ตอนที่ 198 พี่น้องโรคจิต
ตอนนี้จู่ๆก็เห็นผีผู้ชายน่าขยะแขยงปรากฏตัวในบ้านหลังนี้ ผมจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
คิดไม่ถึงว่าในบ้านหลังนี้นอกจากผีผู้หญิงแล้วจะยังมีผีผู้ชายอีกหนึ่งตน
แต่ผมไม่ได้คิดอะไรมาก ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผีผู้ชายหรือผีผู้หญิง ถ้าไม่ส่งตัวหยางเฉ่วออกมา ผมก็จะฆ่าพวกมันให้หมด
ผมหันไปมองผีผู้ชาย พูดกับเขาอย่างสุภาพ “ ถ้าฉลาดก็ส่งเพื่อนของฉันออกมา ฉันจะให้ทางเลือกกับพวกแก ไม่อย่างนั้นจะเหลือแต่ทางไปสู่ความตาย..”
“ ฮ่าฮ่าฮ่า แกจะฆ่าฉัน น่าขํา ! ” เมื่อพูดถึงสองคําสุดท้าย น้ำเสียงของผีผู้ชายตนนั้นก็ดูเย็นชามาก
ในเวลาเดียวกัน จู่ๆข้างตัวของผีผู้ชายก็มีร่างใส่ชุดขาวเบลอๆของใครบางคนปรากฏตัวขึ้น
ทันใดนั้น ผมก็พบว่าร่างคนชุดขาวนี้ไม่ใช่ใครอื่น เธอก็คือผีผู้หญิงที่หนีไป
ผีผู้หญิงโดนยันต์ของผมเข้าไป ร่างวิญญาณจึงอ่อนแอมาก แม้แต่การปรากฏตัวร่างกายของเธอก็ยังไม่ชัดเจนเหมือนผีผู้ชาย
หลังจากเธอปรากฏตัว ก็ไม่ได้พูดจาหยาบคาย แต่กลับหันมาจ้องผมหนึ่งครั้ง จากนั้นก็หันไปพูดกับผีผู้ชายว่า “ พี่ อีกเดี๋ยวพี่ต้องเหลือลมหายใจสุดท้ายของมันไว้นะ ฉันจะทําให้มันรู้ว่า เมื่อไม่มาเป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน ก็อย่าได้คิดจะเป็นผู้ชายอีกต่อไป ฉันจะทําให้มันรู้ว่า เมื่อกี้มันเลือกผิดขนาดไหน ! ”
คําพูดพวกนี้ทําให้ผมที่ฟังอยู่ถึงกับอึ้ง ผมรู้สึกเย็นวาบที่หลัง ยัยนี้หมายความว่ายังไง หรือว่าเธออยากตัดเจ้านั้นของผม
และคําพูดนั้น ดูเหมือนสิ่งที่ผมควรทําคือยอมไปเป็นสัตว์เลี้ยงให้เธอ
ตอนมีชีวิตอยู่ยัยนี้คงอยากได้ผู้ชายจนตัวสั่น หลังจากตายไปเลยอาฆาตอยากจับผู้ชายไปเป็นทาสให้ได้
หน้าของผมน่าเกลียดขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทันใดนั้นผีผู้ชายที่อยู่ข้างๆก็พูดว่า “ น้องวางใจได้ ที่นี่ยกให้พี่เถอะ เธอไปในห้องแล้วจับตาดูยัยนั้นให้ดีๆละ รอให้พี่ชายจัดการเจ้าหมอนี่เสร็จก่อน แล้วจะรีบไปแต่งพี่สะใภ้ใหม่ให้เธอนะ !”
หลังจากพูดจบ ผีพี่น้องสองคนก็ยิ้มให้กัน จากนั้นก็หัวเราะ “ ฮิฮิฮิ ” ออกมาอย่างน่าขนลุก
ในเวลาเดียวกัน ร่างของผีผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มถอยไปข้างหลัง จากนั้นเธอก็หายตัวไปทันที
เมื่อผมได้ยินคําพูดนี้ ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ กึก ”
คิดว่าคําพูดของผีผู้ชาย น่าจะหมายถึงหยางเฉ่วที่หายตัวไป 80%
ตอนนี้ ผมแค้นจนกัดฟันกรอด คิดว่าพวกผีพี่น้องคู่นี้โรคจิตมาก
ผีร้ายที่คิดจะเอาชีวิตผมเคยเจอมาก่อน ผีชั่วที่ฆ่าคนผมก็เคยเจอ แม้แต่ปีศาจที่ออกมาอาระวาดใส่ผู้คนผมก็ยังเคยได้ยิน
แต่ฆ่าคนให้กลายเป็นทาสนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ได้เห็น และได้ยินสําหรับผม
ผมโมโหขึ้นมาทันที “ แกทําอะไรกับหยางเฉ่ว ”
ขณะที่พูด ผมก็ชี้ดาบไม้ไปที่ผีผู้ชายด้วยความโกรธ
แต่ผีผู้ชายกลับพูด ฮึ ออกมา “ ทําอะไรงั้นเหรอ ฉันจะทําอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับแก ! ”
หลังจากพูดจบ ร่างของผีผู้ชายตนนั้นก็พุ่งลงมาจากชั้นสอง อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็ไม่กล้ารอช้า รีบตั้งสติยกดาบไม้ขึ้นและเตรียมเข้าปะทะกับอีกฝ่ายทันที
แต่ไม่รอให้ผีผู้ชายได้เข้าใกล้ผม จู่ๆร่างของเขาก็หายไปจากสายตา
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผมก็ตกใจ รีบหันไปมองรอบๆทันที
แต่ไม่รอให้ผมพร้อมรับการโจมตี ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเย็นที่หลัง
น้ำเสียงเย็นชาดังตามมาติดๆ “ กล้ามาที่บ้านของฉัน ก็ต้องรู้ตัวว่าต้องตาย ! ”
หลังจากพูดจบ “ ปัง” พลังมหาศาลก็ซัดเข้ามา ทันใดนั้นผมก็รู้สึกเจ็บที่หลัง
เสี้ยววินาทีต่อมา ร่างกายของผมก็เหมือนกับใบไม้ร่วงที่ถูกลมพัด ผมปลิวออกไปทันที
และสุดท้าย “ ปัก ” ตัวผมก็กระแทกลงบนโต๊ะรับแขกอย่างแรง
แจกกันขนาดใหญ่แตกเป็นเสี่ยงๆ และตัวผมก็กลิ้งลงไปนอนกองกับพื้น
“ โอ๊ย ! ” ผมอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา ในเวลาเดียวกันผมก็เอื้อมมือไปลูบหลัง เพราะผมรู้สึกเจ็บโครตๆ
“ พลังแค่น้อยนิดแบบนั้น ยังคิดจะมาจับพวกเรารนหาที่ตาย ! ” ผีผู้ชายพูดอย่างเย็นชา ทันใดนั้นร่างของเขาก็หายแวบ และพุ่งเข้ามาหาผมอีกครั้ง
เมื่อเห็นผีผู้ชายพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ผมก็รีบลุกขึ้นกําดาบไม้ พร้อมโต้กลับ
แต่พอผีผู้ชายคนนี้เข้ามาใกล้ เขาก็ใช้ประโยชน์จากการที่ผมไม่ได้เปิดตา หายตัวอีกครั้ง
ผลลัพธ์ดาบของผมฟันเข้ากับอากาศ เมื่อผีผู้ชายปรากฏตัวอีกครั้ง เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านขวาของผม
“ ไอ้ขยะ คิดจะฟันฉันงั้นเหรอ”
หลังจากพูดจบ ผีผู้ชายคนนั้นก็กระโดดพุ่งเข้ามาที่เอวของผม
ร่างกายผมเสียสมดุลอีกครั้ง วินาทีนั้นผมล้มลงกับพื้นทันที
ในใจของผมกําลังเดือดเป็นไฟ ไม่ได้เป็นเพราะผมสู้ผีผู้ชายตนนี้ไม่ได้ เขามีพลังมหาศาลหรือเขาดุร้ายมาก
พูดตามความเป็นจริง พลังของผีผู้ชายตนนี้ก็เยอะกว่าผีผู้หญิงไม่เท่าไหร่
บวกกับเวลาและสถานที่ที่จัดขึ้นมาอย่างเหมาะสมทําให้ผมถูกโจมตีจนรับมือไม่ทัน
แต่สาเหตุหลักยังเป็นเพราะผมไม่ได้เปิดตา ผมมองไม่เห็นเขา ทําให้ผมไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้
ผมกัดฟัน และตะคอกออกมาอย่างรุนแรง “ อย่าให้ฉันจับแกได้นะ!”
หลังจากพูดจบ ผมก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ผีผู้ชายยืนอยู่ตรงข้ามผม เขาพูดพร้อมกับใบหน้าที่น่าขยะแขยง “ ฮึ! น้ำตาวัวพวกนั้นฉันทําลายหมดแล้ว แกจะเอาอะไรมาจับฉันฮะ แค่ยันต์เน่าๆสองสามแผ่นที่แกมีอยู่งั้นเหรอ แกคิดว่าจะมีโอกาสแตะฉันได้เหรอฮะ ”
ผีผู้ชายพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและเยาะเย้ย
เมื่อผมได้ยินคําพูดนี้กลับขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้
ถึงว่าทําไมผมหาขวดน้ำตาวัวไม่เจอ ที่แท้เจ้าหมอนี้ก็เป็นคนเอาไป มันเห็นเราเป็นเป้าหมายตั้งแต่แรก และรู้ว่าพวกเราต้องใช้น้ำตาวัวเปิดตา
และตั้งแต่เริ่มต้นก็แอบเล่นงานพวกเรา ตอนนี้เมื่อลองคิดดูแล้ว มันจะต้องใช้ลูกเล่นพิเศษบางอย่าง ทําให้ผมและหยางเฉ่วสลบ จากนั้นก็ทําลายน้ำตาวัวของผม ทําให้ความสามารถของพวกเราลดลงจนถึงขีดสุด แล้วถึงได้ลงมือกับพวกเรา
เมื่อคิดเรื่องพวกนี้ออก ในใจของผมก็มีเสียงดัง “ กึก ”
คิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ตอนที่ผมอยากนอน ผมจําได้ว่าได้กลิ่นธูปอ่อนๆ หรือว่าจะเป็นตอนนั้น
“ ก่อนหน้านี้แกรมยาสลบพวกเราใช่ไหม แล้วหลังจากนั้นก็ทําลายน้ำตาวัวของฉัน ” ผมพูดอย่างเยือกเย็น
“ แกก็ไม่โง่เท่าไหร่นิ! ฉันจะบอกให้นะ ตอนมีชีวิตฉันถือว่าเป็นนักพรตคนหนึ่ง สําหรับวิธีลงมือขับไล่สิ่งชั่วร้ายของพวกแก ฉันรู้เยอะเลยละ คืนนี้แกตกอยู่ในเงื้อมมือของฉัน ก็ถือว่ายุติธรรมอยู่นะ !” น้ำเสียงของผีผู้ชายกดต่ำ ดูเหมือนเขากําลังได้ใจ จึงพูดออกมาด้วยความมั่นใจ
เมื่อเห็นท่าทางหยิ่งยโสของอีกฝ่าย ผมละอยากตบมันสักทีจริงๆ
แต่เจ้าหมอนี้บอกอย่างชัดเจน ว่าน้ำตาวัวถูกทําลายไปแล้ว เมื่อไม่มีน้ำตาวัว ผมก็ไม่สามารถเปิดตาได้
เมื่อเปิดตาไม่ได้ ผมก็จะมองไม่เห็นอีกฝ่าย และตกเป็นฝ่ายโดนทําร้ายแทน
ผมไม่พอใจ แต่ก็ทําอะไรไม่ได้ ตอนนี้ผมกําลังคิดว่าจะเรียกมู่หลงเหยียนออกมาช่วยดีไหม
แต่ผมเพิ่งคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นสายตาของผมก็หันไปมองกระเป๋าหยางเฉ่วโดยอัตโนมัติมันอยู่ไม่ไกลจากตัวผม
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ทันใดนั้นผมก็ตัวสั่น มีความคิดใหม่ผุดเข้ามาในหัวของผมแล้ว
เปิดตาไม่ได้ใช้แค่น้ำตาวัวได้อย่างเดียว หยางเฉ่วมีวิธีพิเศษไม่ใช่เหรอ
ยัยนั้นเปิดตา ด้วยยันต์ไม่ใช่เหรอ
เมื่อคิดได้แบบนี้ ผมก็ดีใจขึ้นมาทันที
ขอแค่สามารถเปิดตาได้ ก็ไม่ต้องถึงมือมู่หลงเหยียนแล้ว และเมื่อเวลานั้นมาถึง แค่ผมคนเดียวก็สามารถจัดการผีพี่น้องคู่นี้ได้แล้ว
แต่ผีผู้ชายตนนั้น ยังไม่เห็นผมอยู่ในสายตา เขาหยิ่งยโสอย่างกับตัวเองเป็นเจ้าโลก “ เจ้าเด็กน้อย พร้อมรึยังฮะ ต่อไปฉันจะเอาจริงแล้วนะ !”
เพื่อจะหลอกอีกฝ่าย ผมกลับหัวเราะ “ ฮ่าฮ่าฮ่า ” เสียงดัง แกล้งทําท่าทางสบายๆ จากนั้นก็แสร้งขยับไปข้างๆสองก้าว “ ฉันละคิดว่าแกเป็นคนฉลาดมากนะ แต่ที่ไหนได้แกมันก็มีแค่นี้
อีกฝ่ายเห็นผมหัวเราะเสียงดัง และยังพูดจาแบบนั้นออกมา เขาจึงอึ้งในทันที หลังจากนั้นก็พูดด้วยความสงสัย “ หมายความว่าอะไร”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลงกล ในใจของผมก็ด่าว่าไอ้โง่ ในเวลาเดียวกันก็แกล้งเดินไปข้างๆอีกนิดหน่อยและพูดว่า “ แกคิดว่าที่นี่มีแค่คนปราบผีอย่างพวกเราแค่สองคนเหรอ จะบอกแกให้นะ นอกจากฉันสองคนแล้วเรายังมีพวกอยู่อีก !
“ งั้นเหรอ ถ้ามีจริงละก็ ทําไมมันไม่ออกมาละ ” ผีผู้ชายอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ทันใดนั้นเองเขาก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา คิดว่าผมหาเรื่องคุยเพื่อถ่วงเวลา เขาจึงเดินเข้ามาข้างหน้าคิดจะโจมตีผมอีกครั้ง
แต่ตอนนี้ผมกลับทําท่าทางเคร่งขรึมมาก จ้องไปที่ด้านหลังของผีผู้ชาย จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความตกใจ “ ใช่ ตอนนี้แหละ ! ”
จู่ๆผีผู้ชายก็เห็นผมจ้องด้านหลังของเขา แล้วพูดคําพูดแบบนั้นออกมา ในใจของเขาก็หวาดระแวง จิตใต้สํานึกบอกให้ระวังตัว ทันใดนั้นเขาก็รีบหันไปมอง เผื่อมีอะไรไม่คาดคิดเกิดขึ้น
แต่หลังจากที่เขาหันไป เขากลับเห็นด้านหลังที่ว่างเปล่าดังเดิม มันไม่มีอะไรอยู่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลยสักนิด
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เขาก็รู้ทันทีว่าตัวเองโดนหลอก “ พรึบ ” สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปคิดว่าตัวเองโดนแกล้ง
สีหน้าของเขาน่าเกลียดกว่าเดิม เขาตะคอกออกมาทันที “ ไอ้ชั่วสมควรตาย กล้าหลอกฉัน !”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันมาอย่างรวดเร็ว
แต่ตอนที่เขาหันมามองผมอีกครั้ง เขากลับพบว่าผมได้ยืนตัวตรง แถมยังทํามือประสานเป็นรูปดาบตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
บนมือที่ประสานของผมมียันต์ที่เขียนคําว่า “ เปิด ” อยู่หนึ่งแผ่น
ตอนนี้ผม กลับจ้องผีผู้ชายอย่างเย็นชา ผมไม่รอให้เขาได้ลงมือทําอะไรทั้งสิ้น ทันใดนั้นผมก็ตะโกนออกมาว่า “ ขอเชิญ เทพลุ่ยลิ้ง เปิด !”