เมื่อเฟิงเฉ่วหานเห็นเจ้าหมอนี้พุ่งเข้ามา สีหน้าก็มืดมนลงในทันที เขารีบพาผมถอยไปด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ผมเองก็แสดงความหวั่นวิตกออกมา พูดกับเฟิงเฉ่วหานว่า “เฟิงเฉ่วหาน นี่มันร่างของอาจารย์ฉันนะ ตอนนายลงมืออย่าทำรุนแรงมากละ!”
ท่าทางของเฟิงเฉ่วหานยังไม่เปลี่ยนแปลง เขายังแสดงท่าทางที่เย็นชา “เอาชีวิตให้รอดก่อนแล้วค่อยมาพูดเถอะ”
หลังจากพูดจบ อีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาทันที
เฟิงเฉ่วหานเองก็ตามนักพรตตู๋ท่องเที่ยวไปทั่ว เห็นการต่อสู้อันยิ่งใหญ่มาก็ไม่น้อย
ดังนั้นวินาทีที่ผีชั่วเข้ามาประชิดตัว เขาไม่เพียงไม่กลัวเท่านั้น ยังไม่ตกใจเลยแม้แต่น้อย
เขาใช้ดาบไม้ฟันออกไป แต่เมื่อสัมผัสเข้ากับร่างของอาจารย์ ราวกับได้สัมผัสกับผิวเหล็กกล้า เฟิงเฉ่วหานไม่สามารถทำร้ายมันได้เลย
เมื่อผมเห็นว่าเฟิงเฉ่วหานไม่ใช่คู่ต่อสู้ เขาก็ค่อยๆพ่ายแพ้ไปทีละนิด ผมจึงทนนิ่งเฉยต่อไปไม่ได้
เพราะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ผมสองคนจะต้องตายในกำมือของมันแน่
ผมทำใจกล้า จับดาบไม้ขึ้นและแทงออกไปข้างหน้า
“ไอ้ผีชั่ว ไสหัวออกไปจากร่างอาจารย์ของฉันซะ!”
ขณะที่พูด ผมก็แทงดาบไม้ไปที่ด้านบนไหล่ของอาจารย์ แต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิด
ในทางกลับกันยังทำให้ผีชั่วโกรธมาก เขาหมุนตัว และเตะมาที่ท้องของผม “ไส้หัวไปทางโน้น!”
ขณะนั้นผมมีความรู้สึกเจ็บปวดขึ้นที่บริเวณท้อง จากนั้นมันก็ตามมาด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
วินาทีนั้นตัวของผมก็กลิ้งไปบนพื้นทันที ผมกุมหน้าท้องเอาไว้ไม่สามารถลุกขึ้นมาจากพื้นได้เลย
เมื่อเฟิงเฉ่วหานเห็นสภาพของผม เขาก็ยกคิ้วขึ้น และตะโกนออกมา “ติงฝาน!”
ขณะที่พูด เขาก็หยิบตราประทับอันเดิมที่เคยใช้ออกมา เขาคิดจะกดมันลงที่ร่างของผีชั่ว
แต่ผีชั่วตนนั้นควบคุมร่างกายของอาจารย์เอาไว้ มันเคลื่อนไหวได้อย่างใจนึก แถมยังรวดเร็วมากอีกด้วย
วินาทีนั้นไม่เพียงสามารถหลบการโจมตีจากตราประทับได้ ปากของมันยังหัวเราะฮ่าๆออกมา “ตอนฉันเล่นตราประทับสวรรค์ ปู่ของแกยังอยู่ในโคลนอยู่เลย!”
หลังจากพูดจบ ร่างของผีชั่วตนนั้น ก็ปรากฎตรงหน้าของเฟิงเฉ่วหาน
สีหน้าของเฟิงเฉ่วหานเปลี่ยนไปทันที เขาคิดจะหลบ
แต่มันก็สายไปแล้ว ผีชั่วนั้นง้างมือขึ้น “ปัง” และตบลงที่ขมับของเฟิงเฉ่วหาน
เฟิงเฉ่วหานถูกโจมตีอย่างรุนแรง เขาล้มลงไปกับพื้นทันที และส่วนที่ถูกโจมตีนั้นคือบริเวณศรีษ ดังนั้นเขาจึงสลบในทันที
เมื่อเห็นเฟิงเฉ่วหานสลบไป ผมจึงกดความเจ็บปวดที่หน้าท้องเอาไว้ และรีบเข้ามาอยู่ด้านหน้าของเฟิงเฉ่วหาน จากนั้นก็เขย่าตัวของเขา
“เฟิงเฉ่วหาน เฟิงเฉ่วหาน! ตื่นซิ ตื่นซิ……”
ขณะที่ผมกำลังวิตกกังวล ผีชั่วตนนั้นก็หัวเราะ “ฮึฮึฮึ!” พร้อมพูดออกมาด้วยเสียงที่ตื่นเต้น “ธาตุน้ำไร้ราก คืนนี้แกต้องเป็นของฉัน!”
