วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน – ตอนที่ 897 นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง

ดังนั้นเมื่อตอนนอนตกกลางคืน เฉียวฉีก็ไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง

เธอกับเยว่หลิงในห้องเดียวกัน และข้างนอกมีผู้ชายสี่คนคอยคุ้มกันพวกเขาอยู่

เฉียวฉีทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นกับกำลังพลด้านนอก

ต่อให้เป็นเทพเจ้าหลัวที่ยิ่งใหญ่ ก็หนีไม่พ้น!

เธอถอนหายใจอย่างเงียบๆ ไม่คิดอะไรมากแล้ว หลับตาลงแล้วนอนพักผ่อน

กลางคืนในชนบทมักจะเงียบมาก หลังจากย่างกรายเข้าช่วงหัวค่ำ โดยรอบจะไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงแมลง

ในไม่ช้า เสียงหายใจที่เป็นจังหวะของผู้หญิงก็ลอยมา

ทะลุประตูไป ยังสามารถได้ยินเสียงกรนของผู้ชายอีกด้วย

ที่จริงเฉียวฉีเหนื่อยมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อตกกลางคืน เธอกลับนอนไม่หลับ

จู่ๆ เธอก็นึกคำถามขึ้นได้

ก่อนจะหนีออกมาจากบ้านพัก เห็นได้ชัดว่าลิ่วเสิ่นพาเธอออกมา

แต่แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาในรถ และเห็นแค่เพียงเยว่หลิงแต่ไม่เห็นลิ่วเสิ่น

เขาไปไหน?

แม้ว่าเฉียวฉีจะโกรธชายคนนั้นมาก และมั่นใจว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีเจตนาที่ดีต่อเธอแต่อย่างใด แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ปะมือกับเขามาก่อนหน้าหลายครั้งแล้ว นับว่าค่อนข้างคุ้น มีเขาอยู่ บางทีอาจจะมีโอกาสบุกทะลวงได้มากกว่า

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในขณะนี้ ทันใดก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาดมาทางนอกหน้าต่างของฝั่งตรงข้าม

เฉียวฉีนิ่งไปนิด เธอหันไปทางหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว แต่กลับเห็นเงาดำหนึ่งพาดผ่าน

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หันไปมองเยว่หลิงข้างๆ เพียงเห็นว่าอีกฝ่ายหลับตาอยู่ และกำลังหลับสนิท

หัวใจของเธออดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา

เธอหวัง ว่าคนข้างนอกจะเป็นคนของกู้ซือเฉียน แต่ถ้าหากไม่ใช่ละ?

ช่างมัน ไม่สนแล้ว ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ยังดีกว่าอยู่ในกำมือของคนกลุ่มนี้

ดังนั้นเมื่อตอนนอนตกกลางคืน เฉียวฉีก็ไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง

เธอกับเยว่หลิงในห้องเดียวกัน และข้างนอกมีผู้ชายสี่คนคอยคุ้มกันพวกเขาอยู่

เฉียวฉีทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นกับกำลังพลด้านนอก

ต่อให้เป็นเทพเจ้าหลัวที่ยิ่งใหญ่ ก็หนีไม่พ้น!

เธอถอนหายใจอย่างเงียบๆ ไม่คิดอะไรมากแล้ว หลับตาลงแล้วนอนพักผ่อน

กลางคืนในชนบทมักจะเงียบมาก หลังจากย่างกรายเข้าช่วงหัวค่ำ โดยรอบจะไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงแมลง

ในไม่ช้า เสียงหายใจที่เป็นจังหวะของผู้หญิงก็ลอยมา

ทะลุประตูไป ยังสามารถได้ยินเสียงกรนของผู้ชายอีกด้วย

ที่จริงเฉียวฉีเหนื่อยมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อตกกลางคืน เธอกลับนอนไม่หลับ

จู่ๆ เธอก็นึกคำถามขึ้นได้

ก่อนจะหนีออกมาจากบ้านพัก เห็นได้ชัดว่าลิ่วเสิ่นพาเธอออกมา

แต่แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาในรถ และเห็นแค่เพียงเยว่หลิงแต่ไม่เห็นลิ่วเสิ่น

เขาไปไหน?

แม้ว่าเฉียวฉีจะโกรธชายคนนั้นมาก และมั่นใจว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีเจตนาที่ดีต่อเธอแต่อย่างใด แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ปะมือกับเขามาก่อนหน้าหลายครั้งแล้ว นับว่าค่อนข้างคุ้น มีเขาอยู่ บางทีอาจจะมีโอกาสบุกทะลวงได้มากกว่า

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในขณะนี้ ทันใดก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาดมาทางนอกหน้าต่างของฝั่งตรงข้าม

เฉียวฉีนิ่งไปนิด เธอหันไปทางหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว แต่กลับเห็นเงาดำหนึ่งพาดผ่าน

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หันไปมองเยว่หลิงข้างๆ เพียงเห็นว่าอีกฝ่ายหลับตาอยู่ และกำลังหลับสนิท

หัวใจของเธออดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา

เธอหวัง ว่าคนข้างนอกจะเป็นคนของกู้ซือเฉียน แต่ถ้าหากไม่ใช่ละ?

ช่างมัน ไม่สนแล้ว ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ยังดีกว่าอยู่ในกำมือของคนกลุ่มนี้

เธอได้ยินแต่เสียงฝีเท้าที่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกเจ็บที่คอ

ยาที่ไม่ทราบชนิดถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของเธอ ตัวเธอเริ่มแข็งทื่อ และในอีกไม่กี่วินาที เธอก็หมดสติ

ปราสาท

กู้ซือเฉียนกลับมา หลังจากผ่านไปสามวัย

เมื่อรถขับเข้าไปในปราสาท ลุงโอเห็น เดิมทีอยากจะเข้าไปถามว่าเฉียวฉีอยู่ที่ไหน

แต่ทันทีที่เขาเห็นใบหน้าของกู้ซือเฉียน เขาก็เข้าใจในทันที และเขาไม่ได้ถามอะไรอีก

เขาเดินไปหากู้ซือเฉียน ก่อนพูดว่า “คุณชายหลินซงมาแล้ว เขาบอกมีธุระเลยมาหาท่าน ตอนนี้อยู่ที่ห้องรับแขกครับ”

“เข้าใจแล้ว”

กู้ซือเฉียนพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ก่อนจะหมุนกายกลับไปในห้องรับรองแขก

ในห้องรับรองแขก หลินซงเป็นกังวลมาก

เขารู้เรื่องการหายตัวไปของเฉียวฉีแล้ว เขาจึงมาด้วยเพราะเหตุนี้

เมื่อเขาเห็นกู้ซือเฉียนเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นทันที ก่อนจะพูดว่า “ซือเฉียน เป็นอย่างไรบ้าง? มีข่าวคราวอะไรบ้างไหม?”

ใบหน้าของกู้ซือเฉียนมืดหม่น

เขาเดินเข้าไปหา ไม่มีกิริยาท่าทางที่ดูสูงดั่งเช่นก่อนหน้า เขาฉวยแก้วชาขึ้นมาจิบ จึงค่อยพูดว่า “ไม่มีเลย”

“เป็นอย่างนี้ได้ยังไง?”

หลิงซงตกตะลึง

ดังนั้นเมื่อตอนนอนตกกลางคืน เฉียวฉีก็ไม่ได้อยู่คนเดียวในห้อง

เธอกับเยว่หลิงในห้องเดียวกัน และข้างนอกมีผู้ชายสี่คนคอยคุ้มกันพวกเขาอยู่

เฉียวฉีทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นกับกำลังพลด้านนอก

ต่อให้เป็นเทพเจ้าหลัวที่ยิ่งใหญ่ ก็หนีไม่พ้น!

เธอถอนหายใจอย่างเงียบๆ ไม่คิดอะไรมากแล้ว หลับตาลงแล้วนอนพักผ่อน

กลางคืนในชนบทมักจะเงียบมาก หลังจากย่างกรายเข้าช่วงหัวค่ำ โดยรอบจะไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากเสียงแมลง

ในไม่ช้า เสียงหายใจที่เป็นจังหวะของผู้หญิงก็ลอยมา

ทะลุประตูไป ยังสามารถได้ยินเสียงกรนของผู้ชายอีกด้วย

ที่จริงเฉียวฉีเหนื่อยมาก แต่ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อตกกลางคืน เธอกลับนอนไม่หลับ

จู่ๆ เธอก็นึกคำถามขึ้นได้

ก่อนจะหนีออกมาจากบ้านพัก เห็นได้ชัดว่าลิ่วเสิ่นพาเธอออกมา

แต่แล้วเธอก็ตื่นขึ้นมาในรถ และเห็นแค่เพียงเยว่หลิงแต่ไม่เห็นลิ่วเสิ่น

เขาไปไหน?

แม้ว่าเฉียวฉีจะโกรธชายคนนั้นมาก และมั่นใจว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้มีเจตนาที่ดีต่อเธอแต่อย่างใด แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ปะมือกับเขามาก่อนหน้าหลายครั้งแล้ว นับว่าค่อนข้างคุ้น มีเขาอยู่ บางทีอาจจะมีโอกาสบุกทะลวงได้มากกว่า

เมื่อคิดเช่นนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในขณะนี้ ทันใดก็ได้ยินเสียงแปลกประหลาดมาทางนอกหน้าต่างของฝั่งตรงข้าม

เฉียวฉีนิ่งไปนิด เธอหันไปทางหน้าต่างโดยไม่รู้ตัว แต่กลับเห็นเงาดำหนึ่งพาดผ่าน

สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หันไปมองเยว่หลิงข้างๆ เพียงเห็นว่าอีกฝ่ายหลับตาอยู่ และกำลังหลับสนิท

หัวใจของเธออดไม่ได้ที่จะกังวลขึ้นมา

เธอหวัง ว่าคนข้างนอกจะเป็นคนของกู้ซือเฉียน แต่ถ้าหากไม่ใช่ละ?

ช่างมัน ไม่สนแล้ว ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ ก็ยังดีกว่าอยู่ในกำมือของคนกลุ่มนี้

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

วิวาห์หวาน นายซาตานที่รักของฉัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset