วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 872 แผนที่ลึกลับ

เฉียวฉีผงะ ขมวดคิ้ว จากนั้นก็เห็นกู้ซือเฉียนกวักมือเรียกฉินเยว่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล

ฉินเยว่ยื่นสิ่งหนึ่งส่งให้เขาทันที

กู้ซือเฉียนรับมา และส่งให้เฉียวฉี “คุณดูสิ”

เฉียวฉีมองดู แต่เห็นว่าเป็นแผนที่ฉบับหนึ่ง

กู้ซือเฉียนกล่าวว่า “เดิมทีสิ่งนี้เป็นรอยสักบนหลังของเขา แต่ตอนแรกพวกเราเองไม่มีใครเห็นอะไรเลย จนในท้ายที่สุดฉินเยว่จึงได้สังเกตเห็นบางอย่างที่ดูผิดปกติเกี่ยวกับลายเส้นของรอยสัก หลังจากวิเคราะห์อย่างรอบคอบแล้ว ก็พบว่าเป็นภาพของแผนที่ ซึ่งน่าจะให้บางคนวาดขึ้นมา”

เฉียวฉีขมวดคิ้ว มองไปที่เส้นคดเคี้ยวบนนั้น และถามว่า “แล้วมันคือแผนที่ของที่ไหน?”

กู้ซือเฉียนส่ายหน้า “ฉันไม่รู้”

“ไม่รู้? แล้วมันจะนับเป็นข่าวดีได้ยังไงเล่า”

เธอไม่พอใจ

กู้ซือเฉียนหัวเราะออกมาเบาๆ “ก็ถ้ามันมีแค่นี้ ก็คงไม่นับเป็นข่าวดีหรอก แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญมาก ตอนที่ฉินเยว่มอบแผนที่นี้ให้ฉัน ฉันรู้สึกว่ามันดูคุ้นๆ ดังนั้นฉันจึงเอาแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ที่เราประมูลมาก่อนหน้านี้มาเทียบดู คุณทายสิว่าฉันเจออะไร

เฉียวฉีมองเขาอย่างอึ้งๆ

กู้ซือเฉียนหยิบแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ออกมาจากข้างตัว แล้วยื่นให้กับเธอ

“คุณเทียบดูเองได้เลย”

เฉียวฉีรับมันมา จากนั้นวางลงบนกระดาษแล้วเปรียบเทียบระหว่างภาพทั้งสอง

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกประหลาดใจ เพราะแผนที่ที่ปรากฏบนกระดาษนี้ เหมือนกับลวดลายบนแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ทุกกระเบียดนิ้ว!

นี่มัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?

กู้ซือเฉียนอธิบายด้วยเสียงทุ้ม “ฉันสงสัยว่า ลวดลายบนแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์นี้ เดิมทีไม่ใช่อักขระหรืออะไรเลย แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ขนาดใหญ่”

“ก่อนหน้านี้เราตรวจสอบไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์นั้นมีทั้งหมดสิบสองแผ่น? บางที แต่ละชิ้นอาจมีลวดลายแตกต่างกันออกไป ซึ่งจะแสดงถึงส่วนหนึ่งของแผนที่ เพียงแค่ต้องหาทั้งสิบสองชิ้นนี้ให้เจอ ก็จะสามารถรวมแผนที่ทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ และในที่สุดก็จะได้พบสิ่งที่เราต้องการจริงๆ “

เฉียวฉีขมวดคิ้ว และเริ่มรู้สึกว่า เรื่องนี้ดูเหมือนจะซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

เธอมองไปที่กู้ซือเฉียน และถามว่า “แต่ทำไมสิ่งนี้ ถึงเป็นรอยสักบนหลังของเขาได้? ไม่กลัวถูกบางคนพบเข้าเหรอ?”

