ตอนที่ 223 ใบหน้าที่แท้จริงของนางพญาจิ้งจอก
เมื่อได้ยินมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็อดไม่ได้ที่จะถอน หายใจออกมา
แบบนี้ดีที่สุด ถ้าไม่อย่างนั้นโอกาสเรียกนางพญาจิ้งจอกครั้งสุดท้าย ก็จะหายไปโดยเปล่าประโยชน์
“ ก็ดี งั้นพวกเรามาเริ่มเลยเถอะ !” ผมพูดกับมู่หลงเหยียน
มู่หลงเหยียนเองก็ไม่พูดจาไร้สาระ เธอตอบ “ อื่ม ” ทันที หลังจากนั้นก็เริ่มสร้างโต๊ะบูชา
สําหรับนางพญาจิ้งจอกตัวนี้ ที่จริงผมไม่อยากรู้เรื่องเธอเท่าไหร่
เธอเป็นถึงนางพญาในหมู่จิ้งจอก ก็น่าจะเป็นจิ้งจอกเฒ่า ที่มีอายุอยู่มาหลายร้อยหลายพันปี พลังก็คงเยอะมาก
ถ้ามู่หลงเหยัยนเรียกจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้มาได้จริงๆ ได้เห็นรูปร่างหน้าตาของจิ้งจอกเฒ่า ผมก็คงได้มีมุมมองใหม่ๆอีกครั้ง
โต๊ะบูชาของมู่หลงเหยียนไม่ซับซ้อน ผ่านไปไม่นานเธอก็ทําเสร็จ
หลังวางกล่องบนโต๊ะบูชาเสร็จ มู่หลงเหยียนก็ให้ผมเอาไก่ เหลืองออกมา วางพวกมันหน้าโต๊ะบูชาทําเป็นของเซ่นไหว้
ผมรีบลงมือ ทําตามที่มู่หลงเหยียนพูดทันที
หลังจากทําเรื่องพวกนี้เสร็จ ผมก็ยืนอยู่ด้านข้าง มองดูมู่หลงเหยียนทําพิธี
พลังของมู่หลงเหยียนเยอะมาก วิธีทําพิธีก็แตกต่างจากพวกเราคนปราบสิ่งชั่วร้าย ไม่จุดธูปไม่เผายันต์
นิ้วของเธอเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แถมเร็วสุดๆ เร็วจนผมมองตามไม่ทัน และยังมีบางกระบวนท่าที่ผมยังไม่เคยเห็นมาก่อน
นอกจากนี้ ปากของมู่หลงเหยียนยังท่องคาถาอะไรอยู่สักอย่าง
กระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีกว่าๆ ทันใดนั้นมู่หลงเหยียนก็พูดกับผมว่า “ ติงฝาน หยดเลือดลงบนกล่อง ฉันจะใช้เลือดของนายอัญเชิญเซียนจิ้งจอกลงจากเขา!”
ผมเงียบไปแป๊บหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมา
ในพิธีกรรมมากมาย ล้วนใช้แค่หยดเลือดหรือเลือดจํานวนมากทั้งนั้น
มู่หลงเหยียนเป็นผี ไม่มีร่างกาย จึงเป็นธรรมดาที่จะไม่มีเลือดให้ใช้ทําพิธี
ดังนั้นผมจึงมาด้านหน้าโต๊ะบูชา เฉือนนิ้วของตัวเอง แล้วหยดเลือดลงบนกล่อง
ทันใดนั้น มู่หลงเหยียนก็เปลี่ยนกระบวนท่าทํามืออีกครั้ง
หลังจากพูดจบ มือทั้งสองข้างก็ประสานเข้าหากันอย่างรวดเร็ว “ อัญเชิญ !”
มู่หลงเหยียนพูดเสียงดังฟังชัด จนสะท้อนไปทั่วบ้านผี
ขณะที่เสียงสะท้อนดังขึ้น ทันใดนั้นเลือดที่ผมหยดลงไปบนกล่องไม้ ก็ระเหยกลายเป็นไอ
เมื่อเลือดระเหย ทันใดนั้นรอบๆที่เคยเงียบสงบ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
จู่ๆก็มีลมเย็นพัดเข้ามา ขณะที่ลมเย็นปรากฏขึ้น อุณหภูมิรอบๆที่เคยอบอุ่นก็ลดลงมาหลายองศา
และต้นไม้ที่อยู่รอบๆ ยังเริ่มพัดไปมา ส่งเสียง “ แซ่แซ่แซ่แซ่”
ไม่ใช่แค่นี้ ไก่สองตัวที่อยู่บนพื้น ในเวลานี้มันกลับตื่นตัวขึ้นอย่างกระทันหัน มันยืดคอตั้งตรงส่งเสียง “ กระต๊ากก ระต๊ากกระต๊าก ” ออกมา
ผมขมวดคิ้ว หันไปมองรอบๆทันที
แต่มือของมู่หลงเหยียนยังไม่คลายออก ปากยังคงท่องอะไรบางอย่างอยู่ เธอน่าจะยังทําพิธีอยู่
หลังจากนั้นประมาณ 3 นาที ฉากแปลกประหลาดก็เกิด
ดูเหมือนกล่องไม้ที่เก่าและทรุดโทรมใบนั้น จะมีสีสดใสขึ้นมาทันตา ในเวลานี้กล่องไม้สีดําได้คายไอสีขาวออกมา
ขณะที่ไอสีขาวเกิดขึ้น ไก่ที่อยู่หน้าโต๊ะบูชา ก็กางปีกบินขี้นทันที
มันกระพือปีกบินพับๆ ส่งเสียงร้อง “ กระต๊าก…” ด้วยความหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าพวกมันกําลังกลัวมาก
หลังจากไอสีขาวออกมา มันก็ค่อยๆรวมตัวกลายเป็นร่างคนตรงหน้าผมและมู่หลงเหยียน
ร่างคนเลือนลางมาก มองเห็นไม่ชัดเลยสักนิด
แต่หลังจากที่ร่างนี้ปรากฏขึ้น มู่หลงเหยียนก็แสดงหน้าตาตื่นตกใจ รีบตะโกนด้วยความดีใจ
“ เหยียนเอ๋อร์คารวะเซียนจิ้งจอก! ”
เมื่อเห็นมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็รู้ทันทีว่านี่คือร่าง ของนางพญาจิ้งจอก
่ ่
แม้จะไม่ใช่ร่างจริง แต่ก็เป็นดวงจิตของนางพญาจิ้งจอก
เป็นหนึ่งในปีศาจที่เก่าแก่บนโลก ไม่เพียงมีพลังสูงส่ง เธอยังเป็นปีศาจที่พวกเราห้ามผิดใจด้วยเด็ดขาด
เมื่อเห็นมู่หลงเหยียนพูดแบบนั้น ผมก็เลียนแบบเธอ มองร่างลางๆนั้นแล้วพูดว่า “ คารวะท่านเซียนจิ้งจอก!”
หลังจากพูดจบ ผมก็ทํามือคารวะร่างนั้น แสดงให้เห็นถึงความเคารพ
หลังจากนั้น ร่างลางๆนั่นก็ค่อยๆชัดเจนขึ้น ในเวลาเดียวกันเธอก็พูดว่า “ ไม่ต้องมากพิธี เหยียนเอ๋อร์วันนี้เรียกข้ามา มีเรื่องอะไรรึเปล่า”
เสียงไพเราะ เหมือนกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ตอนเปิดกล่อง เสียงที่ดังมาจากในหมอกดํา มันแตกต่างกันราวกับคนละคน
และร่างกายนั้น ยังค่อยๆชัดเจนขึ้น ในที่สุดมันและรวมตัวกลายเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
หลังจากที่ผมได้เห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของอีกฝ่ายผมก็นิ่งอึ้งในทันที
ผมคิดว่านางพญาจิ้งจอก ในฐานะที่เป็นบอสของจิ้งจอก มันจะต้องมีพลังระดับร้อยปีหรือแม้แต่พันปี
ถึงจะแปลงกายเป็นคน มันก็น่าจะเป็นยายแก่คนหนึ่ง
แต่ใครจะรู้ ผู้หญิงตรงหน้าของผม ไม่เพียงอ่อนเยาว์และงดงาม เธอยังเซ็กซี่ร้อนแรง
เธอสวมเสื้อแจ็คเก็ตขนจิ้งจอก กระโปรงสั้น เกาะอก ดูเย้ายวนสุดๆ
ผมอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้า นี่มัน…นี่มันไม่ค่อยเหมือนที่ผมจินตนาการเอาไว้เลยนะ
ขณะที่ผมกําลังตะลึง มู่หลงเหยียนที่อยู่ข้างๆกลับพูดด้วยความดีใจสุดๆ “ เซียนจิ้งจอก คุณมาแล้ว!”
