ตอนที่ 149 ปกป้อง
หลังจากที่ผีผู้หญิงพูดออกมา ร่างที่เลือนรางของเธอ ก็ได้เริ่มสลายตัว ระหว่างนั้นแสงอ่อนๆก็ได้สว่างขึ้น ทันใดนั้นร่างของเธอก็หายไปจากสายตาของพวกเราทันที
เมื่อร่างของผีผู้หญิงวัยกลางคนหายไป พวกผีที่อยู่ห่างออกไป ก็ส่งเสียงคำรามออกมาทันที
“ สมควรตาย ! แกฆ่าพี่สะใภ้ของฉัน ! ”
“ พี่สะใภ้ ! ”
“ …… ”
เสียงดังก้อง และเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
แต่ตอนนี้ ผมกลับไม่ได้สนใจผีพวกนั้น
ผมเลิกคิ้วขึ้น มองดูแสงที่จางหายไป เงยหน้าขึ้นมองไปทางที่วิญญาณลอยหายไป อดคิดถึงฉากที่วิญญาณผีผู้หญิงแตกสลายหายไปเมื่อกี้ไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าตอนที่วิญญาณของเธอใกล้สลายหายไป สายตาคู่นั้น และท่าทางแบบนั้น กลับเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและรอคอย
ในเวลานี้หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานเห็นผมนิ่งเงียบ จึงพูดกับผมทันที “ เหล่าติง เลิกมองได้แล้ว ต้องเตรียมตัวสู้แล้ว ! ”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ผมถึงได้สติกลับมาอีกครั้ง
จากนั้นผมก็กวาดสายตามองไปรอบๆทันที พบว่าตอนนี้พวกผีกลุ่มนั้นได้แยกเขี้ยวใส่พวกเรา และเริ่มเดินเข้ามาหาพวกเราแล้ว
เมื่อรู้สึกถึงพลังหยินที่ชั่วร้ายของผี 11 ตน ในใจของผมก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาลที่กำลังไหลเข้ามา มันอึดอัดมากๆ
และพวกเราเดาว่า เมื่อพวกเราเข้าปะทะกับผี 11 ตัวแล้ว ถ้าพวกเราไม่ใช้พิธีพิเศษบางอย่าง
ต่อไปผลที่จะชนะในการต่อสู้นี้ของพวกเราก็จะกลายเป็นศูนย์ ไม่มีทางที่จะเอาชนะได้แน่
หยางเฉ่วแสดงท่าทางหนักใจ เธอพูดว่า “ ต่อไปพวกเราจะต้องต่อสู้อย่างดุเดือดแล้ว ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมละ ! ”
ขณะที่พูด หยางเฉ่วก็กัดนิ้วโป้งของตัวเอง จากนั้นก็รีบนำมันมาวาดยันต์ที่อยู่บนมือซ้ายของตัวเองอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเสริมพลังให้กับคาถา ไม่อย่างนั้นหยางเฉ่วก็คงไม่กัดนิ้วโป้งของตัวเองในเวลานี้
ส่วนเฟิงเฉ่วหาน ก็คิดจะใช้นักฆ่าของเขา
เขาหยิบขวดยาสีดำออกมาแล้ว เห็นได้ชัดว่ากำลังคิดจะกินยาปลุกพี่เฟิง
“ เหล่าติง นายปกป้องฉันแป๊บนึงนะ ! ” เฟิงเฉ่วหานพูดเบาๆ เขาเปิดฝาขวดออกเรียบร้อยแล้ว
ผมไม่พูดอะไร เพียงพยักหน้าให้เฟิงเฉ่วหาน ผมเข้าใจดีว่าหลังจากที่เขากินเข้าไป ร่างกายจะอ่อนแออยู่พักหนึ่ง
หลังจากนั้น เฟิงเฉ่วหานก็นำยาเม็ดสีดำกลืนลงไป
ระหว่างนั้น สีหน้าของเฟิงเฉ่วหานก็เปลี่ยนไป ตาเหลือกขึ้น “ ปึก ” และล้มลงไปกับพื้นทันที
โชคดีที่ผมรู้ผลลัพธ์หลังจากเฟิงเฉ่วกินยากินยาเข้าไป ดังนั้นผมจึงรับตัวเขาเอาไว้ได้ทัน
จากนั้นก็ค่อยๆวางเขาลงกับพื้น ผมจับดาบไม้ขึ้นและกลับไปยืนปกป้องเขาเอาไว้กับหยางเฉ่วทั้งทางด้านซ้ายขวา
ในเวลานี้เฟิงเฉ่วหานเริ่มเป็นลมชักแล้ว เขากระตุกและพ่นฟองน้ำลายสีขาวออกมา
ในวินาทีนี้ จู่ๆผีตาแก่ที่เป็นผู้นำกลุ่มก็ตะคอกมาทางพวกเรา “ ฆ่าพวกมันเลย ! ”
เสียงนี้เพิ่งหยุดออกไป ผีร้ายทุกตัวที่อยู่รอบๆก็ยกกรงเล็บขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
พวกมันคำราม “ โฮก ” ออกมาหนึ่งครั้ง จากนั้นก็พุ่งเข้ามาหาพวกเราทันที
การเคลื่อนไหวเร็วมาก ดวงตาสีขาวโพน แยกเขี้ยวที่แหลมคม เมื่อผมเห็นสภาพแบบนั้นผมก็รู้สึกชาไปทั้งตัว
ม่านตาของผมและหยางเฉ่วขยายออกอย่างรวดเร็ว รีบตะโกนทันที “ มาแล้ว ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็ยกดาบไม้ในมือขึ้น เล็งไปที่ผีร้ายตนหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาหาผม จากนั้นก็แทงออกไปอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกัน ทางด้านหยางเฉ่วก็เจอการโจมตีของผีร้ายเช่นกัน
แต่หยางเฉ่วร้ายกาจกว่าผม นี่เป็นคลื่นการโจมตีลูกแรก ดังนั้นเธอจึงหลบมันได้อย่างง่ายดาย
แต่หลังจากนั้นมันก็ค่อนข้างยุ่งยาก ตอนนี้ผีสี่ตนร่วมกันโจมตีผมพร้อมกัน
ตามพลังในตอนนี้ของผม แค่ป้องกันการจู่โจมของผีตนเดียวก็ยากแล้ว
แต่ตอนนี้เป็นหนึ่งต่อสี่ ผมก็คงทำได้เพียงถูกศัตรูทำร้าย
แต่ตอนนี้ ไม่ว่ายังไงผมก็ต้องอดทนต่อไป
“ ไปตายซะ ! ” ผมตะโกน พร้อมกับกวาดดาบไปทางพวกผีอย่างต่อเนื่อง
แต่ผีร้ายพวกนั้นคำราม “ โฮกโฮก ” ออกมาไม่หยุด “ ฉึกฉึกฉึก ” ใช้กรงเล็บเข้ามาฟาดฟันร่างกายของผมอย่างต่อเนื่อง
ผมจะต่อกรไหวได้ยังไง ผลลัพธ์เมื่อสู้กันได้สองรอบ ที่หน้าอกและหลังของผม ก็ได้รับบาดเจ็บ ถูกเล็บข่วนจนเลือดไหล
ในเวลานี้ผมไม่มีเวลามาสนใจความเจ็บปวด ต้องคอยปกป้องเฟิงเฉ่วหานอยู่ข้างๆ ผมจึงกัดลิ้นของตัวเองทันที
เมื่อเล็งผีสองสามตนที่กำลังเข้ามาเรียบร้อย ผมก็ “ ฟู่ ” พ่นเลือดที่ไหลจากลิ้นออกไปทันที
ผีสองสามตนนั้นรับมือไม่ทัน จึงถูกผมพ่นใส่เต็มๆ
พวกเขาต่างกรีดร้องโหยหวนออกมาทันที ตำแหน่งที่โดนเลือดของผม ก็มีเสียง “ ซ่าซ่าซ่า ” ออกมาทันที ดูเหมือนเนื้อตรงบริเวณนั้นกำลังเน่า
แต่ นี่เป็นการถ่วงเวลาพวกเขาได้แค่เล็กน้อย เพราะมันไม่อันตรายถึงชีวิต
แน่นอน ถ้าสามารถถ่วงเวลาให้พี่เฟิงปรากฎตัวได้ ด้วยฝีมือของผี 11 ตนนี้ พวกเขาก็น่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพี่เฟิงด้วยซ้ำ
ทางผมกำลังต่อสู้อย่างยากลำบาก แม้จะพ่นเลือดออกมา แต่ก็ยังต่อสู้ด้วยความลำบากอยู่ดี
ส่วนทางด้านหยางเฉ่ว แม้ว่าจะเจอกับการต่อสู้อันดุเดือด แต่ภายในสิบกระบวนท่า เธอก็น่าจะไม่แพ้เช่นกัน
ตอนนี้ยันต์ฝ่ามือของหยางเฉ่วยังโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง เสียงของคาถา “ ตับตับตับ ” ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผีร้ายพวกนั้นตกใจจนไม่กล้าเข้าใกล้
และในเวลานี้เอง ผีร้ายตนหนึ่งก็อาศัยตอนที่ผมไม่สนใจ เข้ามาลอบโจมตีผมจากทางด้านหลัง
มันเข้ามากอดรัดจากทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นสิ่งนี้ สีหน้าของผมก็เปลี่ยนไปทันที ผมเผยสีหน้าหวาดกลัวออกมา ผมคิดจะใช้เลือดในปากพ่นออกไป แต่มันก็ไม่มีโอกาสให้ลงมือ
เพราะหลังจากที่ถูกควบคุมการเคลื่อนไหว ผมก็ทำได้แค่ยืนรอความตายเท่านั้น
แต่ระหว่างนั้นผมก็พยายามดิ้นรนอย่างหนัก แต่ผีร้ายตนนั้นมีพลังมหาศาลมาก ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆผมก็ได้ยินเสียงโหยหวนที่น่าขนลุกของผีร้ายดังขึ้นข้างหู “ ให้ฉันได้ลิ้มรสเลือดสกปรกของแกหน่อยก็แล้วกัน ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็ได้ยินเสียงคำราม “ โฮก ” และไอเย็นที่ไหลมากระทบที่ลำคอของผม
ในใจมีเสียงดัง “ กึก ” ผมตะโกนในใจทันทีจบกัน
เจ้าผีนั้นต้องกัดคอผมแน่ ถ้าโดนกัดละก็ ผมจะต้องจบเห่แน่
แต่ตอนนี้ร่างกายถูกควบคุมอยู่ จึงไม่สามารถดิ้นรนอะไรได้ ได้ยินแค่เสียงทุกอย่างที่เกิดขึ้น
แต่ในนาทีวิกฤตนี้ จู่ๆหยางเฉ่วก็ตะโกนออกมา “ ไสหัวไป ! ”
หลังจากพูดจบ ผมก็ได้ยินเสียงระเบิดดังมาจากข้างหลัง “ ปัง ” ทันใดนั้นพลังหยางก็กระจายตัวทันที
แรงปะทะมหาศาลเคลื่อนตัวมาจากข้างหลัง ร่างกายผมสั่นไหว และล้มลงไปกระแทกกับพื้นทันที
ส่วนที่หลังของผม ก็มีเสียงกรีดร้องของผีร้ายดังขึ้น “ อ๊าก ” เห็นได้ชัดว่ามันกำลังทรมานมาก
แม้ว่าตัวผมจะล้มลงไปกับพื้น แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
และผมยังมั่นใจ ว่าหยางเฉ่วจะต้องใช้คาถาบางอย่างจัดการกับผีร้ายที่อยู่ด้านหลังผม ช่วยผมจากอันตราย
ตอนนี้ผมจะกล้าชักช้าอยู่ได้ยังไง รีบออกแรงอย่างรวดเร็ว ดึงร่างผีร้ายที่อยู่หลังผมออก จากนั้นก็รีบลุกขึ้นมาทันที
ผมมองหน้าผีร้ายที่กำลังทรมาน สีหน้าของผมเคร่งขรึมขึ้นทันที
สิ่งที่หยางเฉ่วและเฟิงเฉ่วหานพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ไม่ผิดเลยสักนิด บางครั้งความเมตตาของเรา ก็เป็นอันตรายต่อชีวิตของตัวเอง
บนโลกมีผีมากมายขนาดนั้น ไม่มีใครสามารถช่วยได้ทั้งหมด
ขอแค่รักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้ได้ ก็จะสามารถช่วยเหลือวิญญาณที่บริสุทธิ์ได้อีกมากมาย
เมื่อผ่านประสบการณ์เฉียดตายเมื่อกี้มาได้ ในเวลานี้ ใจของผมก็ไม่ “ อ่อนแอ ” เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ผม “ มีความรู้สึก จิตใจมั่นคง ” และมีสติมากกว่าเดิม
ผมไม่ลังเล ยกดาบไม้ในมือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เล็งไปที่ประตูชีวิตของผีร้าย จากนั้นก็แทงลงไปทันที
“ พี่ชาย ขอโทษด้วยนะ ! ”
เสียงพึ่งจางหาย “ ฉึก ” ดาบเล่มนั้นก็แทงลงไปที่ประตูชีวิตของอีกฝ่ายแล้ว
“ อ๊ากก ! ” เสียงกรีดร้องดังขึ้นทันที
ไอดำไหลทะลักออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว ผีร้ายตนนั้นดิ้นไปมาสองครั้ง และก็ไม่เคลื่อนไหวอีกเลย
เมื่อวิญญาณถูกทำลายประตูชีวิต ก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีทางจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้
แต่ขณะที่วิญญาณของเขาแตกสลาย ดวงตาก็มีนัยน์ตาปรากฎขึ้นอีกครั้ง สติของเขาฟื้นกลับมาแล้ว
ไม่ใช่แค่นี้ เขายังเหมือนกับวิญญาณผีผู้หญิงวัยกลางคนก่อนหน้านี้ ในเวลานี้เขามองผมอย่างใจเย็น ใช้น้ำเสียงที่อ่อนแรงพูดออกมา “ ฉัน ฉันจะได้ จะได้หลุดพ้นแล้ว ขอบ ขอบใจนายมาก…… ”
หลังจากพูดจบ “ ตูม ” ผีร้ายตนนั้นก็แตกสลายไปทันที เขากลายเป็นแสงน้อยๆลอยหายไปในพริบตา
เมื่อผีร้ายตนนี้หายไป กลุ่มผีร้ายที่ต่อสู้อยู่ก็ระเบิดพลังออกมาทันที
“ สมควรตาย แกฆ่าน้องชายของฉัน ! ”
“ ผัว แกมันนักพัฒนาที่สมควรตาย แกฆ่าผัวของฉัน…… ”
“ …… ”
เสียงโมโหของพวกผีดังขึ้น และขณะที่พวกเขาตะโกน
พลังชั่วที่อยู่ในร่างของพวกเขาก็ระเบิดออกมาอีกครั้ง อวัยวะทั้งห้าของพวกเขาดูเหมือนจะบิดเบี้ยว สภาพของทุกตนดูดุร้ายยิ่งกว่าเดิม
ผมและหยางเฉ่วรีบถอยไปข้างหลังสองก้าว หายใจด้วยความยากลำบาก รู้สึกใจสั่นนิดหน่อย
แต่ในตอนนั้นเอง เฟิงเฉ่วหานที่อยู่ด้านหลัง กลับค่อยๆลุกขึ้น
เขาส่ายหัวไปมา ในเวลาเดียวกันก็พูดด้วยเสียงห้าวๆ “ ไอ้เจ้าขยะนี้ หาเรื่องมาให้ฉันอีกแล้ว…… ”