วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 821 เธอผลัก

เฉียวฉีเงยหน้าขึ้นมองเธอและไม่พูดอะไร

หลินเยว่เอ๋อร์ พูดขึ้นเบาๆ: “พูดอย่างไม่ปิดบัง ฉันพนันไว้กับซือเฉียน”

เฉียวฉียังคงเงียบ

หลินเยว่เอ๋อร์ยังพูดต่อไป “การเดิมพันนี้ถ้าหากเขาแพ้ เขาจะต้องขอฉันแต่งงาน ถ้าหากเขาชนะ ตั้งแต่นี้ไปฉันจะต้องไปจากที่นี่และไม่รบกวนชีวิตเขาอีก”

เฉียวฉีส่งเสียงหัวเราะเย็นชา “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”

หลินเยว่เอ๋อร์เหยียดนิ้วออกแล้วขยับเบา ๆ “ไม่ๆ ๆ นี่มันเกี่ยวกับคุณมากเลยล่ะ”

เธอพูดและจู่ ๆ ก็เอนตัวมากระซิบข้างหู: “ คุณไม่อยากจะรู้เหรอคะว่าในใจของเขาสุดท้ายแล้วเป็นฉันที่สำสำคัญกว่าหรือคุณสำคัญกว่า?”

เฉียวฉีแววตาเป็นประกายเล็กน้อย มองมาที่เธอและขมวดคิ้วเล็กน้อย

“หมายความว่าไง?”

เฉียวฉียิ้มพราย “คุณคงยังไม่รู้สินะ ตอนนี้ซือเฉียนมีแผนการใหญ่ และในแผนนั้น ฉันก็เป็นคนสำคัญมากในแผนนั้น”

“ฉันเดิมพันกับเขา ถ้าหากฉันมีชีวิตรอดกลับมาจากแผนการนี้ได้ เขาจะขอฉันแต่งงาน แต่ก่อนอื่น คุณคงจะต้องจากไปก่อน”

ดวงตาของเฉียวฉีเริ่มเย็นชา

น้ำเสียงของหลินเยว่เอ๋อร์ยังคงแผ่วเบาแต่ดูเหมือนว่าเธอมีพลังวิเศษที่ไร้ขอบเขตที่จะลากผู้คนเข้าสู่ขุมนรก

เธอพูดขึ้นเบา ๆ: “ต่อหน้าผลประโยชน์และคุณ ดูเหมือนเขาจะเลือกผลประโยชน์ แต่ฉันก็ยังไม่พอใจ ฉันอยากจะเห็นว่าถ้าหากตัดเรื่องเกี่ยวข้องกับผลประโชน์เหล่านั้น แล้วมีแค่คุณกับฉัน เขาจะเลือกยืนอยู่ข้างไหน?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกไป ในใจของเฉียวฉีก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา

ผลคือหลินเยว่เอ๋อร์ลุกขึ้นยืนทันทีจากนั้นจับมือเธอและกรีดร้อง “เฉียวฉี คุณอย่าทำแบบนี้นะคะ คุณฟังฉันพูดก่อน!”

ตัวของเธอพิงราวกั้น

ดวงตาของเฉียวฉีกระชับขึ้น

วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงเธอกรีดร้อง: “เธอทำอะไรน่ะ ว้าย—!”

เธอคนนั้นดึงราวกั้นออกมาแล้วล้มลง

ทุกคนได้แต่ตกใจหน้าเสีย

เมื่อรีบวิ่งเข้าไปกลับได้ยินเพียงเสียง “ตู้ม” เธอตกลงไปในทะเลสาบแล้ว ส่วนเฉียวฉีที่ยื่นมือออกไปค้างอยู่กลางอากาศ ดูแล้วเหมือนเธอเป็นคนผลักให้คนคนนั้นจมน้ำ

ใบหน้าของเสี่ยวถาวเปลี่ยนไปและเธอก็กรีดร้อง “คุณเฉียว คุณทำแบบนี้ได้ยังไงคะ? คุณหลินของเราว่ายน้ำไม่เป็นนะคะ!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกพูดออกไป สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปในทันที

ในตอนนี้ได้ยินเพียงเสียงเตะเท้าในน้ำอย่างร้อนรน ทุกคนหันไปและพบว่ามีเงายืนอยู่ที่ตรงบันไดตั้งแต่ตอนไหน

เมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยวถาว เงานั้นกระโดดโถมลงไปชั้นล่างทั้งตัวโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น

ดวงตาของเฉียวฉีกระชับขึ้น

และเกิดลางร้ายขึ้นในใจ ดังคาด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงคนส่งเสียงตะโกนจากชั้นบน

“ว้าย! คุณชาย คุณชายกระโดดลงไปในน้ำแล้ว!”

ทุกคนพุ่งตัวลงไปด้านล่าง

เฉียวฉีเดินรั้งท้าย สีหน้าของเธอซีดจาง

เมื่อเดินไปได้ครึ่งทางก็ได้ยินเสี่ยวเยว่สาปแช่งขณะเข็นวีลแชร์ไปข้างหลังเธอ “เธอมันชั้นต่ำ!”

สีหน้าเธอเปลี่ยนไปแล้วถามเธอ “เมื่อกี้พวกเธอเห็นฉันผลักเธออย่างนั้นเหรอ?”

เสี่ยวเยว่พยักหน้าและพูดเสริมขึ้นมาอีก: “หากมีความคิดสักนิดก็น่าจะคิดได้ว่าคุณไม่มีทางผลักเธอได้เลย มองออกเลยว่าเธอจงใจตกลงไปเอง”

“ทำไมพูดอย่างนั้น?”

“ทำไมถึงจะไม่พูดอย่างนั้นล่ะ? คุณเป็นใครแล้วเธอเป็นใคร? หากเธอคิดจะฆ่าเธอจริงย่อมมีวิธีเป็นร้อย รับรองว่าไม่มีทางที่ใครจะหาหลักฐานได้ ทำไมจะต้องเลือกสถานที่ที่คนคนนั้นอยู่ด้วย แล้วผลักเธอลงไปต่อหน้าทุกคนเนี่ยนะ? นี่มันไม่เรียกว่าส่งด้ามมีดให้เขาหรือไง?”

เฉียวฉีได้ยินเธอพูดแล้วรู้สึกใจชื้นขึ้น

ในใจคิดว่าถึงแม้กู้ซือเฉียนจะมีอคติต่อตนเองมากกว่านี้ ก็คงไม่โง่ไปจนถึงจุดนั้นได้

เรื่องอยู่เป็นก็ยังสู้สาวใช้ไม่ได้

เธอหมกมุ่นเล็กน้อย ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวเยว่ จึงรีบเดินไปที่สระน้ำ

ที่ริมสระน้ำ

ที่รอบสระมีคนรายล้อมอยู่มากมายและคนรับใช้ส่วนใหญ่ในอาคารเสริมต่างตื่นตระหนก และแม้แต่ลุงโอก็รีบเข้ามาเมื่อเขาได้ยินข่าว

ในเวลานี้กู้ซือเฉียนได้อุ้มคนคนนั้นขึ้นมาแล้ววางลงบนพื้นราบข้างสระน้ำ

เพราะน้ำทำให้เสื้อและกางเกงของเขาเปียก และผมของเขาติดอยู่ที่หน้าผาก ทำให้เขากระเซอะกระเซิงเล็กน้อย

ลุงโอเห็นแล้วสีหน้าดูแย่ในทันที

“คุณชายครับ คุณกระดูกไม่ดี ทำไมถึงได้ทำเรื่องอันตรายแบบนี้? หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำยังไงครับ?”

กู้ซือเฉียนโบกมือไปมาอย่างไม่ใส่ใจ “เรียกหมอมาที”

หลินเยว่เอ๋อร์เป็นลมไปแล้ว เมื่อลุงโอเห็นเช่นนั้นจึงรีบให้คนไปเรียกหมอ จากนั้นก็ให้คนไปหยิบผ้าขนหนูและห่อตัวเขาไว้

กู้ซือเฉียนไม่ปฏิเสธและเช็ดหน้าตนเอง

เฉียวฉีเองก็รีบลงมา

สายตาของทั้งสองคนประสานกันกลางอากาศ แววตาของชายหนุ่มมีความเย็นชาเล็กน้อยแล้วก้าวเข้าไปหาเธอ

วินาทีต่อมาคางของเธอก็ถูกจับไว้แน่น

กู้ซือเฉียนดวงตาเคร่งขรึมและเค้นออกมาทีละคำ: “ฉันบอกเธอแล้วใช่ไหม อย่ายุ่งกับเธอ ทำไมเธอถึงไม่ฟัง?”

เฉียวฉีถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าของเธอสงบ

“ฉันไม่ได้ผลัก”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

ทันทีที่พูดไป เสี่ยวถาวก็ร้องขึ้นมา

“คุณพูดมั่ว เห็นชัดๆ ว่าคุณผลัก คุณเฉียว ฉันรู้ว่าคุณไม่เคยเห็นค่าของคุณหลินของเรา แต่เธอก็หวังดีกับคุณอย่างชัดเจน ทำไมคุณพุ่งเป้าไปที่เธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยคะ? หรือว่าในสายตาคุณแล้วเธอสมควรตายจริงๆ เหรอคะ?”

เสี่ยวเยว่เห็นดังนั้นก็โกรธ

“เธอสิพูดมั่วๆ ตาข้างไหนของเธอที่เห็นคุณเฉียวว่าผลักคุณหลิน? เห็นชัดๆ ว่าเธอไม่ระวังแล้วตกลงไปเอง”

“หึ! ไม่ระวังเอง? รั้วกั้นสูงขนาดนั้น จะต้องประมาทแค่ไหนคะถึงจะตกลงไปได้? คำพูดแบบนี้พูดออกมาตัวคุณเองจะเชื่อไหมล่ะคะ?”

“เธอ!”

ทั้งสองคนทะเลาะกันจากเหตุนี้

กู้ซือเฉียนสีหน้าเคร่งขรึมและตะโกนออกมาด้วยความโมโห “พอแล้ว!”

บริเวณโดยรอบเงียบไปครู่หนึ่ง

ทั้งสองตระหนักได้และมีความกังวลเล็กน้อยที่พวกเธอเสียมารยาทต่อหน้าเขา และพวกเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนใจเล็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง

แต่เฉียวฉีกลับสงบนิ่งตั้งแต่ต้นจนจบ

เธอได้แต่พูดอย่างเฉยเมย: “ฉันไม่ได้ผลักเธอ เธอเดินเข้ามาแล้วจับมือฉันเอง จากนั้นเธอก็ตกลงไป หากนายไม่เชื่อ ไปดูกล้องวงจรปิดก็ได้”

ทันใดนั้นก็มีคนแย้งขึ้นมา “บริเวณนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด!”

เฉียวฉีตกใจและขมวดคิ้ว

เมื่อเงยหน้ามองขึ้นไป แน่นอนว่าเนื่องจากตำแหน่งที่ตั้งทำให้ระเบียงในอาคารส่วนต่อขยายเป็นเพียงจุดเดียวที่ไม่มีกล้องวงจรปิด

ใบหน้าของเธออดไม่ได้ที่จะมืดมนลง

แววตาของกู้ซือเฉียนเย็นชาและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม: “เธอมีอะไรจะพูดอีกไหม?”

เฉียวฉีเม้มริมฝีปากแน่น

ไม่มีอะไรจะพูดอีก

วันนี้หลินเยว่เอ๋อร์ไม่ได้มาหาเธอเพื่อจะส่งของ และไม่ได้มาเพื่อโอ้อวด เธอวางแผนมาอย่างดีแล้วตั้งแต่ต้นว่าจะใส่ร้ายเธอ

ดังนั้นเธอจึงจงใจเลือกเวลาและตำแหน่งแบบนี้ เพื่อที่จะไม่มีใครนำหลักฐานมายืนยันภายหลังได้ว่าเฉียวฉีไม่ใช่คนที่ผลักเธอตกลงไป

เมื่อคิดถึงตรงนี้แววตาเธอก็มืดมนลง

อดคิดย้อนไปเมื่อสี่ปีก่อนไม่ได้ว่าก็เพราะผู้หญิงคนหนึ่งทำให้เธอไม่สามารถแก้ต่างให้ตัวเองได้เหมือนกัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset