ตอนที่ 128 การปรากฎตัวที่กระทันหันของผีผู้หญิง
จู่ๆก็เห็นฉากนี้ สีหน้าของผมจึงเปลี่ยนไปทันที
ผมตัวสั่นไปทั้งตัว ร่างกายแข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง
บ้าเอ้ย นี่มันเรื่องอะไรกัน
อยู่ดีๆ ทำไมจู่ๆก็มีผีผู้หญิงชุดขาวออกมาปรากฎตัวได้ละ แถมยังส่งยิ้มที่น่าขนลุกนั้นให้ผมเป็นพิเศษอีก
หัวใจเต้นตุ๋มๆต่อมๆ เพราะพึ่งตื่น ผมเลยคิดว่าตัวเองตาฝาด จึงรีบขยี่ตาทันที
แต่หลังจากผมขยี่ตาเสร็จ เมื่อลืมตามามองอีกครั้ง
ตรงหน้าต่างก็ไม่มีผู้หญิงชุดขาวอยู่อีกแล้ว เห็นเป็นเพียงแค่พื้นที่ว่างๆ ไม่มีอะไรยืนอยู่สักนิด
และพลังหยินที่เข้ามาในบ้าน ก็ได้ถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว และจางหายไปภายในพริบตา
ผมอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้า หัวใจเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม
เริ่มมีความรู้สึกหวาดกลัวเกิดขึ้น เป็นความหวาดกลัวที่อธิบายไม่ได้
แต่ ผมไม่ได้คิดว่านี่จะเป็นแค่ภาพลวงตา นี่จะต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ
ผมไม่ได้ตาลาย เมื่อกี้ หน้าต่างบานนั้นจะต้องมีผู้หญิงใบหน้าขาวซีดยืนอยู่จริงๆ
และสิ่งที่ผมมั่นใจยิ่งกว่านั้นคือ นั่นน่าจะเป็นผีผู้หญิงหน้าตาขาวซีด
แม้จะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆผีผู้หญิงตนหนึ่งก็ออกมาปรากฎตัวที่นี่ แต่ผมก็ไม่กล้าประมาท
ผมขมวดคิ้ว รีบหนุมตัวไปปลุกหยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานที่อยู่ข้างๆกันบนโซฟา
“ หยางเฉ่ว เหล่าเฟิง รีบตื่นเร็ว ตื่นเร็วมีเรื่องแล้ว ! ” ผมรีบพูด
ทั้งสองคนถูกผมปลุกให้ตื่นอย่างรวดเร็ว หลังจากตื่นขึ้นมา พวกเขาก็ยังคงสะลึมสะลือ
“ ติงฝานมีอะไร ” หยางเฉ่วพูดพลางหาวไปด้วย
เฟิงเฉ่วหานเองก็ลูบตาของตัวเอง ดูท่าทางง่วงมาก
ผมแสดงสีหน้าจริงจัง “ เมื่อกี้ฉันเห็นผีผู้หญิง ! ”
เสียงพึ่งเงียบลง ทั้งสองคนก็ตกใจมาก รีบหันมามองผมทันที
“ ผีผู้หญิง เรื่องอะไรกัน ” เฟิงเฉ่วหานทำหน้าสงสัย
หยางเฉ่วขมวดคิ้ว พูดด้วยความสังสัย “ จะมีผีหญิงออกมาปรากฏตัวได้ยังไง นายเห็นจริงๆเหรอ ”
ผมพยักหน้าอย่างหนักแน่น “ จริงๆ อยู่หลังหน้าต่างบานนั้น เธอมองมาที่พวกเรา แต่ชั่วพริบตา เธอก็หายไปแล้ว ! ฉันเลยปลุกพวกนาย ! ”
ขณะที่พูด ผมก็ถือดาบไม้ไปที่ประตูบ้าน เปิดประตูเดินออกไปดูข้างนอก
“ ไม่ใช่มั้ง ! ที่นี่ไม่ได้มีแค่ผีทารกแค่ตัวเดียวเหรอ หรือว่าจะมีผีผู้หญิงอีกตัว ” หยางเฉ่วพูดด้วยความสงสัย พร้อมกับเดินเข้ามาหาผม
เฟิงเฉ่วหานเองก็ตื่นตัวขึ้นมา จากนั้นก็รีบเข้ามาใกล้ๆอย่างรวดเร็ว
“ ไม่ผิดแน่ จะต้องเป็นผีผู้หญิงแน่ๆ ! ” ผมมั่นใจมาก สำรวจซ้ายขวาอย่างละเอียด แต่ตอนนี้นอกจากในสวนหย่อม จะมีพลังหยินไหลออกมาจากบ่อน้ำแล้ว รอบๆก็มืดมิด ไม่มีร่างของผีผู้หญิงเลยสักนิด
ทุกคนสำรวจไปรอบๆ แต่ก็ยังไม่พบความผิดปกติใดๆ แม้แต่บ่อน้ำก็ไม่ผิดปกติ
หลังจากหยางเฉ่วมองดูได้สักพัก เธอก็หันมาพูดกับผมว่า “ ที่นี่นอกจากผีทารกดุร้ายตัวหนึ่งแล้ว ตามหลักแล้วก็ไม่น่าจะมีผีเร่ร่อนเข้ามายุ่งย่ามกับแถวนี้นะ ! ”
