เฉียวฉีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ
แต่หลังจากคิดเรื่องนี้ถี่ถ้วนแล้ว เธอก็ส่ายหัว
“คงไม่ได้หรอก เธอยังต้องมีชีวิตของตัวเอง เธออยู่ที่นี่ก็เพราะเรื่องงาน จะสูญเสียเวลาทั้งชีวิตเพื่อทำงานได้ยังไงกัน?”
คำพูดของเธอ ทำให้เสี่ยวเยว่เงียบไป
ขณะนี้เป็นเวลากลางคืน ใบหน้าของหญิงสาวสงบและเยือกเย็น คิ้วของเธอก็ราบเรียบราวกับจะไม่สนใจสิ่งใดๆ อีกแล้ว ซึ่งแตกต่างจากรูปลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาตามปกติในทุกวันราวกับเป็นคนละคน
เนื่องจากเฉียวฉีนอนหลับตาอยู่ เธอจึงไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติในการแสดงออกทางสีหน้าของหล่อน
เธอพูดต่อไปว่า “ฉันยังหวังว่าเธอจะมีความสุขเป็นของตัวเอง พบคนที่ชอบเธอและเธอก็ชอบเขา ได้แต่งงานอยู่กินกันอย่างมั่นคง ได้มีลูก และใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของคนคนหนึ่งแล้ว”
เสี่ยวเยว่มองดูเธอ และถามทันทีว่า “ชีวิตอย่างปกติสุข มีความสุขจริงเหรอ?”
เฉียวฉีเลิกคิ้ว ลืมตาข้างหนึ่งเล็กน้อยแล้วพูดว่า “แน่นอน”
เสี่ยวเยว่ขดริมฝีปากของเธอ และไม่พูดอะไร
เฉียวฉีหลับตาลง และเพลิดเพลินกับการนวดของหล่อนต่อไป พลางพูดว่า “เสี่ยวเยว่ เธอไม่เคยสัมผัสประสบการณ์พิเศษเหล่านั้นมาก่อน เธอจึงไม่รู้ถึงความยิ่งใหญ่และความหายากของชีวิตที่ปกติสุข”
“เหมือนกับเรานั่นแหละ คนที่ใช้ชีวิตอยู่บนปลายมีดทุกวัน หลังจากผ่านวันนี้ไปก็ไม่รู้ว่าจะยังมีพรุ่งนี้อยู่หรือไม่ บางทีอาจจะไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับกับความสุขเหมือนกับพวกเธอไปตลอดชีวิตเลยก็ได้”
“แม้ว่าการรักษาความปลอดภัยด้านนอกจะแน่นหนาทุกคืน แต่เมื่อหลับตาลง ในหัวก็ยังตื่นอยู่เสมอ เพราะกลัวว่าถ้าไม่ระวังตัวแม้เพียงครั้งเดียว ใครๆ ก็จะสามารถถือมีดกระโจนเข้าใส่ตอนเราเผลอ และเชือดเข้าที่คอเราได้”
“คนเราน่ะ ต่างก็กลัวความตายกันทั้งนั้น แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ฉันก็พูดได้เลยว่าฉันไม่ได้ดูถูกความเป็นความตาย ถ้าสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ใครจะอยากตายก่อนเวลาอันควรล่ะ?”
“แต่นั่นเป็นเพราะว่าไม่อยากตาย เป็นเพราะความกลัวตาย ดังนั้นคนอย่างพวกเรา จึงทำได้เพียงอยู่อย่างอกสั่นขวัญแขวนทุกคืนวัน”
“และเมื่อความกลัวครอบงำชีวิตส่วนใหญ่ของเธอ ความมั่งคั่งและตำแหน่งที่เธอมี ก็จะไม่ทำให้เธอมีความสุขมากนัก”
“เสี่ยวเยว่ ฉันหวังให้เธอมีความสุขจริงๆ อย่าเป็นเหมือนฉันเลย เห็นได้ชัดว่าเธอมีโอกาสแล้ว แต่หากพลาดโอกาสนั้นไป ท้ายที่สุดเธอก็จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะไปทางไหนดี”
ขณะที่เธอพูด น้ำเสียงของเธอก็ค่อยๆ เบาลง
เสี่ยวเยว่ยังคงนวดให้เธอต่อไป ด้วยน้ำหนักมือที่นุ่มนวล และน้ำมันหอมระเหยที่ปลายนิ้วส่งกลิ่นหอมหวานจางๆ ราวกับโชยมาจากที่ไกลๆ ส่งผลให้คนที่ได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลาย และอยากจะเคลิบเคลิ้มอย่างนั้นต่อไป
เธอหลับตาลง และมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเธอ
ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะผล็อยหลับไปแล้ว เธอนอนหลับตาอยู่ตรงนั้น
เมื่อปลดการป้องกันทั้งหมดออก เธอดูบอบบางมาก ราวกับเด็กผู้หญิงธรรมดาๆ ราวกับนางฟ้าที่อ่อนโยนและไม่เป็นพิษเป็นภัย
นางฟ้า…
เธอทวนคำสองคำนี้อย่างเงียบๆ ในใจ ทันใดนั้นรู้สึกถึงความสมเพชตัวเองขึ้นมา
จำได้ว่าเมื่อนานมาแล้ว ในบ่ายวันหนึ่ง ตอนนั้นเฉียวฉีกระหายน้ำ เธอจึงเสนอน้ำบ๊วยให้หล่อนโดยที่หล่อนยังไม่ได้สั่ง หล่อนดีใจมากยิ้มจนแก้มแทบปริ และบอกว่าเธอเป็นนางฟ้าตัวน้อยของหล่อนจริงๆ
แต่ มีนางฟ้าที่เหมือนกับเธอด้วยเหรอ?
ด้วยเหตุผลบางอย่าง ดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันใด และแววตานั้นเต็มไปด้วยความอ้างว้างและความเจ็บปวด
เฉียวฉีตื่นขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา
เมื่อตื่นขึ้น ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาว ที่อยู่เหนือศีรษะของเธอ รอบกายห้อมล้อมไปด้วยลมทะเลสาบ พัดมากระทบทั้งใบหน้าและร่างของเธอ ทั้งสบายใจและเย็นสบาย
เธอไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มีผ้าห่มบางๆ ห่มไว้บนตัวเธอ และเมื่อหันหน้าไป เธอก็พบว่าเสี่ยวเยว่ไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อดูเวลาแล้ว ถ้านับตั้งแต่เธอมานอนที่นี่ ตอนนี้ก็ผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้ว
เธอประหลาดใจเล็กน้อย คิ้วของเธอค่อยๆ ขมวดย่น
เกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอกันแน่?
เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่เธอกระปรี้กระเปร่ามาก ทำไมเพียงชั่วขณะเดียว ถึงผล็อยหลับไปได้?
เฉียวฉีขมวดคิ้ว และลุกขึ้นนั่ง
ในเวลานี้ เสี่ยวเยว่ก็เดินออกมาจากข้างในพอดี และเมื่อหล่อนเห็นเธอสำรวจดู ก็ส่งเสียง “อ้าว” ออกมาอย่างประหลาดใจ จากนั้นก็เดินเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“พี่เฉียวเฉียว คุณตื่นแล้วเหรอคะ?”
เฉียวฉีพยักหน้า ลุกยืนขึ้น และในขณะที่ใช้มือสางผมอยู่ ก็พลางถามออกมาว่า “ทำไมฉันถึงหลับไปอีกแล้วล่ะ?”
เสี่ยวเยว่หยิบผ้าห่มมาจากมือของเธอ พลางเก็บข้าวของ ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “บางทีอาจจะเหนื่อยเกินไปจริงๆ ฉันก็เพิ่งเอาอุปกรณ์นวดเข้าไปเก็บ คิดว่าเดี๋ยวเดียวก็กลับมา ไม่ได้คิดว่าคุณจะหลับไป”
เฉียวฉีไม่ได้พูดอะไร
หลังจากมองดูเสี่ยวเย่วเก็บของทุกอย่างเสร็จแล้ว เธอก็เดินตามหล่อนเข้าไปในห้อง
ตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว
เสี่ยวเยว่จัดเตรียมน้ำสำหรับอาบไว้ให้เธอแล้ว เธอจึงหยิบเสื้อผ้าเดินเข้าไป ละเมื่อเห็นกลีบดอกไม้ในอ่างอาบน้ำ ก็หันกลับมาถามว่า “เสี่ยวเยว่ น้ำมันนวดที่เธอใช้เมื่อครู่ เป็นน้ำมันอะไรเหรอ?”
