วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 866 ล้วนเป็นเรื่องเท็จ

“แต่ไม่คิดว่า หลังจากกลางดึกรอพวกเราหลับหมดแล้ว จู่ๆในห้องคุณชายมีเสียงระเบิดดังขึ้น ”

“เมื่อเราวิ่งเข้าไปดู ก็เห็นในห้องได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นแล้ว เราพยายามช่วยคุณชายออกมา แต่เขาก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัส ”

“เพราะว่าไม่สามารถจะหาคนที่ลงมือได้ในทันที ดังนั้นจึงรีบกลับอย่างรวดเร็ว”

เมื่อเฉียวฉีได้เยินเช่นนั้น หว่างคิ้วขมวดแน่นขึ้น

เธอถามอย่างเคร่งขรึมว่า“ตอนที่เข้าพักโรงแรม พวกคุณไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนหรือ?”

ฉินเยว่กล่าวอย่างหนักแน่นว่า“ตรวจสอบแล้ว”

เฉียวฉีอึ้งไป

เธอสังเกตเห็นบนใบหน้าของฉินเยว่มีอารมณ์ซับซ้อนและเกลียดชังอยู่ เธอครุ่นคิดและคาดเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“มีหนอนบ่อนไส้หรือ?”

ฉินเยว่กำหมัดแน่น แล้วพยักหน้า

“เป็นคนของทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือ?”

ฉินเยว่พยักหน้า

เฉียวฉีสูดลมหายใจ

งั้นก็แปลกแล้ว

หนอนบ่อนไส้อยู่ในทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย อีกฝ่ายใช้โอกาสสะดวกใดๆ เข้าไปวางระเบิดในห้องนอน ก็จะไม่มีใครพบเจอ

สีหน้าของเธอก็หม่นหมองลง

คนอื่นไม่รู้ แต่เธอเข้าใจดีว่า ทีมรักษาความปลอดภัยข้างกายกู้ซือเฉียน ล้วนผ่านการคัดกรองมาอย่างเข้มงวด

พวกเขาส่วนใหญ่ล้วนเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีอะไรบนโลกนี้ให้พวกเขาห่วงใยอีกแล้ว

ส่วนกู้ซือเฉียนก็ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดีมาโดยตลอด และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะหักหลังเพราะผลประโยชน์

สิ่งที่สำคัญที่สุด ตามที่เธอเข้าใจ คนส่วนใหญ่ในจำนวนคนกลุ่มนี้ เป็นเด็กที่ตระกูลกู้ส่งเสียมาตั้งแต่เด็ก หลังจากเติบโตขึ้นก็กลายเป็นมือขวามือซ้ายของกู้ซือเฉียน

บุญคุณตั้งเล็กจนเติบใหญ่ ความจงรักภักดีนี้ สามารถจินตนาการได้

แต่ตอนนี้ ปรากฏหนอนบ่อนไส้อยู่ในจำนวนคนกลุ่มนี้…………..

เฉียวฉีรู้สึกว่า หมอกควันตรงหน้าได้เริ่มขึ้นอีกแล้ว ปกคลุมสายตาของคน ทำให้คนมองไม่เห็นข้างหน้า

เธอเงียบลง และคนที่เงียบเหมือนเธอยังมีฉินเยว่อีกคน

ฉินเยว่ในเวลานี้ อย่าเอ่ยว่าเสียใจแค่ไหน

เพราะว่าแม้ทีมรักษาความปลอดภัยจะเป็นคนของกู้ซือเฉียน แต่เวลาปกติ ฝึกอบรมและดูแลโดยเขา

พูดอีกนัยหนึ่งนั่นก็คือ กู้ซือเฉียนได้มอบกองกำลังที่ดีที่สุดของตัวเอง กับชีวิตของตัวเองทั้งหมดไว้ในมือของเขา

แต่ว่าตัวเองได้ทำให้อีกฝ่ายผิดหวัง ไม่เพียงแต่ไม่สามารถสืบหาหนอนบ่อนไส้ได้ทันเวลา แต่ยังทำร้ายเขาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ตอนนี้ฉินเยว่อยากจะเอาปืนยิงตัวตาย

เฉียวฉีย่อมรับรู้ได้ถึงอารมณ์เขา เอื้อมมือ ตบไหล่เขาเบาๆ

“เรื่องนี้ไม่โทษคุณ คุณไม่ต้องตำหนิตัวเองหรอก ”

คนที่แม้แต่กู้ซือเฉียนก็ยังดูไม่ออก แล้วฉินเยว่จะมองออกได้อย่างไร

ที่สำคัญ ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายซุ่มซ่อนอยู่ในทีมรักษาความปลอดภัยมาตลอด เวลาปกติไม่ได้แสดงร่องรอยใดๆออกมา ก็เพียงเพื่อการโจมตีในวันนี้

ดังนั้น นี่เป็นไพ่ใบสำคัญในมืออีกฝ่าย พวกเขาจะให้คนพบเห็นไพ่ใบสำคัญนี้ง่ายๆได้อย่างไรกัน ?

เฉียวฉีเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ แต่ฉินเยว่ยังคงตำหนิตัวเอง

เมื่อเฉียวฉีเห็นเช่นนั้น ก็ไม่ได้ฝืน เธอรู้ว่า เวลานี้ไม่ว่าตัวเองจะชี้นำเขาอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์

ดังนั้น เพียงแค่กล่าวเสียงเคร่งขรึมว่า“คนเหล่านั้นล่ะ?ควบคุมตัวไว้หรือยัง?”

ฉินเยว่พยักหน้า “ทั้งหมดสิบแปดคน ล้วนควบคุมตัวไว้แล้ว ”

เฉียวฉีก็พยักหน้า

“ขอเพียงได้ควบคุมคนไว้แล้วก็ไม่ต้องกลัว คิดวิธี หาคนคนนี้ออกมา งัดปากเขาออก ดูว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของเขาคือใคร”

คำพูดของเฉียวฉี ทำให้ฉินเยว่สั่นอย่างแรง

เขายืดหน้าอกตรงโดยปริยาย แล้วกล่าวเสียงดังว่า “ครับ ”

เฉียวฉีโบกไม้โบกมือ“คุณลงไปจัดการก่อน ตอนนี้เรื่องนี้สำคัญที่สุด ทางกู้ซือเฉียนมีฉันอยู่ แล้วก็ยังมีลุงโอ คุณวางใจเหอะ ”

ฉินเยว่จึงพยักหน้าอย่างขอบคุณ แล้วหันหลังจากไป

เฉียวฉีกลับมาที่ประตูห้องนอนอีกครั้ง เห็นลุงโอเดินออกมา

เธอรีบเข้าไปถามว่า“เป็นอย่างไรบ้าง ?”

หว่างคิ้วลุงโอขมวดแน่น ทั้งๆที่เวลาไม่กี่ชั่วโมง ปรากฏว่าจู่ๆก็เหมือนแก่ลงไปหลายปี

เขากล่าวเสียงหนักแน่น“อาการยังไม่ดีขึ้น ตอนนี้จำเป็นต้องให้เลือด ผมได้ส่งคนไปเอาเลือดแล้ว”

เฉียวฉีพยักหน้า ลุงโอจึงจากไปอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวเยว่เห็นท่าทางเธอขวัญหนีดีฝ่อ จึงย้ายเก้าอี้มาวางไว้ข้างหลังเธอ

“พี่เฉียว อาการบาดเจ็บที่ขาของคุณยังไม่หายดี นั่งลงก่อนเถอะ”

เฉียวฉีตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัว แต่เห็นลุงโอที่จากไปแล้วหันหัวกลับมาอีกครั้ง ขมวดคิ้วกล่าวกับเธอว่า“นั่งรอเถอะ เมื่อคุณชายตื่นมาอยากจะเห็นคุณเป็นคนแรกอย่างแน่นอน หากพบว่าสถานการณ์ของคุณไม่ดี จะทำให้เขาห่วงได้”

เมื่อเฉียวฉีเห็นเช่นนั้น จึงกัดริมฝีปาก แล้วกล่าวว่า“ฉันรู้แล้ว”

จากนั้น จึงนั่งลง

ลุงโอจึงรีบจ้ำอ้าวจากไป

การผ่าตัดครั้งนี้ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง

หลังจากลุงโอได้ถุงเลือดมาแล้ว ก็เข้าไปอีก

ผ่านไปไม่นาน พวกหมอก็พากันออกมา

ทุกคนลุกขึ้น แล้วถามออกไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายว่า“อาการเป็นอย่างไรบ้าง?”

คุณหมอพยักหน้าแล้วกล่าวว่า“คงที่แล้ว แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ได้พ้นขีดอันตราย ยังมีเวลาอันตรายอีกสี่สิบแปดชั่วโมง พวกคุณจัดคนสองคนที่ไว้ใจได้เข้าไปดูแลเขา ระวังเบาเสียงหน่อย รอผ่านสี่สิบแปดชั่วโมงไปแล้ว ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาแล้ว ”

ทุกคนจึงวางใจลง

สองคนที่ไว้ใจได้ และก็เป็นคนที่มีเวลาด้วย ย่อมเป็นเฉียวฉีกับลุงโออยู่แล้ว

พวกเขาไม่ได้ลังเลอะไร เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็เข้าไป

ลุงโอรับผิดชอบจัดโภชนาการของเขา ส่วนเฉียวฉีอยู่เป็นเพื่อนของเขา คอยดูอาการของเขาตลอดเวลา

ในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อและแอลกอฮอล์รวมทั้งกลิ่นคาวเลือด

เฉียวฉีมองดูชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงเงียบๆ บนตัวพันเต็มไปด้วยผ้าก๊อซ แล้วขอบตาแดงระเรื่อเล็กน้อย

เธอนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง กล่าวเสียงเบา“กู้ซือเฉียน ทางที่ดีคุณรีบตื่นขึ้นมา หากคุณเป็นอะไรไป ฉันจะบอกคุณ ฉันไม่รู้จักจบสิ้นกับคุณอย่างแน่นอน! ”

ชายหนุ่มนอนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ไม่มีเสียง และก็ไม่ตอบ

ทันใดนั้น เธอรู้สึกคิดถึงเขาเมื่อก่อนขึ้นมาเล็กน้อย

กู้ซือเฉียนเมื่อก่อน แม้จะชอบทำให้เธอโกรธ นิสัยเหมือนเด็ก ชอบใช้นิสัยเด็กกับเธอ

และชายหนุ่มคนนี้ ตอนนี้ร้ายมาก ยังชอบทำให้เธอเสียใจอยู่ตลอด

แต่เฉียวฉีก็รู้สึกว่า กู้ซือเฉียนแบบนั้นจะดีกว่า มีชีวิตชีวากว่าเล็กน้อย

ไม่เหมือนตอนนี้ นอนอยู่บนเตียงเงียบๆ เหมือนตุ๊กตาไม้ที่ไม่มีชีวิตชีวาเช่นนั้น

เธอยกมือ กำมือของเขาที่ยื่นออกมาจากผ้าห่มไว้

เอามือข้างนั้นวางบนแก้มตัวเอง แล้วกระซิบเสียงเบาว่า“กู้ซือเฉียน ฉันมีความลับจะบอกคุณ?”

คนบนเตียงย่อมไม่ตอบกลับอยู่แล้ว

เธอเหมือนกับไม่รู้สึก พูดเองเออเองว่า“ฉันจะบอกคุณนะ ที่จริงเมื่อก่อนฉันบอกว่าเกลียดคุณหรืออะไร ล้วนเป็นเรื่องเท็จ ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset