วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 888 ไม่ให้อภัย

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่เธอยังคงบังคับใบหน้าของตัวเอง ถามเสียงเย็นชา “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร!”

ลิ่วเสิ่นไม่โกรธ แต่ส่ายหัวด้วยความผิดหวังเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “สักนิดก็จำไม่ได้เลยหรือ? หรือว่า ที่จริงเธอนึกออกแล้ว แต่ไม่คิดจะเผชิญหน้า?”

ดวงตาแวววาวของเขา มองมาที่เธอ

เฉียวฉีรู้สึกเคืองเล็กน้อย เพราะว่า ความทรงจำที่ปรากฏในใจของเธอตอนนี้ จริงๆแล้วมันค่อนข้างวุ่นวาย

ชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขาพูดนั้น มันจริงหรือไม่จริงกันแน่

สาเหตุที่เธอไม่ค่อยแน่ใจ ก็เพราะว่า มีอยู่สองสามปีก่อนที่เธอตามแม่ไปที่บ้านตระกูลถัง จริงๆแล้วเธอไม่มีความทรงจำอะไร

เธอไม่รู้ว่า เป็นเพราะเธอยังเด็กเกินไปที่จะจำ หรือเพราะเหตุผลอื่นกันแน่ ความทรงจำก่อนอายุ6-7ขวบนั้น ช่างว่างเปล่าในใจของเธอ

เธอรู้ว่าเมื่อคนเราโตขึ้น จะค่อยๆ ลืมบางเรื่องในวัยเด็ก

ดังนั้นเมื่อก่อนเธอจึงไม่คิดอะไรมาก

แต่ตอนนี้ ภาพที่ปรากฏในใจของเธอ หน้าตาที่คุ้นเคยของเด็กหญิงตัวเล็ก คำพูดที่อ่อนโยนและเสียงที่คุ้นเคย ล้วนดึงความทรงจำของเธอกลับมา

เป็นไปได้ไหม… …ว่า เธอจะรู้จักผู้ชายตรงหน้าจริงๆ?

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า คือเด็กชายตัวน้อยในความทรงจำของเธอหรือ?

ความสัมพันธ์ของพวกเขาคืออะไรกันแน่? ทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวที่นี่ตอนยังเด็ก?

ความสับสนปรากฏขึ้นในดวงตาของเฉียวฉี

ลิ่วเสิ่น มองมาที่เธอ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ลึกล้ำ “เฉียวเฉียว อันที่จริงถ้าหากเธอไม่อยากที่จะเผชิญหน้ากับมัน ฉันก็เข้าใจ ถึงอย่างไร ก็เป็นฉันที่ทำเธอหายไป ให้คนมารับเธอ เรื่องเปลี่ยนชื่อและนามสกุลกลายมาเป็นจนถึงตอนนี้ ฉันไม่อาจโทษเธอได้ ”

เฉียวฉีตกใจมาก

เธอมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา

“คุณกำลังพูดถึงอะไร? ทำฉันหายไป?”

“ใช่แล้ว”

ลิ่วเสิ่นพยักหน้า และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เฉียวเฉียว เราคือพี่น้องกัน พ่อแม่เดียวกัน นี่เป็นของเราเมื่อตอนเรายังเป็นเด็ก ตอนนั้น พ่อแม่ของเรายังอยู่ แต่เพราะเจอเรื่องราวบางอย่าง ฉันเลยทำเธอหายไป ฉันตามหาเธอมาตลอดหลายปี แต่ไม่ได้ยินข่าวคราวของเธอเลย รู้ไหมว่าฉันกังวลแค่ไหน?”

เขาพูดพลาง แสดงอารมณ์วูบไหวผ่านดวงตาเล็กน้อย

เฉียวฉีขมวดคิ้ว และไม่รู้ว่าทำไม เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายพูดอย่างซาบซึ้งตรึงใจ ท่าทางนั่นมันคุ้นเคยมากในใจของเธอ

แต่คาดไม่ถึงว่า เธอไม่สามารถแสดงความสงสารหรือสนิทอะไรออกมาได้

เธอพูดอย่างเย็นชา “แล้วยังไง? นี่คือเหตุผลที่คุณจับฉันมาครั้งนี้หรือ?”

ลิ่วเสิ่นตกใจ

ความไม่แยแสของเฉียวฉี เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดการณ์มาก่อน

ดวงตาของเขาหม่นลง ก่อนจะพูดเสียงขรึม “เฉียวเฉียว พ่อแม่ของเราต่างก็เสียไปแล้ว ตอนนี้เธอเป็นญาติพี่น้องเพียงคนเดียวของฉันที่เหลืออยู่บนโลก ฉันไม่สามารถเห็นเธอร่อนเร่อยู่ข้างนอกได้”

“เห็นฉันร่อนเร่อยู่ข้างนอกไม่ได้ ก็เลยใช้วิธีนี้ลักพาตัวฉันมา?”

เฉียวฉียิ้มหยัน

ลิ่วเสิ่นอธิบายว่า “ถ้าฉันไม่ใช่วิธนี้ แล้วเธอจะตามฉันกลับมาไหม?”

เฉียวฉีสำลัก

ลิ่วเสิ่นพูดต่อ “ไม่ใช่ว่าเธออยากรู้หรือว่าฉันเป็นใคร? เอาละ ฉันจะบอกเธอ ฉันคือหัวหน้าของกลุ่มชาวจีนชิงซานถัง เธอควรรู้เอาไว้!”

เฉียวฉีตัวสั่นอย่างรุนแรง

ม่านตาเธอเบิกขยาย มองไปที่เขาอย่างเหลือเชื่อ

แน่นอนว่าเธอรู้จัก กลุ่มชาวจีนชิงซานถัง!

ย้อนกลับไปตอนนั้น สงครามระหว่างกลุ่มหงส์แดงและกลุ่มมังกร ไม่ใช่ว่ากลุ่มชาวจีนยุยงหรอกหรือ?

ถึงแม้ว่า เพราะว่าตอนนี้ แผ่นหยกคัมภีร์สวรรค์ถูกเธอและกู้ซือเฉียนถูกเธอโค่นล้มไปแล้ว โดยที่รู้ว่าเบื้องหลังนั้นน่าจะเป็นคนอื่น

แต่สงครามในปีนั้น กลุ่มชาวจีนออกกลอุบาย ไปกระทั่งถึงขยายอิทธิพล มันเป็นสิ่งแน่นอน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาของเธอก็เย็นชาขึ้นมาทันใด

เธอยิ้มเยาะ ก่อนพูด “พูดอย่างนี้ พวกสวี่ฉางเปย คุณก็รู้จักเหรอ?”

ลิ่วเสิ่นมองดูเธออย่างเงียบ ๆ และพยักหน้า “รู้จัก”

“เฮอะ!” จู่ๆเธอก็หัวเราะเยาะอย่างแดกดัน

“ดังนั้น คุณคิดว่าใช้วิธีนี้ลักพาตัวฉันมา และช่วยฉันให้ฉันกลับไปนึกถึงความทรงจำเมื่อครั้งยังเด็กได้ จะทำให้ฉันประทับใจ ซาบซึ้งจนน้ำตาไหลที่คุณรู้จักฉัน? พวกคุณนี่คิดอะไรไร้เดียงสาเสียจริง?”

เธอหยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา “แผนลักพาตัวก่อนหน้าคือคุณเหรอที่วางแผน?”

เธอหมายถึง ตอนที่เธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถูกคนช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำ และได้รับความช่วยเหลือจากกู้ซือเฉียน

เธอคิดว่า อีกฝ่ายจะปฏิเสธ

โดยไม่คาดคิด ว่าจะเห็นลิ่วเสิ่นคร่ำครวญเล็กน้อยครู่หนึ่ง และพยักหน้า

“เป็นฉันเอง ขอโทษด้วยที่ทุกครั้งจะใช้วิธีแบบนี้ แต่เธอก็รู้ว่า เพราะเรื่องก่อนหน้าของเราสอง ฉันรู้สึกว่าหากไม่ใช้วิธีที่เข้มงวด มันยากสำหรับเธอ ที่จะใจเย็นพอที่จะคุยกับฉันจริงๆ”

