ตอนที่ 195 ต่างถิ่น
การที่สิ่งชั่วร้ายที่อยู่ในบ้านหลังนี้ กล้าออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง หรือแม้แต่ฆ่าคนตายไปสองศพแล้ว ก็ไม่ใช่เพราะต้องการไล่คนออกไปเหรอ
ตอนนี้ผมและหยางเฉ่วนั่งรอพวกมันอย่างใจจดใจจ่อ ผมไม่เชื่อว่าพวกมันจะไม่ออกมา
หลังจากกินมาม่าเสร็จ พวกเราก็ดูละครวังต้องห้ามที่กําลังดังในช่วงนี้อีกพักหนึ่ง ผมคิดว่ามันน่าเบื่อมาก แต่หยางเฉ่วกลับเพลิดเพลินมาก เธอยังพ่นคําด่าฮองเฮาหัวโบราณ นางสนมอสรพิษและอีกมากมายออกมา
แต่ผมกลับไม่สนใจ พวกละครทีวีเลยสักนิด
ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกผู้หญิงแย่งผู้ชายคนเดียว ผมไม่เห็นว่ามันจะน่าสนใจตรงไหน
ขณะที่ดูละคร ผมก็ได้กลิ่นธูปอ่อนๆ มันหอมมาก แต่ผมก็ไม่ได้สนใจ
แต่ผ่านไปไม่นาน ผมกลับรู้สึกอยากนอน
เมื่อมองดูเวลา ก็พบว่าตอนนี้เพิ่งสองทุ่มเท่านั้น ฟ้าเพิ่งมืดได้ไม่นาน
เวลายังไม่ดึกมาก รอบๆก็ค่อนข้างเงียบ และยังไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ผมจึงคิดว่าเจ้าพวกนั้นคงยังไม่ออกมาปรากฏตัวเร็วขนาดนี้
ดังนั้น ผมจึงหันไปพูดกับหยางเฉ่วว่า “ หยางเฉ่ว เธอ คอยระวังหน่อยนะ ! ฉันจะหลับสักหน่อย ! ”
หยางเฉ่วกลอกตา เธออดไม่ได้ที่บ่นออกมา ขี้เกียจสันหลังยาว ! แม้แต่บ้านผีก็ยังนอนลง
ผมไม่อยากพูดออกไปเท่าไหร่ เธอดูละครทีวีน่าเบื่อแบบนั้น ฉันไม่นอนแล้วจะทําอะไรละ
หยางเฉ่วเห็นผมทําหน้าตาหดหู เธอจึงพูดออกมาอีกครั้ง “ โอเคโอเค ! นายนอนไปเถอะ ! เดี๋ยวฉันปลุกเอง !”
หลังจากพูดจบ หยางเฉ่วก็หันกลับไปดูละคนที่วีของเธอต่อ
ผมเองก็ไม่ได้สนใจ เริ่มล้มตัวลงนอนบนโซฟาทันที
แต่เมื่อเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ขณะที่ผมนอนหลับ ดังนั้นผมจึงแปะยันต์ไว้ที่หน้าผากของตัวเองหนึ่งแผ่น
ทําแบบนี้แล้ว ผมจะได้ไม่ต้องกลัวว่าเจ้าพวกนั้นจะแอบมาทําร้าย
ถ้าเป็นเมื่อก่อน อย่าว่าแต่นอนหลับในบ้านผีเลย ผมจะต้องกลัวจนตัวสั่น ไม่มีอารมณ์นอนหลับอย่างแน่นอน
แต่ตอนนี้ ผมกลับง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น ผมเพิ่งล้มตัวนอนได้ไม่นาน ทันใดนั้นผมก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
ตอนนอนผมรู้สึกสบายมาก ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ และแล้วผมก็เริ่มรู้สึกว่ามีสายลมอันหนาวเย็นพัดเข้ามา มันหนาวมาก
ตัวผมถึงกับสั่นสองสามครั้ง และตื่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
แต่หลังจากที่ผมลืมตาขึ้น กลับพบว่ารอบๆตัวมืดมิด
ผมยังคิดว่าหยางเฉ่วคงปิดไฟ จึงค่อยๆลุกขึ้นนั่ง แต่ทันใดนั้นผมกลับพบว่าตัวเองนั่งอยู่บนดิน และพื้นดินแห่งนั้นยังเต็มไปด้วยใบไม้
ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ผมไม่ได้นอนอยู่บนโซฟาเหรอ แล้วทําไมที่พื้นถึงมีใบไม้เยอะขนาดนี้ และยังค่อนข้างมีกลิ่นเหม็นอับอีก
ผมขยี้ตาตัวเอง รู้สึกว่าเรื่องนี้เริ่มแปลกแล้ว หลังจากนั้นผมก็หันไปสํารวจรอบๆทันที
จนกระทั่งตอนนี้ ผมเพิ่งรู้ว่าเรื่องนี้มันน่าขนลุกแล้ว
ผมพบว่ารอบๆของตัวเอง ไม่ใช่คฤหาสน์หลังนั้นอีกต่อไป แต่เป็นป่าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
ใช่แล้ว นี่ก็คือป่ารกร้างว่างเปล่าผืนหนึ่ง
ผมกวาดสายตามองรอบๆ ผมเห็นพุ่มไม้และต้นไม้ที่ซ้อนสลับกันไปมา เมื่อผมเงยหน้ามองผ่านช่องว่างของกิ่งไม้ ยังสามารถมองเห็นเศษเสี้ยวของดวงจันทร์
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ในสมองของผมก็มีเสียงดัง “ ตูม ” ราวกับมีฟ้าผ่าลงมาตอนกลางวันแสกๆ
หลังผมชาไปครึ่งหนึ่ง ผมนอนอยู่ที่โซฟาดีๆ ทําไมตอนนี้ถึงได้ว่านอนกลางป่าได้ละ
นี่มันเรื่องอะไรกัน หยางเฉ่วอยู่ที่ไหน
และอีกอย่าง ยันต์ที่แปะบนหน้าผากของผมหายไปได้ยัง
ความคิดแรกบอกผมว่าตัวเองกําลังฝันอยู่รึป่าว เพราะผมไม่สังเกตเห็นอะไรก่อนหน้านี้เลยสักนิด
ดังนั้นผมจึงหยิกตัวเองแรงๆ แต่ผมก็ต้องพบความเจ็บปวด
บ้าเอ้ย ! นี่มันไม่ใช่ความฝัน นี่เป็นเรื่องจริง
ระหว่างที่ผมไม่รู้สึกตัว จู่ๆก็มาปรากฏตัวกลางป่า ช่วงเวลานั้นมันเกิดอะไรขึ้น ฉันไปเจอตัวอะไรมา ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งสิ้น
สัญชาตญาณของคนปราบสิ่งชั่วร้ายบอกว่า ผมกําลังเจอกับอันตราย ถึงจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมแน่ใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องดี
ผมไม่มัวคิดมาก เตรียมหยิบน้ำตาวัวออกมาเปิดตาทันที
แต่ในตอนนั้นเองผมกลับพบว่า บนร่างกายว่างเปล่าไม่มีอะไรติดตัวเลยสักชิ้น อย่าว่าแต่ขวดน้ำตาวัวเลย แม้แต่ยันต์สักแผ่นผมก็ไม่มี
ผมขมวดคิ้วแน่น พูดในใจว่าแย่แล้ว !
ผมหันไปมองรอบๆอีกครั้ง ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมาทันที “ หยางเฉ่ว ! ”
เสียงดังก้อง เต็มไปด้วยความร้อนรน
แต่รอบๆที่ว่างเปล่า กลับไม่มีเสียงใครตอบกลับผมสักคน
ผมกัดฟันกรอด ในใจเริ่มตื่นตระหนก ผมเริ่มวิ่งไปข้างหน้าสองสามก้าว จากนั้นก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง “ หยางเฉ่ว…”
แต่ครั้งนี้คนที่ตอบกลับไม่ใช่หยางเฉ่ว แต่เป็นเสียงที่เยือกเย็นและแปลกประหลาดของผู้หญิงคนหนึ่ง “ เลิกตะโกนได้ แล้ว เธอตายแล้ว !”
แม้นี่จะเป็นเสียงของคนแปลกหน้า แต่หลังจากที่ผมได้ยินคําพูดของเธอ ในใจกลับช็อกไปในทันที
สีหน้าของผมเปลี่ยนไปอย่างมาก เผยสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา “ ใคร เธอพูดอะไร”
ผมไม่กล้าเชื่อ แต่สัญชาตญาณบอกผมว่า สถานที่ที่ผมอยู่ตอนนี้เลวร้ายมาก
“ นายออยากเห็นฉันไหม ” เสียงของผู้หญิงคนนั้นดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ ถ้ากล้าก็ออกมา ! ” ผมพ่นลมหายใจ คอยระวังตัวตลอดเวลา ขับเคลื่อนจักระ เดินพลังในร่างกาย
แต่สิ่งที่ตอบกลับมา คือเสียงหัวเราะที่น่าขนลุก “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” …
ดูเหมือนเสียงนี้จะดังก้องไปทั่วป่า ผมไม่สามารถรู้ได้เลยว่าต้นเสียงมาจากไหน
เสียงหัวเราะนี้ ทําให้ผมรู้สึกทรมานใจ บวกกับไม่มีน้ำตาวัวให้เปิดตา จึงทําให้ผมไม่สามารถเห็นอีกฝ่ายได้
ในใจของผมกําลังร้อนรน แต่อาจารย์เคยบอกผมว่า ยิ่งอันตรายเท่าไหร่ ผมก็ต้องยิ่งสงบเท่านั้น
ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็มีโอกาสที่ผมจะต้องเจอกับเรื่องอันตราย
ผมกัดริมฝีปากอย่างแรง จนทําให้มีเลือดไหลออกมาไม่น้อย
ขณะฟังเสียงหัวเราะของผู้หญิงคนนั้น มันก็ทําให้ผมรู้ว่าเธอไม่คิดจะใช้ความรุนแรงอะไรขนาดนั้น เธอไม่ได้โจมตี นี่เป็นเพียงการเล่นสงครามเย็นกับจิตใจของผม
ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ สงบจิตใจของตัวเองสักพัก จากนั้นก็หันไปพูดกับรอบๆว่า “ เธอเอาตัวฉันมาไว้ที่นี่ใช่ไหม ! อย่าให้ฉันจับเธอได้นะ เธอเสร็จฉันแน่ ! ”
ในใจของผมกําลังหวาดกลัว แต่ผมกลับไม่แสดงท่าทางหวาดกลัวออกมาเลยสักนิด
ผมจะแพ้ ด้านจิตใจไม่ได้เด็ดขาด
แต่เสียงของผมเพิ่งเงียบลง ทันใดนั้นเสียงหัวเราะที่ตั้งอยู่รอบๆ ก็เงียบลง
ทันใดนั้น ไม่ไกลจากข้างหลังผม ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “ งั้นเหรอ แต่ฉันกลัวว่านายคงไม่มีโอกาสนั้น !”
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผมก็หันกลับอย่างรวดเร็ว
เมื่อหันไปมอง ผมก็เห็นว่าบนหินที่อยู่ห่างออกไป มีผู้หญิงชุดขาวยืนอยู่
เหตุผลที่ทําให้ผมหวาดกลัวคือ ใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น เหมือนกับถูกไฟเผา
ผิวหนังติดกัน ไม่มีจมูกและริมฝีปากล่าง และหู ตา จมูก ปาก คิ้วของเธอยังผิดเพี้ยน สภาพของเธอดูน่าสยดสยองมาก
แต่ผมกลับมองผ่านเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนบอกได้ว่านี่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
เมื่อเห็นสภาพของอีกฝ่าย ม่านตาของผมก็ขยายใหญ่ ถอยไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว
เมื่ออีกฝ่ายเห็นท่าทางของผม เธอก็หัวเราะอย่างน่าขนลุก “ หน้าของฉัน สวยไหม ”
แม้ว่าใบหน้านี้จะทําให้ “ คนตกใจ ” อยู่บ้าง แต่ผมใช้ชีวิตกับคนตายมาตั้งแต่เด็ก เคยเห็นศพสภาพน่าสยดสยองมามากทีเดียว
ตอนนี้ผมจึงค่อยๆได้สติ ผมไม่พูดจาอ้อมค้อม พูดกับเธอตรงๆว่า “ เธอพาฉันมาที่นี่ทําไม”
แต่ผีผู้หญิงคนนั้นกลับแสยะยิ้ม “ หลายปีมานี้ฉันใช้ชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน นายหน้าตาพอดูได้ เลยอยากให้นายมาอยู่กับฉัน ! เป็นน้องสาวของฉัน ที่นี่ เป็นสถานที่ที่ฉันเลือกให้นายฆ่าตัวตายด้วยตัวเองเลยนะ…….”
เสียงของผีผู้หญิงเพิ่งเงียบลง “ พรึบ ” ทันใดนั้นผ้าไหมสีขาวผืนหนึ่ง ก็ตกลงมาตรงหน้าของผม
เมื่อเห็นผ้าไหมสีขาวถูกผูกไว้ด้านบน สีหน้าของผมก็เปลี่ยนไปทันที ผมรีบถอยหลังไปหลายก้าว
ฮ่าๆ ล้อเล่นบ้าบออะไร
คิดจะให้ฉันฆ่าตัวตายงั้นเหรอ ให้ฉันไปติดตามผีผู้หญิงน่ารังเกียจแบบแกเนี่ยนะ แถมยังบอกว่าให้ไปเป็นเป็นน้องสาวอีก ฮึฝันไปเถอะยัยผีบ้า !