ตอนที่ 232 เริ่มพิธีชูหม่า
เพียงชั่วพริบตา ฝูงจิ้งจอกเฒ่าตรงหน้าก็กลายเป็นมนุษย์หลายสิบคนแล้ว
ฉากนี้อลังการมาก นั้นมันปีศาจจิ้งจอกที่กลายร่างเป็นคนหลายสิบคนเลยนะ แม้แต่พวกเราที่เป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย หรือคนที่แก่แล้วก็ยังไม่เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อน
แต่ตอนนี้ กลับมีจิ้งจอกหลายสิบตนปรากฏตัว และยังมีจิ้งจอกอีกมากมายที่ออกมาปรากฏตัวติดๆ
แน่นอน นอกจากจิ้งจอกเฒ่าที่กลายร่างเป็นคนแล้ว ในผืนป่าแห่งนี้ยังมีพวกจิ้งจอกธรรมดาด้วย
จิ้งจอกพวกนี้มีพลังไม่พอ ไม่สามารถแปลงร่างได้ จึงทําได้เพียงเดินตามเหล่าจิ้งจอกเฒ่า
พวกเราจ้องจนตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า แสดงสีหน้าตกตะลึง
หยางเฉ่วอดกลืนน้ำลายไม่ได้ “ ติงฝาน งานนายนี่ค่อนข้างยิ่งใหญ่เลยนะ !”
จู่ๆก็ได้ยินเสียงหยางเฉ่วพูด ผมจึงพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัว “ ใช่ ใช่อลังการมาก !”
“ อย่าพูดไร้สาระอยู่เลย รีบเข้าไปต้อนรับพวกเขาเถอะ ! ” อาจารย์รีบพูด
เมื่อได้ยินอาจารย์พูดแบบนั้น ผมก็ไม่รอช้ารีบถือธูปตรงไปข้างหน้าทันที
เมื่อเดินมาถึงตรงหน้าของจิ้งจอกหลายสิบคนที่แปลงกลายเป็นคนแล้ว ผมก็โค้งคํานับทันที “ ข้าน้อยติงฝาน ขอต้อนรับเซียนทุกท่านครับ !”
ชายชราที่เป็นผู้นําของเซียนจิ้งจอกมีผมขาวจนหมดหัว ตอนนี้เมื่อเห็นผมคารวะ เขาก็หัวเราะ “ ฮ่าฮ่า ” พร้อมกับจับมือของผมไว้ “ ดี ไม่ต้องมากพิธี หลังจากคืนนี้ พวกเราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว !”
ผมคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ เซียนทุกท่าน เชิญเพลิดเพลินกับของเซ่นไหว้ครับ !”
หลังจากพูดจบ ผมก็ชี้ไปที่โต๊ะบูชาที่อยู่ไม่ไกล
ในเวลาเดียวกันจิ้งจอกน้อยก็เห็นกลุ่มเซียนจิ้งจอก จึงพูดกับพวกเขาทันที “ ปู่สาม ปู่สี่ ปู่ห้า ย่าหก ของพวกนี้อร่อยมาก ปู่ย่ารีบมาชิมซิ ! ”
เมื่อจิ้งจอกเฒ่าที่เป็นผู้นําได้ยินคําพูดนี้ เขาก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง “ ฮ่าฮ่า ” “ เจ้าจิ้งจอกน้อยนี้ ข้าบอกให้ไปอยู่ข้างๆเจ้าแม่ แต่เจ้ากลับวิ่งซะเร็วเลยนะ !”
ขณะที่พูด จิ้งจอกเฒ่าก็พาเซียนจิ้งจอกคนอื่นๆ เข้าไปในลาน
ในหมู่เซียนหลายสิบตนนี้ ผมยังเห็นจิ้งจอกเฒ่าที่ได้สู้กับพวกเราในคืนนั้นด้วย เขาก็อยู่ในนั้น เพียงแค่ไม่ยอมคุยกับผมเท่านั้น
ผู้ที่มาถึงล้วนเป็นแขกทั้งนั้น อาจารย์และคนอื่นๆก็ถือธูปต้อนรับ ไม่ได้พุ่งเข้าไปสู้เห มือนครั้งที่แล้ว และยังไม่ละเลยเซียนจิ้งจอกสักตน
หลังจากเซียนจิ้งจอกสิบกว่าตนเข้ามาในลาน ด้านนอกก็ยังมีเซียนจิ้งจอกทยอยเข้ามาเรื่อยๆ
แต่นอกจากเซียนจิ้งจอกสิบกว่าตนเมื่อตอนแรกแล้ว จิ้งจอกส่วนใหญ่ที่ปรากฏตัวหลังจากนั้น ก็ไม่อาจเทียบกับเซียนจิ้งจอกพวกนี้ได้
เพราะเซียนที่ปรากฏตัวหลังจากนั้น แม้จะแปลงกลายเป็นคนได้ แต่พวกเขาก็ยังมีบางส่วนที่เป็นจิ้งจอกอยู่
บางตัวก็มีหางออกมา บางตัวมีหัวเป็นจิ้งจอก ไม่ก็หน้าเป็นจิ้งจอก หรือบางตนก็ไม่สามารถเปลี่ยนมือและเท้าเป็นคนได้
อาจเพราะจิ้งจอกพวกนี้ยังมีพลังไม่มากพอ หรือไม่ก็ไม่สามารถกลายร่างเป็นคนได้เต็มตัว
ผมลองนับดูคร่าวๆ การรวมตัวนี้ค่อนข้างใหญ่ มีเซียนจิ้งจอกที่กลายเป็นคนได้เกือบ 30 ตน
หลังจากนั้นยังมีจิ้งจอกอีกหลายสิบตัว เมื่อมองไปรอบๆ ทั่วทั้งลานต่างเต็มไปด้วยแววตาที่ส่องประกายของจิ้งจอกและยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของจิ้งจอก
แต่ในหมู่จิ้งจอกเหล่านี้ ผมยังไม่เห็นนางพญาจิ้งจอกเลย
ตอนนี้พวกเซียนจิ้งจอกต่างสนุกสนานกับเครื่องเซ่นไหวในลาน พวกเขาเหมือนกับมนุษย์ ต่างจับกลุ่มคุยกันสามคนบ้างห้าคนบ้างแล้วแต่ใครจะสนิท
พวกเราเองก็ไม่ปิดปากเงียบ ต่างรู้สึกว่าควรเอาใจใส่คนอื่น
หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที สายลมอันเยือกเย็นก็พัดเข้ามา
สิ่งที่ตามมาติดๆคือ กลิ่นแปลกๆ
ขณะที่กลิ่นนี้ปรากฏขึ้น ทุกคนในงาน รวมถึงพวกเซียนจิ้งจอก ต่างอดไม่ได้ที่จะมองไปข้างนอกศาลเจ้า
ผู้นําของเซียนจิ้งจอกเปลี่ยนสีหน้าก่อนใครเพื่อน ทันใดนั้นเขาก็พูดว่า “ ทุกท่าน เจ้าแม่มาแล้ว ! รีบออกไปต้อนรับเร็ว !”
ขณะที่เสียงดังขึ้น เซียนจิ้งจอกที่อยู่ในงานต่างหยุดการกระทําของตัวเอง และรีบทยอยไปที่ประตูทันที
ส่วนผม อาจารย์ และคนอื่นๆ ต่างแสดงสีหน้าเคร่งขรึม แน่นอนว่าพวกเราเองก็รีบจุดธูปใหม่อย่างรวดเร็ว
ธูปในมือเพิ่งจุดติด ทันใดนั้นพวกเราก็เห็นในความมืด มีดวงตาคู่หนึ่งสะท้อนกับแสงจันทร์ ตามมาด้วยจิ้งจอกขนยาว สีขาวราวหิมะ เธอค่อยๆเดินเข้ามาอย่างสง่างาม
เมื่อจิ้งจอกขาวปรากฏตัว เซียนจิ้งจอกทุกตนต่างหมอบลงกับพื้น พวกเซียนจิ้งจอกที่แปลงกลายเป็นคน ตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพียง “ คารวะเจ้าแม่ ! ”
แม้พวกเราจะไม่ได้คุกเข่าลงกับพื้น แต่ก็ถือธูปเข้ามาต้อนรับนางพญาจิ้งจอก
เสียงเพิ่งเงียบลง จิ้งจอกขาวตัวนั้นก็สบัดตัว กลายร่างเป็นคน
รูปร่างหน้าตาของเธอเหมือนกับที่ผมเห็นในจวนมู่หลง ภายนอกดูไม่แก่เลยสักนิด ยังสวยและอ่อนเยาว์ สวมเสื้อคุลมขนจึงจอกสีขาว เหมือนกับเด็กสาวคนหนึ่ง
หลังจากนางพญาจิ้งจอกปรากฏตัว เธอก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ ทุกท่านเชิญลุกขึ้นเถิด !”
