ตอนที่ 191 โทรศัพท์จากชุ่ยเอ๋อ
ช่วงเวลานั้นสามารถพูดได้ว่าผมเหนื่อยทั้งกายและใจ เรื่องราวต่างๆที่ถาโถมเข้ามา
ทําให้ร่างกายและจิตใจอ่อนล้า
หลังจากกลับมาจากปากุ้ยหลิน เพราะกินดื่มอาหารของคนตายไปไม่น้อย
จึงทําให้เกิดจุดกุ้ยหยินขึ้น
โชคดีที่มันไม่ส่งผลร้ายแรง เพียงทําให้พลังหยางในร่าง กายลดลงไปเยอะเท่านั้น
สองสามวันมานี้ ชีวิตของพวกเรากลับมาสงบสุขอีกครั้ง
หลังจากผมกลับมาได้สามวันท่านนักพรตต์เองก็ออกมา จากโรงพยาบาล
เขามีเพียงปัญหาเล็กน้อย
ขอแค่เขาไม่ทํางานหนัก พักสักสองสามเดือนเขาก็น่า จะกลับมาเป็นปกติแล้ว
ช่วงนี้ ถ้าผมมีเวลาว่างก็จะออกไปยืนตากแดดนอกบ้าน
ไปเล่นเกมกับเหล่าเฟิง มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขจริงๆ
แน่นอนว่าผมไม่ลืมเรื่องฝึกวิชาพัฒนาพลัง เพราะเมื่องนาทีชีวิตผมถึงรู้ว่า
พลังเป็นเรื่องที่สําคัญขนาดไหน
เพราะได้คําแนะนําส่วนตัวจากอาจารย์ พลังของผมค่อยๆเพิ่มขึ้น
อาจารย์พอใจผมมาก บอกว่าผมหัวดีมาก เป็นต้นกล้าที่ดีของสายงานนี้
แต่ขณะเดียวกัน เขาก็ยังกําชับผมครั้งแล้วครั้งเล่าบอก
ให้ผมห้ามลืมหัวใจหลักของงานนี้ จะทําลายคําปฏิญาณของคนปราบสิ่งชั่วร้ายไม่ได้
ผมถูกอาจารย์บ่นใส่จนหูชา แต่บางครั้งอาจารย์ก็ยังกํา ชับผมอีกสองสามประโยค
เวลาผ่านไปเร็วมาก เพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปครึ่งเดือนแล้ว
ภายในครึ่งเดือนนี้ ผมไม่ได้เจอมู่หลงเหยียนเลย เธอเองก็ ไม่ได้ออกมาปรากฏตัว
รอบๆตัวของพวกเราก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น เป็นเหมือนปกติ ขายธูป เทียน เงินกระดาษ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
แต่มีอยู่วันหนึ่ง ผมเพิ่งกินข้าวเที่ยงเสร็จ กําลังจะกลับเข้า ไปนอนกลางวันในห้อง ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็มีเสียงดังขึ้น
“ติ๊งติ๊งติ๊ง……”
ผมไม่ได้สนใจ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูตามปกติ
แต่ตอนที่ผมเห็นชื่อคนโทรมา ผมกลับอดไม่ได้ที่จะยืนอึ้ง
เพราะผมพบว่าคนที่โทรมาหาผมคือนักแสดงสาวอู่ฮียฮุย หลังจากทิ้งช่องทางติดต่อไว้ให้เธอแถวโรงพยาบาล แม้พวก เราจะติดต่อกันได้ แต่ก็มีแค่แชทคุยกันครั้งเดียวเท่านั้น
บางครั้งผมก็เห็นรูปของอู่ฮุยฮุยจากกลุ่มแชทเพื่อน อย่างมากก็แค่กดเข้าไปดู ไม่ได้แชทคุยกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่เคย โทรหากันเลย
อู่ฮียฮุยโทรมาหาผมอย่างกระทันหัน นี่มันหมายความว่าอะไร
ผมลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็กดรับ “ ฮัลโหล ! ”
เสียงเพิ่งเงียบลง ทันใดนั้นเสียงร้อน รนของอู่ฮุยฮุยก็ดังขึ้น “ ติงฝาน ฉันคืออู่ฮียฮุย ! นาย นาย ว่าง ว่างคุยกับฉันไหม ”
เมื่อได้ยินน้ําเสียงที่รีบร้อนของอู่ฮียฮุย ผมก็คิดว่า เธอกําลังมีปัญหา จึงตอบกลับทันที “ ว่าง มีเรื่องอะไร รึเปล่า ?”
“ คือ คือนายช่วยมาที่กองถ่ายของพวกเราหน่อยได้ไหม ! ในกองถ่าย ของพวกเรา เจอเรื่อง เจอเรื่องยุ่งยากนิดหน่อย !” อู่ฮียฮุยพูดต่อ
แต่ผมกลับเงียบไปแป๊บหนึ่ง เจอเรื่องยุ่งยากนิดหน่อยเหรอ
ผมจึงถามกลับ “ เธอพูดให้ชัดเจนหน่อย เรื่องยุ่งยากอะไร ! ”
ผมรู้สึกได้รางๆ อู่ฮียฮุยไม่มีทางโทรมาโดยไม่มีสาเหตุแน่ เธอเห็นความสามารถของผมรู้ดีว่าผมทํางานอะไร
ช่วงเวลานั้น ยังบอกผมว่ามีเรื่องยุ่งเกิดขึ้น
ผมจึงเดาว่า ยัยนี้ต้องเจอกับสิ่งชั่วร้าย หรือไม่ก็บางอย่างที่ตัวเองไม่สามารถอธิบายได้
อู่ฮุยฮุยพูดด้วยน้ําเสียงตื่นตกใจ “ ฉัน ฉันเองก็ไม่แน่ใจ มันมีอะไรแปลกๆ และยุ่งยากมาก ในกองถ่ายของฉันมี คนตายจากอุบัติเหตุไปสองคนแล้ว !”
“ ตอนนี้คนในกองถ่ายกลัวกันมาก ถ้า ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป กองถ่าย กองถ่ายของพวกเราจะต้องแตกกระเจิงแน่ ฉันอธิบายในนี้ไม่ได้ อีกอย่างตํารวจก็อธิบายไม่ได้ มัน แปลกมาก นาย นายรีบมาช่วยพวกเราได้ไหม ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ กึก ” ผมขมวดคิ้วทันที
ดูเหมือนเธอจะเจอปัญหาเข้าจริงๆ ถึงกับมีคนตายแล้ว และยังมีถึงสองคนด้วย
จากน้ําเสียงของอู่ฮียฮุย ปัญหานี้จะต้องทําให้กองถ่าย ของเธอตกที่นั่งลําบาก
สําหรับนักแสดงที่รักในการตีบทแตก คงไม่อยากให้กองถ่ายของเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ
นี่ก็คือสาเหตุว่า ทําไมอู่ฮุยฮุยถึงได้โทรหาผมอย่างประทันหัน !
แม้ว่าผมจะไม่ได้สนิทอะไรกับอู่ฮียฮุยมากนัก แต่อย่างน้อ ยพวกเราก็รู้จักกัน มีวาสนาต่อกันอยู่บ้าง
ในเมื่ออีกฝ่ายพูดถึงขนาดนี้แล้ว การเข้าไปดูสักหน่อย ก็คงไม่เกินความสามารถของคนปราบสิ่งชั่วร้ายอย่างเรา
ผมเห็นอู่ฮียฮุยไม่สามารถอธิบายผ่านทางโทรศัพท์ได้ จึง ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพียงพูดเบาๆว่า “ เธอส่งที่อยู่มาให้ฉัน แล้วอีกเดี๋ยวฉันจะเข้าไปดูให้ ! ”
อู่ฮียฮุยได้ยินคําตอบของผม เธอจึงพูดขอบคุณรัวๆ บอกว่าอีกเดี๋ยวจะส่งที่อยู่มาให้ผมในแชท
หลังจากพูดจบ ผมก็กดวางสาย
เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ บอกอาจารย์ ว่าจะออกไปข้างนอก
อาจารย์ถามผมว่าจะไปที่ไหน ผมเองก็ไม่ปิดบัง บอกว่ามี เพื่อนคนหนึ่งเจอปัญหานิดหน่อย บอกให้ผมช่วยเข้าไปดูให้หน่อย
อาจารย์หลี่ตาลง แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร
บอกแค่ว่าจะทําอะไรก็ระวังให้ดี ถ้าจัดการไม่ได้ก็โทรมาหาเขา
ผมพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น หลังจากนั้นก็หยิบ สัมภาระเดินออกไปจากร้าน
เมื่อเดินมาถึงถนนหมายเลข 10 ผมก็คิดว่าจะไปเรียกเพิ่งเฉวหานให้มาด้วยกันดีไหม
เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่าผม เวลาเจอปัญหาจะ ได้มีคนให้คําปรึกษา
แต่เมื่อคิดว่าเขาต้องดูแลท่านนักพรตต์ ผมก็ลบความคิดนั้นออกไปทันที
เมื่อมองดูปฏิทิน พบว่าวันนี้เป็นวันเสาร์พอดี ผมจึงโทรศัพท์หาหยางเฉ่ว
ปกติหยางเฉ่วเม้าท์มอยเรื่องดาราเก่งมาก และตัวเธอยัง มีวิชาอาคมที่เก่งกาจ
ถ้าให้หยางเฉ่วไป “ เยี่ยมชม ” กองถ่ายกับผม เธอจะต้องเต็มใจอย่างแน่นอน
โทรศัพท์ถูกรับอย่างรวดเร็ว แต่ผมยังไม่ทันพูด หยาง เฉ่วก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเสียงที่สดใส “ เป็นอะไรเจอปัญหา เหรอ อยากให้ฉันไปช่วยเหรอ”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ ผมก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา
“ ฉันจะ ไม่พูดอ้อมค้อม เธอรู้จักอู่ฮียฮุยใช่ไหม ! ”
เมื่อหยางเนิ่วได้ยินคําว่าอู่ฮุยฮุย เธอก็ตื่นตัวทันที “ ฮ่ยเอ้อ แน่นอน ฉันเคยดูละครออนไลน์ของเธอ ถึงจะเล่นเป็น สาวใช้ แต่การแสดงของเธอ เยี่ยมโครตๆ !”
“ ฮฮฮี วันนี้ที่โทรหาเธอเพราะ เรื่องของเขานั่นแหละ !”
“ ฮะฮุยเอ๋อเป็นอะไรเหรอ”
ผมไม่พูดไร้สาระ ขณะเดินไปที่ท่ารถก็เล่าเรื่องที่กองถ่าย ของอู่ฮียฮุยมีคนตาย และพวกเธออาจเจอกับสิ่งชั่วร้ายให้ หยางเฉ่วฟัง
เมื่อหยางเฉ่วฟังจบ ก็ไม่คิดอะไรมาก เธอตอบตกลงทันที และยังบอกว่าให้ไปรอเธอที่ขนส่ง
หลังจากนั้นชั่วโมงกว่าๆ ผมก็มาถึงตัวเมือง
หยางเฉ่วอยู่ใกล้มาก เธอจึงมาถึงนานแล้ว
ผมเพิ่งลงรถ ก็ได้ยินหยางเฉ่วเรียกผมอยู่ไม่ไกล
เมื่อหันไปมอง ก็เห็นหยางเย่วยังเร้าร้อนและเซ็กซี่ วันนี้ เธอมัดผมหางม้า
ท่าทางดูสดชื่นสุดๆ
เธอใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนรัดรูป ทําให้รูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเธอถูกเผยออกมา
สู่สายตาของผู้คน
แม้แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก็ยังอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง เธอหลายครั้ง
ผมคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปทันที “ มานานรึยัง ?
“ เพิ่งเดี๋ยวเดียวเอง ! กองถ่ายของฮียเอ๋ออยู่ที่ไหน พวก
เราต้องใช้เวลาเดินทางกี่นาที ”
หยางเฉิวเปิดประเด็นทันที ตอนอยู่บนรถผมได้รับที่อยู่มา แล้ว มันเป็นสถานที่ที่เรียกว่าป่าเมเปิลแดงตั้งอยู่ในเขตชาน เมือง น่าจะใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าๆ
ผมพูดให้หยางเฉ่วฟังสั้นๆ พวกเราก็ไม่รอช้า รีบเรียก รถแท็กซี่คันหนึ่ง จากนั้นก็ตรงไปที่ป่าเมเปิลแดงทันที
หลังจากที่พวกเรามาถึงสถานที่ถึงได้รู้ว่า สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยต้นเมเปิล
เพราะอากาศกําลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ในป่าเมเปิลจึงกลายเป็นสีเหลืองหรือสีแดง เมื่อมองออกไป ก็จะกลายเป็นภาพวิวสีเหลือแดง ที่งดงามจนผมแทบละสายตาไม่ได้…
แม้วิวทิวทัศน์จะงดงามเพียงใด แต่เมื่อพวกเราลงรถมาเจออู่ฮียฮุย
สีหน้าของเธอกลับหดหู
นอกจากนี้ ผมและหยางเฉ่วยังต้องประหลาดใจ
เพราะอู่ชุ่ยฮุยและคนในกองถ่ายทั้งหมด ทุกคนต่างมีสีหน้าหมองคล้ํา มีพลังหยินครอบคุ้มไปทั่วทั้งตัว