บทที่ 96 คู่หมั้นของเขา
“เนี่ยะนะแผนการที่พวกคุณวางไว้ในปีนี้?”
เสียงของชายคนนั้นทุ้มต่ำและเยือกเย็น พร้อมกับมาดเคร่งขรึมของเจ้านาย
ผู้จัดการโครงการค่อยก้มหน้าลง หน้าผากเกือบจะเหงื่อแตกพลั่ก
“ประธานลู่ แผนการของบริษัทในปีนี้คือชะลอตัวก่อน ตอนนี้ตลาดค่อนข้างซบเซา พวกเราจึงคิดว่าไม่ควรขยายตัวเร็วเกินไป ดังนั้น……”
“ตลาดซบเซา….ชะลอไว้ก่อน?”
ลู่จิ่งเซินยิ้มอย่างเย็นชา แล้วทำเสียง”เพี้ยะ”เอาเอกสารที่อยู่ในมือโยนทิ้งไป
แผ่นกระดาษกระทบเข้าที่ด้านข้างใบหน้าของผู้จัดการโครงการ เขาหลับตาลงด้วยความปวดใจ
ในห้องประชุมเงียบลงชั่วขณะ ไม่มีเสียงใดๆ ราวกับทุกคนได้กลั้นหายใจเอาไว้
มีเพียงลู่จิ่งเซินที่กล่าวเสียงแข็งว่า : “ดังนั้นคุณก็เลยร่างแผนการชุ่ยๆที่เด็กจบใหม่ก็ทำได้มาให้ผมงั้นสิ? ชะลอไว้ก่อน? สาขาย่อยของเมืองจิ้นชะลอมาสามปีแล้ว ผลประกอบการลดลงทุกปี ผมให้โอกาสพวกคุณมาหลายครั้งแล้วนะ! ตอนนี้คนของผมนั่งอยู่ที่นี่ คุณยังมีหน้าเถียงข้างๆคูๆอีก คุณคิดว่าลู่ซื่อขาดคุณไม่ได้หรือคิดว่าผมโง่จนมองสภาพตลาดในปัจจุบันไม่ออกกันแน่?”
ผู้จัดการโครงการตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบอธิบายต่อว่า “ประธานลู่ ไม่ใช่……”
“เอาละ! ผมว่าคุณไม่มีความสามารถที่จะรับผิดชอบงานนี้แล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป คุณไม่ต้องมาที่นี่อีก” ผู้จัดการโครงการเบิกตาโพรง
“ประธานลู่! ผม ผมผิดไปแล้ว คุณไล่ผมออกไม่ได้นะ ประธานลู่—-“
อย่างไรก็ตามลู่จิ่งเซินไม่อยากสนใจเขาอีกต่อไป จึงให้คนมาลากเขาออกไป แล้วกล่าวเสียงเย็นชาด้วยใบหน้าที่สงบว่า : “ต่อไป!”
ผู้จัดการคนต่อไปขึ้นมากล่าวรายงานต่อด้วยความกล้าๆกลัวๆ
บรรยากาศในห้องประชุมเต็มไปด้วยความกดดัน ดีที่ผู้จัดการคนนี้ความสามารถไม่เลว รายงานเป็นที่น่าพอใจสำหรับลู่จิ่งเซิน
ทว่าคนต่อไปไม่ได้โชคดีแบบนั้น
เพราะว่ามีข้อผิดพลาดในการคำนวณข้อมูล ลู่จิ่งเซินแย้งขึ้นทันทีเมื่อได้ยิน ผู้จัดการคนนั้นตกใจรีบคุกเข่าลงทันที
“ประธานลู่ ขอ ขอโทษครับ ผมจะรีบกลับไปคำนวณใหม่เดี๋ยวนี้”
ลู่จิ่งเซินยิ้มอย่างเย็นชา ทุกคนต่างคิดในใจว่า เส้นทางอาชีพในลู่ซื่อของคนๆนี้มาถึงจุดจบแล้ว
โดยไม่คาดคิด ในขณะนี้ จู่ๆเสียงโทรศัพท์สั่นดัง “หึ่ง” ขึ้นมา
ทุกคนต่างผงะ
BOSSลู่เรียกประชุม ใครกันกล้าเอาโทรศัพท์เข้ามาด้วย?
ทุกคนต่างมองหน้ากันและกัน และเห็นเจ้านายใหญ่ของเขาที่นั่งเป็นประธานอยู่ขมวดคิ้ว พลางหยิบโทรศัพท์ออกมาจากในกระเป๋าเสื้อ
ทุกคน : “…..”
ทุกคนต่างก้มหน้าลงเงียบๆ แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร
ที่ลู่จิ่งเซินไม่ชอบที่สุดคือมีคนขัดจังหวะระหว่างการทำงาน ดังนั้นเขาจึงไม่พอใจเป็นอย่างมากที่มีคนโทรมาขัดจังหวะเขาในตอนนี้
อย่างไรก็ตามพอเห็นหน้าจอว่าใครโทรมา สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
เพียงชั่ววินาทีเดียว
เขารีบลุกขึ้น เดินออกไปรับสายข้างนอก
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและกันทันที พอเขาออกไป พวกเขาต่างเริ่มซุบซิบนินทาเบาๆ
“ใครน่ะ? ดูจากสีหน้าประธานลู่แล้ว น่าจะเป็นข่าวดี?”
“ไม่ว่าจะเป็นใคร กล้าโทรหา ประธานลู่ในเวลานี้ แถมยังทำให้เขามีสีหน้าชื่นมื่นอีก คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่”
“ก็ไม่แน่นะอาจะเป็นเรื่องใหญ่มูลค่าหลายหมื่นล้านก็ได้?”
“ไม่น่าจะใช่ ใบสั่งซื้อมูลค่าหลายหมื่นล้านสำหรับ ประธานลู่ คงไม่เท่าไหร่ ไม่น่าจะทำให้เขาดีใจขนาดนั้นได้หรอก”
ซูมู่ที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่จิ่นเซินตลอดได้เห็นหมายเลขบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขา
ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มคนระดับสูงเหล่านั้น เขาอดไม่ได้ที่จะจีบมุมปาก
คุณจิ่งนะ คุณจิ่ง ในสายตาของทุกคน คุณมีค่ายิ่งกว่าใบสั่งซื้อมูลค่าหลายหมื่นล้านเสียอีก!
ที่แท้ อานุภาพของความรักมันยิ่งใหญ่อย่างนี้เอง
ลู่จิ่งเซินเดินออกมารับสายข้างนอก เสียงของเขาเปลี่ยนจากทุ้มต่ำและเย็นชาเมื่อกี้ เป็นอ่อนโยนและอบอุ่นทันที
“ลู่จิ่งเซิน คุณยังอยู่ที่ทำงานหรือคะ?”
“ครับ มีอะไรหรือ?”
“คุณยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมคะ?”
ลู่จิ่งเซินถือโทรศัพท์ไว้ พลางมองออกไปนอกหน้าต่าง “ยังครับ”
“ป้าเฉินทำอาหารอร่อยไว้หลายอย่าง ฉันจะเอามาให้คุณทั้งหมดเลยนะคะ ถ้าสะดวกคุณช่วยให้ซูมู่ลงมารับฉันหน่อยได้ไหม! ฉันกลัวว่าพนักงานต้อนรับของบริษัทคุณจะจำฉันไม่ได้ จะไม่ให้ฉันเข้าไปน่ะคะ”
เธอยังไม่ลืมเรื่องที่คราวก่อนถูกพนักงานต้อนรับที่มู่ซื่อขวางไว้
ลู่ซื่อที่ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเช่นนี้ กฎระเบียบย่อมมากกว่าที่มู่ซื่อ แถมไม่มีใครรู้จักตัวตนของเธอเลย เธอจึงไม่มั่นใจเลยว่าถ้าซูมู่ไม่ลงมารับเธอแล้ว เธอจะขึ้นมาได้หรือไม่
ลู่จิ่งเซินมองด้วยสายตาล้ำลึก
“คุณมาถึงแล้วหรือครับ?”
“ใช่คะ!”
“ถ้างั้น ผมให้เขารีบลงไป”
ลู่จิ่งเซินวางสายลง เดินกลับเข้าห้องประชุมไป
ทุกคนรีบยุติการซุบซิบลงทันที ทำท่าทางนั่งขะมักเขม้นกับการประชุม
อย่างไรก็ตาม กลับเห็นเจ้านายใหญ่ของพวกเขาหยิบเสื้อคลุมของตัวเองที่พาดอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมา และออกคำสั่งอย่างเคร่งขรึมว่า : “เลิกประชุม”
อะไรนะ?
ทุกคนไม่ได้แสดงออกมากจนเกินไป
ผู้จัดการที่เมื่อครู่รายงานการคำนวณที่ผิดพลาดรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ถามด้วยความดื้อดึงว่า : “ประธานลู่ ถ้างั้น ถ้างั้นผมอันนี้…….”
ลู่จิ่งเซินจ้องมองเขาด้วยสายตาเขม็ง
“กลับไปแก้มาใหม่ พรุ่งนี้เช้าค่อยส่งมาให้ผม”
ผู้จัดการผงะไปครู่หนึ่ง เหมือนได้รับการอภัย รีบพยักหน้ารับทันที
“ครับ ประธานลู่ พรุ่งนี้เช้าผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับ”
ลู่จิงเซินพาซูมู่เดินออกไปด้วย
เมื่อกลับถึงห้องทำงานท่านประธาน เขากล่าวเสียงเข้มว่า : “คุณลงไปข้างล่าง รับจิ่งหนิงหน่อย”
ซูมู่เม้มปากพร้อมอมยิ้ม
เขารู้อยู่แล้ว ต้องเป็น คุณจิ่ง มาแน่ๆ
ไม่เช่นนั้นท่านประธานคงไม่พูดจาดีขนาดนี้
ซูมู่รับปากอย่างดี ขณะที่กำลังหันหลังจะเดินออกไป ลู่จิงเซินเรียกเขาไว้อีก
“เดี๋ยวก่อน”
ซูมู่หันกลับมา ลู่จิ่งเซินขมวดคิ้วเล็กน้อย หยุดสองวินาทีแล้วจึงสั่งว่า : “คุณช่วยบอกกับพนักงานต้อนรับหน่อยว่า ต่อไปถ้าจิ่งหนิงมาที่นี่อีก ให้พาเขาไปรอที่ห้องทำงานของผมก่อน”
ซูมู่รู้สึกตกใจอย่างมาก
ท่านประธานคิดจะเปิดเผยเรื่องนี้แล้ว?
เขาไม่กล้าถามอะไรมาก รีบตอบรับ แล้วก้าวถอยออกไปอย่างสุภาพ
ที่บริเวณล๊อบบี้
เมื่อจิ่งหนิงมาถึง ซูมู่ก็มารออยู่ที่บริเวณล๊อบบี้แล้ว
พอเห็นเธอเข้า ก็รีบส่งยิ้มให้เธอทันที
“คุณนายครับ มาแล้วครับ”
จิ่งหนิงเอากระเป๋าเก็บอุณหภูมิในมือส่งให้เขาถือ ยิ้มให้พลางถามว่า : “ฉันมาเวลานี้ ไม่รบกวนเวลางานของพวกคุณหรอกนะ!”
ซูมู่จีบมุมปาก
เพราะคุณมาท่านประธานใหญ่ จึงได้ยกเลิกการประชุมกะทันหัน คุณคิดว่าไงล่ะ?
เพียงแต่คำพูดนี้เขาไม่กล้าพูดมันออกไปแน่ ดังนั้นจึงยิ้มและกล่าวว่า : “ไม่เลยครับ คุณเอาอาหารมาให้ท่านประธานหรือครับ? ท่านประธานกำลังหิวพอดี ท่านเพิ่งจะพูดว่าจะไปทานอาหารที่ไหนดี”
ทั้งสองพูดคุยพลางหัวเราะ เดินเข้าลิฟต์
พนักงานต้อนรับที่อยู่ด้านหน้าเห็นพวกเขาเข้ามา ก็รีบลุกขึ้นยืนพร้อมกัน
“เอ๊ะ พวกเธอเห็นผู้หญิงคนนั้นที่เพิ่งเดินเข้าไปไหม?”
“เห็นแล้ว คนที่ ผู้ช่วยซู พูดถึงก็คือเขาเองหรือ! สวยมากเลยล่ะ ไม่รู้ว่าเป็นคุณหนูของครอบครัวไหน”
“ตกลงเธอเกี่ยวข้องอย่างไรกับท่านประธานกันแน่นะ? แต่ก่อนท่านประธานไม่ชอบให้ผู้หญิงมาที่ห้องทำงานของเขานะ ดีไม่ดีให้ไล่กลับไปด้วยซ้ำ”
“นั่นน่ะสิ ผู้ช่วยซูยังกล่าวกับพวกเราเป็นพิเศษด้วยนะ บอกว่าต่อไปถ้าเขามาให้พาไปที่ห้องทำงานของท่านประธานได้เลย ดูๆแล้ว น่าจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ทั่วๆไปหรอก!”
“ไม่ใช่ว่าเป็นแฟนของท่านประธานนะ?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก! แฟนของท่านประธาน ไม่ใช่…..ของตระกูลกวน”
“เวลาทำงาน พวกคุณมัวคุยอะไรกันอยู่ตรงนี้ห๊ะ?”