กู้ซือเฉียนส่ายหัว

“จุดๆ นั้น ฉันก็ยังไม่แน่ใจนักเรื่องเป้าหมายของมัน แต่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ก่อนหน้านี้เขาน่าจะโกหกพวกเรา อย่างน้อยก็ส่วนหนึ่งที่เขาไม่ได้บอกความจริง”

คิ้วของเฉียวฉีขมวดเป็นปม

มาถึงจุดนี้ เธอก็นึกไว้อยู่แล้ว

หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่อีกฝ่ายกล่าวไว้จริงๆ ก็คงเพราะเขาไม่พอใจกับสภาพที่เป็นอยู่ในขณะนี้ที่กู้ซือเฉียนให้ แถมยังไม่สามารถหนีออกไปได้อีก มิฉะนั้น เขาจะถูกตอบโต้โดยกู้ซือเฉียน

ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายขอความช่วยเหลือจากเขา และสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์มากมายแก่เขา เขาจึงตกลงที่จะทำอย่างนั้น

แล้วถ้าอย่างนั้น รอยสักบนหลังของเขาจะอธิบายได้ว่าอย่างไร?

หรือถ้าจะบอกว่าเขาไม่รู้ว่ารอยสักนั้นคืออะไร แต่ถ้าไม่รู้แล้วจะยอมสักลายแปลกๆ บนร่างกายตัวเองได้อย่างไร?

แต่ถ้าเขารู้ นั่นก็แสดงว่า เขารู้ความหมายของมันตั้งแต่แรกแล้ว

หรือว่า ความจริงจะไม่ใช่อย่างที่เขาพูด ดังนั้นเหตุผลที่เขายินยอมที่จะทำเรื่องนี้กับอีกฝ่ายหนึ่ง จะต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างเป็นแน่

การที่อีกฝ่ายพบเขาเป็นแค่เรื่องบังเอิญ หรือว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงวิธีการปิดหูปิดตาคนอื่นของเขา?

หรือว่าอันที่จริง เขาเป็นคนที่อีกฝ่ายแอบส่งมาให้ซุ่มอยู่ข้างกู้ซือเฉียน?

เฉียวฉีไม่รู้ และไม่แน่ใจ เธอรู้สึกเพียงว่า ตอนนี้อะไรๆ ก็ดูซับซ้อนไปหมด

แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะรู้จักแผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ แต่ในความเป็นจริง คนที่ได้เห็นมันด้วยตาตัวเอง และคนที่เคยเห็นลวดลายบนนั้น สามารถนับจำนวนคนได้เลย

เธอไม่รู้ว่าคนคนนี้เห็นลวดลายนี้ได้จากช่องทางไหน แล้วยังก็สักลายนี้ไว้บนหลังของตัวเองอีก

และก็ยิ่งไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าการที่เขามาซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ กู้ซือเฉียนนั้นมีจุดประสงค์อะไร

ถ้ามันเป็นไปตามที่เธอคาดจริงๆ ความจริงแล้วเขาไม่ได้ฟังคำสั่งของคนเหล่านั้น แต่มีจุดประสงค์ของตัวเอง

การฆ่ากู้ซือเฉียน มีประโยชน์อะไรต่อเขา แท้จริงแล้วเขาต้องการอะไรกันแน่?

เฉียวฉีไม่รู้คำตอบ

และเชื่อว่าในเวลานี้ ก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เช่นกัน

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ในใจของเฉียวฉีก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา

เธอรู้สึกเสมอว่า ตั้งแต่ต้นจนจบของเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าทุกย่างก้าวของเธอและกู้ซือเฉียน จะถูกคำนวณโดยอีกฝ่ายไว้แล้วอย่างแม่นยำ

ไม่ว่าพวกเขาจะทำอะไร อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะสามารถได้สิ่งที่ต้องการจากมือของพวกเขาไปอย่างง่ายดาย แถมยังขัดขวางการเลื่อนไหวของพวกเขาได้อีก

คนคนนี้ เขาคือใครกันแน่?

ที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อวางแผนทั้งหมดนี้ขึ้นมา ความจริงแล้วมันเพื่ออะไรกัน?

เห็นได้ชัดว่ากู้ซือเฉียนก็สับสนเช่นเดียวกับเธอ

เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “ฉันจะส่งคนไปตรวจสอบ ความสัมพันธ์ทั้งหมดของเขาในช่วงหลายปีมานี้ ไปจนถึงภูมิหลังของครอบครัวด้วยว่ามีใครอีกบ้าง คุณไม่ต้องกังวลนะ ฉันไม่เชื่อหรอก ว่าจะหาเบาะแสอะไรไม่เจอเลย”

เฉียวฉีพยักหน้า มองไปที่เขา และอดไม่ได้ที่จะสารภาพความในใจออกมาหนึ่งประโยค

“คุณต้องระวังตัวด้วยนะ”

“อืม ฉันรู้”

หลังจากที่เธอจากไป กู้ซือเฉียนก็สั่งการบางอย่างกับฉินเยว่เพิ่มเติม และมอบหมายให้เขาไปตรวจสอบ

เฉียวฉีออกไปข้างนอก เมื่อพบเสี่ยวเยว่ จึงพาหล่อนกลับไปที่ห้องกับเธอด้วย

เสี่ยวเยว่มองไปที่เธอ และยิ้ม “พี่เฉียวเฉียว เมื่อครู่คุณกับคุณชายคุยอะไรกันเหรอคะ?”

เฉียวฉีหันไปมองเธอ และหัวเราะเบาๆ “เธอถามไปทำไมกัน?”

“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่อยากรู้เฉยๆ”

เธอกะพริบตาปริบๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเต็มไปด้วยความอยากซุบซิบ

หล่อนจ้องเฉียวฉีจนเธอรู้สึกเขินอายอย่างอธิบายไม่ถูก เห็นได้อยู่ว่าเธอยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย แต่เมื่อเธอมองดูเด็กหญิงตัวน้อยคนนี้ ก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองไปทำอะไรบางอย่างมาจริงๆ

เธออดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นเคาะหัวหล่อนเบาๆ แล้วตำหนิว่า “อย่าคิดฟุ้งซ่านน่า!”

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง เธอก็หันไปมองหล่อน และถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “แล้วเธอน่ะ วันนี้ฉันเห็นเธอกับซูเฉิงคนนั้นอยู่ด้วยกัน พวกเธอรู้จักกันมานานแล้วเหรอ?”

คำถามที่เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นของเฉียวฉี ทำให้ใบหน้าของเสี่ยวเยว่แดงก่ำขึ้นมาทันที

เธอตอบอย่างลังเล “เรา พวกเราไม่ได้รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว”

เฉียวฉีทำท่าไม่เชื่อ และส่ายหน้า “ทำไมฉันถึงไม่ได้รู้สึกแบบนั้นนะ? ดูจากความสนิทสนมของพวกเธอสองคนแล้ว ไม่เหมือนกับคนที่เพิ่งรู้จักกันสักนิด”

ได้ยินดังนั้นใบหน้าของเสี่ยวเยว่ก็ยิ่งแดงมากขึ้นไปอีก

เธอดูลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

ผ่านไปพักหนึ่ง จนเธอต้องพูดออกมาว่า “พี่เฉียวเฉียว อย่าล้อฉันเลย พี่ซูเฉิงกับฉันเป็นแค่คนที่มาจากที่เดียวกันเฉยๆ เราเป็นคนบ้านเดียวกัน ดังนั้นถึงจะให้พูดอะไรอีก ความจริงก็คือระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรเลยจริงๆ”

จากคำพูดเหล่านี้ ก็สัมผัสได้ถึงความเศร้าสร้อยฉายผ่านดวงตาของเธอ

เฉียวฉีเป็นคนฉลาด แม้ว่าหล่อนจะพยายามอย่างมากที่จะซ่อนความคิดของตัวเอง แต่เพียงแค่แวบเดียวเธอก็เห็นมันได้อย่างรวดเร็ว

เธอยิ้ม ก้มลงมองหล่อน แล้วถามอย่างจริงจังว่า “พวกเธอยังไม่ได้คบกันเหรอ? หรือว่า เธอชอบเขา แต่เขายังไม่รู้?”

ขณะนี้ ใบหน้าของเสี่ยวเยว่กลายเป็นสีแดงราวกับว่ากำลังจะมีเลือดออกจากหน้าของเธอ

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset