วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 88 ถูกคนวางยา

บทที่ 88 ถูกคนวางยา

สีหน้าของจิ่งหนิงอยู่ๆ ก็ได้น่ากลัวขึ้นมา

เธอได้โมโหแล้วจริงๆ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ผู้ชายคนนี้ได้เอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้พูดพวกนี้กับเธอ!

“มู่ยั่นเจ๋อ ฉันว่านายมองตัวเองสูงไปนะ เพื่อผู้ชายแบบนายแล้ว หรือว่านายหวังว่าหลังจากที่พวกเราเลิกกันแล้วฉันต้องอยู่เป็นโสดเพื่อนายทั้งชาติเหรอไม่มีทางที่จะลืมได้ นายต้องมีความมั่นใจขนาดไหนถึงได้มีความคิดแบบนี้?”

มู่ยั่นเจ๋อที่ถูกเธอสวนกลับไปหลายครั้ง เวลานี้ก็ได้โมโหขึ้นมาบ้างแล้ว

“จิ่งหนิง เธอฟังคำพูดดีๆ ไม่รู้เรื่องเหรอ! ลู่จิ่งเซินเป็นคนยังไง เธอรู้จักไหม? เธอเข้าใจเขาไหม? คนที่สามารถแต่งงานกับลู่จิ่งเซินได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ เธอคิดบ้างไหมว่าถ้าคนที่มีสัญญาแต่งงานกับเขารู้เข้า เธอจะมีจุดจบแบบไหนไหม?”

จิ่งหนิงยิ้มอ่อนๆ

“ฉันรู้จักเขาหรือไม่เกี่ยวอะไรกับนาย อีกอย่างฉันคิดว่า ต่อให้พวกเรารู้จักกันไม่นาน อะไรที่ฉันควรเข้าใจเขาฉันก็ได้เข้าใจไปพอสมควรแล้ว อย่างน้อยฉันรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ตรงไปตรงมา ไม่มีทางที่คนบางคนที่ทอดทิ้งคนอื่นก่อนที่สามารถมาเทียบเขาได้

อีกอย่าง ฉันนั้นก็ไม่ได้กลัวว่าว่าที่ภรรยาคนเดิมของเขาจะมาหาถึงบ้าน ไม่ต้องถามฉันว่าทำไม ฉันไม่อยากที่จะบอกกับนาย แต่ฉันมีความมั่นใจนั้น เพราะงั้นได้โปรดเก็บความเป็นห่วงจอมปลอมของนายไปเถอะ! ฉันฟังแล้วอยากจะอ้วก

ทุกคนก็โตๆ กันแล้ว มีชู้ก็คือมีชู้ ไม่ชอบแล้วก็คือไม่ชอบแล้ว ที่จริงก็ไม่มีอะไรมากหรอก แต่แค่อย่าไปมีชู้ไปแล้วก็แสร้งทำเป็นว่าลืมแฟนเก่าของตัวเองไปไม่ได้แบบนี้ จิ่งเสี่ยวหย่าไม่รู้สึกอะไร แต่ฉันรู้สึกขยะแขยง! ”

จิ่งหนิงพูดจบ ก็ขี้เกียจที่จะสนปฏิกิริยาของเขา ก้าวขาเธอออกไป

มู่ยั่นเจ๋อยื่นอยู่ที่เดิม โมโหจนสีหน้านั้นดูไม่ได้สุดๆ

มู่หงเซียวยิ่งเหมือนกับว่าได้เจอกับมนุษย์ต่างดาวจ้องจิ่งหนิงที่จากไปอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เป็นไปสักพักถึงได้รู้สึกตัว

“พี่ คิดไม่ถึงว่าเขาด่าพี่? เขา เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? เมื่อก่อนเขาก็เชื่อฟังพี่อยู่ไม่ใช่เหรอ?”

ไม่พูดก็ยังดี พอพูดออกมาแล้ว มู่ยั่นเจ๋อก็ได้โมโหยิ่งกว่าเดิม

ใครจะรู้ว่าทำไมจิ่งหนิงที่เมื่อก่อนที่เชื่อฟังเขาแบบนั้นได้กลายมาเป็นแบบวันนี้ไปได้!

พอพูดก็แทงใจคน เหมือนกับเม่นไม่มีผิด ใครเข้าไปก็ไม่ได้อะไรดีๆ กลับมา!

หรือว่า เมื่อก่อนที่ได้อ่อนโยนกับเขานั้นได้แกล้งทำ?

เป็นไปอย่างที่คิด เขานั้นได้เจอท่าแท้ของผู้หญิงคนนี้สักที เทียบกับจิ่งเสี่ยวหย่าที่อ่อนโยน นิสัยของเธอนั้นก็เหมือนกับหินในหลุม ทั้งแข็งทั้งเหม็น ทำให้คนนั้นไม่ชอบมากๆ

มู่ยั่นเจ๋อมีใบหน้าที่เครียด ไม่พูดอะไรต่อ หันไปแล้วก็เดินเข้าไปที่ห้องอาหาร

มู่หงเซียวที่ไม่ได้คำตอบ ก็ได้โมโหกว่าเดิม

“พี่เยว่หวั่น! พี่ว่าพี่ชายของฉันยังมีเยื่อใยให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ใช่ไหม เธอด่าเขาไปซะขนาดนั้น เขากลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย”

สีหน้าของกวนเยว่หวั่นได้อึ้งไปพัก

สักพัก เธอฝืนยิ้มออกมา “ยังไงคุณมู่กับคุณจิ่งก็ได้อยู่ด้วยกันมานานขนาดนั้น ยังมีเยื่อใยกันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก”

มู่หงเซียวเบิกตาโตด้วยความตกใจ

“พี่เยว่หวั่น ขนาดพี่ก็คิดแบบนั้นเหรอ? งั้นเธอคงไม่ได้จะอยู่กับพี่ฉันจริงๆ ใช่ไหม?”

นัยน์ตาของกวนเยว่หวั่นได้มีความเศร้าแวบมา

เวลานั้น ก็ได้ฝืนยิ้ม

“ไม่หรอก”

“ทำไม?”

“เพราะ……อันนี้เธอต้องไปถามจิ่งเสี่ยวหย่าจะดีกว่า! ฉันคิดว่าเธอเข้าใจดียิ่งกว่าฉัน”

กวนเยว่หวั่นพูดจบ เหมือนว่าไม่ได้อยากที่จะพูดเรื่องนี้ต่อ หันไปเดินเข้าห้องอาหาร

มู่หงเซียวเห็นพวกเขาทั้งสอง ที่ไม่ยอมที่จะพูดความจริงกับตน ก็ได้กระทืบเท้าด้วยความโมโห

เวลาเดียวกัน มีพนักงานคนหนึ่งได้ออกมาจากฝั่งตรงข้าม

มู่หงเซียวได้หึออกมาอย่างแรง มองไปที่พนักงาน แล้วกลอกตา

มุมปากก็ได้มีรอยยิ้มที่ไม่ดีออกมา เดินเข้าไป ขวางพนักงานที่กำลังเข้าห้องอาหารฝั่งตรงข้าม

“เธอ! มากับฉันแป๊บหนึ่ง”

……

จิ่งหนิงเข้าห้องน้ำเสร็จ ถึงได้พบว่าโทรศัพท์ในกระเป๋านั้นมีสายที่ไม่ได้รับสองสาย

เธอเลื่อยไปดู พบว่าเป็นลู่จิ่งเซิน อาจเป็นเพราะเธอปิดเสียงไป ไม่ได้ยิน

เพราะงั้นก็ได้รีบโทรกลับไป

ปลายสายได้มีเสียงดัง “ตุ๊ด ตุ๊ด” ดังไปสามครั้ง ในที่สุดก็รับ

“ฮาโหล คุณกลับมาแล้วเหรอ! ”

เสียงที่ทุ้มต่ำเซ็กซี่ของลู่จิ่งเซินได้ส่งมา “อืม ใกล้เข้าเมืองแล้ว คุณเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอ?”

“ยังเลย คุณเหนื่อยไหมคะ? ถ้าเกิดเหนื่อยกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนไหม? เดียวฉันเรียกรถกลับไปเองก็ได้”

ปลายสายเงียบไปสักพัก

แป๊บๆ ก็ได้มีเสียงที่เย็นของชายหนุ่มส่งมา “ไม่ต้อง คุณอยู่ที่ไหน ผมไปรับคุณ”

“อ้อ ก็ได้! งั้นเดียวฉันส่งที่อยู่ให้คุณ”

“ได้”

วางสายไป ได้ถอดหายใจอย่างโล่งอก

ยกข้อมือมาดูเวลา ได้สามทุ่มแล้ว อาหารมื้อนี้น่าจะจบลงได้แล้ว

เธอได้ล้างมือ เดินออกไปข้างนอก

เข้าไปในห้องอาหาร ถังลั่วเหยากับเหยียนซื่อหวายังอยู่ เหยียนซื่อหวาดูแล้วเหมือนว่าเริ่มเมาเล็กน้อยแล้ว ถังลั่วเหยากำลังเทชาให้เขา

“ผู้กำกับเหยียน ขอโทษด้วยนะคะ ฉันกลับมาแล้ว”

เหยียนซื่อหวายิ้มแล้วมองเธอ “ไม่เป็นไรไม่เป็นไร เวลาที่ดึกแล้ว พวกเราดื่มกันแก้วสุดท้าย ดื่มหมดฉันก็ควรที่จะกลับไปแล้ว”

ที่เขาพูดนั้นได้ตรงตามความคิดของจิ่งหนิงพอดี ก็ได้รีบยกแก้ว “ค่ะ มา ผู้กำกับเหยียน ฉันเชิญคุณดื่มอีกแก้ว”

เหล้าได้ลงท้องไป จิ่งหนิงดื่มอย่างไม่ลังเล ก็แค่ตอนที่ดื่มหมดก็รู้สึกว่าเหล้าในปากนั้นรสชาติมันแปลกนิดหน่อย

เธอมองถังลั่วเหยา แล้วถามว่า “พวกเราเปลี่ยนเหล้าแล้วเหรอ?”

ถังลั่วเหยาก็มึนเล็กหน่อย “ไม่นะคะ ยังเป็นเฮนเนสซี่ พนักงานพึ่งเอามาให้เมื่อกี้ ไม่มีคนแตะเลย”

“อ้อ งั้นไม่มีอะไร อาจเป็นเพราะฉันดื่มเยอะไป”

จิ่งหนิงไม่ได้ใส่ใจ ยังไงซะตอนนี้เธอก็เริ่มที่ได้มึนแล้ว การรับรสแปลกไปไม่ใช่เรื่องแปลก

เหยียนซื่อหวาลุกขึ้น ได้ส่งเขาออกไปด้วยตัวเองเสร็จ ก็ได้กลับมาที่ห้องอาหารอีกครั้ง

มองเวลา ลู่จิ่งเซินลงจากทางด่วนมา อย่างน้อยอีกหนึ่งชั่วโมง เพราะงั้นเขาก็ได้ให้ถังลั่วเหยากลับไป ตัวเองนั้นรอที่ห้องอาหารคนเดียว

ห้องอาหารกว้างมาก มีโต๊ะ ยังมีโซฟาให้คนได้พักผ่อนด้วยอันหนึ่ง

จิ่งหนิงนั่งที่โซฟา เอาแก้วน้ำจิบน้ำเป็นพักๆ

ดื่มไปไม่นาน ก็รู้สึกว่าร่างกายนั้นก็ได้ร้อนขึ้น ความชาที่ประหลาดนั้นได้ขึ้นมาจากเท้า สักพักก็ทำให้แขนขานั้นชาไปเลย

ตอนแรกเธอก็คิดว่าตัวเองนั้นได้ดื่มเยอะไป เพราะงั้นก็ได้นอนที่โซฟา เตรียมที่จะพักผ่อนสักแป๊บ

แต่ว่ายิ่งนอนร่างกายก็ยิ่งรู้สึกว่าร้อน หัวก็ยิ่งอยู่ยิ่งมึน ท้องน้อยนั้นก็ไม่มีอาการชาและคันแปลกๆ

จิ่งหนิงขมวดคิ้ว

รู้สึกว่ามันแปลกๆ !

เธอไม่ใช่เด็กน้อยที่พึ่งก้าวเข้าสังคมใหม่ๆ กลับกัน ต่างประเทศสามปี กลับประเทศอีกสองปี ทำให้เธอนั้นมีประสบการณ์ในการออกสังคมมาก

ถ้าเกิดถึงตอนนี้แล้วเธอยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น งั้นห้าปีที่ผ่านมานั้นถึงว่าอยู่เปล่าๆ แล้ว!

จิ่งหนิงได้ฝืนลุกขึ้นมานั่ง

ยาได้ออกฤทธิ์แล้ว ร่างกายนั้นอ่อนจะไม่รู้จะพูดยังไง ออกแรงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ความร้อนในร่างกายทำให้ตัวเธอนั้นได้เริ่มมีเหงื่อไหลออกมา ใบหน้าที่งดงานนั้นได้มีสีหน้าที่ยั่วยวนคน

เธอนั้นได้กดความต้องการในใจลง ลุกขึ้น แล้วเดินไปที่ประตูแบบเซไปเซมา

จากนั้นยังเดินไม่ถึงประตู ก็ได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังมาจากข้างนอก

“เธออยู่ข้างใน คืนนี้พวกนายต้องปรนนิบัติเธออย่างดี! อะไรที่เป็นของพวกนายไม่มีทางน้อยไปแม้แต่นิ่ง ทำเสร็จแล้วถ่ายรูป! รู้หรือยัง?”

“รู้แล้วครับ! ”

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset