวณหน้ากระโปรงรถนอกจากรอยถลอกเล็กน้อยแล้วก็ไม่ได้บุกหรือเสียหายเลย เห็นได้ชัดว่าเป็นรถที่ใช้วัสดุพิเศษ คัดหามาเพื่อจะมาชนเธอโดยเฉพาะ
ในสถานการณ์แบบนี้ หากเธอต้องการมีชีวิตอยู่ละก็ทำได้เพียงต่อสู้อย่างสุดชีวิต จะปล่อยให้เขาสะบัดทิ้งไปไม่ได้
เธอพยายามจับกระจกของรถเอาไว้แน่น ไม่ว่าคู่ต่อสู้จะหันรถไปทางไหน หรือจะสะบัดอย่างไร ร่างกายของเธอเกาะติดอยู่กับกระจกนั้นไม่ขยับเขยื้อน
ในทางกลับกันถังชีชีได้สติกลับคืนมาและยืนหยุดอยู่ที่เดิม สีหน้าของเธอซีดเผือดมองมายังเฉียวฉีตะโกนว่า “พี่คะ!”
เฉียวฉีได้ยินดังนั้นก็ตะโกนกลับไปเสียงดังว่า “โทรศัพท์แจ้งตำรวจ!”
เมื่อถังชีชีได้ยินดังนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและจะโทรแจ้งตำรวจ
คนที่อยู่ในรถมองเห็นดังนั้น ก็เกิดความตื่นตระหนกขึ้น เขาคิดไม่ถึงว่าเฉียวฉีจะจัดการได้ยากมากขนาดนี้
เขาชนเธอไปแล้วถึงสองครั้งแต่ก็ยังไม่ตาย ถ้าหากตำรวจมาจริงๆล่ะก็ เรื่องการทำภารกิจล้มเหลวเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย และบางทีตนอาจจะต้องตายเปล่า
เมื่อถึงเวลา อีกฝ่ายหนึ่งไม่เพียงแต่ไม่จ่ายเงินค่าจ้าง แต่จะทรมานครอบครัวของเขาด้วย
เมื่อคิดได้ดังนั้น หัวใจของเขาเกาะอกสั่นขวัญหาย
เมื่อสลัดเธอทิ้งไปไม่ได้ แต่ถ้าเขาลงจากรถไปเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ เขาเคยดูประวัติเธอมาก่อนและรู้ว่าเธอเป็นนักฆ่าหญิง เขาซึ่งเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีทักษะการขับรถอยู่เล็กน้อย ฝีมือจะสู้กับเธอได้อย่างไร
แล้วจะทำยังไงดี?
ด้วยความฉุกเฉิน สายตาของเขาเปลี่ยนไปจ้องมองที่ถังชีชีซึ่งกำลังยืนโทรศัพท์อยู่ไม่ไกลนัก
ดวงตาอันเยือกเย็น และตัดสินใจแน่วแน่ก่อนจะหันทิศทางของรถ พุ่งชนไปทางถังชีชี
วินาทีที่เขากลับทิศทางรถนั้น เฉียวฉีก็รู้สึกได้ถึงความคิดของเขา
หัวใจของเธอหล่นวูบ เธอตะโกนออกมาจนคอแทบจะฉีกด้วยเสียงอันดังว่า “ชีชีระวัง!”
แต่ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างกลับสายเกินไป
ถังชีชีไม่ใช่เธอ หล่อนไม่ได้มีปฏิกิริยาการตอบสนองที่รวดเร็ว และไม่ได้มีความสามารถอันยอดเยี่ยม
ต่อให้ได้ยินเสียงเตือนเมื่อสักครู่ แต่เมื่อหันหลังไปก็พบกับรถที่พุ่งเข้ามาหาตนแล้ว แล้วเธอจะหลบได้อย่างไร?
ส่วนเฉียวฉีที่พยายามเกาะแน่นอยู่ที่ด้านหน้ารถเพื่อไม่ให้ถูกสลัดทิ้งไปก็เป็นเรื่องยากแล้ว ตอนนี้เธอจะเอามือที่ไหน ไปผลักถังชีชีออกมา?
ดังนั้น……
“ตูม!”
เสียงดังสนั่นลั่นฟ้าดิน ร่างนั้นถูกชนกระเด็นลอยออกไป
เฉียวฉีเบิกตากว้าง
วินาทีนั้นสมองของเธอว่างเปล่าหูของเธอไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น ดวงตาทำได้แต่มองไปตามร่างที่ลอยออกไปบนอากาศ จากนั้นก็ได้ยินเสียงดัง “ตุ้บ!” ร่างของเธอตกลงสู่พื้นและกลิ้งไปหลายตลบ เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากร่างกาย
“ชีชี!”
ดวงตาของเธอแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เธอตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด ราวกับเสียงคำรามนั้น จะทำให้หน้าอกของเธอแหวกออกมา ทะลุทะลวงไปทั่วท้องฟ้า
แต่รถคันนั้นกลับไม่หยุด
ราวกับเขาตัดสินใจวางแผนจะตายไปด้วยกัน อีกฝ่ายหนึ่งพุ่งชนถังชีชียังไม่พอ แต่กลับเร่งความเร็วไปที่หนึ่งร้อยยี่สิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง ชั่วพริบตาเดียวก็เกิดเสียงดังสนั่น “โครม!” เขาชนเข้ากับสะพานลอยและแผงกั้นตรงสะพานพังทลาย รถแล่นลงสู่แม่น้ำที่ไหลเชี่ยว
ส่วนเฉียวฉีที่พยายามจะหยุดรถ วินาทีที่เธอรู้ว่าเขาตัดสินใจจะตายไปด้วยกันนั้น ต่อให้เธอปล่อยมือออก ด้วยความเร็วของรถที่พุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจใดๆ เธอก็ปล่อยไม่ทันแล้ว
ร่างของเธอถูกรถลากลงน้ำที่ไหลเชี่ยวไปพร้อมกัน
……
ส่วนกู้ซือเฉียนเมื่อได้รับข่าวนี้ ก็เป็นอีกหลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ตอนที่เฉียวฉี เดินทางจากออกไป เขาเองก็ยังไม่วางใจนัก และรู้ว่าคนจากกลุ่มชาวจีนจะต้องมาหาเรื่องเธอแน่นอน ดังนั้นจึงส่งคนให้คอยติดตามเธอ
คิดไม่ถึงว่าผ่านไปไม่นานนัก คนที่เขาส่งออกไปก็กลับมา
เมื่อเข้ามาในห้องก็พบว่าชายคนนั้น ทำท่าทางลุกลี้ลุกลนเหนื่อยหอบสีหน้าซีดเผือด แสดงให้เห็นถึงความรีบร้อน
หัวใจของเขาตกลงไปที่ตาตุ่ม และสัมผัสได้ถึงลางไม่ดี
เป็นจริงดังนั้น เขาได้ยินลูกน้องที่ส่งไปพูดว่า “เจ้านายครับแย่แล้ว เกิดเรื่องแล้ว คุณเฉียวเธอ…… เธอถูกรถชน!”
กู้ซือเฉียนตกตะลึงทันใด
ปากกาในมือของเขาถูกกดจนหัก เสียงดัง “กรอบ!”
วินาทีต่อมา เขาก็เดินออกจากโต๊ะทำงานและวิ่งไปด้านนอก
……
ณ โรงพยาบาล
เนื่องจากอุบัติเหตุรถชนนี้เกิดขึ้นใจกลางเมือง คนที่เห็นเหตุการณ์มีไม่น้อย ดังนั้นหลังจากที่รถพุ่งลงสู่แม่น้ำก็มีคนโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลและแจ้งตำรวจทันที
ในไม่ช้าตำรวจก็เดินทางมาถึงและในขณะเดียวกันก็มีรถพยาบาลอีกสองคัน ถังชีชีที่นอนอยู่ข้างถนนถูกอุ้มใส่เปลฉุกเฉิน แต่รถคันนั้นพุ่งชนเธอจากด้านหน้า เธอถูกกระแทกลอยขึ้นไปบ่นในอากาศประมาณเจ็ดแปดเมตร กระดูกในร่างของเธอหักเกือบหมด ช่องท้องของเธอถูกชนจนยุบไป ทำให้หายใจไม่ออก
ดังนั้น เธอจึงไม่มีโอกาสรอดแล้ว การที่ทีมแพทย์และพยาบาลได้พาร่างของเธอขึ้นไปบนรถพยาบาล เพียงเพราะเหตุผลด้านมนุษยธรรม จะให้เธอนอนอยู่ข้างถนนคงไม่ได้
ส่วนคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยลงแม่น้ำเพื่อต้องการค้นหารถและคน
ตอนที่กู้ซือเฉียนเดินทางมาถึง พวกเขาเพิ่งจะนำรถและคนขับขึ้นมาจากน้ำได้
เนื่องจากกระจกรถใช้กระจกพิเศษ จึงไม่สามารถเคาะแตกได้จากด้านนอก พวกเขาพยายามอยู่หลายวิธีจนเปิดรถออก เมื่อมองดูคนขับรถที่อยู่ด้านในก็พบว่าเขาขาดลมหายใจไปนานแล้ว
ศีรษะของเขากระแทกลงตรงพวงมาลัยทำให้เลือดไหลนองหน้า แต่เห็นได้ชัดว่า การที่เขาสิ้นชีวิตลงนั้นไม่ใช่เป็นเพราะฟกช้ำจากรถชน แต่เป็นเพราะพิษชนิดหนึ่ง
เนื่องจากใบหน้าของเขานั้นดูดำคล้ำผิดปกติ ริมฝีปากก็ดำคล้ำเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าเป็นอาการของพิษที่ออกฤทธิ์ ส่วนพิษที่เขากินมันเข้าไปเพื่อฆ่าตัวตาย หรือมีเหตุผลอื่นก็ต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนเฉียวฉี ทีมกู้ภัยค้นหาไม่พบ
ทางตำรวจได้ส่งกองกำลังมาเพิ่มแล้วและยังคงกอบกู้ต่อไป กู้ซือเฉียนยืนอยู่ที่ริมแม่น้ำมองดูสายธารที่ปั่นป่วนด้วยสีหน้ามืดมน