ขณะที่พูด มู่หลงเหยียนก็เข้ามาหาเธอดูขี้เล่นมาก
นางพญาจิ้งจอกยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอดูสนิทสนมกันมาก มีแม้แต่การใช้มือเกาจมูกหลงเหยียนด้วย
“ เจ้าเรียกข้า ข้าก็จะไม่มาได้ยังไง ว่ามา! เรียกข้ามามีเรื่องอะไร ! ”
มู่หลงเหยียนจับมือของนางพญาจิ้งจอกเอาไว้ จากนั้นก็หันมามองผม “ ติงฝานมานี่ซิ!”
“ อือ อือ! ” ผมรีบขานรับทันที จากนั้นก็เดินเข้าไป
มู่หลงเหยียนเห็นผมเดินเข้ามา เธอจึงหันไปพูดกับนางพญาจิ้งจอกว่า “ เซียนจิ้งจอก ฉันจะแนะนําให้คุณรู้จัก นี่คือสามีของฉัน ! ติงฝาน”
เมื่อได้ยินมู่หลงเหยียนแนะนํา ผมก็รีบยืนตรงแด่ว ทํามือคารวะนางพญาจิ้งจอกอย่างสุภาพ “ ติงฝาน ขอคารวะเซียนจิ้งจอก !”
ขณะที่พูด ผมก็โค้งคํานับ ไม่ว่าจะพูดยังไง ครั้งก่อนผมก็ได้นางพญาจิ้งจอกช่วยเอาไว้ การคํานับนี้ เป็นเรื่องที่สมควรทํา แล้วเธอก็ควรรับไว้
นางพญามองผมแป็บหนึ่ง ทันใดนั้นเธอก็เหมือนนึกอะไรออก “ ถึงว่า ข้าก็คิดอยู่ว่าทําไมครั้งที่แล้วเขาถึงเป็นคนเปิดกล่อง ที่แท้เจ้าก็แต่งงานแล้วนี้เอง !”
“ ใช่แล้วเซียนจิ้งจอก ได้ประมาณครึ่งปีแล้ว แต่ไม่ได้ไปเจอคุณเลย นี่ไม่ได้เรียกคุณให้มาดูหน้าสามีฉันเหรอ คือใช่ แล้วเซียนจิ้งจอก นี่เป็นของเซ่นไหว้ที่ฉันเตรียมไว้ เชิญเซียนจิ้งจอกเพลิดเพลินกับมันได้เลย !” ขณะที่มู่หลงเหยียนพูด เธอก็ชี้ไปที่ไก่บนพื้น
เมื่อนางพญาจิ้งจอกเห็นไก่ตัวอ้วนบนพื้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้า ดวงตาเปล่งประกาย กลืนน้ําลายอย่างต่อเนื่อง ราวกับกําลังหิวจัด
แน่นอน ไม่ว่านางพญาจิ้งจอกจะมีพลังสูงส่งเพียงไหน แต่ตั้งแต่กําเนิดเธอก็คือจิ้งจอกตัวหนึ่ง
เมื่อจิ้งจอกเห็นไก่ มันก็ห้ามสัญชาตญาณในสายเลือดไว้ ไม่อยู่
แต่เธอยังควบคุมตัวเองได้ หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มให้มู่หลงเหยียนทันที “ เหยียนเอ๋อร์นี้รู้ใจข้าจริงๆ ทุกครั้งที่เจอเจ้า เจ้าก็มักเตรียมของกินดีๆให้ข้าตลอด ! ในเมื่อข้ามาแล้วงั้นข้าก็ไม่เกรงใจละนะ!”
หลังจากพูดจบ นางพญาจิ้งจอกก็หมุนตัว ภายในชั่วพริบตาใบหน้าของหญิงงามก็แปลเปลี่ยนเป็นจิ้งจอกสีขาว
เธอไม่รอช้า ร่างกายเร็วเหมือนแสง เธอมาปรากฏตัวตรงหน้าไก่ ใช้มือจับไว้ตัวละข้าง
ทันใดนั้นเธอก็อ้าปาก กัดที่คอไก่ตัวหนึ่ง ดื่มเลือดสดๆที่ไหลออกมาอย่างชื่นใจ
ไก่ตัวที่ถูกกัดคอ ดิ้นไปมาสองสามครั้ง ร้อง “ กระต๊ากๆ ” ออกมาไม่กี่ครั้งหลังจากก็แน่นิ่งไปในทันที