ตอนที่ 156 ยายแก่
อีกนิดเดียวพิธีส่งวิญญาณก็จะเสร็จแล้ว แต่ในช่วงเวลาสำคัญนี้ กลับมีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น
หน้าของผมถอดสี เผยสีหน้าที่ตื่นตระหนกออกมาทันที
“ เกิดอะไรขึ้น ทำไมหุ่นฟางถึงระเบิด ” ผมทำหน้างง พร้อมพูดด้วยความสงสัย
แต่เสียงเพิ่งจางหาย หยางเฉ่วและพี่เฟิงก็แสดงใบหน้าสงสัยเช่นกัน
หยางเฉ่วก็พูดว่า “ ฉันไม่แน่ใจ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ! ”
“ นี่น่าจะเป็นผลจากพลังภายนอก…… ” จู่ๆพี่เฟิงก็พูดออกมา ในเวลาเดียวกันยังทำสีหน้าเคร่งขรึมอีกด้วย
แต่ผมกลับขมวดคิ้ว “ พลังภายนอก พลังภายนอกอะไร ”
“ ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่จะต้องมีคนอื่นเข้ามายุ่งกับพิธี ไม่อย่างนั้นพิธีนี้ก็คงไม่ถูกขัดจังหวะอย่างกะทันหัน ” พี่เฟิงพูดต่อ
เมื่อได้ยินถึงตรงนี้ ในใจของผมก็อดไม่ได้ที่จะเต้นแรง
ในเวลาเดียวกันก็หันไปมองรอบๆ นอกจากพวกเรา และผีห้าตนที่นอนสลบอยู่บนพื้นแล้ว คนที่เหลือก็คือพวกเสี่ยวม่านสี่คนที่เป็นแค่คนธรรมดาและกำลังยืนตัวสั่นอยู่
ผมแอบพูดในใจ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกใจสั่นไปด้วย
หรือว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะเห็นความผิดปกติแล้ว เลยชิงลงมือก่อน
ในใจของผมกำลังคิดแบบนี้ และกำลังจะเข้าไปใกล้ผีทั้งห้าตน
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆรอบๆตัวก็มีลมกระโชกแรงพัดเข้ามา มันเย็นจนผมต้องตัวสั่น
ขณะที่ลมกระโชกแรงพัดเข้ามา ผีห้าตนที่นอนอยู่บนพื้น ก็ลุกขึ้นยืนอย่างเป็นระเบียบ
ทุกตนทำเหมือนกัน และยังทำแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง
จู่ๆก็ลุกขึ้นมา ทำให้ผมตกใจ ยืนอึ้งไปในทันที
หลังจากมองดูพวกเขา ผมก็พบว่าผีทั้งห้าตนได้ยืนเรียงแถว อยู่ตรงหน้าของพวกเราอย่างเป็นระเบียบ
ไม่ใช่แค่นั้น พวกเขาทุกตนยังหลับตา และไม่ขยับเขยื้อนเหมือนเคย
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
ตอนนี้ ผมได้รู้สึกถึงพลังชั่วร้าย ที่ไหลออกมาจากร่างของผีทั้งห้าตนอีกครั้ง เหมือนพวกเขาเปลี่ยนไป กลับมาเป็นผีร้ายอีกครั้ง
และ บนหัวของพวกเขา ก็ยังมีไอสีดำค่อยๆไหลออกมา……
นอกจากผมแล้ว ม่านตาของหยางเฉ่วและพี่เฟิงเองก็ขยายออกอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงหยางเฉ่วพูดอย่างตกใจ “ แย่แล้ว รีบผนึกพวกเขาเร็ว พวกเขาจะกลายเป็นผีร้ายอีกแล้ว ”
หลังจากพูดจบ หยางเฉ่วก็รีบหยิบยันต์ออกมา เธอคิดจะผนึกผีทั้งห้าตนอีกครั้ง
ผมเองก็ไม่รอช้า หยิบยันต์ผนึกออกมาสองใบ และกำลังจะลงมือเช่นกัน
ผลลัพธ์ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงหัวเราะที่แหบแห้งของยายแก่คนหนึ่ง ก็ดังขึ้นอยู่รอบๆตัวของพวกเรา
“ ฮึฮึฮึ…… ”
ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น ในใจของผมก็เกิดกลัว และมองดูรอบๆตัวไม่หยุด
ใครกำลังหัวเราะอยู่ แต่เสี่ยวม่านและคนอื่นๆ กลับถูกเสียงที่น่าขนลุกนี้ ทำให้ตกใจจนกรีดร้องออกมา พวกเธอถอยหลังไปอย่างต่อเนื่อง
ดูเหมือนพวกเขาจะมองไม่เห็นผีห้าตน ไม่อย่างนั้นต้องตกใจจนสลบไปแล้วแน่ๆ
เพื่อหยุดการกระทำของเสี่ยวม่านและคนอื่นๆ และไม่ให้พวกเขาวิ่งไปคนละทิศละทาง
ผมจึงรีบหันมาพูดว่า “ พวกเธอหลับตาเอาไว้ หมอบอยู่ที่เดิม ถ้าฉันไม่พูด ใครก็ห้ามลืมตา ไม่อย่างนั้นทุกคนต้องตายแน่ ! ”
น้ำเสียงปนไปด้วยการข่มขู่ แต่ผลลัพธ์กลับใช้ได้ผลมาก
เสี่ยวม่าน วูน่า เจ้าแว่นและเพื่อนอีกคนต่างกลัวจนถึงขีดสุด เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น ไหนเลยจะกล้าชักช้า
พวกเขารีบหลับตา จากนั้นหมอบลงไปกับพื้นทันที
เมื่อเห็นท่าทางที่หวาดกลัวของพวกเขา และร่างกายที่สั่นเทา ผมก็รู้ทันทีว่าพวกเขากำลังหวาดกลัวแค่ไหน
ขณะที่เสี่ยวม่านและคนอื่นๆหมอบลง ทันใดนั้นผมก็พบว่า ตอนนี้ไอดำที่ไหลออกมาจากหัวของผีทั้งห้าตน มันเริ่มรวมตัวกันอยู่ตรงกลางระหว่างตัวของพวกเขาแล้ว
ขณะที่ไอดำกำลังรวมตัว จู่ๆเงาที่มืดมนของใครบางคน ก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของพวกเรา และเสียงหัวเราะที่ได้ยินก็คือเสียงที่ใครคนนี้เป็นคนเปล่งออกมา
ขณะที่เงาของใครคนหนึ่งปรากฎตัว ผมก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า “ แกเป็นใคร ! ”
ผลลัพธ์เสียงเพิ่งจางหาย เงาที่คลุมเครืออยู่นั้นก็หัวเราะ “ ฮึฮึฮึ ” จากนั้นก็พูดกับผมด้วยเสียงที่แหบแห้ง
“ พ่อหนุ่มน้อย นี่เพิ่งผ่านไปไม่นาน เธอก็ลืมยายแก่คนนี้แล้วเหรอ ”
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ผมก็หนาวสั่นไปทั้งตัว
แม้ว่าเสียงนี้จะแหบมาก แต่ผมกลับจำได้อย่างชัดเจน เพราะเธอก็คือยายแก่ลึกลับที่ฆ่าเจ้าเชี่ยนเชี่ยนไปนั่นเอง
สีหน้าของผมเปลี่ยนไปทันที กลายเป็นใบหน้าบูดบึ้ง “ แกนี่เอง ! ยายแก่ที่ฆ่าเจ้าเชี่ยนเชี่ยน ! ”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ผมก็ดึงดาบไม้ออกมาจากฝักทันที
นี่คือปีศาจ จะรอช้าไม่ได้
นอกจากพี่เฟิงจะไม่เข้าใจที่มาของยายแก่คนนี้แล้ว ในคืนนั้นหยางเฉ่วเองก็อยู่ในเหตุการณ์
ในเวลานี้เธอจึงเริ่มระแวดระวัง กำดาบไม้ในมือให้แน่นกว่าเดิม
และตอนนี้เงาดำนั้น ก็ได้หัวเราะ “ ฮึฮึฮึ ” ออกมาอีกครั้ง จากนั้นเธอก็เริ่มรวมตัว กลายเป็นรูปร่างของคนๆหนึ่ง
จากหัวจรดเท้า เธอใส่ผ้าคลุมสีดำ ถือไม้เท้า หลังค่อม และเผยให้เห็นคางที่เหี่ยวย่น แต่พวกเราก็ยังมองไม่เห็นใบหน้าที่ลึกลับของยายแก่คนนี้
ไม่ผิดแน่ ยายคนนี้ก็คือคนที่ฆ่าเจ้าเชี่ยนเชี่ยน ที่เป็นหนึ่งในผู้ควบคุมขององค์กรตาผีลึกลับ
หลังจากที่ยายแก่ลึกลับนี้ปรากฎตัว ร่างกายของผมก็ตรึงเครียดทันที
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับปีศาจแบบนี้ ผมจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
แต่ในเวลานั้นเอง ยายแก่ก็พูดออกมาอีกครั้ง “ พ่อหนุ่มน้อย เธอนี่ไม่มีทารยาทจริงๆ เธอเรียกฉันว่าป้าคนสวยได้นะ แต่ยังไงพวกเธอก็สร้างเรื่องยุ่งให้ฉัน ดึกดื่นขนาดนี้ กลับมาทำลายทาสผีหลายตัวของฉันอีกแล้ว ทำให้ฉันต้องเดือดร้อนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจริงๆ ”
เสียงของยายแก่แหบมาก แต่ตอนพูดเธอดูสบายๆ ไม่มีความโกรธอะไรอยู่เลย
พี่เฟิงเป็นนักเลงมาก เมื่อได้ยินยายแก่พูดแบบนั้น เขาก็ด่าออกมาทันที “ ป้าคนสวยกะแม่แกน่ะซิ เรียกยายแก่หนังเหี่ยวก็ว่าไปอย่าง เก่งจริงก็เข้ามาเลย ฉันจะฆ่าแกให้ตาย…… ”
“ ยายแก่อย่างแก ทำแต่เรื่องชั่วร้าย แกไม่กลัวโดนลงโทษบ้างเลยเหรอฮะ ” หยางเฉ่วถามเสียงดัง
แต่ยายแก่คนนั้นกลับหัวเราะ “ ฮึฮึ ” “ ลงโทษฉันงั้นเหรอ ฉันเป็นอมตะ จะยังต้องกลัวการลงโทษนั้นอีกทำไม ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ยายแก่ก็หยุดไปแป๊บนึง จากนั้นเธอก็พูดต่อ “ เด็กอย่างพวกเธอ นอกจากจะก่อปัญหาให้ฉันแล้ว ยังไม่มีทารยาท ไม่มีการศึกษาจริงๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ คืนนี้ฉันก็จะทำให้พวกเธอสมปรารถนา ทำให้พวกเธอกลายเป็นทาสผีอยู่ที่ตำบลหม่าหวางแห่งนี้นี่แหละ ! ”
หลังจากพูดจบ ยังไม่รอให้พวกเราได้โต้กลับ ยายแก่คนนั้นก็ยกมือขึ้น และประสานมือเป็นรูปดาบที่หน้าอกทันที
จากนั้น พวกเราก็ได้ยินยายแก่พูดด้วยเสียงอันแหบแห้ง “ ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง เพี๊ยง ! ”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ผีห้าตนที่อยู่ด้านหลังยายแก่ ก็ตัวสั่นขึ้นมาอย่างกระทันหัน
จากนั้นพลังชั่วร้าย ก็ไหลเวียนไปมาอย่างรวดเร็ว
นอกเหนือจากนั้น ในเวลานี้ที่หน้าผากของผีห้าตนยังแยกออก และมีลูกตาสีขาวโพนลูกหนึ่ง โผล่ออกมา
เมื่อพวกเราสามคนเห็นแบบนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง
ตาผี ตาผีที่สามปรากฎแล้ว
ขณะที่ดวงตาดวงที่สามปรากฎออกมา ในเวลานี้พลังชั่วร้ายที่ถูกขับออกไปจากร่างกายของผีห้าตน ก็ได้ถูกคนควบคุม ให้พลังชั่วร้ายกลับเข้ามาอยู่ในร่างกายอีกครั้ง
ยายแก่คนนั้นเงยหน้าเล็กน้อย จึงเผยให้เห็นส่วนคางที่เหี่ยวย่น จากนั้นเธอก็พูดออกมาเบาๆว่า “ ฆ่าพวกมันซะ ! ”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น ผีห้าตนที่เคยหลับตาอยู่ ก็ต่างลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ขณะที่พวกเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ผมก็เห็นว่านัยน์ตาของพวกเขาได้หายไปหมดแล้ว ตอนนี้พวกเขากลับมามีดวงตาสีขาวโพน และไร้ชีวิตชีวาอีกครั้ง
ไม่ใช่แค่นั้น วินาทีที่พวกเขาลืมตาขึ้น ผีทุกตนยังอ้าปากอย่างรวดเร็ว พวกเขาต่างคำราม “ โฮก ” มาทางพวกเรา พร้อมกับเผยให้เห็นเขี้ยวที่แหลมคม
วินาทีต่อมา ผีทั้งห้าตนก็ยกกรงเล็บขึ้น และพุ่งมาทางพวกเราทันที
เมื่อผมเห็นผีห้าตนพุ่งเข้ามา ในใจก็โมโหขึ้นมาทันที
อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวเท่านั้นพวกเราก็จะส่งวิญญาณของพวกเขาได้แล้วเชียว
ผลลัพธ์กลับช้าไปเพียงแค่ก้าวเดียว ท้ายที่สุดพวกเขาก็ถูกสมาชิกในองค์กรตาผีควบคุม
ตอนนี้ พวกเขาจึงกลายเป็นผีร้าย และสูญเสียสติปัญญาอีกครั้ง
ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาล้วนสูญเปล่า และตอนนี้พวกเรายังไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจับดาบไม้และพุ่งเข้าไปห้ำหั่นกับพวกเขาอีกครั้ง……