เสี่ยวเยว่ผงะ เงยหน้ามองไปที่เธอ ยิ้มและตอบว่า “มันคือน้ำมันดอกไม้ขาวแถมยังคงเป็นขวดที่ฉันกลั่นเองด้วยนะ”
“เธอไปหยิบมาให้ฉันดูหน่อยได้ไหม?”
เฉียวฉีถาม แล้วหยุดครู่หนึ่ง ก็อธิบายว่า “ฉันรู้สึกว่ามันใช้ดีเลยทีเดียว วันหลังฉันจะลองใช้กับกู้ซือเฉียนดูบ้าง เพราะตั้งแต่เขาได้รับบาดเจ็บ ตอนกลางคืนก็เลยมักจะนอนไม่ค่อยหลับเสมอเลย”
ไม่มีการแสดงออกที่ผิดปกติบนใบหน้าของเสี่ยวเยว่เลย เธอยังคงยิ้มและตอบว่า “ได้เลย ฉันจะไปหยิบมาให้ดู”
เฉียวฉีพยักหน้า แล้วหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไป
เมื่อเธอออกมาจากห้องอาบน้ำ เสี่ยวเยว่ก็ได้นำสิ่งนั้นมาแล้ว
หล่อนยื่นขวดน้ำมันดอกไม้ขาวให้เธอ และพูดว่า “ขวดนี้เป็นขวดใหม่ ยังไม่ได้เปิดฝาเลย คุณเอาไปลองใช้กับคุณชายกู้ดูสิคะ”
ขณะที่พูด ท่าทางเธอดูเขินอายเล็กน้อย เธอยิ้มแล้วพูดว่า “แต่น้ำมันนี้ฉันทำเองทั้งหมด เป็นวิธีการแบบเก่าที่ฉันเคยเรียนกับคนในครอบครัวตอนที่อยู่บ้านนอก มันจึงอาจไม่บริสุทธิ์มาก ไม่รู้ว่าคุณชายจะรังเกียจมันหรือเปล่า ”
เฉียวฉียิ้มอย่างไม่เต็มใจ “ไม่แน่นอน ถ้าเขาไม่ชอบมันฉันจะยอมเอาไปให้เขาใช้ได้ยังไงกันล่ะ”
เสี่ยวเยว่ยิ้ม แล้วพูดว่า “ถ้างั้นก็ดีเลยค่ะ”
เฉียวฉีพยักหน้า เมื่อเห็นว่าดึกมากแล้ว เธอก็ไม่ได้ให้หล่อนทำงานอยู่ที่นี่ต่อแล้ว และบอกให้หล่อนไปพักผ่อนตามอัธยาศัย ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียง และเตรียมตัวที่จะพักผ่อนแล้ว
หลังจากที่เสี่ยวเยว่จากไป เธอก็นอนบนเตียงอย่างเงียบๆ
เพราะคืนนี้แสงจันทร์นวลผ่อง ยังมีดวงดาวพร่างพราว เธอจึงไม่ปิดหน้าต่าง
ลมทะเลสาบในตอนกลางคืนพัดเข้ามา เพิ่มความเย็นสบาย เมื่อมองออกไปจากบนเตียง ก็สามารถมองเห็นกลุ่มดาวได้แต่ค่อนข้างรางเลือน
เฉียวฉีเปิดโคมไฟ หยิบขวดน้ำมันหอมระเหยออกมา และมองเข้าไปอย่างพินิจพิจารณาภายใต้แสงไฟ
ก็เห็นเพียงว่ามันเป็นขวดน้ำมันหอมระเหยธรรมดา เมื่อมองจากภายนอก อย่างน้อยก็มองไม่เห็นอะไร
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย
ใช้นวดไปสองครั้ง และก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัวทั้งสองครั้ง
หรือว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ เพียงเพราะเธอเหนื่อย หรือรู้สึกผ่อนคลายเกินไปหรือเปล่า?
เฉียวฉีก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ในเวลานี้ เธอต้องระวังตัว ดังนั้นเธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วส่งข้อความหากู้ซือเฉียน
ขณะนั้นกู้ซือเฉียนอยู่ในห้องนอนชั้นบน