“ อือ ! ถ้าติงฝานมองไม่ผิดจริงๆ งั้นก็อาจมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง คือแถวนี้มีผีร้ายอยู่สองตัว ! นอกจากผีทารกนั้น ก็คือผีผู้หญิง ! ” เฟิงเฉ่วหานเองก็พูดเพิ่ม
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ผมกลับสูดหายใจเข้าลึกๆ แค่ผีทารกตัวเดียวก็ทำให้พวกเราสู้ยากพออยู่แล้ว
ถ้าตอนนี้มีผีผู้หญิงออกมาอีกตัวละก็ งั้นก็จัดการยากจริงๆแล้วละ
แต่เรื่องที่แปลกก็คือ ยัยผีนั้นอยู่ที่ไหน ทำไมถึงออกมาปรากฎตัว และทำไมถึงหายไปดื้อๆ
“ ถ้าแถวนี้มีผีผู้หญิงอีกตัวอยู่จริง งั้นเธอซ่อนอยู่ที่ไหน พื้นที่แห่งนี้ใหญ่จะตาย ตอนมานอกจากพวกเราจะสัมผัสถึงพลันหยินในบ่อน้ำแล้ว ก็ไม่รู้สึกว่าที่อื่นจะมีเลยสักนิด ! ”
“ เรื่องนี้ฉันก็สงสัยเหมือนกัน ! ” หยางเฉ่วพูดตาม
เฟิงเฉ่วหานเห็นทั้งสองคนกำลังสงสัย จึงพูดเพิ่มอีกครั้ง “ ฉันว่า ไม่ว่าจะมีผีผู้หญิงจริงไหม ยังไงพวกเราก็ต้องจัดการผีทารกให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องที่มีผีผู้หญิงอยู่จริงไหมนั้น หรืออาจอยู่แถวนี้ รอให้คืนพรุ่งนี้พวกเราจัดการผีทารกเสร็จก่อน แล้วค่อยคิดกันอีกทีเถอะ ! ”
เฟิงเฉ่วหานพูดได้สั้นมากๆ แต่เมื่อผมและหยางเฉ่วได้ยิน ก็เห็นด้วยกับความคิดของเขา
ตอนนี้ ทำได้เพียงเท่านี้ ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว
หลังจากนั้น ทุกคนก็ยืนมองรอบๆอยู่ที่หน้าประตูอีกพักหนึ่ง
เพราะจูจูอยู่ในบ้าน และผีทารกก็เข้าไปซ่อนตัวในบ่อน้ำที่อยู่ใกล้ๆ พวกเราจึงไม่กล้าจากไปไหน
เมื่อเห็นว่าไม่เจออะไร จึงเดินกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง
หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานก็หลับไปอีกครั้ง แต่ผมเอนตัวนั่งบนโซฟา ไม่ว่าจะทำยังไงก็นอนไม่หลับซะที
ในใจของผมคิดถึงภาพผีผู้หญิงไม่หยุด ทำไมผมเป็นคนแรกที่สัมผัสถึงพลังหยิน และก็ตื่นขึ้นมาเห็นผีผู้หญิงตนนั้น
ภายในพวกเราสามคน พลังของผมน้อยที่สุด ฝีมือก็จัดว่าแย่ที่สุด
ถ้าเป็นแค่เรื่องบังเอิญ งั้นผีผู้หญิงนั้นมาจากไหน
ทำไมเธอต้องปรากฎตัวแค่ในเวลานี้ เธอยืนทำอะไรที่หน้าต่าง สุดท้ายยังยิ้มสยดสยองนั้นอีก มันหมายความว่ายังไงกันแน่
คำถามพวกนี้ทำให้ผมนอนไม่หลับ คิดว่าตอนนี้ตัวเองกำลังกลัวอยู่รึเปล่า ถึงได้รู้สึกสงสัยยัยผีนั้นขึ้นมา
ระหว่างค่ำคืนที่คลุมเครือ ผมก็ยังคิดไม่ตก
จนกระทั่งฟ้าสาง ผมถึงได้นอนไปนิดหน่อย
ตอนนี้พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ผีทารกที่อยู่ในบ่อ ก็ไม่สามารถทำอะไรกับพวกเราได้อีก
หลังจากกินอะไรนิดๆหน่อยๆเรียบร้อย ผมและเฟิงเฉ่วหานก็บอกให้หยางเฉ่วดูแลจูจู
จากนั้นผมสองคนก็ออกมาซื้อลูกอมและของเล่น ที่จะใช้กับผีทารกในคืนนี้
ที่นี่ค่อนข้างห่างไกลผู้คน ผมสองคนใช้เวลาเดิน 40 กว่านาที ถึงได้มาเจอกับซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆแห่งหนึ่ง
โชคดีที่ในร้านมีทั้งของกินและพวกของเล่นขายอยู่ พวกเราซื้อพวกขนมและของกินอื่นๆ จากนั้นก็หยิบชุดของเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ รถกระบะจิ๋ว และหน้ากากอุลตร้าแมนสามอัน
ผมคิดว่าของพวกนี้ น่าจะล่อผีทารกออกมาจากบ่อได้ ดังนั้นจึงพาเฟิงเฉ่วหานเดินกลับมาทางเดิม
เมื่อกลับมาถึงสวนหย่อม ก็เห็นหยางเฉ่วและจูจูกำลังคุยกันอยู่
แต่สีหน้าของจูจูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเรื่องของผีทารก ทำให้จิตใจของเธอแย่มากๆ
พวกเราเองก็ไม่พูดถึงเรื่องผีทารก เพื่อหลีกเลี่ยงการกระตุ้นเธอ
แน่นอน เพราะเมื่อคืนผมเห็นผีผู้หญิง จึงอดไม่ได้ที่จะถามจูจูเกี่ยวกับเรื่องนี้
ประมาณว่าก่อนหน้านี้ ในละแวกนี้เคยมีผู้หญิงตายโหงหรือตายด้วยความไม่เป็นธรรมบ้างไหม
แต่จูจูกลับตอบว่า ปกติในระแวกนี้ไม่มีคนอยู่ด้วยซ้ำ
คนที่ยังอยู่ที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นคนแก่และเด็ก ส่วนคนหนุ่มสาวนั้นไม่อยู่ที่นี่ และเธอก็ยังไม่เคยได้ยินว่าแถวนี้มีหญิงสาวตายด้วย
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ผมก็รู้สึกสงสัยยิ่งกว่าเดิม
ในเมื่อไม่มีผู้หญิงตายโหง แล้วทำไมผีผู้หญิงตนนั้นถึงมีพลังหยินที่รุนแรงแบบนั้นได้ละ
หรือว่าสิ่งที่ผมเห็นเมื่อคืน จะเป็นแค่ผีเร่ร่อนธรรมดา ที่ผ่านทางเข้ามา แล้วยืนมองที่หน้าต่างแค่ครู่เดียวเท่านั้น แต่โชคดีที่ผมตื่นมาเห็นก่อน หรือว่า ผมจะมองผิดไปจริงๆ หรือเครียดจนเห็นภาพหลอนไปเอง
ในใจผมหาคำตอบไม่ได้ซะที ทำได้เพียงพักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน รอให้จัดการผีทารกได้แล้วค่อยว่ากันใหม่
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ หยางเฉ่วก็เริ่มสร้างวงเวทย์ที่สวนหย่อม
หยางเฉ่วลากเชือกสีแดงจำนวนมากคดเคี้ยวไปมา ด้านบนยังมีกระดิ่งอยู่หนึ่งอัน
เชือกเหล่านี้บรรจบกันที่ตรงกลาง หยางเฉ่วยังแทรกธงเล็กๆผืนหนึ่งลงไป บนพื้นยังมียันต์จำนวนมากวางเอาไว้ แต่ใช้วิธีฝังในทรายเพื่อกลบเกลื่อนร่องรอย
ไม่ใช่แค่นี้ กระดิ่งที่แขวอยู่ เชือกสีแดงหรือยันต์ที่ฝังเอาไว้ รอบๆสวนหย่อน ต่างมีอักขระที่ผมไม่เข้าใจสลักเอาไว้ พวกมันดูลึกลับมาก
ผมไม่เข้าในเลยสักนิด แต่เฟิงเฉ่วหานกลับเข้าใจ
และยังอธิบายให้ผมฟัง บอกว่าหยางเฉ่วทำประตูสู่ชีวิตและความตาย
ขอแค่ล่อผีทารกออกมาได้ เมื่อถึงเวลานั้นประตูแห่งชีวิตและความตายของวงเวทย์ดอกเหมยก็จะเปลี่ยนไป และกลายเป็นคุกที่จองจำผีทารกเอาไว้ในนี้ เป็นคุกแบบวงเวทย์……
ฟังดูแล้วคงร้ายกาจมาก แต่ผมก็ไม่รู้ว่ามันทำงานยังไง จึงค่อนข้างตื่นเต้นอยากเห็นเร็วๆ
จากนั้น พวกเราก็อยู่ในสวนหย่อมกันทั้งบ่าย
จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน พลังหยินในสวนหย่อมก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
และอารมณ์ของผมสามคน ก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นตามพลังหยินที่ ค่อยๆเคร่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
พวกเราเข้าใจดี จะแพ้หรือชนะ ก็ต้องรอดูกันในคืนนี้……