ตอนที่ 125 ปิดประตูตีแมว
ขณะมองผีเด็กทั้งคลาน และพูดไปพร้อมกัน พวกเราก็รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว
ในใจมีความรู้สึกแปลกๆบางอย่าง ที่ไม่อาจอธิบายออกมาได้
แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น พวกเราก็ยังไม่ประมาท ต่างจับดาบไม้ในมือให้แน่น และมองอีกฝ่ายที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ
ขอแค่เด็กคนนี้เข้ามาในบ้าน พวกเราก็จะปิดกั้นทางหนีของเขาทันที
ถึงเวลานั้นก็ปิดประตูตีแมว ทำให้เด็กคนนั้นออกไปไหนไม่ได้
ถ้าพวกเราสามารถคุยกันดีๆ ทำให้พ้นจากความทุกข์ได้ พวกเราก็จะลองดูว่าจะสามารถส่งวิญญาณได้ไหม
แต่ถ้าเขาไม่ร่วมมือ ก็ทำได้แค่ฆ่าเขาให้ตาย และดวงวิญญาณแตกสลายก็เท่านั้น
ตอนนี้ พวกเราสามคนกลั้นหายใจ เดินเข้าไปใกล้เจ้านี้อย่างเงียบๆ
“ นม หนูจะกินนม…… ”
เสียงดังขึ้นอีกครั้ง เสียงที่พูดแหบแห้ง ออกมาจากปากของผีเด็กอย่างต่อเนื่อง
พวกเราทุกคนต่างตั้งสติ เตรียมพร้อมลงมือได้ทุกเมื่อ
3 เมตร 2 เมตร 1 เมตร ในที่สุดผีเด็กก็คลานเข้ามาในประตู
ตอนนี้เขา ไม่สังเกตเห็นพวกเราที่อยู่หลังโซฟา เอาแต่จ้องจูจูที่นอนสลบอยู่ที่พื้นเท่านั้น
ผ่านไปไม่นาน เขาก็คลานมาถึงด้านหน้าของจูจู
ทันใดนั้นก็หัวเราะ “ คิคิคิ ” ออกมา จากนั้นก็ยื่นมือที่ขาวซีด ไปจับตัวจูจูเบาๆ
“ แม่ ! แม่ ! หนูจะกินนม…… ”
ขณะที่พูด ผีเด็กคนนี้ก็ยังใช้หัวของเขาถูจูจูที่สลบอยู่
เมื่อเห็นฉากนี้ผมก็รู้สึกถึงความอบอุ่น แม้ว่าผีทารกจะโตขึ้นหลังจากตายไปแล้ว แต่เขาก็ยังจำแม่ของตัวเองได้ ในสายตาของผมการกระทำนั้นมันช่างดูอบอุ่นมาก
ขณะที่ผมกำลังชื่นชมฉากอันอบอุ่นนี้อยู่ เพียงเสี่ยววินาทีต่อมาการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น
ผีเด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเขาก็อ้าปาก เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมคม
ยกกรงเล็บในมือขึ้น และเลื่อนลงอย่างรวดเร็ว เขาเริ่มฉีกเสื้อของจูจูออก จนเผยให้เห็นเนินอกสีขาวทั้งสองข้าง กระดุมสองสามเม็ดต่างหลุดล่วงลงพื้นทันที
เมื่อเห็นฉากนี้ต่อหน้า ผมก็ตกตะลึง
ดูเหมือนผมจะคิดมากไป ผีทารกยังไงก็คือผีร้าย แม้ว่าชีวิตของเขาจะทำให้คนรู้สึกสงสาร แต่หลังจากที่เขาปรากฎตัว เขาก็กลายเป็นผีชั่วร้ายที่ดุร้ายแล้ว
ผมแสดงสีหน้าที่เคร่งขรึม และพูดออกมาทันที “ ลงมือ ! ”
เสียงพึ่งจางหาย ตัวผมก็พุ่งออกไปทันที
ถือดาบไม้ ตรงเข้าไปหาผีเด็กตนนั้น
ในเวลาเดียวกัน หยางเฉ่วก็ยืนอยู่ข้างๆผม เธอเองก็เตรียมจัดการผีทารกนี้ตั้งแต่วินาทีแรก
ส่วนเฟิงเฉ่วหาน กลับวิ่งไปที่ประตู ปิดประตูให้เรียบร้อย เพื่อปิดกั้นทางหนีของเด็กคนนี้
จู่ๆพวกเราสามคนก็ปรากฎตัว จึงทำให้ผีเด็กรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
ขณะที่เขายังไม่ได้รับรู้อย่างสมบูรณ์ พวกเราก็เข้ามาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว
ผมกระโดดขึ้นสูงๆ ใช้ดาบไม้ในมือ แทงไปที่ตัวผีเด็กอย่างรวดเร็ว
“ ตายซะ ! ”
แม้ว่าผีเด็กตนนั้นจะอึ้งอยู่แป๊บหนึ่ง แต่เขากลับเร็วมาก ขณะที่ดาบไม้ของผมกำลังแทงลงไป
เขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว ตัวของเขาสามารถหลบการโจมตีได้
ผมแทงเข้ากับอากาศ ทำให้ผมอารมณ์เสียเล็กน้อย
ส่วนทางด้านหยางเฉ่ว ในเวลาเดียวกันนี้เธอกลับแทงไปคนละทางกับผม
แต่ใครจะรู้ว่าครั้งนี้เจ้าผีเด็กนั้นไม่คิดจะหลบ เขาแสดงสีหน้าดุร้าย ส่งเสียงร้อง “ หือ ” ออกมา จากนั้นก็อ้าปากที่มหึมานั้นอย่างรวดเร็ว ลิ้นสีแดงฉานนั้น ได้แลบออกมาทันที
สุดท้ายดาบไม้ที่อยู่ในมือของหยางเฉ่ว ก็ถูกพันเข้ากับเอวของหยางเฉ่ว
ในเวลาเดียวกันผีเด็กตนนั้นก็ออกแรก ผลักร่างเธอออกไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนั้นตัวของหยางเฉ่วขาดสมดุล อย่าพูดว่าจะโจมตีผีเด็กได้ต่อเลย ตอนนี้แม้แต่ยืนให้มั่นคงเธอก็ยังทำไม่ได้
ทันใดนั้นเสียง “ ปัก ” ก็ดังขึ้น เพราะร่างของหยางเฉ่วไม่มีสมดุล จึงกระแทกลงกับพื้น อย่างแรง
เพราะการเคลื่อนไหวของผีเด็กตนนั้นเร็วมาก และเรื่องทุกอย่างนี้ก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมองตามไม่ทันกันเลยทีเดียว
ผลลัพธ์เมื่อผมมองเห็นอีกครั้ง หยางเฉ่วก็ลงไปกองอยู่กับพื้นแล้ว
“ สมควรตาย ! ” ผมทำหน้าเข้ม และแอบพูดในใจ
คิดไม่ถึงว่าพวกเราที่ได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว และออกมาโจมตีอย่างกะทันหัน พวกเราโจมตีจากรอบๆ
แถมระยะห่างก็ยังใกล้มาก แต่กลับไม่สามารถแตะต้องมันได้แม้แต่ปลายก้อย กลับกันหยางเฉ่วยังถูกเจ้าผีเด็กผลักคว่ำอีกด้วย
นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างคาดไม่ถึง แต่ตอนนี้เฟิงเฉ่วหาน ก็ได้ปิดประตูบ้านเรียบร้อยแล้ว
หลังจากผีเด็กผลักหยางเฉ่วล้มเสร็จ ก็รีบทิ้งระยะห่างจากพวกเราอย่างรวดเร็ว
ช่วงเวลานี้มันกระโดดขึ้นไปบนตู้เย็นที่อยู่ในบ้าน จากนั้นก็นั่งย่องๆ ถลึงดวงตาสีขาวโพน แยกเขี้ยวออกมา และหัวเราะ “ คิคิคิ ” ให้กับพวกเรา
ผมระวังเจ้าเด็กนั้นทันที แต่ก็ประคองหยางเฉ่วขึ้น “ ไม่เป็นไรใช่ไหม ! ”
เมื่อหยางเฉ่วลุกขึ้นมาได้ ก็ส่ายหัวให้ผม “ ไม่เป็นไร คิดไม่ถึงแค่ไม่กี่วัน การเคลื่อนไหวและพลังของผีทารกนี้จะเพิ่มมาถึงขั้นนี้แล้ว ! ”
หยางเฉ่วเองก็แสดงสีหน้าหนักใจ ตอนแรกเธอก็ระวังมากอยู่แล้ว แต่พวกเราประเมินความสามารถของผีทารกนี่ต่ำเกินไป
“ ฉันแปะยันต์เอาไว้ที่ประตูบ้านแล้ว พวกเราสามคนมาสู้พร้อมกัน จะต้องกำจัดมันได้แน่ๆ ! ” เฟิงเฉ่วหานพูดพร้อมสีหน้าเย็นชา
ผลลัพธ์เสียงของเฟิงเฉ่วหานพึ่งเงียบลง จู่ๆผีเด็กที่พึ่งกระโดดขึ้นไปบนตู้เย็นก็อ้าปาก จนทำให้น้ำลายไหลออกมา
ตอนนี้เขาจ้องมาที่เนินสูงตะหง่านบนร่างของหยางเฉ่วอย่างไม่ละสายตา ขณะเดียวกันก็พูดออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้งอย่างต่อเนื่อง “ นม หนูอยากกินนม ! ”
เมื่อหยางเฉ่วเห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าอกของตัวเอง และยังมีน้ำลายไหลออกจากมาปาก ก็โมโหขึ้นมาทันที “ เด็กเวร ดูซิฉันจะฆ่าแกยังไง ! ”
หลังจากพูดจบ หยางเฉ่วก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอยกดาบขึ้นและพุ่งเข้าไปทันที
แน่นอนว่าผมและเฟิงเฉ่วหานเองก็ไม่รอช้า ได้เผชิญหน้ากับผีทารกที่ดุร้ายแบบนี้ ก็ต้องสู้เป็นกลุ่มเท่านั้น
แต่เจ้าผีเด็กนั้นเคลื่อนไหวเร็วมาก และยังว่องไวมากอีกด้วย
พวกเราสามคนพึ่งเข้าไปใกล้ตู้เย็น เจ้าเด็กนี้ก็ก้าวถอยหลัง และกระโดดออกมาทันที
สุดท้ายก็ไปเกาะที่พัดลมเพดานตรงกลางบ้าน เจ้าเด็กนั้นยังทำหน้าตื่นเต้น หันมามองพวกเราสามคนและพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ จับฉันไม่ได้หรอก จับฉันไม่ได้หรอก…… ”
เมื่อเห็นผีเด็กกำลังแขวนตัวอยู่บนพัดลมเพดาน ก็ทำให้พวกเราโมโหทันที แกเห็นว่าพวกเราเล่นอยู่ซินะ
“ เด็กเวร ! ฉันจะให้แกได้ลิ้มรสลองคาถาใหม่ของฉัน ” หยางเฉ่วพูดอย่างเย็นชา
หยางเฉ่วหยิบยันต์ออกมา จากนั้นก็นำดาบไม้ไปไว้ที่มืออีกข้าง แล้วก็เริ่มเสกคาถาด้วยมือเดียวทันที
ทันใดนั้นเธอก็พูดว่า “ วิชาขับไล่วิญญาณ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี๊ยง ! ”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น หยางเฉ่วก็กัดลิ้นแรงๆ พ่นเลือดที่ไหลออกมาไปที่ยันต์แผ่นนั้นทันที
จากนั้น หยางเฉ่วก็โยนยันต์ที่อยู่ในมือออกไป
เมื่อยันต์แผ่นนั้นหลุดออกจากมือ มันก็เหมือนกับมีดบิน ที่ถูกขว้างออกไป ใส่ผีทารกตรงๆ
แม้ว่าเด็กที่ตายจะกลายเป็นผีร้ายไปแล้ว แต่ก็ยังมีนิสัยเหมือนเด็กอยู่
เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นยันต์มาก่อน เมื่อเห็นยันต์ของหยางเฉ่วบินออกไป ไม่เพียงไม่หลบ เขายังสนใจมันมาก ราวกับคิดว่าเป็นของเล่นที่น่าสนุกชิ้นหนึ่ง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเราตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ เจ้าเด็กคนนี้เอื้อมมือออกไปจับยันต์แผ่นนั้นด้วย
นี่เป็นยันต์ที่ใช้จัดการเขานะ จะไปแตะมัวๆได้ยังไง
ผลลัพธ์หลังจากนั้น วินาทีที่กรงเล็บของเด็กเพิ่งสัมผัสกับยันต์ แสงสีขาวก็ปรากฎขึ้นทันที
จากนั้นเสียงระเบิดดัง “ ปัง ” ก็ดังตามมาติดๆ ยันต์แผ่นนั้นระเบิดทันที เสี้ยววินาทีต่อมาพลังหยางก็ค่อยๆกระจายตัวออกมา
แมวที่อยากรู้อยากเห็นมาก หรือผีเด็กที่กำลังยิ้มอยู่เมื่อครู่ ในตอนนี้กลับกรีดร้อง “ อ๊าก ” ออกมา
ขณะเดียวกันร่างของเขาก็ล่วงลงมาจากพัดลมเพดาน กรงเล็บที่สัมผัสกับยันต์อันนั้น ตอนนี้ถูกระเบิดจนผิวนอกเปิดออกกลายเป็นแผลเวอะ มองดูแล้วเป็นแผลที่น่าสยดสยองมาก
แต่ระยะเวลาแค่พริบตา มือของเขาก็กลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจนทำให้คนที่มองอยู่ถึงกับตกตะลึง
เมื่อผมและเฟิงเฉ่วหานเห็นฉากนั้น ก็เป็นธรรมดาที่จะปล่อยโอกาสตอนที่เขากำลังบาดเจ็บให้ผ่านไปไม่ได้
พวกเรารีบกระโดด ไปแทงเจ้าเด็กนั้น เพื่อกดตัวเขาให้ยึดอยู่กับพื้น
แต่ใครจะรู้ถึงเจ้าเด็กนั้นจะโดนยันต์ของหยางเฉ่วไปแล้ว แต่ก็อาศัยพลังแค้นที่ทรงพลังของตัวเอง และกระดูกที่ยังแข็งแรง หรือจะเรียกได้ว่าเขาไม่ได้สูญเสียพลังในการโจมตีไปเลยสักนิด
วินาทีที่พวกเรากำลังเข้าไปแทงเขานั้น เจ้าเด็กนั้นก็ม้วนตัว หลบการโจมตีของพวกเราอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้ทั้งตัวของเขา ได้ระเบิดพลังหยินที่เข้มข้นกว่าเดิมออกมา
จากนั้นเขาก็ค่อยๆคำรามออกมา “ โอมมะลึกกึกกึ๋ยเสี่ยวโม๋เซียน โปคาราจงแปลงร่าง…… ”
เมื่อพวกเราสามคนได้ยินคำพูดนี้ ก็ต่างมึนงงทันที นี่มันเรื่องอะไรกันแน่ เสี่ยวโม๋เซียนโปคาราจงแปลงร่างอะไรกัน
ขณะที่พวกเรากำลังมึนงง เพราะไม่แน่ใจว่าเจ้าผีเด็กนี้กำลังจะทำอะไร
จู่ๆเจ้าผีเด็กนั้นกลับอ้าปากกว้างๆ เผยให้เห็นฟันที่แหลมคม ทันใดนั้นก็มีพลังหยินที่ชั่วร้ายและทรงพลังอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้พุ่งเข้ามาหาเจ้านั้น
อนุภาพของพลังหยินนั้น ดูเหมือนเพิ่มขึ้นมาเยอะกว่าระดับปกติ เพียงแค่ชั่วพริบตานั้น
ไม่เพียงเท่านี้ เขายังคำรามทันที “ โฮก ” และแสดงท่าทีจะพุ่งเข้ามาหาพวกเรา……