เมื่อพูดจบ ผีชั่วตนนั้นก็เอื้อมมือ มาขย่ำคอของผมทันที
เมื่อเห็นภาพนี้ ใบหน้าของผมก็ เผยสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา ร่างกายก็ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
แต่ความเร็วของผีชั่วนั้นเร็วมาก เพียงชั่วพริบตามันก็เข้ามาถึงตัวผม
ในขณะที่ผมกำลังคิดว่า คอของตัวเองต้องโดนผีชั่วนี้ขย่ำแน่ จากนั้นก็จะถูกฆ่าตาย
ทันใดนั้นร่างสีขาวก็ปรากฎตัวขึ้น จากนั้นก็เห็นมือของร่างสีขาวพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เข้าจับคอของอาจารย์เอาไว้
เมื่อมองดีๆ ร่างสีขาวนี้เป็นผู้หญิง
ผมยาวราวกับสายน้ำ ใส่ชุดเดรส ลายดอกไม้สีขาว เผยให้เห็นรูปร่างที่ดูสูงสง่า
นอกเหนือจากนั้น เสียงที่เปล่งออกมายังหวานหยดย้อย แต่ภายในเสียงของผู้หญิงยังปนไปด้วยความโกรธ ทันใดนั้นผู้หญิงคนนั้นก็พูดขึ้น “คนของฉันแกยังกล้าแตะต้อง สงสัยไม่อยากมีชีวิตแล้วซินะ!”
ขณะนั้นผมกำลังแสดงสีหน้าที่เคร่งเครียด จ้องมองไปยังผู้หญิงที่พึ่งปรากฎตัวต่อหน้า
แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้ ความสับสนที่เคยมี ก็เปลี่ยนเป็นความตกตะลึง
นี่ เสียงนี่ มันไม่ใช่เสียงผีเมียของผมเหรอ
หรือว่าผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงคนนี้จะเป็นผีเมียที่ผมไม่เคยได้พบหน้ามาก่อน
น่าจะใช่ หลายครั้งที่ได้ยินเสียงนี้ มันก็เหมือนกับตอนนี้เป๊ะ อีกอย่างตัวเธอก็ไม่มีเงา ต้องเป็นผีอย่างแน่นอน
ผมอ้าปากเล็กน้อย มองไปที่ด้านข้างและด้านหลังของเธอ เพียงชั่วอึดใจความรู้สึกของผมก็เปลี่ยนไปทันที
เพราะด้านหลังของเธอนั้นสวยมาก แม้จะเห็นส่วนของใบหน้าเพียงเล็กน้อย แต่มันก็แสดงให้เห็นรายละเอียดที่งดงาม เธอจะต้องสวยจนทำให้คนหยุดหายใจแน่
ขณะที่ผมยังไม่ทันได้ตอบสนองใดๆ อาจารย์ที่ถูกเธอบีบคอไว้ จู่ๆใบหน้าของเขาก็เริ่มมีแสงกระพริบไปมา
ราวกับภาพเงา ที่สั่นไหว
ฉากแบบนั้น ดูเหมือนใบหน้าของใครอีกคนหนึ่งที่ กำลังซ้อนทับกับใบหน้าของอาจารย์
เขาเผยสีหน้าที่อึดอัดและเจ็บปวดออกมา ทันใดนั้นเขาก็พูดด้วยเสียงแหบแห้ง “เธอ เธอเป็นใคร ฉัน ฉันไม่ได้ทำ ไม่ได้ทำอะไรให้แม่หนูไม่พอใจใช่ไหม!”
ภายในเงาซ้อนทับที่จอมปลอมนั้น กลับมีใบหน้าที่ตกใจและหวาดกลัวปรากฎออกมา
แต่ผีเมียที่อยู่ตรงหน้าของผม กลับพูดฮึอย่างเย็นชา เธอยกแขนขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็โยนเขาออกไป
ร่างอาจารย์ของผม ถูกโยนลงบนพื้นที่อยู่ข้างๆ
และในวินาทีนั้น ควันสีดำก็ออกมาจากร่างของอาจารย์ทันที จากนั้นข้างๆก็ปรากฎร่างของคนแก่ที่แข็งแรง
เขากำลังใส่ชุดของคนตาย ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยที่เหี่ยวย่น ผมสีขาว ดูบางเบามาก
เขาจ้องผีเมียที่อยู่ตรงหน้าของผม ด้วยหน้าตาที่น่าเกลียดน่ากลัวมาก ร่างกายยังขยับถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว
“ แม่ แม่หนู ฉัน ฉันมีตาหามีแววไม่ กลับเดินผ่านดินแดนอันล้ำค่า ทำ ทำให้ไม่พอใจ ขอให้ ขอให้แม่หนูโปรดเข้าใจ ปล่อยฉันไปเถอะ!” ตาแก่นั้นหวาดกลัวอย่างมาก เขากลัวแบบสุดขีดไปเลยละ
เมื่อเทียบกับใบหน้าที่แสนเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ มันเหมือนกับเป็นคนละคนกันเลย
แต่ผีเมียกลับไม่เกรงใจ เธอตอบกลับด้วยเสียงที่เย็นชา “ฮึ! มาแตะคนของฉัน แล้วยังคิดจะให้ฉันปล่อยแกไปอย่างงั้นเหรอ เอาชีวิตมาแลกไปก็แล้วกัน!”
หลังจากพูดจบ ร่างของผีเมียก็หายแวบไปทันที ทันใดนั้นเธอก็ปรากฎตัวต่อหน้าผีชั่ว
ไม่รอให้ผีชั่วตนนั้นได้ทำอะไร ผีเมียก็ง้างมือขึ้น และตบไปที่ร่างของผีชั่วนั่นทันที
ผีชั่วตนนั้นกรีดร้องออกมา ร่างของเขากระเด็นออกไปทันที
ตอนแรกผีเมียคิดจะตามไป แต่ขณะที่เธอกำลังจะไปฆ่าผีชั่วให้ตายคามือ
ร่างของผีชั่วตนนั้นกลับมีเสียงระเบิดดัง “ปัง” กลายเป็นกลุ่มควันสีดำ และจางหายไปต่อหน้าต่อตา
เมื่อเห็นฉากนี้ ผมก็ตกตะลึงไปในทันที ร่างของเขาสลาย สลายหายไปแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น วินาทีที่ผีชั่วหายไป ป่าที่อยู่รอบๆ กลับมีเสียงของผีชั่วตนนั้นดังขึ้น “แม้ภูเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงแต่สายน้ำนั้นเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ครั้งนี้เธอปกป้องเขาไว้ได้ แต่ปกป้องเขาไม่ได้ตลอดหรอก แค้นในวันนี้ ฉันจะมาทวงมันคืนในเร็วๆนี้แน่”
ดูเหมือนเสียงนั้นจะดังมาจากทุกสารทิศ ไม่รู้ว่าดังมาจากทางไหนกันแน่
ส่วนผีเมียนั้นไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ยืนหันหลังให้ผมเหมือนเดิม
หลังจากเสียงนี้จางหายไป รอบๆก็กลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง
แต่ผม กลับรู้สึกว่าเลือดในกายกำลังเดือดพล่าน เอาเรื่องผีชั่วนั้นโยนออกไปไกลสุดขอบฟ้า
เพราะในที่สุดผมก็จะได้เห็นหน้าผีเมียของผมซะที ดวงตาของผมถูกเธอดึงดูดไปเรียบร้อยแล้ว เธอสวยจนไม่สามารถละสายตาได้แม้แต่วินาทีเดียว
ผมจ้องไปที่ด้านหลังของเธอ จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความกลัวเล็กน้อย “เธอ เธอก็คือ ก็คือเมียของฉันใช่ไหม”
แต่เสียงของผมพึ่งตกลงเท่านั้น ร่างผู้หญิงสีขาวก็หันมาทันที
เมื่อเธอหันมา ผมพูดได้เพียงแม่เจ้าโว้ย!
ตัวของผมอึ้งในทันที เพราะ เพราะเธอโคตรสวยเลย
เมื่อกี้มองเห็นแค่ด้านหลังและส่วนของใบหน้าเล็กน้อย เลยไม่ได้ใส่ใจ และคิดไม่ถึงว่า ใบหน้าของผีเมียของผมจะงดงามได้ถึงขนาดนี้
ผิวเรียบเนียน คิ้วโก่งดั่งคันศร ดวงตาเปล่งประกาย ใบหน้ารูปไข่เรียวเล็ก
หน้าตาแบบนั้นราวกับนางฟ้าลงมาโปรด หาได้ยากบนโลกมนุษย์
แม้แต่ดาราหญิงที่ว่าสวยในทีวี ก็ยังสู้กับผีเมียที่อยู่ตรงหน้าผมไม่ได้
ผมมองจนลืมตัว เมื่อก่อนคิดว่าเมียของตัวเองจะเป็นยัยผู้หญิงน่าเกลียดที่คิดจะระเบิดมังกรน้อย แต่ไม่รู้เลยสักนิดว่าเธอจะงดงาม จนสามารถล่มเมืองได้
แต่เมื่อผีเมียเห็นผมมองด้วยความลุ่มหลง เธอก็เหมือนจะไม่พอใจเล็กน้อย เธอเลิกคิ้วที่งดงามขึ้นและพูดว่า “ไอ้ผู้ชายกาก ใครเป็นเมียของแกฮะ”