ตอนที่ 185 พูดคุย
ผมนั่งอยู่ตรงนี้ได้ไม่นาน ผีชายวัยกลางคนที่ชื่อหวางเป่าเฉิง ก็เริ่มพูดคุยกับผม ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย
แต่ทันใดนั้นเองเขากลับถามว่าผมเป็นอะไรกับมู่หลงเหยียน ช่วงเวลานั้นผมจึงเป็นใบ้ไปทันที
ไม่รู้ว่าควรพูดยังไง จะบอก หรือไม่บอกเขาดี
หวางเป่าเฉิงเห็นผมลังเล เหมือนรู้ว่าผมลำบากใจ เขาจึงหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” ออกมาทันที “ ในเมื่อน้องชายไม่อยากจะพูด งั้นพี่ก็จะไม่ถามต่อ…… ”
เมื่อได้ยินหวางเป่าเฉิงพูดแบบนั้น ผมก็จับที่คางแล้วพูดว่า “ ที่จริง ที่จริงผมเป็น…… ”
ผมเพิ่งพูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเสียงผู้หญิงอ่อนโยนก็พูดแทรกผมขึ้นมา “ ที่จริงเขาก็คือพระเอกในคืนนี้ ! ”
จู่ๆก็ได้ยินประโยคนี้ และน้ำเสียงยังฟังดูคุ้นหู ผมจึงหันไปมองตามสัญชาตญาณ
เมื่อหันไป ผมก็เห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง
หญิงสาวคนนั้นอยู่ในชุดหรูหรา ด้านหลังมีคนรับใช้เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งตามประกบ ผมจึงอดไม่ได้ที่จะตกใจ
ผู้มาเยือนก็คือโจวหยุน ผีผู้หญิงที่อาศัยอยู่ ณ สุสานเหนืออ่างเก็บน้ำ เมื่อไม่กี่เดือนก่อนผมเพิ่งคลายผนึกที่องค์กรตาผีสะกดเธอเอาไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อเห็นโจวหยุน ผมก็เบิกตากว้างอย่างช่วยไม่ได้
แต่ไม่รอให้ผมได้พูด ทันใดนั้นหวางเป่าเฉิงกลับพูดด้วยความตกใจ “ อั๊ยย่ะ ! นี่ไม่ใช่น้องโจวหยุนเหรอ ! สองสามวันมานี้ได้ยินเรื่องที่เธอถูกผนึกเอาไว้ คิดไม่ถึงว่าเรื่องนี้จะเป็นความจริง ! ”
โจวหยุนเดินเข้ามา พร้อมกับรอยยิ้ม “ คารวะพี่หวาง ! ”
“ น้องโจวหยุนสุภาพเกินไปแล้ว พวกเราไม่ได้เจอกันหลายสิบปี ออกมาได้ก็ไม่ได้ไปหาพี่ที่สุสานจินชาน ! พี่จะได้เป็นคนตอนรับเธอบ้าง ” หวางเป่าเฉิงดูดีใจมาก เขาพูดและยิ้มอย่างมีความสุข เหมือนกับเป็นคนคุ้นเคย ดูสนิทสนมกันสุดๆ
ในเวลาเดียวกัน โจวหยุนก็เดินเข้ามาตรงหน้าของผม
เธอมองผมแวบหนึ่ง พร้อมกับส่งยิ้มมาให้ จากนั้นก็หันไปพูดกับหวางเป่าเฉิงต่อ “ พี่หวาง ถ้าพี่รู้ฐานะของเขาแล้วละก็ พี่จะต้องตกใจมากแน่ๆ ! ”
หวางเป่าเฉิงได้ยินโจวหยุนพูดแบบนั้น เขาจึงเงียบไปทันที จากนั้นก็พูดว่า “ เออใช่ เมื่อกี้โจวหยุนบอกว่าคืนนี้น้องชายท่านนี้เป็นพระเอกของงาน ทำไมถึงพูดแบบนั้นละ ”
ผมมองทั้งสองคนคุยกัน พบว่าผมไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นผมยังไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะ
แต่หลังจากที่โจวหยุนได้ยิน เธอก็ทำปากมุ่ย “ คืนนี้นอกจากงานวันเกิดของพี่มู่หลงแล้ว อาจมีการประกาศเรื่องมงคลอีกอย่าง และเขาก็เกี่ยวข้องกับเรื่องมงคลนั้น ! ส่วนเรื่องอื่น รอให้พี่มู่หลงออกมา ประกาศด้วยตัวเองเถอะค่ะ ”
โจวหยุนพูดเบาๆ หลังจากหวางเป่าเฉิงได้ยิน สีหน้ากลับเต็มไปด้วยความสงสัย
ปากของเขายังพูดคำว่า เรื่องมงคล นอกจากงานวันเกิดของยัยมู่หลงแล้ว ยังมีเรื่องมงคลอื่นอีกเหรอ
แต่หลังจากพูดถึงสองคำสุดท้าย เขาก็เริ่มกระวนกระวายขึ้นมา “ น้องโจวหยุน เธอเลิกพูดอ้อมค้อมได้แล้ว ทำเป็นลับๆล่อๆอยู่นี่แหละ น้องชาย นายบอกพี่หน่อย นายกับมู่หลงเป็นอะไรกัน ”
ผมหันไปมองโจวหยุน เห็นเธอนั่งลงเรียบร้อย แต่กลับไม่ยอมพูดอะไรออกมา
ตอนนี้โต๊ะในงานเต็มหมดแล้ว อาหารเริ่มทยอยมาเสริฟอย่างต่อเนื่อง
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ กำลังจะอธิบายให้เขาฟังด้วยตัวเอง
แต่ในตอนนั้นเอง จู่ๆด้านหน้าก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “ คุณหนูมู่หลงมาถึงแล้ว ! ”
เมื่อคำพูดนี้ดังขึ้น ทุกคนในงานก็หันไปมองทันที
แม้แต่หวางเป่าเฉิงก็หันไปมองอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เขากำลังหันไปมองที่เวที ไม่สนใจผมอีกต่อไป
ในเวลาเดียวกัน หลังจากหันไปมองบนเวที ทันใดนั้นสาวงามที่อ่อนโยนคนหนึ่งก็เดินออกมา
สาวงามใส่ชุดกระโปรงสีขาว หน้าตาราวกับนางฟ้า สวยจนคนต้องตกตะลึง
เมื่อเธอปรากฎตัว เธอก็ดึงดูดสายตาของผีทุกตน
“ ว๊าว ! คุณหนูมู่หลง ! ”
“ แม่นางมู่หลง ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ”
“ …… ”
มู่หลงเหยียนยิ้มออกมาเล็กน้อย แต่มันกลับสวยเหมือนดอกไม้บาน
หลังจากนั้นเธอก็คารวะแขกที่อยู่ด้านล่างเวที และพูดว่า “ ข้าน้อยมู่หลงเหยียน คืนนี้เป็นวันเกิดอายุครบ 300 ปี ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงาน ข้าน้อยทราบซึ้งใจมากค่ะ ! ”
หลังจากพูดจบ มู่หลงเหยียนก็คารวะให้แขกอีกครั้ง เธอดูเป็นผู้หญิงที่สง่างามและมีมารยาทมากๆ
แต่ตอนที่ผมเห็นฉากนี้ ผมกลับแอบกลอกตาให้เธอ
มู่หลงเหยียนเป็นผู้หญิงเจ้าอารมณ์คนหนึ่ง ในเวลานี้ทำเป็นผู้หญิงอ่อนโยน สง่างาม และมีมารยาท ช่างไม่ต่างอะไรกับนักต้มตุ๋นเลยสักนิด
แต่แขกทุกคนกลับชื่นชมมู่หลงเหยียนมาก โดยเฉพาะพวกผีผู้ชายด้านล่างเวทีที่ยังหนุ่มอยู่
“ แม่นางมู่หลงสุภาพมาก แค่ได้เห็นใบหน้าของแม่นางมู่หลง ฉันก็รู้สึกเป็นเกียรติสุดๆแล้ว ! ”
“ ชื่อเสียงของแม่นางมู่หลงดังกระฉ่อน วันเกิดคืนนี้ ข้าน้อยจึงมาแสดงความยินดีด้วยตัวเอง ! ”
“ …… ”
ท่าทางมู่หลงเหยียนดูดีใจมาก เธอโบกมือให้กับทุกตน ส่งสัญญาณให้ทุกตนหยุดพูดก่อน
ผีทุกตนล้วนเข้าใจดี เมื่อเห็นมู่หลงเหยียนส่งสัญญาณ ทุกตนก็หยุดพูดทันที
มู่หลงเหยียนเห็นว่าเงียบลงแล้ว เธอก็พูดออกมาอีกครั้ง “ คืนนี้ที่ข้าน้อยจัดงานฉลองวันเกิดครบ 300 ปี และมีการเลี้ยงอาหารค่ำทุกตน ที่จริงแล้วยังมีอีกสองเรื่อง ! ”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ มู่หลงเหยียนก็เงียบไปแป๊บหนึ่ง
แขกด้านล่างเวที ต่างจับจ้องไปที่มู่หลงเหยียน
มู่หลงเหยียน กวาดสายตามองไปรอบๆ จากนั้นก็พูดออกมาอีกครั้ง “ เรื่องแรกคือ คืนนี้ที่เรียกทุกตนมา เพราะพวกเรามีศัตรูคนเดียวกัน เป็นพวกมันที่ทำให้พวกเราเป็นแบบนี้ เป็นพวกมันที่ทำให้เราไม่ได้ผุดได้เกิด ไม่แม้แต่จะกลับชาติไปเกิดได้ ”
“ และทุกตนน่าจะรู้ดี ว่าเหลือเวลาอีกแค่สามปี ถ้ายังหาเจ้าสิ่งนั้นไม่เจอ พวกเราก็จะตายทั้งเป็น และเจ็บปวดทรมานเพราะวิญญาณแตกสลาย……. ”
ตอนนี้สีหน้าของผีทุกตนต่างน่ากลียดน่ากลัวจนถึงขีดสุด แววตาเต็มไปด้วยความเครียดแค้น
แม้แต่ผมที่ได้ยินเรื่องนี้ หัวใจก็ยังอดไม่ได้ที่จะมีเสียงดัง “ กึก ” คิดทบทวนคำพูดของมู่หลงเหยียน
ผมจำตอนที่มู่หลงเหยียนพูดถึงศัตรูได้ และยังตอนที่โจวหยุนออกมาจากโลง ในตอนนั้นเอง ผมก็ได้เข้าใจเกี่ยวกับองค์กรตาผีสั้นๆ
แต่ในตอนนั้น ผมยังได้ยินโจวหยุนพูดถึง “ ระยะเวลาสามปี ” แต่มู่หลงเหยียนไม่ยอมพูด ดังนั้นผมจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ตอนนี้กลับได้ยินมู่หลงเหยียนพูดออกมาอีกครั้ง โดยเฉพาะอีกสามปีถ้ายังหาเจ้าสิ่งนั้นไม่เจอ พวกเขาก็จะต้องทุกข์ทรมานจากวิญญาณแตกสลาย ผมจึงอึ้งจนแทบนั่งไม่ติด
เกิดอะไรขึ้นกับพวกมู่หลงเหยียนกันแน่ พวกเขาและองค์กรตาผีมีความแค้นอะไรต่อกัน
และ พวกเขาต้องการตามหาอะไร
หรือว่าผี 200 กว่าตนที่อยู่ที่นี่ จะมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรตาผีทั้งหมด ระยะเวลา 3 ปีหมายความว่าอะไรกันแน่
ช่วงเวลานั้นคำถามผุดเข้ามาในหัวของผมเรื่อยๆ ผมขมวดคิ้วจนมันแทบผูกกันเป็นโบ
หลังจากมู่หลงเหยียนพูดมาถึงตรงนี้ เธอกลับไม่พูดต่อ
แขกด้านล่างเวทีกลับโวยวายขึ้นมาทันที “ ฮึ ! 3 ปี พวกเราจะสู้กับพวกมันจนตายไปข้างหนึ่ง ! พวกเราเดิมพันด้วยชีวิต ยังไงก็เคยตายไปแล้วครั้งนึง พวกเราไม่กลัวตายอีกแล้ว ”
“ ใช่ ขอแค่แม่นางมู่หลงเหยียนยังอยู่ พวกเราจะต้องเอาของของตัวเองกลับมาได้แน่ ! ”
“ ฮึ ! ถึงวิญญาณแตกสลาย พวกเราก็จะไม่ยอมตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมันอีกครั้ง ”
“ พวกเราจะต้องแก้แค้น และต้องทำให้สำเร็จ ! ”
“ …… ”
ผมฟังเสียงแขกตะโกน แต่ดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งต้องห้ามของทุกตน เพราะไม่มีใครพูดว่าสิ่งที่พวกเขาจะเอากลับมาคืออะไร
เมื่อมู่หลงเหยียนได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอก็พูดออกมาอีกครั้ง “ ทุกท่านอย่าเพิ่งใจร้อน นี่เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องทำ ดังนั้นขอให้ทุกท่านรอเพิ่มอีกสักวัน รอให้ถึงคืนพรุ่งนี้ พวกเราค่อยมาคุยกันให้ละเอียด ! และค่อยปรึกษากันให้ดีๆ ”
“ ดี ! แม่นางมู่หลง แล้วเรื่องที่สองคืออะไร ”
“ ใช่ ! วันเกิดของแม่นางมู่หลงทั้งที ไม่พูดถึงมันก็ดี ! บอกเรื่องที่สองมาเลยเถอะ ! ”
“ ……. ”
มู่หลงเหยียนยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่กวาดสายตามองแขกรอบหนึ่ง สุดท้ายสายตาของเธอก็มาหยุดลงตรงที่ผมนั่งอยู่
ผมเห็นมู่หลงเหยียนมองผม ผมจึงยิ้มให้เธอเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันก็โบกมือให้
แต่ผมเพิ่งโบกมือเสร็จ ทันใดนั้นมู่หลงเหยียนก็พูดต่อหน้าผีทุกตน “ ติงฝาน นายมานี้…… ”