เฉียวฉียอมรับว่าเขาพูดถูก

เพราะตอนแรกเขาเข้าไปแทรกแซงเรื่องราวของกลุ่มหงส์แดงและกลุ่มมังกร ส่งเสริมสภาพการณ์อย่างวันนี้ด้วยมือของตัวเอง ทำให้พี่น้องที่แสนดีนับไม่ถ้วนของเธอตายอย่างน่าอนาถ เธอไม่สามารถให้อภัยพวกเขาได้

ไม่ต้องพูดถึง ตัวการที่ก่อให้เกิดภัยพิบัติครั้งนี้ สวี่ฉางเปยและพรรคพวกของเขายังคงอยู่ที่นี่ ยืนอยู่ข้างพวกเขา

เธอจะยอมรับเขาได้อย่างไร?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของเธอก็เย็นชาลง

ก่อนจะพูดอย่างไม่เกรงใจเลยว่า “ถ้าสิ่งที่คุณเรียกว่าพูดคุย คือให้ฉันและพวกคุณปรับความเข้าใจกัน แล้วยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับคุณ อีกอย่างฉันไม่แน่ใจว่าเราเป็นพี่น้องกันจริงๆ อย่างที่คุณพูดหรือเปล่า แม้จะเป็นพี่น้องกันจริงๆ ฉันก็ไม่สามารถคืนดีกับคุณได้ ดังนั้นคุณก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียเถอะ!”

คำพูดของเธอทำให้ดวงตาของลิ่วเสิ่นมืดมนลงเล็กน้อย

เขามองดูเธอ ก่อนพูดอย่างเคร่งขรึม “เธอเกลียดฉันขนาดนี้เลยหรือ? เกลียดเรา?”

เฉียวฉียิ้มเยาะ ก่อนถามว่า “คิดว่าอย่างไรละ?”

ดวงตาที่ไม่แยแสและขยะแขยงของเธอทำให้ลิ่วเสิ่นชะงักไปนิด เผยให้เห็นอารมณ์ที่เจ็บปวด

“เอาละ ฉันยอมรับ ฉันขอโทษสำหรับเรื่องก่อนหน้าด้วย แต่ตอนนั้นฉันเองก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นน้องสาวของฉัน”

เขาพูดหยุด และถอนหายใจอีกครั้ง

“ฉันรู้ ตอนนี้พูดอะไรไปก็สายเสียแล้ว เธอถือทิฐิเสียขนาดนี้ คงไม่อภัยให้ฉันง่ายๆ ก็ไม่เป็นไร ตอนนี้เธอก็อยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วกัน ฉันจะให้เวลาเธอคิดพิจารณา รอให้เธอใจเย็นแล้วเราค่อยมาพูดกันใหม่เถอะ”

เมื่อเขาพูดจบ เขาก็โบกมือเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอสามารถไปได้แล้ว

เฉียวฉีมองเขา ก่อนคลายปมคิ้วที่ขมวดลง

เธอไม่เคยหวังไปมากกว่านี้ว่า ชายตรงหน้าจะปล่อยเธอไปอย่างนี้

อยากรู้ ว่าชายที่สวมหน้ากากสีเงินยังเฝ้าอยู่ข้างนอกไหม ถึงแม้เมื่อตะกี้ที่เธออยู่ข้างนอกจะไม่เห็นบอดี้การ์ดเลยสักคนก็เถอะ แต่ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาอาจจะซุ่มโจมตีอยู่?

ดังนั้น ในเวลานี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ขังตัวเองไว้แล้ว ตัวเองก็แค่ต้องทำกิจกรรมอยู่ภายในบ้านหลังนี้ก็เท่านั้น

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เฉียวฉีก็ถามขึ้น “เสี่ยวเยว่ละ? พวกคุณทำอะไรกับเธอบ้าง?”

เมื่อถามถึงที่อยู่ของเสี่ยวเยว่ ดวงตาของลิ่วเสิ่นก็ขยับเล็กน้อย

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset