วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 848 คนข้างหลัง

“ดีขึ้นมากแล้วล่ะ หมอบอกว่าอีกเดือนเดียวก็จะหายสนิทแล้ว”

เมื่อได้ยินเธอพูดว่ายังต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนในการฟื้นฟู ซูเจ๋อชื่อไม่เพียงแต่แสดงไม่มีท่าทีผ่อนคลาย แต่ยังขมวดคิ้วแน่น

“มันคงเป็นการบาดเจ็บสาหัสใช่ไหมครับ?”

เฉียวฉีพยักหน้า

เธอไม่ได้อธิบายว่าทำไมเธอถึงได้รับบาดเจ็บ และสำหรับคนที่เพิ่งเคยพบกันครั้งแรก และเพิ่งรู้จักกัน ซูเจ๋อชื่อก็ถามอะไรมากไม่ได้

เกรงว่าจะทำให้คนอื่นรู้สึกลำบากใจ

ดังนั้น เขาจึงพูดได้เพียงว่า “ต่อไปคุณเฉียวต้องระมัดระวังด้วยนะครับ และผมหวังว่าคุณจะหายดีโดยเร็ว”

เฉียวฉียิ้มเล็กน้อย และกล่าวว่า “ขอบคุณค่ะ”

จากนั้น ทั้งสองก็ไม่พูดอะไรกันอีก และตรงไปยังห้องน้ำ ซูเจ๋อชื่อชี้ไปข้างหน้า แล้วพูดว่า “ห้องน้ำอยู่ตรงนั้น คุณเฉียวเดินเข้าไปเองแล้วกันครับ”

เฉียวฉีพยักหน้า และขอบคุณอีกครั้ง แล้วจึงเข้าไปข้างใน

เมื่อทำธุระเสร็จแล้ว เธอก็มาส่องกระจกเพื่อจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็หันหลังกลับ เตรียมตัวจะออกไปข้างนอก

แต่ตอนนี้ ขณะที่มือของเธอจับลูกบิดประตูห้องน้ำ จู่ๆ ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อ

สัญชาตญาณของการผ่านความเป็นความตายมาหลายปีบอกเธอว่า มีคนอยู่ในห้องน้ำ

และเพราะตรงนี้เป็นโซนวีไอพี ห้องน้ำแต่ละห้องก็แยกจากกัน ในนั้นมีห้องน้ำเพียงห้องเดียวกับอ่างล้างหน้าอีกหนึ่งอัน

เมื่อครู่ตอนเธอเข้ามา ภายในว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ที่นั่นได้แน่ๆ ดังนั้น…

มือที่จับลูกบิดประตูของเฉียวฉีกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ เธอหายใจเข้าลึกๆ แล้วเปิดประตู

ด้านนอก ไม่ไกลนัก ซูเจ๋อชื่อยังคงรออยู่ตรงนั้น

เฉียวฉีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เดิมทีเธอคิดว่าเมื่อเขาพาเธอมาส่งถึงที่แล้วก็คงจะกลับไปแล้ว

เธอเดินเข้าไป แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันรบกวนให้คุณพามา แล้วยังให้คุณรออีก”

ซูเจ๋อชื่อนำบุหรี่ที่ดับแล้วในมือทิ้งลงในถังขยะแล้วพูดว่า “ไม่ได้รบกวนเลยครับ ผมก็ไม่ได้มีธุระอะไรอยู่แล้ว”

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดอีกว่า “คุณเรียบร้อยแล้วใช่ไหม? ถ้าเสร็จแล้วเราก็ไปกันเถอะ”

เฉียวฉีพยักหน้า

ทั้งสองจึงเดินออกไปพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินออกไปเพียงสองก้าว เฉียวฉีก็หยุดกะทันหัน เธอหันกลับมาอย่างรวดเร็วและพูดว่า “อ๊ะ กำไลข้อมือของฉันหล่นหายไป มันน่าจะอยู่ในห้องน้ำ เดี๋ยวฉันกลับไปหาในห้องน้ำก่อนนะคะ”

ซูเจ๋อชื่อหันกลับมาด้วยความประหลาดใจ และเมื่อเขาได้ยิน จึงถามว่า “กำไลข้อมือแบบไหน? ให้ผมช่วยหาไหม?”

เฉียวฉีส่ายหัว

เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นป้าที่สวมชุดทำความสะอาดเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ดูเหมือนกับว่าเธอจะเข้าไปทำความสะอาด

คิ้วถูกขมวดเป็นปม

ตอนนี้ซูเจ๋อชื่อเดินไปอยู่ข้างเธอแล้ว มองเธอที่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เดินต่อ ดวงตาของเขาเพียงแค่จ้องที่เธออยู่อย่างนั้น และอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัย

“เป็นอะไรไปครับ?”

เฉียวฉีเงยหน้าขึ้น และหยิบกำไลข้อมือรูปใบไม้ที่ดูสวยงามและประณีตออกมาจากแขนเสื้อของเธอ

“ไม่ต้องหาแล้วล่ะ กลายเป็นว่ามันเกี่ยวอยู่กับชายกระโปรงลูกไม้ของฉันเอง”

ซูเจ๋อชื่อรู้ดังนั้น ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่หล่นไปที่อื่นก็ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราไปกันเถอะ”

เฉียวฉีพยักหน้า

ทั้งสองเดินออกไปพร้อมกัน

เฉียวฉียังคงให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวที่อยู่ข้างหลังเธอ จนกระทั่งแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา เธอจึงขมวดคิ้ว

หรือว่า เป็นไปได้ไหมที่เธอคิดมากไปเอง?

ป้าคนทำความสะอาดนั่น แค่เข้าไปทำความสะอาดจริงเหรอ?

ไม่รู้ว่าทำไม เฉียวฉีจึงมีความรู้สึกแปลกๆ

แต่แล้วเธอก็รู้สึกว่า หรือว่าบางทีอาจเป็นเพราะว่าตัวเธอเองตึงเครียด และอ่อนไหวมากเกินไป

เมื่อถึงลานด้านนอก เฉียวฉีจึงรู้ว่า กู้ซือเฉียนกำลังมองหาเธออยู่

เธอเดินเข้าไปหากู้ซือเฉียน และเมื่อเขาเห็นเธอยืนอยู่กับซูเจ๋อชื่อดวงตาของกู้ซือเฉียนก็บึ้งตึงขึ้น เขาเดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และถามว่า “ทำไมไม่บอกฉันสักคำว่าคุณออกมาข้างนอก?”

น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยอารมณ์โกรธ ซึ่งทำให้ดูสนิทสนมกันมากขึ้น

ซูเจ๋อชื่อแปลกใจเล็กน้อย และมองดูพวกเขาด้วยความประหลาดใจ

“คุณชายกู้กับคุณเฉียวรู้จักกันเหรอ?”

ในฐานะเพื่อนสนิทคนหนึ่งของหลินซง แม้ว่าเขาจะไม่สนิทสนมกับกู้ซือเฉียนมากนัก แต่ก็เจอกันตลอด

ดังนั้น ทั้งสองก็ยังถือว่าเป็นคนรู้จักกัน

แต่เขาไม่รู้ว่า เฉียวฉีกับกู้ซือเฉียนนั้นมาด้วยกัน

กู้ซือเฉียนเงยหน้ามองซูเจ๋อชื่อแต่ก่อนที่เขาจะมีเวลาพูด เฉียวฉีก็ได้พูดออกมาก่อนแล้ว

เธอหันไปยิ้มและพูดกับซูเจ๋อชื่อ “ขอบคุณ คุณชายซูสำหรับเมื่อครู่นะคะ อุตส่าห์พาฉันไปเข้าห้องน้ำ รบกวนคุณแย่เลย ตอนนี้ฉันโอเคแล้ว คุณไปทำธุระของคุณต่อเถอะค่ะ”

ซูเจ๋อชื่อจ้องลึกไปที่ดวงตาของเธอ จากนั้นก็สลับไปมองกู้ซือเฉียน มันคงจะไม่สะดวกถ้าถามคำถามมากเกินไป เขาจึงหันหลังเดินจากไป

หลังจากที่เขาจากไป กู้ซือเฉียนก็พูดกับเฉียวฉี “เจ็บเท้าไหม?”

เฉียวฉีพยักหน้า “นิดหน่อย”

ทันทีที่เสียงลดลง ร่างกายของเธอก็รู้สึกเบาขึ้น ปรากฏว่าเธอถูกเขาอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้ว

เฉียวฉีอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปด้วยความตกใจ และโดยไม่รู้ตัวสองมือนั้นก็โอบรอบคอของเขาไปแล้ว เธออุทานออกมา “คุณทำอะไรน่ะ?”

ใบหน้าของกู้ซือเฉียนนิ่งสนิท ไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว “คุณไม่ได้บอกว่าคุณเจ็บเท้าหรอกเหรอ?”

“ฉัน…”

เท้าของฉันเจ็บแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณอุ้มสักหน่อย

ประโยคหลังนั้นเธอไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะกู้ซือเฉียนได้อุ้มเธอเดินไปทางห้องรับรองแล้ว

ในเวลานี้ ไม่ไกลนัก ซูเจ๋อชื่อซึ่งยังไม่ได้ไปไหนไกลมองย้อนกลับมาเห็นฉากนี้ คิ้วของเขาก็ขมวดจนเป็นร่องลึก

เมื่อเข้าไปในห้องรับรอง กู้ซือเฉียนก็วางฉีเฉียวลงบนโซฟา จากนั้นจึงนั่งลงตรงหน้าเธอ จับไปที่ข้อเท้าของเธอ พร้อมกับถอดรองเท้าออก

เฉียวฉีเปิดปากของเธอ “อย่า…”

ก่อนที่จะได้พูดคำต่อไป ชายคนนั้นก็เห็นเท้าที่บวมขึ้นเล็กน้อยของเธอแล้ว

เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

แม้ว่าหมอจะบอกว่า อาการบาดเจ็บที่ขาของเฉียวฉี ตอนนี้สามารถเดินเหินได้แล้ว แต่เขายังบอกด้วยว่า ไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูงยืนนานเกินไป

ดูจากตอนนี้แล้วนั้น เห็นได้ชัดว่าเธอยืนนานเกินไป

ก่อนที่เขาจะออกมา เขาได้ยินมาว่าเฉียวฉีไปดื่มและเล่นเกมกับคนพวกนั้น และเมื่อเขามองไปที่เท้าของเธออีกครั้ง ความโกรธของเขายิ่งพลุ่งพล่าน

เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ แล้วถามว่า “ก่อนที่ฉันจะไปฉันบอกคุณว่ายังไง? ฉันบอกให้คุณอยู่รอฉันที่นี่ ทำไมถึงไม่เชื่อฟังกันบ้างเลย? แถมยังออกไปเล่นเกมกับพวกเขาอีก”

เฉียวฉีเริ่มร้อนตัวเพราะรู้ว่าตัวเองทำผิด สายตาของเธอล่อกแล่ก และไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา

แต่ปากเจ้ากรรมของเธอก็ดันแข็ง “ฉันก็เล่นของฉัน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย”

จากนั้น ทันทีที่พูดจบ เธอก็รู้สึกว่ามีเงาสีดำปกคลุมอยู่ตรงหน้า และในวินาทีต่อมา ริมฝีปากของเธอก็ถูกปิดกั้น

ดวงตาของเฉียวฉีเบิกกว้างด้วยความตกใจ

นี่เป็นจูบที่เอ้อระเหยและลึกซึ้งมาก

ริมฝีปากนี้ ที่เมื่อนานมาแล้ว เขาไม่รู้ว่าเขาได้ลิ้มรสริมฝีปากนี้อย่างละเมียดละไมมาแล้วกี่ครั้ง และไม่รู้ว่ามันกี่ปีแล้วที่เขาเอาแต่ฝันถึงจูบนั่น เขาจำได้เสมอถึงรสชาติที่หอมหวานของมัน

แต่เมื่อพบกันอีกครั้ง กลับทำได้เพียงคอยดูอยู่ห่างๆ และไม่กล้าเข้าใกล้

มันช่างทรมานเหลือเกิน

จวบจนตอนนี้ เมื่อเขาได้จุมพิตที่ริมฝีปากนี้อีกครั้ง ก็ได้รู้ว่า ความทรงจำบางอย่างที่เขาคิดว่าเขาลืม และทิ้งไปแล้วนั้น แท้จริงแล้วแค่ถูกฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกลึกๆ ของเขาต่างหาก

ใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ความทรงจำที่สวยงามเหล่านั้นกระจ่างขึ้นมาได้

เฉียวฉีขัดขืนในตอนแรก

จูบนั้นเกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมมันถึงเกิดขึ้น

แต่มันประกบลงบนริมฝีปากของเธอจริงๆ และมันก็หมายถึง การจู่โจมเธออีกครั้งด้วย

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset