บทที่ 89 เผชิญหน้ากับอันตราย
สีหน้าของจิ่งหนิงได้เปลี่ยน
เป็นเสียงของมู่หงเซียว
ให้ตายเถอะ!
เหมือนว่าฝีเท้านั้นยิ่งอยู่ยิ่งใกล้เข้ามาแล้ว วิต่อมาคนก็คงจะพุ่งเข้ามาแน่ จิ่งหนิงได้รีบเข้าไป “ปั่ง” ได้ล็อกประตูไว้
จากนั้น เธอก็ได้รีบเอาโทรศัพท์ออกมา โทรออกไป
“อือ? ทำไมเปิดประตูไม่ได้?”
“เป็นไปได้ยังไง? ฉันลองดู”
ด้านนอกก็ได้มีเสียงล็อกประตูดังขึ้น เพราะว่าได้ล็อกจากข้างใน ข้างนอกไม่มีกุญแจไม่มีทางที่จะเข้าไปได้
มู่หงเซียวก็ได้เข้าใจเลยทันที
“เหอะ! เห็นทีนางนั้นรู้ตัวเอง คิดว่าประตูบานเดียวก็สามารถที่จะขวางพวกเราได้? คิดง่ายเกินไปแล้ว! ”
เธอพูดจบ ก็ได้เอาโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาใคร
“ผู้จัดการสวี เอากุญแจห้องแปดแปดสองแปดมาให้ฉันหน่อย พูดมาก! ถ้านายกล้าที่จะพูดออกไปแม้แต่นิดเดียว พรุ่งนี้นายไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้ว”
จิ่งหนิงได้ยินเสียงที่อวดดีจากข้างนอก ก็ได้คิดได้ทันทีว่า ร้านอาหารร้านนี้เหมือนว่าจะเป็นร้านในเครือของตระกูลมู่
เธอกัดฟันเงียบๆ
ให้ตายเถอะ!
ร้านอาหารอื่นไม่เลือก แต่กลับเลือกร้านของมู่ซื่อกรุ๊ป?
ที่จริงก็โทษเธอไม่ได้ สถานที่ผู้จัดการหลิวเป็นคนเลือก อีกอย่างในเมืองจิ้นธุรกิจของมู่ซื่อกรุ๊ปกว้างมาก ธุรกิจในเครือก็มีเยอะ ถ้าไม่เช็กดูดีๆ ใครจะรู้ว่าร้านไหนเป็นของบริษัทของตระกูลมู่บ้าง?
เธอทำได้แค่เอาความหวังนั้นฝากไว้กับมือถือ
โทรไป แล้วก็ภาวนาไปว่า: รีบรับ! รีบรับสิ!
โชคดีที่ผู้ชายคนนั้นเหมือนว่าจะไม่เคยทำให้เธอนั้นผิดหวัง ตอนที่เสียงโทรออกดังสี่ครั้ง ก็ได้รับทันที
“หนิงหนิง เป็นอะไร?”
“ลู่จิ่งเซิน ช่วยฉันด้วย! ”
น้ำเสียงปลายสายก็ได้เปลี่ยนไป “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ฉัน ฉันถูกคนวางยา ที่อยู่ก็ที่ฉันส่งให้คุณไป ห้อง แปดแปดสองแปด รีบมา! ”
พึ่งพูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออก
จากนั้น จิ่งหนิงก็เห็นแสงที่แสบตาส่องเข้ามา เธอได้หลับตาแล้วก็เอามือไปบังตามสัญชาตญาณ โทรศัพท์ที่อยู่ข้างหูอยู่ๆ ก็ได้ถูกคนตีลงไป
“ปึ้ง! ”
โทรศัพท์ตกไปลงกับพื้น
เสียงชายหนุ่มที่อยู่ปลายสายก็ได้ร้องอย่างร้อนใจ “หนิงหนิง! หนิงหนิง”
แล้วก็วิต่อมา ก็มีขาไปเหยียบที่โทรศัพท์ ทำให้หน้าจอนั้นแตกละเอียด
“จิ่งหนิง! คิดไม่ถึงว่าเธอ ในที่สุดที่ได้ตกอยู่ในมือของฉัน! ”
มู่หงเซียวที่มีสีหน้าได้ใจแล้วเดินเข้ามา
ข้างหลังเธอ มีบอดี้การ์ดร่างโตสี่คน
จิ่งหนิงหน้าเครียด เดินสองก้าว ถอยไปข้างหลัง
“เธออยากจะทำอะไร?”
มู่หงเซียวได้ยิ้มด้วยสีหน้าที่ได้ใจ
“แน่นอนว่าฉันนั้นจะช่วยเธอ ตอนนี้เธอทรมานมากๆ ไม่ใช่เหรอ? ร่างกายทั้งร้อนทั้งคัน ต้องการผู้ชายมาช่วยเธอทำให้หยุดคันมากๆ? ดูสิ ฉันดีกลับเธอขนาดไหน รู้ว่าเธอต้องการก็ได้รีบพาผู้ชายมาเลยทันที”
เธอพูดจบ สายตาก็ได้เย็นลง สั่งบอดี้การ์ดทั้งสี่
“พวกนายนิ่งอยู่ทำไม? ยังไม่ไปอีก! ”
บอดี้การ์ดทั้งสี่ก็ได้ตอบเป็นเสียงเดียวกัน “ครับ”
จิ่งหนิงจ้องมองพวกเขาที่เดินเข้ามา สีหน้าได้เปลี่ยน
“มู่หงเซียว เมื่อก่อนฉันคิดว่าเธอนั้นแค่เอาแต่ใจไปหน่อย คิดไม่ถึงว่าเธอนั้นจะโหดร้ายขนาดนี้ เธอไม่กลัวว่าทำให้ฉันโมโหแล้วลู่จิ่งเซินจะมาเอาเรื่องเธอเหรอ?”
มู่หงเซียวยิ้มอย่างได้ใจ
“จิ่งหนิง เธอคิดว่าตัวเองนั้นเป็นอะไรที่สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ? ฉันบอกอะไรเธอนะ ผู้ชายนั้นต้องมีมุมที่ไม่ดีบ้าง ตอนนี้ลู่จิ่งเซินถูกใจเธอ ก็แค่ถูกใจใบหน้าอันนั้นของเธอเท่านั้น ถ้าเกิดวันไหนเขารู้ตัวว่าเธอนั้นก็เป็นแค่สิ่งของที่คนอื่นเล่นแล้วทิ้ง เขาก็ไม่มีทางแคร์เธออีก
และฉัน ที่คุณหนูของมู่ซื่อกรุ๊ป อยากได้หน้าตาก็มี ฐานะทางบ้านก็มี ขอแค่เป็นผู้ชายที่ฉลาดก็น่าจะรู้ว่าจะเลือกยังไง เธอว่าถึงตอนนั้นลู่จิ่งเซินจะเอาคนที่ถูกเล่นแล้วทิ้งแบบเธอ หรือว่าคุณหนูตระกูลมู่แบบฉันล่ะ?”
จิ่งหนิงสีหน้าได้เครียด
เดิมเธอคิดว่ามู่หงเซียวก็แค่จะมาเอาคืนแทนจิ่งเสี่ยวหย่า แต่คิดไม่ถึงว่า ความคิดที่แท้จริงของเธอนั้นไม่ใช่อันนั้น เธอนั้นได้คิดที่จะจับลู่จิ่งเซินตั้งแต่แรกแล้ว
ในใจของเธอได้หล่นวูบอย่างแรง
มู่หงเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “พอได้แล้ว ฉันไม่เสียเวลากับเธอแล้ว! ถ้าเธอวันนี้เธอให้ความร่วมมือดีๆ ก็จะเจ็บตัวน้อยหน่อย ถ้าเกิดเป็นผลอะไรภายหลังฉันไม่รับผิดชอบนะ”
เธอพูดจบ ก็ได้สั่งกับบอดี้การ์ดทั้งสี่คนว่า “ทางนี้ก็ฝากพวกนายด้วยล่ะ อย่าลืมสิ่งที่ฉันอยากได้”
“ครับ”
มู่หงเซียวได้หันหลังเดินออกไปข้างนอก
ประตูห้องได้ปิดขึ้นอีกครั้ง
จิ่งหนิงมองชายร่างใหญ่ทั้งสี่ตรงหน้า สีหน้าได้ซีดแล้วเดินถอยหลังไปสองก้าว
“พวกนายคิดดีๆ นะ ฉันเป็นผู้หญิงของลู่จิ่งเซิน ถ้าพวกนายกล้าแตะฉัน ผลที่ตามมานั้นพวกนายรับมันไหวเหรอ?”
ชายที่ได้อยู่ข้างหน้าก็ได้ขำออกมาดังๆ
“พอเถอะ! เธอเป็นผู้หญิงของลู่จิ่งเซิน งั้นฉันก็เป็นพ่อของลู่จิ่งเซิน! ทุกคน ไปกดเธอไว้ ให้ฉันมีความสุขไปก่อนพวกนายค่อยตามมา”
“ได้เลยพี่หู่! ”
ชายไม่กี่คนได้เดินเข้ามาอย่างหื่นกาม จิ่งหนิงเห็นท่าทีไม่ดี ก็ได้วิ่งออกไปข้างนอก
“ยัยนี้ คิดจะหนี! ”
มีชายคนหนึ่งได้ฉุดเธอกลับมาได้ แล้วก็โยนไปที่โซฟาอย่างแรง
จากนั้น เสื้อผ้าที่ฉีกขาดก็ได้ดังขึ้น จิ่งหนิงกรีดร้องออกมา พยายามดิ้นรนสุดชีวิต และแล้วสองมือสองเท้าก็ได้ถูกกดไว้อย่างรวดเร็ว
เธอผู้หญิงเพียงคนเดียว ต่อให้มีฝีมืออะไร เวลานี้ก็ได้โดนวางยาแล้วไม่มีแรงไปทั้งตัว แล้วจะเป็นคนต่อสู้ของชายสี่คนได้ยังไง?
เธอทำได้เพียงกัดฟันให้ตัวเองนั้นมีสติ เวลาเดียวกัน ก็ได้อาศัยจังหวะที่ไม่ระวัง เงยหน้ากัดลงไป
“โอ๊ย——! ”
เสียงร้องที่ทรมานได้ดังขึ้น ชายที่เตรียมตัวจะฉีดเสื้อของเธอนั้นก็ได้เอามือปิดหูแล้วเดินถอยหลัง
นาทีต่อมา “เพี้ยะ! ”
เสียงที่โดนตบหน้านั้นได้ดังขึ้น จิ่งหนิงรู้สึกว่าตนนั้นถูกตีจนเวียนหัวไปหมด ในหูได้มีเสียงวิ้งดัง
ได้ยินที่ผู้ชายนั้นด่าด้วยความโมโห
“แม่งเอ๋ย! กล้าที่จะกัดฉัน วันนี้ถ้าฉันเอานางนี่ไม่ตายก็ไม่ใช่นามสกุลหู่! ”
ได้ยินคำพูดของเขา จิ่งหนิงรู้สึกเสียวสันหลัง ได้ดิ้นรนหนักกว่าเดิม เวลานี้ “แคว่ก——! ”
เสื้อผ้าทั้งหมดของเธอได้ถูกฉีกขาด ชั้นในสีชมพูของเธอก็ได้โผล่ออกมา
ผู้ชายนั้นก็ได้ยิ้มแล้วพุ่งเข้ามา
“นังนี่เห็นว่าผอมแห้งแบบนี้ คิดไม่ถึงว่ารูปร่างดีแบบนี้ พวกเรา คืนนี้ได้มีความสุขกันแล้ว! ”
จิ่งหนิงก็ทนต้องความกลัวในใจไม่ไหวอีกต่อไป ร้องไห้ออกมา
เธอได้ดิ้นรนไปแล้วก็ตะโกนไปว่า “อย่ามาแตะฉัน! เอามือที่สกปรกของพวกแกออกไป ไปให้พ้น! ”
“นางนี่ อย่าพึงรีบด่าตอนนี้ เดี๋ยวสักพักถ้ามีความสุขดีไม่ดีเธอยังจะขอบคุณพวกเรานะ! ”
“ใช่ๆ พวกเราลีลานั้นเด็ดมาก เดี๋ยวจะปรนนิบัติเธอให้เหมือนใกล้ขึ้นสวรรค์ไปเลย”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ ……”
……
อีกด้าน บนรถ
หลังจากที่ลู่จิ่งเซินได้รับโทรศัพท์ สีหน้าก็ได้เครียดลงเลยทันที เย็นจะแทบจะเป็นน้ำแข็งแล้ว
เขาได้สั่งให้ซูมู่ขับรถให้เร็วที่สุด แล้วก็โทรไปด้วย
“ฮาโหล รีบส่งคนไปที่จูเจียงกั๋วจี้ ห้องแปดแปดสองแปด ไม่ว่ายังไงก็ต้องช่วยเธอออกมาอย่างปลอดภัยให้ได้! ”
“ไปสืบมา คืนนี้ใครเป็นคนลงมือกับเธอ! ”
“จูเจียงกั๋วจี้เป็นธุรกิจของมู่ซื่อกรุ๊ปใช่ไหม? ให้พวกเขาส่งคนไปที่ห้องแปดแปดสองแปดเดี๋ยวนี้ บอกพวกเขาไป ถ้าผมของเธอหายไปแม้แต่เส้นเดียว ฉันให้พวกเขาทั้งตระกูลมู่มาชดใช้! ”
โทรไปไม่กี่สายเสร็จ ลู่จิ่งเซินถึงได้วางโทรศัพท์ แล้วสูดหายใจเข้าลึกๆ
ถามซูมู่ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง “อีกนานไหม?”