“ขอบคุณเจ้าแม่ ! ” พวกเซียนจิ้งจอกตอบกลับ และลุกขึ้นทันที
ตอนนี้ผมเองก็ยืนตัวตรง ค่อนข้างเครียดเลยละ
แต่นางพญากลับตามหาผมจากกลุ่มคน เธอค่อยๆเดินมาทางผม
เมื่อเห็นนางพญาจิ้งจอกเดินมาทางผม ผมจะกล้าชักช้าได้ยังไง วินาทีนั้นผมรีบยกมือคํานับเธออีกครั้ง “ เซียนจิ้งจอก”
นางพญาสํารวจตัวผมพักหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองอาจารย์และพวกเหล่าเฟิงที่อยู่ข้างหลัง เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยเพื่อทักทายทุกคน
หลังจากนั้น เธอก็ดมธูปในมือของผมหนึ่งครั้ง แล้วพูดว่า “ ในเมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าแล้ว งั้นพวกเราก็เข้าไปกันเถอะ ! ”
“ ดีครับ ! เซียนจิ้งจอกเชิญ ! ” ผมพูดอีกครั้ง จากนั้นก็ผายมือเชิญเซียนจิ้งจอกเข้าไปก่อน
นางพญาจิ้งจอกไม่เกรงใจ เธอทําตัวเหมือนดาราดังที่ใครๆก็หลงรัก เดินเข้าไปในศาลเจ้าทันที
พวกเราตามเธอเข้าไป หลังจากเข้ามาในลาน นางพญาจิ้งจอกก็เห็นยายโม่ นางพญาจิ้งจอกปฏิบัติกับยายโม่สุภาพมาก เธอยังทํามือคํานับให้ยายโม่ก่อน
ยายโม่ไม่ได้พูดอะไร แค่พยักหน้าให้นางพญาจิ้งจอกเท่านั้น
เมื่อทักทายเรียบร้อย นางพญาก็ไม่เกรงใจ เดินเข้าไปที่โต๊ะบูชาทันที เธอดมธูปบูชาหนึ่งครั้ง หยิบเหล้าขึ้นมาหนึ่งขวด หลังจากนั้นก็ยกกระดกทันที
ส่วนเซียนจิ้งจอกตนอื่นๆ ตอนนี้ได้แบ่งเป็นสองฝั่ง พวกเขาทุกตนต่างแสดงสีหน้าเคร่งขรึม
แน่นอน พวกนี้ล้วนเป็นพวกเซียนจิ้งจอกที่สามารถแปลงกลายเป็นคนได้
ส่วนเซียนจิ้งจอกตนอื่นๆ ต่างไม่สามารถเข้ามาในศาลเจ้าได้ พวกเขาทําได้เพียงยืนรออยู่ข้างนอก
หลังจากนางพญาดมธูป เธอก็หมุนตัวกลับ มามองทุกคนในศาลเจ้า แล้วพูดว่า “ วันนี้ข้าลงเขามาทําพิธีชูหม่า เปิดค่ายหยิงถาง หวังว่าทุกท่านจะร่วมกันเป็นสักขีพยาน ”
หลังจากพูดจบ สายตาของนางพญาก็หยุดอยู่ที่ร่างของผม ช่วงเวลานั้นใจผมเต้นแรง และตื่นตัวทันที
นางพญาจิ้งจอกไม่พูดจาไร้สาระ เธอพูดออกมาตรงๆ “ จินถงอยู่ที่ไหน”
จินถง ก็คือชื่อเรียกชูหม่าอีกชื่อหนึ่ง
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ อาจารย์ก็รีบพูดว่า “ รีบไปคุกเข่าคํานับซิ !”
ในเวลานี้ทุกคนกําลังมองอยู่ จึงเป็นธรรมดาที่ผมจะไม่รอช้า ผมรีบเดินเข้าไปสองก้าว “ ข้าน้อยติงฝาน ขอคารวะ เซียนจิ้งจอก ไม่ คารวะเจ้าแม่แห่งเผ่าจิ้งจอก !”
ขณะที่พูด ผมก็คารวะนางพญาจิ้งจอกแล้ว
นางพญาจิ้งจอกเห็นผมลนลานจนพูดผิดพูดถูก เธอจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แต่เธอก็หยุดพิธีไม่ได้ เธอจึงพูดต่อ “ ข้าอยู่ในหุบเขามานับร้อยปี บําเพ็ญเพียรจนดอกไม้ร่วงโรยมานับไม่ถ้วน วันนี้ข้ากับติงฝานมีวาสนาต่อกัน ลงเขาชูหม่า เปิดค่ายหยิงถาง และให้คําสัตย์สาบาน ติงฝาน เจ้ายินดีไหม”
คําพูดพวกนี้ อาจารย์เคยสอนก่อนมาชูหม่า
ในเวลานี้เมื่อฟังนางพญาพูดจบแล้ว ผมก็รีบตอบกลับทันที “ ข้าน้อยติงฝานยินดีชูหม่า เจ้าแม่ได้โปรดคายเชี่ยวด้วย”